The Legendary Mechanic - ตอนที่ 673-674
ตอนที่ 673 แปลกใจงั้นหรอ?ตกใจงั้นหรอ?
หานเซี่ยวรู้สึกว่าร่างเขาหนักขึ้นและช้าลงมีดีบัฟจำนวนมาก
มันยังเป็นเหมือนเดิมเลยปากหานเซี่ยวกระตุกและไม่แปลกใจ
หลังเข้าดันเจี้ยนของสเตฟานีมาหลายร้อยครั้งเขาก็คุ้นเคยกับเธอ ต่อให้สเตฟานีภายในดันเจี้ยนจะเป็นฉบับอ่อนแอกว่า ความสามารถเธอก็ไม่เปลี่ยน หานเซี่ยวรู้ทักษะต่อสู้เธอเหมือนหลังมือเขา การให้ดีบัฟศัตรูแต่ต้นเหมือนกับสิ่งที่เธอทำในดันเจี้ยน
โดยไม่ลังเลหานเซี่ยวถอยไปด้วยท่องมิติ สเตฟานีแรก่งกว่าในการต่อสู้ระยะประชิดและมีโบนัสความเสียหายกับเหล็ก เขาไม่อยากให้ชุดจักรกลเขาถูกทำลาย
โชคดีเขาได้กำจัดผู้ใช้พลังจิตอย่างเซ็กลินไปแล้ว ไม่งั้นเรื่องราวคงแย่กว่านี้
โดยไม่หยุดหานเซี่ยวควบคุมกองทัพจักรกลให้ใช้กลยุทธ์ถ่วงเวลาตามฐานข้อมูลฟิลลิป ป้องกันสเตฟานีและคนอื่นจากการรุกไล่เขาเร็วเกินไป ในขณะเดียวกัน เขาก็ใช้กองทัพเป็นกำแพง เข้าหาจอมเวทย์และศัตรูสองคนบ้าง พยายามสร้างความเสียหาย
ต่อหน้าเก้าภัยพิบัติกองทัพจักรกลเสียหายหนักมาก เครื่องจักรพังทีละชิ้นและบินกลับหลังหานเซี่ยวใช้การดัดแปลงของเสีย กลับสู่สนามรบ
สนามรบวุ่นวายหน้าจอยุทธวิธีในหมวกหานเซี่ยวแสดงข้อมูลต่างๆขณะที่เขาวิเคราะห์สถานการณ์อย่างสงบ
สเตฟานีปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าดังนั้นหานเซี่ยวจึงไม่อาจติดต่อพวกวิลตันได้ ด้วยความระวัง โปรแกรมย่อยฟิลลิปที่เขาทิ้งไว้ให้วิลตันจึงมีประโยชน์ แม้เขาจะไม่ได้รับตำแหน่งข้อมูลของกำลังเสริม เขาก็รู้ว่าพวกเขากำลังมา ภารกิจปัจจุบันเขาไม่ใช่การสู้ซึ่งๆหน้า แต่เป็นการถ่วงเวลารอกำลังเสริม
…
บูม!
ผลกระทบจากสิบภัยพิบัติทำให้แผ่นดินและภูเขาสั่นสะเทือน
แม้กระทั่งสภาพอากาศก็ยังเปลี่ยนเดิมทีทมันสว่าง แต่ท้องฟ้ากลับเต็มไปด้วยเมฆดำและสายฟ้าฟาด
หานเซี่ยวย้ายสนามรบออกจากพื้นที่ที่มีประชากรบนทวีปเหนือและไปยังธารน้ำแข็งไร้คนอาศัยทุกที่ที่ผ่าน น้ำแข็งที่ก่อตัวมาหลายล้านปีจะแตก ภูเขาสั่น หิมะถล่ม และภูมิประเทศก็เปลี่นไป
ผลกระทบของการต่อสู้ระหว่างภัยพิบัตินำหายนะมาซึ่งดาวนี้แผ่นดินไหวกระจายไปทั่วทวีปเหนือ ใกล้บริเวณทะเลจากสนามรบ ท้องฟ้ามืดและทะเลก็เต็มไปด้วยคลื่น สึนามิและพายุปะทะกับเมืองใกล้ทะเล
“สึนามิวิ่ง!”
“กะ-เกิดอะไรขึ้น?!”
ประชากรของเมืองใกล้ทะเลบนทวีปเหนือกลัวภัยพิบัติธรรมชาติและวิ่งหนีเอาชีวิตรอด…
แน่นอนหานเซี่ยวไม่อาจเห็นปฏิกิริยาของคนเหล่านี้ แต่เขาไม่ต้องดูก็รู้ถึงผลกระทบของการต่อสู้นี้
“นี่ทำให้พวกมันจงใจเลือกที่นี่เป็นสนามรบ”สีหน้าหานเวี่ยวดำมืดหลบคลื่นกระแทกทรงพายุที่มองไม่เห็นจากสเตฟานีและทหารจักรกลด้านหลังเขาก็แหลกเป็นเสี่ยงๆ
พวกเขาเปลี่ยนสนามรบหลายครั้ง
แสงสีน้ำเงินบนท้องฟ้าเริ่มเผาไหม้อีกครั้งมันคือการโจมตีปืนใหญ่ไซโอนิคที่ควบคุมโดยฟิลลิป!
บูม!
ทหารจักรกลรีบหลบสเตฟานีและคนอื่นก็เช่นกัน แต่ป้อมปราการของช่างกลฝ่ายศัตรูช้ามากและไม่อาจออกระยะโจมตีได้ ม่านพลังมันแตกและป้อมปราการก็พัง
นี่คือป้อมปราการที่สองของศัตรูที่ถูกทำลาย
โดยใช้โอกาสนี้หานเซี่ยวค่อยๆถอยขณะสู้ พวกเขาได้มาถึงขอบของฝั่งเหนือแล้ว และเขาก็เริ่มหันไปทางทะเล
“ปืนใหญ่นภาไซโอนิคนั่นคือปัญหา”สเตฟานีขมวดคิ้วเธอมอง ชี้ไปยังนักสู้คนหนึ่งและกล่าว”นาย ขึ้นไปและทำลายปืนใหญ่ของแบล็คสตาร์ซะ”
นักสู้พยักหน้าเปลวไฟยิงออกจากใต้เขาขณะทะยานเหมือนจรวด เปลี่ยนเป็นจุดสีดำและมุ่งหน้าออกนอกอวกาศ
“อย่าเสียเวลายิ่งยื้อ แบล็คสตาร์ก็ยิ่งแกร่ง”
น้ำเสียงของสเตฟานีหมดความอดทนเธอนำคนอื่นและพุ่งโจมตีหานเซี่ยวอีกครั้ง
เธอรู้ว่าแบล็คสตาร์ฆ่าได้ยากแต่แผนเธอไม่ใช่การฆ่าเขาแต่เป็นการจับ อย่างไรก็ตาม หานเซี่ยวเร็วเกินไป เธอไม่มีโอกาสเข้าใกล้หานเซี่ยวเลย มีเพียงการต่อสู้ระยะประชิดถึงสำแดงพลังของความสามารถเอสเปอร์เธอได้ถึงขีดสุด
หลังไล่ล่ากันสักพักพวกเขาก็ปะทะกันเหนือทะเล ทำให้คลื่นก่อตัวสูงกว่าพันฟุต คลื่นพลังงานยิงลงทะเลและสร้างเป็นน้ำวนขนาดใหญ่
จำนวนกองทัพจักรกลลดลงเรื่อยๆหานเซี่ยวเริ่มแสดงความเนหื่อย ทันใดนั้น หานเซี่ยวก็แสดงจุดบอดในการป้องกันเขา ดวงตาสเตฟานีเป็ฯประกาย เธอคว้าโอกาสและเปลี่ยนเป็นเงาดำ ปรากฏด้านหลังหานเซี่ยว จากนั้นก็กดฝ่ามือใส่หลังหานเซี่ยว
นี่คือครั้งแรกที่เธอใช้ความสามารถนี้ตราบเท่าที่เธอสามารถโจมตีแบล็คสตาร์โดน พลังเขาจะลดลงอย่างน้อย10%!
แต่ทว่าวินาทีนั้น ราวกับหานเซี่ยวคาดไว้ เขาหลบฝ่ามือเธอด้วยท่าทางแปลกๆ จากนั้นพลังงานไซโอนิคก็ปรากฏระหว่างมือเขาขณะที่เขาตบใส่หน้าอกเธอ
ปัง!
วงแหวนพลังงานสีฟ้าระเบิดสเตฟานีถูกระเบิดไปไกลพันเมตร เธอถูหน้าอกเธอและขมวดคิ้ว แปลกใจกับความเร็วการตอบสนองของหานเซี่ยว
การโจมตีฉับพลันนี้ไม่มีสัญญาณเลยดังนั้นแบล็คสตาร์จึงมีเวลาตอบสนองแค่เสี้ยววินาที
อีกด้านหานเซี่ยวลอบโล่งใจ สเตฟานีคือบอส เหมือนกับเขา เธอมีความสามารถมากมายนอกจากความสามารถเอสเปอร์ หากเป็นคนไม่รู้จักเธอ มันคงง่ายมากที่จะหลอก แต่ทว่า เขารู้ความสามารถของสเตฟานีดี ดังนั้นจึงไม่มีโอกาสที่เขาจะถูกหลอก
เขาแข็งแกร่งกว่าที่ฉันคิดสเตฟานีหรี่ตา ขณะที่เธอคิดจะโจมตีอีก เธอก็สังเกตเห็นกลุ่มก้อนพลังงานกำลังเข้าใกล้มา สีหน้าเธอเปลี่ยนไป
ดวงตาหานเซี่ยวเป็นประกายเขาแหงนมองและเห็นดาวหางหกดวงกำลังตกลงมา
เปลวไฟดับเผยให้เห็นพวกวิลตัน เมื่อมองสีหน้าตกใจและสับสนของพวกสเตฟานี วิลตันก็แค่นเสียง เขายกมือและในที่สุดคนอื่นก็เห็นว่าเขากำลังกุมคนๆหนึ่งไว้
สเตฟานีเพ่งมองและใบหน้าก็เปลี่ยนไป
คนที่วิลตันกำลังถือคือนักสู้ที่เธอส่งไปทำลายปืนใหญ่นภาตอนนี้เขาไม่มีสัญญาณชีวิตแล้ว มันเห็นได้ชัดว่าเขาตายแล้ว
ทั้งหกคือศัตรู…สีหน้าของสเตฟานีดำมืด
วิลตันปล่อยศพปล่อยให้มันล่วงทะเลและถูกคลื่นซัดหายไป
“แบล็คสตาร์เรามาช้าไป”วิลตันพยักหน้า
หานเซี่ยวยิ้ม
กำลังเสริมมาถึงแล้ว!
เขามองสเตฟานียักไหล่และหัวเราะ
“แปลกใจงั้นหรอ?ตกใจงั้นหรอ?”
เมื่อเห็นแบล็๕สตาร์ทำท่าเหมือนคาดการณ์ไว้แล้วสเตฟานีก็ไม่อาจสงบได้อีก
เขาขอความช่วยเหลือนานแล้ว?
และยังเรียกหกภัยพิบัติมา?!
ทำไมเขาถึงขอให้ภัยพิบัติมากขนาดนี้มาเพื่อจัดการกับปัญหาภายในของอารยธรรมพื้นผิว?!
เว้นแต่..
หัวใจของสเตฟานีเต้นกระหน่ำ
แบล็คสตาร์จะรู้ว่าเรากำลังวางแผนซุ่มโจมตีเขา?
เป็นไปได้ยังไงกัน?!
ตอนที่ 674 ภัยพิบัติทางธรรมชาติ
บูม!
เมื่อกำลังเสริมมาถึงสเตฟานีและพวกก็ไม่มีเวลาตอบโต้เพราะพวกวิลตันลงมือทันที
มันคือการต่อสู้7ต่อ8ระดับเฉลี่ยของศัตรูสูงกว่าพวกวิลตัน แต่จำนวนสูสีกันแล้ว
เป็นเวลาหนึ่งวิลตันและอีกห้าสามารถรับมือได้คนละคน ทำให้หานเซี่ยวสบายขึ้น เขาสามารถทุ่มสมาธิกับการจัดการสเตฟานีและช่างกลอีกคนได้
หวือออ!
เหมือนอัสนีบาตภัยพิบัติทั้งสิบห้าปะทะกันเหนือทะเล ปั่นป่วนกระแสน้ำ
ขณะที่สเตฟานีสู้กับกองทัพจักรกลเธอก็ระงับความตกใจ ในฐานะภัยพิบัติผู้ผ่านศึกมามาก เธอก็สามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ได้
เธอไม่อาจเข้าใจได้ว่าแบล็คสตาร์พบการซุ่มโจมตีได้ยังไงแต่มันคือเรื่องจริง และสิ่งเดียวที่เธอสามารถทำได้คือจัดการกับมัน
สมองของสเตฟานีทำงานอย่างรวดเร็วพลางวิเคราะห์
พวกเขามีหกภัยพิบัติแม้ฉันจะอยู่ เราก็ไม่อาจจัดการผู้ช่วยของแบล็คสตาร์ได้ในเวลาอันสั้น มันจะต้องใช้เวลานานเพื่อจับแบล็คสตาร์…
สเตฟานีขมวดคิ้ว
ในขณะเดียวกันกองทัพจักรกลทั้งสองก็ปะทะกันกลางอากาศ แสงหลากสีจากพลังงานส่องสว่างบนท้องฟ้ามืด
ด้วยการใช้กองทัพเป็นที่กำบังหานเซี่ยวใช้ท่องมิติและปรากฏต่อหน้าช่างกลศัตรู ด้วยคอมโบสั้นๆของการเขวี้ยงและคลื่นไซโอนิค หานเซี่ยวทำลายกระดูกของช่างกลศัตรูได้ ช่างกลศัตรูกลั้นความเจ็บและถอย หานเซี่ยวใช้ม่านพลังไซโอนิคเพื่อป้องกันคลื่นที่มองไม่เห็นจากสเตฟานี ทำให้เกิดเสียงฟ้าร้องกดทับ
บูมบูม บูม!
ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันอย่างรุนแรงขณะที่หานเซี่ยวสู้ เขาก็ยังลอบสังเกตสเตฟานี
กำลังเสริมเขามาถึงแล้วดังนั้นศัตรูย่อมโต้ตอบแน่
สเตฟานีมีแค่สองทางเลือดถอยและหาโอกาสใหม่หรือสู้ต่อและล้มพวกวิลตัน เดิมพันว่าหานเซี่ยวจะไม่มีกำลังเสริมอีก
ขณะที่หานเซี่ยวกำลังสังเกตสเตฟานีก็ประสานมือ ร่างเธอเริ่มสั่นด้วยความถี่สูง ปฏิกิริยาลูกโซ่เกิดขึ้นในพื้นที่รอบตัวเธอ
บูม!บูม!บูม!
ท่ามกลางการต่อสู้วิลตันและคนอื่นรู้สึกราวกับหัวใจพวกเขาเต้นกระหน่ำ ดีบัฟทุกชนิดถูกนำมาใช้กับร่างพวกเขา พวกเขารู้สึวก่ารางพวกเขาช้าลงและยากจะควบคุม
ซู่!
อีกครั้งสเตฟานีใช้ความสามารถเทเลพอร์ต เปลี่ยนเป็นเงาและปรากฏด้านหลังวิลตัน
นี่ไม่ได้ผลกับหานเซี่ยวแต่วิลตันชัดเจนว่าไม่อาจตอบสนองได้ทันก่อนฝ่ามือของสเตฟานีจะกดบนหลังเขา
ฮึม!
แรงกดนี้ให้ความรู้สึกเบาและแทบไม่มีแรงแต่ทั่วร่างของวิลตันกลับสั่นสะเทือน เขารู้สึกถึงแรงสั่นแปลกๆที่เข้าสู่ร่างเขา กล้ามเนื้อและกระดูกเขาเริ่มสั่นด้วยความถี่เดียวกัน
เมื่อความคิดนี้ปรากฏความเจ็บปวดรุนแรงก็ปะทุในตัวเขา!
ภายในตัววิลตันแรงสั่นความถี่สูงทำให้เส้นใยกล้ามเนื้อเขาปริ กระดูกเขาแตก อวัยวะฉีกและเส้นเลือดก็ระเบิด!
แค่การสัมผัสเบาๆวิลตันก็ถูกปกคลุมด้วยเลือด
“กัปตัน!’
ชาวผลึกม่วงอีกสองสังเกตเห็นสีหน้าพวกเขาเปลี่ยนไป อยากมาช่วย
ฝ่ามือของสเตฟานีที่กดบนหลังวิลตันพลันเปลี่ยนเป็นคว้าแน่นนิ้วเธอจมลงไปในร่างเขา จากนั้นก็บิดอย่างรุนแรง
“อ้ากก!”ตาของวิลตันแดงก่ำ
แม้จะเจ็บปวดจนแทบทนไม่ไหวเขาก็ปล่อยหมัดไปด้านหลังสุดกำลัง หลังบรรลุเป้าหมายเธอแล้ว สเตฟานีก็ไม่คิดสู้กับนักสู้ซึ่งหน้าและถอยห่างออกไป
เกราะหลักของวิลตันแตกเผยให้เห็นผิวเขา กล้ามเนื้อและกระดูกส่วนใหญ่เขาโค้งงอและแตก บิดรวมกันเป็นเกลียว และกระดูกก็ทิ่มแทงออกมาจากใต้ผิวหนัง
ในชั่วพริบตาสเตฟานีได้ทำให้นักสู่ระดับภัยพิบัติบาดเจ็บสาหัส ใบหน้าของพวกวิลตันเปลี่ยนไปมาก พลังทำลายล้างของสเตฟานีเหนือกว่าความคาดหมาย
หานเซี่ยวเข้าใจแผนของสเตฟานีผู้หญิงคนนี้ไม่คิดถอย เธอเลือกใช้แผนสอง สู้ต่อ
ด้วยการที่รู้จักสเตฟานีดีเขาจึงไม่แปลกใจ
สเตฟานีมีบทบาทในช่วงสงครามยุคสำรวจมากดีงนั้นเธอจึงสามารถคิดแผนอย่างรอบคอบได้ก่อนลงมือและกล้าสู้กับศัตรูซึ่งๆหน้า เธอไม่ใช่คนที่ยอมแพ้ง่ายๆ
นี่หมายความว่าต้องสู้อย่างเดียวเว้นแต่เราจะบดขยี้พวกเขา พวกเขาก็จะไม่ถอย
หานเซี่ยวกัดฟันศัตรูเช่นนี้จัดการได้ยากมาก
สเตฟานีแข็งแกร่งเกินไปชื่อของความสามารถเอสเปอร์เธอคือเสียงสะท้อนประสาน มันฟังดูธรรมดา แต่มันเป็นความสามารถเอสเปอร์ที่ทรงพลังมาก มีวิธีใช้มากมายและพลังทำลายล้างก็น่ากลัว
เมื่อความถี่ของเสียงสามารถเจาะมาตรการป้องกันได้มากมายและทำให้เกิดความเสียหายกับโครงสร้างทุกการโจมตีของสเตฟานีจึงเกิดความเสียหายจริงและเจาะเกราะ ความสามารถเธอจะทะลุการป้องกันและสามารถลดการป้องกันของศัตรูได้
หานเซี่ยวไม่กลัวความเสียหายจริงผู้นำองค์กรต้นกำเนิดยังคงอวยพรให้เขาจากสวรรค์
แต่ทว่ากำลังเสริมเขาไม่มีกายเหล็ก ความสามารถของสเตฟานีมากพอจะทำใหพวกเขากลัว
วิลตันและคนอื่นคือพวกระดับสูงสุดแล้วคุณภาพและปริมาณพรสวรรค์และความสามารถพวกเขานับว่าด้อยกว่าเมื่อเทียบกับบอสลับอย่างสเตฟานี
เสียงสะท้อนประสานของสเตฟานีไม่เพียงแต่จะอันตรายต่อเป้าหมายเดี่ยวมันยังทรงพลังเมื่อใช้เป็นทักษะโจมตีหมู่ด้วย ผ่านความถี่การสั่น เธอสามารถมอบดีบัฟให้ศัตรูได้ เมื่อเจอกับพวกพิเศษที่อ่อนแอกว่า เธอจะสามารถสร้างอัลตร้าซาวด์และอินฟราซาวด์เพื่อทำลายอวัยวะได้ตรงๆ
ต่อให้เธอเจอสิบภัยพิบัติเธอก็รับมือได้
เธอยังจัดการได้ยากยิ่งกว่าเอ็มเบอร์!
หานเซี่ยวเคยสู้ร่วมกับเจบย์เน่ฉายาคลื่นสะเทือน เหมือนกับเจย์เน่ ความสามารถเอสเปอร์ของสเตฟานียังเกี่ยวกับแรงสั่น แต่พลัง ระยะและการประยุกต์ใช้นั้นเหนือกว่ามาก นี่คือความสามารถเอสเปอร์ประเภทสั่นสะเทือนเกรดสูง
เธอคือเครื่องจักรสังหารฉันไม่อาจปล่อยเธอไปหาคนอื่นได้ ฉันคือคนเดียวที่รับมือกับเธอได้….
ความคิดนั้นฉายผ่นาเขาหันปืนใหญ่ของกองทัพจักรกลและเล็งสเตฟานี ยิงกระสุนนับไม่ถ้วนและก่อตัวเป็นตาข่ายหนา ในเวลาเดียวกัน หานเซี่ยวก็ถีบตัวหาสเตฟานี
สีหน้าสเตฟานีดูไม่ยินดีเธออยากกำจัดผู้ช่วยของแบล็คสตาร์ก่อน แต่แบล็คสตาร์ก็พุ่งมาหาเธอ
ภายใต้การโจมตีสเตฟานียังใจเย็น
หมัดของทั้งสองฝ่ายปะทะใส่กันต่อเนื่องทำให้เกิดเสียงดัง เธอถูกพัวพันด้วยหานเซี่ยวและไม่อาจไปไหนได้
เมื่อเห็นวิลตันก็ถอนหายใจโล่งอก เขาไม่กล้าสู้กับสเตฟานี การที่แบล็คสตาร์จัดการกับศัตรูที่อันตรายสุดได้ทำให้เขาโล่งใจ เขาเหลือบมองหานเซี่ยว กัดฟันและพบคู่ต่อสู้ที่เขาต้องสู้ด้วย
ภายในกองทัพจักรกลทั้งสองฝ่ายปะทะกันไม่หยุด คลื่นกระแทกสร้างเป็นพายุนับไม่ถ้วนและกระจายออกไปทุกทิศทาง
บูม!
ลำแสงจากปืนใหญ่ตกลงบนทะเลไม่หยุดสร้างเป็นคลื่นสูงหลายร้อยเมตร
พายุฝนฟ้าคะนองเริ่มเทจากท้องฟ้ามืด
ตามชื่อพวกเขาการต่อสู้ระหว่างภัยพิบัติกว่าสิบไม่ต่างอะไรกับการนำหายนะมาสู่ดาว
หลังสู้กันหลายชั่วโมงตอนนี้ก็เหลือแค่สิบสอง การโจมตีมากมายจากปืนใหญ่นภาฆ่าช่างกลศัตรูได้
ภัยพิบัติชาวโกโดร่าก็ถูกฆ่าโดยศัตรูขณะที่ศัตรูก็บาดเจ็บสาหัสจากการระดมยิงของกองทัพจักรกล จากนั้นก็ถูกปลิดชีวิตโดยวิลตัน
สามภัยพิบัติตายการต่อสู้รุนแรงมาก ตอนนี้มันเป็นศึกของ6ต่อ6แล้ว!
“หึ่ง…หึ่ง”
ชุดจักรกลลิงคลั่งเสียหายหนักหานเซี่ยวได้ซ่อมมันสามครั้งด้วยการดัดแปลงของเสีย เขาหอบหายใจหนัก ลากร่างไร้เรี่ยวแรงและปะทะกับสเตฟานีต่อ
สเตฟานีก็ไม่ได้อยู่ในสภาพดีเช่นกันเธอมีเลือดไหลจากหน้าผากและทั่วร่างก็เต็มไปด้ยแผล เสื้อผ้าเธอฉีกขาดหมด แต่ตาเธอยังดุดัน
กองทัพจักรกลรอบเธอกลายเป็นเศษซากทั้งสองไม่เก็บรั้งและสู้กับเหมือนสัตว์ป่า
ไม่ว่าจะเหลือความแข็งแกร่งแค่ไหนและฟื้นเร็วแค่ไหน พวกเขาก็ยังอยู่ในสภาพนี้
เธอมีพรสวรรค์การปั้นประเภทบอสเธอมีพลังงาน พลังชีวิตและความเร็วฟื้นฟูสูงมาก มันจะต้องใช้เวลาเป็นวันเพื่อตัดสินผู้ชนะหากยังเป็นแบบนี้
หานเซี่ยวกัดฟันเขาเหนือกว่าเพราะวัฏจักรพลังชีวิต มานา กองทัพจักรกลและความต้านทานความเสียหายจริง สเตฟานีคือเงาของพันเงา ความสามารถเธอแกร่งขึ้น และระดับเธอก็ประมาณ240 เธอห่างจากระดับผู้อยู่เหนือไม่มาก
ยิ่งสู้นานโอกาสชนะเขาก็ยิ่งเพิ่ม หานเซี่ยวยังได้เปรียบในแง่ของการต่อสู้ระยะยาว แต่ทว่า เขาไม่อาจชะลอการต่อสู้ได้อีก
แค่ภัยพิบัติคนหนึ่งก็สามารถทำลายผิวดาวได้แล้วยนะที่เกิดจากการต่อสู้ระหว่างเหล่าภัยพิบัติจะทำให้ดาวอความารีนทั้งใบย่อยยับ
ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดจากการปะทะของพวกเขาไม่อาจแก้ไข!
นั้นเหนือกว่ามาก นี่คือความสามารถเอสเปอร์ประเภทสั่นสะเทือนเกรดสูง
เธอคือเครื่องจักรสังหารฉันไม่อาจปล่อยเธอไปหาคนอื่นได้ ฉันคือคนเดียวที่รับมือกับเธอได้….
ความคิดนั้นฉายผ่นาเขาหันปืนใหญ่ของกองทัพจักรกลและเล็งสเตฟานี ยิงกระสุนนับไม่ถ้วนและก่อตัวเป็นตาข่ายหนา ในเวลาเดียวกัน หานเซี่ยวก็ถีบตัวหาสเตฟานี
สีหน้าสเตฟานีดูไม่ยินดีเธออยากกำจัดผู้ช่วยของแบล็คสตาร์ก่อน แต่แบล็คสตาร์ก็พุ่งมาหาเธอ
ภายใต้การโจมตีสเตฟานียังใจเย็น
หมัดของทั้งสองฝ่ายปะทะใส่กันต่อเนื่องทำให้เกิดเสียงดัง เธอถูกพัวพันด้วยหานเซี่ยวและไม่อาจไปไหนได้
เมื่อเห็นวิลตันก็ถอนหายใจโล่งอก เขาไม่กล้าสู้กับสเตฟานี การที่แบล็คสตาร์จัดการกับศัตรูที่อันตรายสุดได้ทำให้เขาโล่งใจ เขาเหลือบมองหานเซี่ยว กัดฟันและพบคู่ต่อสู้ที่เขาต้องสู้ด้วย
ภายในกองทัพจักรกลทั้งสองฝ่ายปะทะกันไม่หยุด คลื่นกระแทกสร้างเป็นพายุนับไม่ถ้วนและกระจายออกไปทุกทิศทาง
บูม!
ลำแสงจากปืนใหญ่ตกลงบนทะเลไม่หยุดสร้างเป็นคลื่นสูงหลายร้อยเมตร
พายุฝนฟ้าคะนองเริ่มเทจากท้องฟ้ามืด
ตามชื่อพวกเขาการต่อสู้ระหว่างภัยพิบัติกว่าสิบไม่ต่างอะไรกับการนำหายนะมาสู่ดาว
หลังสู้กันหลายชั่วโมงตอนนี้ก็เหลือแค่สิบสอง การโจมตีมากมายจากปืนใหญ่นภาฆ่าช่างกลศัตรูได้
ภัยพิบัติชาวโกโดร่าก็ถูกฆ่าโดยศัตรูขณะที่ศัตรูก็บาดเจ็บสาหัสจากการระดมยิงของกองทัพจักรกล จากนั้นก็ถูกปลิดชีวิตโดยวิลตัน
สามภัยพิบัติตายการต่อสู้รุนแรงมาก ตอนนี้มันเป็นศึกของ6ต่อ6แล้ว!
“หึ่ง…หึ่ง”
ชุดจักรกลลิงคลั่งเสียหายหนักหานเซี่ยวได้ซ่อมมันสามครั้งด้วยการดัดแปลงของเสีย เขาหอบหายใจหนัก ลากร่างไร้เรี่ยวแรงและปะทะกับสเตฟานีต่อ
สเตฟานีก็ไม่ได้อยู่ในสภาพดีเช่นกันเธอมีเลือดไหลจากหน้าผากและทั่วร่างก็เต็มไปด้ยแผล เสื้อผ้าเธอฉีกขาดหมด แต่ตาเธอยังดุดัน
กองทัพจักรกลรอบเธอกลายเป็นเศษซากทั้งสองไม่เก็บรั้งและสู้กับเหมือนสัตว์ป่า
ไม่ว่าจะเหลือความแข็งแกร่งแค่ไหนและฟื้นเร็วแค่ไหน พวกเขาก็ยังอยู่ในสภาพนี้
เธอมีพรสวรรค์การปั้นประเภทบอสเธอมีพลังงาน พลังชีวิตและความเร็วฟื้นฟูสูงมาก มันจะต้องใช้เวลาเป็นวันเพื่อตัดสินผู้ชนะหากยังเป็นแบบนี้
หานเซี่ยวกัดฟันเขาเหนือกว่าเพราะวัฏจักรพลังชีวิต มานา กองทัพจักรกลและความต้านทานความเสียหายจริง สเตฟานีคือเงาของพันเงา ความสามารถเธอแกร่งขึ้น และระดับเธอก็ประมาณ240 เธอห่างจากระดับผู้อยู่เหนือไม่มาก
ยิ่งสู้นานโอกาสชนะเขาก็ยิ่งเพิ่ม หานเซี่ยวยังได้เปรียบในแง่ของการต่อสู้ระยะยาว แต่ทว่า เขาไม่อาจชะลอการต่อสู้ได้อีก
แค่ภัยพิบัติคนหนึ่งก็สามารถทำลายผิวดาวได้แล้วยนะที่เกิดจากการต่อสู้ระหว่างเหล่าภัยพิบัติจะทำให้ดาวอความารีนทั้งใบย่อยยับ
ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดจากการปะทะของพวกเขาไม่อาจแก้ไข!
ต่อให้พวกเขาหยุดต่อสู้ทันทีหายนะที่พวกเขาก่อก็ยังกระจาย
หากพวกเขาสู้กันนานขึ้นสิ่งมีชีวิตบนอความารีนอาจตายหมด
มันต้องไม่เป็นแบบนี้ทั้งสองฝั่งสูสีกันแล้ว ตราบเท่าที่ฉันแกร่งขึ้น ฉันจะทำลายสมดุลได้!
หลังตัดสินใจหานเซี่ยวก็ดำลงมหาสมุทรโดยไม่พูดอะไร
เขาสามารถผ่านการวิวัฒนาการได้ตลอดแค่ต้องใช้เวลา ภายใต้การควบคุมของฟิลลิป กองทัพจักรกลส่วนหนึ่งบนท้องฟ้าอยู่เพื่อยับยั้งศัตรู ที่เหลือตามหานเซี่ยวลงทะเลเพื่อปกป้งอเขา
สเตฟานีขมวดคิ้วและเหลือบมองพวกวิลตันหลังลังเลสักพัก เธอก็ตัดสินใจ เธอไม่ใช้โอกาสนี้เพื่อกำจัดศัตรูคนอื่นแต่ตามหานเซี่ยวลงทะเลไป
ประสบการณ์อันยาวนานของเธอร้องบอกว่าต้องหยุดเขาให้ได้
เมื่อผู้แข็งแกร่งสุดของทั้งสองฝั่งลงทะเลสีหน้าทุกคนก็เปลี่ยนไป ไม่รู้ว่าทำไมแบล็คสตาร์ถึงแยกสนามรบ
หรือว่าเขาไม่อยากถูกคนอื่นรบกวนและอยากสู้กับสเตฟานีในทะเล?!
“หัวหน้าเราควรลงไปหนุนเขาไหม?”
วิลตันกัดฟัน”ไม่จำเป็นแค่ทำในสิ่งที่ต้องทำ อย่าปล่อยให้ศัตรูตามเขาลงไป ปล่อยให้แบล็คสตาร์จัดการกับผู้หญิงนั่น”
เขารู้สึกว่าแบล็คสตาร์ไม่ต้องการกำลังเสริมและโดยไม่รู้ตัว เขาไม่อยากเผชิญหน้ากับสเตฟานี
ผู้หญิงคนนั้นอันตรายเกินไป
แม้เขาจะถูกสั่งให้สนับสนุนหานเซี่ยวแต่วิลตันก็ไม่เต็มใจเสียสละชีวิตเขา
…
ในเวลาเดียวกันที่เมืองแบล็คสตาร์รายงานภัยพิบัติธรรมชาติถูกส่งมาไม่หยุด ดาวเทียมค้นพบว่าแหล่งที่มาของภัยพิบัติเหล่านั้นคือสนามรบของพวกหานเซี่ยว
เจ้าหน้าที่หลายคนได้มารวมกันรายงานสถานการณ์อย่างตื่นตระหนก
“ไม่กี่ชั่วโมงก่อนเกิดแผ่นดินไหวหลายๆพื้นที่ของทวีปเหนือ รอยแยกปรากฏมากมาย แผ่นดินไหวทำให้เกิดคลื่นสึนามิ เมืองชายฝั่งสิบสามแห่งถูกทำลาย ทำให้เกิดคนล้มตายเป็นจำนวนมาก!”
“ตามรายงานจากดาวเทียมท่านแบล็คสตาร์กำลังสู้กับศัตรูบนทะเล พายุและสึนามิกำลังเข้าใกล้ทวีปอื่น ในเวลาประมาณสามชั่วโมง พวกมันจะมาถึงฝั่ง ประเทศต่างๆได้เริ่มอพยพแล้ว”
“ชั่วโมงก่อนแหล่งแผ่นดินไหวใหม่11แห่งปรากฏบนตำแหน่งต่างๆรอบโลก รัศมีและระยะของแผ่นดินไหวยังขยายตัว ตามการคำนวณเรา ภายในสิบวัน พื้นดิน24.7%จะได้รับผลกระทบ”
“แถม..”
เบนเน็ตฟังรายงานขณะเดินไปมาอย่างกระวนกระวายนี่แตกต่างจากมหันตภัยกลายพันธ์ ภัยพิบัติธรรมชาติเหล่านี้คือสิ่งที่ไม่อาจแก้ไขได้
“ส่งทีมกู้ภัยไปและสนับสนุนพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบให้มากสุดลืมเรื่องการกระทำของหกประเทศไปก่อน”เบนเน็ตออกคำสั่ง”ภัยพิบัติจะมาถึงเมืองแบล็คสตาร์ตอนไหน?”
เมืองแบล็คสตาร์อยู่ไกลภัยพิบัติจะไม่มาถึงเร็วนัก
เจ้าหน้าที่กลืนน้ำลายและกล่าว”ตามการคำนวณของฝ่ายวิจัยหากท่านแบล็คสตาร์ยังสู้ต่อ ความรุนแรงจะเพิ่มขึ้น ในเวลาประมาณ4ชั่วโมง35นาที ผลกระทบจะถึงจุดวิกฤติ…”
“มันจะเกิดอะไรหากเกินจุดวิกฤติ”หัวใจของเบนเน็ตเต้นกระหน่ำ
“เว้นแต่เราจะออกดาวนี้เราทำได้แค่รอความตาย”
หมัดของเบนเน็ตกำแน่น