The Legendary Mechanic - ตอนที่ 859 -560

ตอนที่ 859 เอาคืน!
　　กองยานจักรวรรดิมากขึ้นมารวมกันและแถบจักรวาลรกร้างนอกกลุ่มดาวรุ่งอรุณก็เริ่มถูกปิดตาย วงล้อมก่อตัว และช่องว่างสำหรับกองยานศาสนจักรก็ค่อยๆปิด
　　ด้วยความช่วยเหลือของหานเซี่ยวจักรวรดิจึงจับยานรบได้มากขึ้น หลังโร้กออกคำสั่งให้แยกเป็นล้านหน่วย หน่วยเหล่านี้ก็ไม่มีความสามารถพอจะหลบหนีหลังถูกพบโดยจักรวรรดิ
　　ไม่นานยานรบนับหมื่นตกอยู่ในมือของจักรวรรดิ และสมาชิกศาสนจักรบนยานรบก็กลายเป็นเชลย
　　แต่ทว่าวิธีการของโร้กก็ลดความเร็วของจักรวรรดิไปมากจริงๆ
　　หากพวกเขาอยากปิดซ่อนบางสิ่งวิธีดีสุดคืออย่าเก็บไว้ในเซฟ แต่ซ่อนมันภายในกลุ่มเหยื่อ นี่คือสถานการณ์ที่จักรวรรดิกำลังเผชิญ
　　ในยานหลักทาราคอฟกำลังประชุมเสมือนกับพวกหานเซี่ยวเพื่อวิเคราะห์สถานการณ์
　　”ตามการให้การของพวกเชลยผู้บัญชาการศัตรูปรับวิธีเพื่อทำให้เราสับสน นอกจากนี้ ยานรบครึ่งหนึ่งยังขาดการติดต่อจากเครือข่ายและหลบหนีการเฝ้าระวังของเรา พวกมันเป็นกองทัพโดดเดี่ยวที่กำลังหลบหนีในความืด เราสามารถยึดยานรบเกรดดวงอาทิตย์ได้แต่ไม่อาจหาตัวพวกโร้กได้ พวกเขาควรซ่อนภายในกองยานที่ตัดเครือข่าย”
　　หานเซี่ยวลูบคาง”ดูเหมือนพวกเขาจะสังเกตเห็นการแทรกซึมฉันและเลือกตัดหางเพื่อหนีหึ ผู้บัญชาการคนนี้ฝีมือไม่เบา”
　　”แบล็คสตาร์มีข้อเสนอไหม?”
　　”ตราบเท่าที่กองทัพเหล่านี้เชื่อมต่อกับเครือข่ายควอนตัมเพียงเสี้ยววินาทีตำแหน่งก็จะเปิดเผย”หานเซี่ยวยักไหล่
　　เมื่อเขาทิ้งโปรแกรมแทรกซึมเขายังไม่เรียนผู้สร้างเสมือนและถูกยับยั้งโดยไฟร์วอลล์ หากเขามีมาตรฐานของตอนนี้ มันคงไม่เรียบง่ายแค่การเจาะระบบ เขาจะสามารถฝ่าการป้องกันและใช้ไวรัสเพื่อควบคุมปัญญาประดิษฐ์ของยานรบศัตรูได้ ต่อให้ศัตรูจะตัดการเชื่อมต่อจากเครือข่าย เขาก็จะสามารถบังคับให้ปัญญาประดิษฐ์ศัตรูปิดตัวเองได้”
　　”ฉันสามารถทำนายโชคชะตาพวกมันได้”เรเวนลูดกล่าว”แต่ทว่าศาสนจักรมีสองจอมเวทย์และต้องตั้งสนามพลังเพื่อขวางเส้นโชคชะตาพวกมันและป้องกันคนอื่นจากการสอดแนม”
　　”แค่ลองดูยังไงมันก็ไม่ต้องใช้เงิน”หานเซี่ยวเลิกคิ้ว
　　เรเวนลูดแค่นเสียงและแสงสีม่วงก็ปรากฏภายในฝ่ามือเขาผลึกสีฟ้าอ่อนปรากฏในฝ่ามือเขาด้วยเมฆสีเทาภายในนั้น
　　จากนั้นผลึกก็ลอยตรงหน้าเขาและเรเวนลูดก็แตะหน้าผากเขา จากนั้นแสงก็ไหววูบในผลึก และภาพก็ค่อยๆปรากฏในเมฆเทา
　　จากนั้นทุกคนก็ยื่นคอเพื่อดูและใบหน้าของนินเจียก็ปรากฏภายในผลึก จากนั้นเขาก็มองเรเวนลูดราวกับสังเกตเห็นความผิดปกติ
　　คชา!
　　วินาทีต่อมาผลึกซึ่งราคาไม่ถูกก็แตก
　　”มันปิดกั้นจริงๆ”เรเวนลูดกล่าว
　　จากนั้นทุกคนก็มองเขาราวกับผิดหวัง
　　เรเวนลูดหน้าหนาและยังกล้าพูดถึงผลงานที่ไม่ได้เรื่อง
　　ทาราคอฟตัดสินใจไม่สนใจเขา
　　”ศัตรูเลือกแยกกองกำลังจนมีขนาดเล็กกว่าเดิม”ฮีเบอร์กล่าว”กองยานของโร้กอาจเป็นกลุ่มเดียวที่สามารถทำลายแนวป้องกันเราได้วินาทีที่ผู้อยู่เหนือลงมือ คนของเราจะพบทันที แต่ทว่า เรายังไม่มีรายงานใด ซึ่งหมายความว่าพวกมันยังไม่พบกับทัพเรา”
　　”พวกมันโชคดีจริงๆ”เบโยนี่กล่าว
　　เอ๊ะ?โชค..หานเซี่ยวกระพริบตาและความคิดก็ผุด จากนั้นก็หันไปมองเฟย์ดินด้วยสายตาร้อนแรง
　　”เฟย์ดินหากฉันให้นายเลือก นายคิดว่าโร้กจะหนีไปทางไหน?นายโชคดีมากและการเดาของนายก็อาจถูก”
　　เฟย์ดินไม่รู้ว่าควรหัวเราะหรือร้องไห้
　　”แบล็คสตาร์การที่ปกตินายหยอกล้อฉันไม่ใช่ว่านายควรมาทำต่อหน้าคนนอกนะ นายไม่ควรล้อเล่นแบบนี้สิ”
　　”นายพูดอะไร?ฉันไม่ได้ล้อเล่น”หานเซี่ยวกล่าวอย่างจริงจัง”นายสามารถเห็นว่าเรากำลังเผชิญกับปัญหาใหญ่ที่ไม่อาจแก้ทำไมไม่ลองดูละ?ใครจะไปรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น?”
　　เมื่อเห็นการยืนกรานของหานเซี่ยวเฟย์ดินก็จำต้องชี้ไปบนแผนที่ดาว
　　”อย่าโทษกันละหากฉันผิด”
　　หานเซี่ยวหัวเราะ”ผู้บัญชาการสูงสุดทำไมไม่ลองค้นหาแถวนั้นดูละ?เราอาจเจอโร้กจริงๆก็ได้”
　　”นี่จะเด็กเกินไปแล้ว!”ออโรร่าอดบ่นไม่ได้
　　แต่ทว่าเธอแหงนมองและตระหนักว่าพวกทาราคอฟยังมีสีหน้าสงบราวกับพวกเขาไม่พบว่ามันแปลก
　　”เข้าใจแล้ว”ทาราคอฟกล่าว”การพึ่งพาสัญชาตญาณไม่ใช่ทางเลือกที่แย่อะไร”
　　มิลิซาสและคนอื่นพยักหน้าเห็นด้วย
　　พวกเขาล้วนผ่านประสบการณ์มามากและเชื่อในสัญชาตญาณเช่นกัน
　　โชคถือเป็นส่วนหนึ่งของพลัง!
　　…
　　กองยานของโร้กมียานขนาดเล็กแค่สิบกว่าลำและหลังตัดออกจากเครือข่าย พวกเขาก็ขาดการติดต่อกับหน่วยอื่น พวกเขาไม่รู้ว่ามีหน่วยพวกเขามากแค่ไหนที่ถูกจับ
　　”เราอยู่ไม่ไกลจากประตูดาวลับแล้วและก็ยังไม่พบกองยานจักรวรรดิ”โร้กมองแผนที่ดาว”ตราบเท่าที่เราผ่านสิ่งกีดขวางที่จักรวรรดิตั้งไว้ได้ เราก็จะไปถึงประตูดาว”
　　”ดูเหมือนโชคเราจะไม่เลวเลย”เทย์เลอร์กล่าว
　　”ไม่ใช่โชคซะทีเดียว”โร้กตอบ”เราจงใจให้กองยานจักรวรรดิไปทางอื่นและดังนั้น การปิดตายในทิศทางนี้จึงน้อยกว่า”
　　แซ็กแมนพยักหน้า”ตามความเร็วปัจจุบันเราเราจะสามารถไปถึง..”
　　หวอ!
　　ก่อนเขาจะพูดจบสัญญาณเตือนก็ดัง
　　”คำเตือน!ตรวจพบการสแกนตัวตนเราถูกพบ!”
　　ทุกคนพยักหน้าและเห็นกองยานจักรวรรดิกำลังใกล้เข้ามา
　　”บัดซบ!”โร้กทุบแผงควบคุม
　　โหมดปกปิดพวกเขาสามารถซ่อนตำแหน่งได้แต่เรดาห์ศัตรูก็ยังจับพวกเขาได้
　　จากนั้นโร้กจึงหันมาและตะโกนใส่พวกแซ็กแมน”ศัตรูมียานรบห้าสิบลำรีบกำจัดพวกมันเร็ว!”
　　แม้ยานรบของศาสนจักรจะเร็วกว่าทักษะเทคโนโลยีของจักรวรรดิคริมสันก็ยังเป็นของอารยธรรมจักรวาลอยู่ดี
　　หากพวกเขาพยายามหนีต่อกองยานจักรวรรดิรอบๆก็จะยังตรวจพบตำแหน่งพวกเขา ดังนั้น พวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องทำลายศัตรู
　　แซ็กแมนและคนอื่นพยักหน้า
　　ด้วยการลงมือของห้าผู้อยู่เหนือกองยานของแซ็กแมนจึงลบศัตรูได้ง่ายๆ แต่ก็ยังเผยการดำรงอยู่ของพวกแซ็กแมน
　　”จักรวรรดิรู้แล้วว่าเราอยู่ไหนและจะต้องพยายามขัดขวางเราเราต้องหนีก่อนผู้อยู่เหนือศัตรูจะมาถึง…”โร้กกำหมัดแน่น
　　…
　　เพราะตำแหน่งพวกเขาถูกเปิดเผยกองยานของโร้กจึงต้องทนแนวป้องกันหลายชั้นและไม่อาจลอบหลบหนีได้อีก พวกเขาทำได้แค่เปิดเส้นทางเลือด
　　เดิมพวกเขาอยากเร่งความเร็วแต่ก็จบด้วยการถูกชะลอความเร็วแทน
　　ทาราคอฟหานเซี่ยวและคนอื่นได้รับข่าวและรีบตามไป
　　ระยะห่างระหว่างสองฝ่ายลดลงอย่างรวดเร็วขณะเข้าใกล้ประตูดาวลับ
　　ครั้งนี้โร้กและคนอื่นพุ่งตรงไปตำแหน่งของประตูดาวลับ และกองยานจักรวรรดิก็พบประตูดาวลับแล้ว ดังนั้น การต่อสู้รุนแรงจึงเกิดขึ้นกับกองยานศาสนจักรที่ประจำการที่ประตูดาว
　　โร้กและคนอื่นสามารถมาถึงประตูดาวได้ด้วยการพึ่งพาพลังของห้าผู้อยู่เหนือ
　　กองยานศาสนจักรกำลังต่อสู้กับกองยานจักรวรรดิและกำลังเสริมก็มาจากอีกฝั่งของประตูดาว
　　จากระยะไกลโร้กและคนอื่นเห็นการต่อสู้ ความหวังที่จะหลบหนีอยู่ตรงหน้าพวกเขา และพวกเขาก็อดตื่นเต้นไม่ได้
　　โร้กเชื่อมต่อเครือข่ายควอนตัมอีกครั้งและติดต่อกองยานที่ประจำการอยู่ที่สถานีประตูดาวจากนั้นพวกเขาก็พุ่งตรงไปในกองยานจักรวรรดิและเข้าร่วมการต่อสู้เพื่อเปิดทางไปประตูดาว
　　แต่ทว่าทาราคอฟได้นำกองยานหลักมาถึงพอดี หานเซี่ยวและคนอื่นพบกับพวกแซ็กแมนที่กำลังพยายามทำลายแนวป้องกันจักรวรรดิ
　　”ลงมือเลย!”
　　โดยไม่ลังเลกลุ่มห้าคนของหานเซี่ยวออกยานและพุ่งตรงใส่แซ็กแมน
　　โร้กคือคนแรกที่สังเกตเห็นและใบหน้าก็ดำมืด
　　ผู้อยู่เหนือยังมีโอกาสหนีเข้าประตูดาวด้วยพลังพวกเขาแต่เขาไม่มีทางทำได้!
　　เขาละทิ้งกองยานเขาอย่างไร้ปราณีแต่ก็ยังหนีไม่ได้!?
　　ปฏกิริยาพลังงานรุนแรงดึงความสนใจของพวกแซ็กแมนและสีหน้าพวกเขาก็เปลี่ยนไป
　　”พวกมันมาแล้ว!”
　　”เราไม่อาจถูกพวกมันรั้งได้!”
　　กลุ่มห้าคนของแซ็กแมนไม่กล้าหันไปสู้กลับและเร่งความเร็วไปทางประตูดาวพวกเขาแค่อยากไปถึงประตูดาวก่อนพวกหานเซี่ยวจะไล่ทัน
　　พวกเขารู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้สำหรับพวกเขาที่จะหลบหนีจากโลกริบหรี่เมื่อพวกเขาถูกรั้งไว้โดยบุคคลระดับเดียวกัน
　　ห้าลำแสงหนีห้าลำแสงไล่ตาม
　　”โจมตีประตูดาว!”
　　เหล่าคนที่มีการโจมตีระยะไกลในกลุ่มหนาเซี่ยวเริ่มเปิดฉากยิงใส่ประตูดาวnovel-lucky
　　การโจมตีระดับผู้อยู่เหนือระเบิดใส่ประตูดาวและรอยแตกก็ปรากฏบนม่านพลังที่ปกคลุม มันจะทนได้ไม่นาน
　　พวกแซ็กแมนกัดฟันและริเริ่มป้องกันการโจมตีพวกเขายอมบาดเจ็บเพื่อลดความเสียหายของประตูดาวและหยิบยืมแรงปะทะเพื่อเร่งความเร็ว
　　ตอนนี้มันถึงคราวของศาสนจักรที่ต้องปกป้องประตูดาวและพวกเขาก็อยู่ในสภาพน่าสมเพชมาก
　　กองทัพจักรกลทำความเสียหายสูงสุดและเมอเซอร์ก็มีสภาพย่ำแย่สุด เขาไม่เหมือนคนอื่นและไม่มีม่านพลังงานระยะไกล เขาทำได้แค่ใช้ร่างกายเขาทนรับการโจมตีและความเร็วก็ลดลง
　　แซ็กแมนและสองจอมเวทย์เร็วสุดและพุ่งตรงไปในประตูดาวก่อนไซเคอร์ตามหลังมาติดๆและใช้พลังจิตเพื่อรับการโจมตีจากกองทัพจักรกลอีกชุด กระอักเลือดก่อนเข้าประตูดาวไป
　　ทั้งสี่หนีผ่านประตูดาวและเหลือเมอเซอร์คนเดียวบนสนามรบ ในที่สุดพวกหานเซี่ยวก็ไล่ทันตอนเขาอยู่ไม่ไกลจากประตูดาว
　　ฮีเบอร์พุ่งไปข้างหน้าและจับเมอเซอร์ไว้จากนั้นทั้งคู่ก็ปะทะกัน เมอเซอร์ถูกจับโดยนกระแทกกับม่านพลังที่อ่อนแอและบดขยี้กับขอบประตูดาว
　　จากนั้นหานเซี่ยวก็โบกมือและกองทัพจักรกลส่วนหนึ่งเขาก็พุ่งไปในประตูดาวเป็นตัวสอดแนม
　　วินาทีต่อมาเขาก็ขาดการติดต่อกับกองทัพจักรกลเขา และมันก็ถูกทำลาย
　　วังวนในประตูดาวเริ่มหายไปและมันก็ถูกปิดจากอีกฝั่ง
　　เมื่อเห็นมิลิซาสก็แค่นเสียง”พวกมันได้ทำลายประตูดาวอีกฝั่ง ฮุ่ม ดูเหมือนพวกมันจะทิ้งเมอเซอร์แล้ว”
　　”อย่างน้อยเราก็จับได้หนึ่ง”
　　จากนั้นทุกคนก็หันไปมองเมอเซอร์เขาถูกล้อมทุกทางและไม่มีทางหนี
　　ฮีเบอร์กำลังต่อสู้กับเมอเซอร์อย่างบ้าคลั่ง
　　เมื่อเห็นสายตาพวกเขาฮีเบอร์ก็กล่าว”นี่คือเหยื่อของฉัน อย่ามายุ่ง”
　　ในเมื่อมันเป็นไปไม่ได้ที่เมอเซอร์จะหลบหีพวกเขาจึงเฝ้าดู
　　จากนั้นหานเซี่ยวก็ส่งเสียงเชียร์”สู้เขาฮีเบอร์น้อย”
　　”หยุดเรียกฉันอย่างนั้น!”
　　ฮีเบอร์ตัดสินใจไม่สนใจหานเซี่ยวและจดจ่อกับการต่อสู้
　　หลังมีโอกาสจับผู้อยู่เหนือเขาย่อมไม่ทิ้งมัน
　　ประตูดาวได้ถูกทำลายไปแล้วและศัตรูก็ไม่มีทางหนี การต่อสู้นี้ดีมาก
　　วินาทีนี้ทาราคอฟเข้าร่วมการสนทนาและประกาศอย่างพึงพอใจ”สี่คนหนีไปได้ ทิ้งไว้หนึ่ง โร้กเองยังถูกจับ ผลลัพธ์เราไม่เลวเลย ต่อให้พวกแซ็กแมนหลบหนีจากโ,กริบหรี่ได้ พวกเขาก็ยังต้องเจอกับการโจมตีอีกระลอก”
　　การหลบหนีจากโลกริบหรี่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขานั้นปลอดภัยแล้ว
　　จักรวรรดิคริมสันได้จัดทัพเพื่อขวางพวกเขาในวงแหวนดาวกระจายกองทัพแบล็คสตาร์ แดนหลั่งเลือด เคล็นท์และพันธมิตรทั้งหมดของจักรวรรดิยังทำการเคลื่อนไหว ไม่ต้องพูดถึงสหพันธ์แห่งแสง
　　เส้นทางหลบหนีพวกเขายังไม่บและก็ยังต้องผ่านวงแหวนดาวกระจายแสนกว้างใหญ่
　　เมื่อได้ยินหานเซี่ยวก็กล่าว”ฉันเพิ่งเจาะฐานข้อมูลของประตูดาวและได้รับพิกัดของประตูดาวอีกฝั่งมา”
　　ดวงตาทาราคอฟสว่างวาบ
　　”แบบนี้เราจะสามารถถอนรากประตูดาวลับพวกมันได้ และมันจะง่ายสำหรับเราที่จะจับตำแหน่งพวกมัน
　　แบล็คสตาร์ทำได้ดีมาก!”
　　หานเซี่ยวยิ้มและหันไปมองการต่อสู้ระหว่างฮีเบอร์และเมอเซอร์
　　การจับเมอเซอร์เป็นแค่เรื่องของเวลา
　　เขาถอนหายใจประกายความเยือกเย็นส่องผ่านตาเขา
　　นี่คือเชลยผู้อยู่เหนือคนที่สอง!
　　ศาสนจักรจะพอใจกับของขวัญชิ้นนี้ไหม?
　　…
　　ในเวลาเดียวกันในแถบจักรวาลรกร้างอันเป็นทางออกของประตูดาวลับศาสนจักร
　　กลุ่มแซ็กแมนมองประตูดาวที่พวกเขาทำลายและเงียบ
　　”เมอเซอร์…หนีไม่พ้น..”
　　แซ็กแมนกัดฟันแรงจนฟันเขาเกือบแตก
　　หากพวกเขาทำภารกิจสำเร็จและกำจัดมิลิซาสเบโยนี่และแบล็คสตาร์ได้ จักรวรรดิคงมีแค่สามผู้อยู่เหนือและพวกเขาก็จะหลบหนีมาได้ง่ายๆ
　　แต่ตอนนี้…
　　พวกเขาแพ้เพราะความประมาท!
　　”เราไม่อาจหยุดที่นี่ได้”นินเจียกล่าว”แบล็คสตาร์จะต้องหาตำแหน่งนี้เจอแน่รีบหนีกันเร็ว”
　　จากนั้นแซ็กแมนก็ได้สติและกล่าวด้วยสีหน้าดำมืด”ไปกันเราต้องนำคฑาหมื่นเทพกลับไป”
　　มันนานมากแล้วที่พวกเขาไม่ได้อยู่ในสภาพน่าสมเพชแบบนี้!
ตอนที่ 860 คำเชิญและการประกาศ
　　ทหารที่เหลือของศาสนจักรล้วนถูกจับโดยจักรวรรดิ
　　เมอเซอร์และฮีเบอร์ยังต่อสู้กันเพลิงนักสู้พวกเขายิงไปทุกทิศทาง
　　นักสู้ผู้อยู่เหนือจะเข้าใจถึงแก่นแท้ของความเร็วและพละกำลังและการเคลื่อนไหวพวกเขาก็เหมือนสายฟ้า ซึ่งทำให้เกิดภาพติดตามากมาย มิลิซาสและคนอื่นแทบไม่ค่อยได้สู้ต่อระยะประชิดและก็ชื่มชมการต่อสู้จากด้านข้าง
　　ทั้งคู่สู้กันจนกระทั่งเหนื่อยและมีแผลเต็มตัวสถานการณ์ของฮีเบอร์ดีกว่าเล็กน้อย และเขาก็จับเมอเซอร์ไว้แน่น ลากเขาขึ้นยาน
　　ปัง!
　　ร่างใหญ่โตของเมอเซอร์กระแทกกับพื้นและเมอเซอร์ที่กึ่งหมดสติก็ไม่อาจลุกขึ้นได้อีก
　　จากนั้นฮีเบอร์ก็สูดหายใจลึกเพื่อปรับสภาพร่างกายจากนั้นก็ชี้เมอเซอร์ ผู้อยู่แทบเท้าเขาและกล่าว”ฉันจัดการเขา”
　　จากนั้นเสียงปรบมือก็ดังขึ้นในห้องและทาราคอฟก็สวมรอยยิ้มสุภาพ
　　ด้วยการที่แบล็คสตาร์สามารถเอาชนะดีแลนได้ในการโจมตีเพียงชุดเดียวจึงไม่มีใครสนใจกับการที่ฮีเบอร์เอาชนะศัตรูได้ แถมยังในสภาพนี้ ในความเป็นจริง พวกเขารู้สึกว่ามันช้ามาก แต่ทว่า ไม่มีใครกล้าพูด กลัวว่าจะหักหน้าฮีเบอร์
　　หานเซี่ยวแตกต่างและเขาก็ไม่กลัวฮีเบอร์ด้วยเครื่องดื่มในมือ เขากล่าวขณะดูดหลอด”ช้ามาก ฮีเบอร์น้อย ทำไมถึงใช้เวลานานขนาดนั้นเล่า?”
　　เหล่านักสู้ต้องใช้เวลาสู้กันสักพักและสนามรบก็ถูกเก็บกวาดแล้วผู้ชมได้หาเครื่องดื่มและขนมมานั่งกินเล่นขณะดูการต่อสู้ระหว่างสองนักสู้
　　”ฮึ่ม”ฮีเบอร์ไม่สนใจเขา
　　ไม่ว่ายังไงความสำเร็จในการเอาชนะเมอเซอร์ก็เป็นของเขา และไม่มีใครจะจำรายละเอียดมัน พวกเขาจะรู้แค่ว่าเขาเอาชนะผู้อยู่เหนืออีกคนได้
　　จากนั้นทาราคอฟก็ให้ทุกคนมาและกล่าว”ตอนนี้ฮีเบอร์อยู่นี่แล้วขอผมพูดซ้ำอีกครั้ง ผมได้แจ้งท่านเออแรนเรลถึงผลต่อสู้แล้ว และท่านก็พอใจมาก กองยานศาสนจักรถูกกวาดล้างจนหมด และจักรวรรดิก็มีสองผู้อยู่เหนือในมือ”
　　”ด้วยหมากเช่นนี้ในมือเราจักรวรรดิจะต้องได้เปรียบและท่านจะประกาศเรื่องนี้ต่อทั้งจักรวาลและแจ้งองค์กรต่างๆถึงการกระทำของศาสนจักรอาร์เคนและราคาที่พวกมันต้องชดใช้”
　　การต่อสู้ในโลกริบหรี่เกิดขึ้นไม่นานและจักรวรรดิก็ยังปิดข่าวไว้ โลกภายนอกยังไม่รู้เรื่อง แต่การประกาศมันต่อทั้งโลกเป็นแค่เรื่องของเวลาเท่านั้น
　　หากศาสนจักรสามารถหลบหนีได้อย่างปลอดภัยหลังซุ่มโจมตีศักดิ์ศรีของจักรวรรดิคงโดนเหยียบย่ำ แต่ทว่า เรื่องราวต่างออกไปแล้ว และไม่เพียงกองยานจักรวรรดิจะถูกกวาดล้างหมด สองในหกผู้อยู่เหนือของศาสนจักรยังถูกจับ ศักดิ์ศรีของจักรวรรดิเพิ่มขึ้นไปอีกระดับ และเบื้องบนก็พอใจกับการกระทำของพวกหานเซี่ยวมาก
　　จักรวรรดิไม่พลาดโอกาสเช่นนี้เพื่อส่งเสริมผู้อยู่เหนือตนหานเซี่ยวคือจุดสนใจหลัก และจักรวรรดิก็เตรียมกระจายข่าวว่าเขาคือคนเดียวที่พลิกสถานการณ์
　　การเพิ่มชื่อเสียงพันธมิตรก็คล้ายกับการเพิ่มชื่อเสียงจักรวรรดิ
　　เมื่อพวกเขากำลังดูเมอเซอร์และฮีเบอร์ชกกันทาราคอฟก็ได้แจ้งหานเซี่ยวเรื่องนี้แล้ว เช่นนั้น หานเซี่ยวจึงแค่พยักหน้ารับ
　　จากนั้นผู้บัญชาการสูงสุดก็กล่าว”ยังมีสี่ผู้อยู่เหนือที่หลบหนีในวงแหวนดาวกระจายและจักรวรรดิจะต้องไล่ล่าแน่ แต่ทว่า สถานการณ์ในวงแหวนดาวกระจายแตกต่างจากโลกริบหรี่ จักรวรรดิหวังว่าพวกคุณจะไปวงแหวนดาวกระจายชั่วคราว”
　　โลกริบหรี่คือเขตแดนของจักรวรรดิและองค์กรอื่นก็ไม่มีรากฐานในสถานที่นี้ดังนั้น จักรวรรดิจึงสามารถสร้างตาข่ายใหญ่เพื่อไล่จับศัตรูได้โดยไม่มีการแทรกแซง
　　แต่ทว่าสถานการณ์ในวงแหวนดาวกระจายนั้นแตกต่าง และองค์กรต่างๆก็มีความสัมพันธ์ซับซ้อน ศาสนจักรยังมีสายมากมายในวงแหวนดาวกระจาย และสี่ผู้อยู่เหนือก็ไม่ได้มีเส้นทางหลบหนีเพียงเส้นเดียวอีก พวกเขาสามารถเลือกแยกทางและปลอมตัวเป็นประชากรธรรมดาได้
　　นอกจากนี้ด้วยขนาดของทุ่งดาว การค้นหาศัตรูก็คล้ายกับการงมเข็มในมหาสมุทร
　　แน่นอนในฐานะคนถูกล่า แซ็กแมนและคนอื่นย่อมต้องเจออันตรายรอบด้าน พวกเขาจะเจอกับแรงกดดันมากขึ้น
　　เพราะศัตรูเปิดช่องด้วยประตูดาวผู้อยู่เหนือจักรวรรดิจึงไม่อาจไล่ล่าต่อได้และทำได้แค่เลือกไปวงแหวนดาวกระจาย เหนือสิ่งอื่นใด ศัตรูจะต้องพยายามซ่อนตัว และพวกเขาจะสามารถสู้กลับได้หลังพบร่องรอยศัตรูเท่านั้น หากไม่ พวกเขาก็จะเสียเวลาเปล่า
　　จากนั้นหานเซี่ยวก็ยิ้ม”วงแหวนดาวกระจายคือฐานของกองทัพแบล็คสตาร์ฉันเต็มใจต้อนรับพวกนายเป็นแขกในกองทัพแบล็คสตาร์”
　　ฮีเบอร์กล่าวทันทีหลังได้ยิน”วงแหวนดาวกระจายยังเป็นอาณาเขตฉันกองทัพแบล็คสตาร์เพิ่งก่อตั้งไม่กี่ปี ไม่มีอะไรน่าสนใจ มาแดนหลั่งเลือดของฉันดีกว่า”
　　ทุกคนล้วนเป็นผู้อยู่เหนือและมีอิทธิพลสูงส่งในฐานะเจ้าถิ่น ทั้งหานเซี่ยวและฮีเบอร์จึงอยากดึงพวกเขามาเขตตนในฐานะแขกและเพิ่มอิทธิพล
　　จากนั้นมิลิซาสก็หัวเราะ”ในเมื่อแบล็คสตาร์เชิญฉันฉันก็ควรไป”
　　เบโยนี่พยักหน้า”เอาละนายเคยรับปากว่าจะเป็นเจ้าภาพตอนเราอยู่ในกาแล็กซี่กลาง งั้นก็ถือซะว่านี่เป็นโอกาสเลย”
　　พวกเขาใช้เวลากับหานเซี่ยวหนึ่งเดือนบนดาวประภาคารและยังสู้ร่วมกันมาพวกเขาจึงสนิทกันมาก
　　”แบล็คสตาร์ฉันเองก็ควรไปฐานนาย”แม็กซิมิเลอร์ที่เป็นแค่ภาพฉายกล่าว”เราสามารถใช้โอกาสนี้เพื่อแลกเปลี่ยนทักษะช่างกลกันได้”
　　”ฟังดูเข้าท่า”หานเซี่ยวเห็นด้วย
　　แม็กซิมิเลอร์คือช่างกลและย่อมสนใจคนสายเดียวกัน
　　ทุกคนไม่สนใจคำเชิญของฮีเบอร์และฮีเบอร์ก็รู้สึกอับอายจากนั้นเขาก็หันไปมองเรเวนลูด
　　ปากของเรเวนลูดบิดเบี้ยวและกล่าวอย่างช่วยไม่ได้”งั้น…ฉันจะไปแดนหลั่งเลือด”
　　ในเมื่อทุกคนจะไปกองทัพแบล็คสตาร์เขาเองก็อยากไปร่วมสนุกและดูว่าจะสามารถหาโอกาสยืมลูกบาศก์วิวัฒนาการได้ไหม แต่ทว่า เขาก็รู้สึกปวดหัวเมื่อเห็นฮีเบอร์จ้องเขา
　　สีหน้าฮีเบอร์ดีขึ้นอย่างน้อยก็ไม่ใช่ทุกคนที่เมินเขา
　　จากนั้นเขาก็มองสามคนข้างหานเซี่ยวและรู้สึกพ่ายแพ้
　　เขาจัดงานในวงแหวนดาวกระจายมาหลายปีและรู้สึกว่าเครือข่ายเขาใหญ่มากแต่ทว่า บุคคลระดับเดียวกับเขาในทุ่งดาวอื่นไม่ได้มองเขาไว้สูงเลยและเขาก็รู้สึกว่าเขาด้อยกว่าหานเซี่ยว
　　จากนั้นทาราคอฟก็กระแอมและขัดการสนทนา
　　“เพราะความยากที่เพิ่มในการค้นหาศัตรูจักรวรรดิจึงตัดสินใจตัดเส้นทางถอยของศัตรูทั้งหมดและซุ่มโจมตีสถานีประตูดาวของศาสนจักรในวงแหวนดาวกระจาย”
　　“ฑูตโซเอลได้ระดมทัพเราแล้วและเขาจะโจมตีหลังจักรวรรดิทำการประกาศเรื่องนี้”
　　“ดูเหมือนเราจะไม่สามารถไปถึงได้ทัน”หานเซี่ยวพยักหน้า”แต่เราไม่มีผู้อยู่เหนือช่วยจักรวรรดิจะจัดการกับกองกำลังของศาสนจักรได้งั้นหรอ?”
　　“ผิดแล้วเรามี”
　　หานเซี่ยวตกตะลึงไป
　　“หรือจักรวรรดิได้เชิญพันธมิตรผู้อยุ่เหนือจากทุ่งดาวอื่นมา?มันต้องใช้เวลานานมากสิ?ศาสนจักรเองก็คงส่งคนมาได้หากเป็นแบบนี้”
　　“ไม่ผู้อยู่เหนือเราเป็นคนของวงแหวนดาวกระจาย”
　　“หือ?ฮีเบอร์และฉันอยู่ในโลกริบหรี่ออสตินกำลังกลับและคงไปไม่ทัน ไม่ต้องพูดถึงไซเคอร์…”
　　ขณะกล่าวเช่นนั้นหานเซี่ยวก็พลันตระหนักถึงบางสิ่งและสีหน้าเขาก็เปลี่ยนไป
　　“พวกนายขอความช่วยเหลือจากเอเมสโดยใช้ชื่อฉันงั้นหรอ?!”
　　“แบล็คสตาร์อย่าเข้าใจเราผิด เราไม่ได้ทำอย่างนั้น จักรพรรดินีมังกรติดต่อหาโซเอลเองและขอเข้าร่วมปฏิบัติการ”ทาราคอฟกล่าว”ฉันเพิ่งรู้เรื่องและโซเอลก็ได้ตกลงไปแล้ว เธอคือผู้อยู่เหนือคนเดียวในวงแหวนดาวกระจายและจะช่วยเหลือเราได้มาก”
　　“เธอรู้เรื่องนี้ได้ยังไง?”
　　“นี่..ฉันเองก็ไม่รู้”ทาราคอฟส่ายหัว
　　หานเซี่ยวขมวดคิ้วและเดินไปข้างๆเพื่อติดต่อเอเมส
　　ร่างของเอเมสปรากฏบนอุปกรณ์สื่อสารเขาและเธอก็สำรวจหานเซี่ยวก่อนยิ้ม”เอ๊ะในที่สุดคนยุ่งก็เต็มใจโทรหาฉัน”
　　หานเซี่ยวไม่คิดอ้อมค้อม”ขอฉันถามหน่อยเธอติดต่อจักรวรรดิเองงั้นหรอ?”
　　“ทำไม?มีปัญหาอะไร?”เอเมสยิ้ม
　　หานเซี่ยวพยักหน้า”เธอไม่ควรมายุ่งนี่ไม่ดีต่อเธอ”
　　“นายรู้จักฉันมานานแค่ไหน?”เอเมสถาม”สำหรับฉันมีสิ่งเดียวที่ฉันอยากทำและไม่อยากทำ นายเป็นพันธมิตรฉัน และในเมื่อนายถูกซุ่มโจมตี พันธมิตรประเภทไหนที่จะไม่คิดช่วย?ฮึ่ม นายยังพยายามปิดบังจากฉัน หากออสตินไม่บอกฉัน ฉันคงไม่รู้ว่านายพบอันตรายในโลกริบหรี่”
　　งั้นมันก็เป็นเฒ่าทารกออสติน…”มันไม่ใช่ว่าฉันปิดบังจากเธอ ฉันแค่ยังไม่บอกเธอ”
　　เอเมสแค่นเสียง”..ฉันอยากทุบตีนายสักครั้งมันน่าเสียดายที่นายแข็งแกร่งกว่าเดิมมาก และฉันก็ไม่มั่นใจว่าจะชนะนายได้แล้ว”
　　หานเซี่ยวลูบคาง”อย่าเปลี่ยนเรื่องจักรวรรดิสามารถโจมตีประตูดาวได้อยู่แล้วต่อให้เธอไม่เข้าร่วม เธอไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น เธอไม่ใช่สมาชิกจักรวรรดิและไม่มีการคุ้มครองของจักรวรรดิ สถานการณ์เธอจะแย่หากทำให้ศาสนจักรโกรธ”
　　“จริงหรือ?แล้วออสตินละ?นายดูไม่คิดถึงเขาเลยนะ”เอเมสกล่าวด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ
　　“มันเหมือนกันหรือไง?”หานเซี่ยวส่ายหัว”ออสตินเป็นหนี้ฉันแต่เธอไม่ ฉันต่างหากที่เป็นหนี้เธอ นอกจากนี้ เราคือพันธมิตรกัน “
　　“จิ๊นายยังรู้วิธีพูดแบบมนุษย์ด้วยหรือเนี่ย”เอเมสแซวเขาก่อนจริงจัง”เอาละ ไม่ต้องพูดแล้ว นายควรรู้ว่าแม้กระทั่งอีซอปก็ไม่สามารถโน้มน้าวฉันได้”
　　“เห้อ…”
　　หานเซี่ยวหมดหนทางตอนเขายังอ่อนแอ เอเมสยังยืนตรงหน้าเขาแบบนี้ ตอนนี้ที่พวกเขามีระดับเท่ากัน เธอก็ยังเลือกทำแบบนั้น และความทรงจำเหล่านั้นก็ปรากฏ
　　“งั้นก็ดูแลตัวเองด้วย”
　　หลังวางสายหานเซี่ยวก็ติดต่อโซเอล
　　ใบหน้าโซเอลปรากฏและเขาก็กล่าวด้วยสีหน้าเป็นมิตร”ฮ่าๆท่านแบล็คสตาร์ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ ผมได้ยินเรื่องผลงานของคุณในโลกริบหรี่ คุณทำได้ดีมาก!”
　　โซเอลคือคนที่แนะนำหานเซี่ยวให้เข้าร่วมจักรวรรดิตอนนี้หานเซี่ยวได้ทำผลงาน เขาย่อมได้รับรางวัลและอารมณ์ดีมาก
　　“โซเอลผมมีเรื่องจะขอ..”หานเซี่ยวร้องขอ
　　“ได้ไม่ต้องห่วง ผมจะแจ้งผู้บัญชาการกองยานให้ป้องกันจักรพรรดินีมังกรจากการต่อสู้ในจุดที่อันตรายสุด”
　　“เอาละผมจะกลับวงแหวนดาวกระจายในไม่ช้าและเราสามารถไปรวมกันที่ศูนย์ใหญ่กองทัพแบล็คสตาร์ได้ มิลิซาส เบโยนี่และแม็กซิมิเลอร์จะไปด้วย”
　　“มีแต่พวกยักษ์ใหญ่”ดวงตาโซเอลสว่างด้วยตำแหน่งปัจจุบันเขา เขาสามารถพบผู้อยู่เหนือในวงแหวนดาวกระจายได้เท่านั้น และไม่มีโอกาสพบผู้อยู่เหนือของทุ่งดาวอื่น นี่เป็นโอกาส
　　หลังจบสายหานเซี่ยวก็กลับไปหาทาราคอฟและใช้กาลอวกาศแอมเบอร์เพื่อผนึกเมอเซอร์ด้วยความช่วยเหลือของคนอื่น
　　จากนั้นกองยานก็เปลี่ยนทิศแงะตรงไปทางประตูดาวในกลุ่มดาวรุ่งอรุณ มันต้องใช้เวลาหลายวันเพื่อกลับไปวงแหวนดาวกระจาย
　　เดิมหานเซี่ยวคิดว่าเขาจะต้องอยู่ในโลกริบหรี่แต่ไม่คิดว่าเขาจะสามารถกลับฐานเขาได้เพราะเหตุการณ์นี้
　　ในความเป็นจริงการกลับวงแหวนดาวกระจายของเขาไม่ส่งผลต่อการสำรวจของกองทัพแบล็คสตาร์ในโลกริบหรี่
　　เมื่อเปิดฟอรั่มดู[คำสั่งจักรวรรดิคริมสัน : ไล่ล่า]ของผู้เล่นยังไม่จบ ยังมีกองทัพศาสนจักรอีกมากกระจายอยู่รอบพร้อมด้วยทัพผู้ร่วงหล่น
　　เทียบกับกลุ่มของแซ็กแมนหานเซี่ยวอยากจัดการกับเทพเอสกว่า แต่ทว่า ความสนใจของจักรวรรดิตอนนี้อยู่กับศาสนจักร
　　โดยปราศจากความช่วยเหลือหานเซี่ยวไม่มั่นใจเรื่องการฆ่าเทพเอส
　　ฉันแค่ต้องรอให้จักรวรรดิประกาศเรื่องนี้ต่อจักรวาลและก็จะโต้กลับครั้งใหญ่ก่อนพยายามโน้มน้าวพวกเขาเรื่องข้อเสนอก่อนหน้าหานเซี่ยวคิดกับตัวเอง สินทรัพย์ทางการเมืองควรมีอิทธิบ้างแหละ
　　…
　　วันรุ่งขึ้นหลังจับเมอเซอร์จักรวรรดิได้จัดงานแถลงข่าวและผู้ปกครองก็เป็นคนประกาศเรื่องนี้เอง
　　สื่อนับไม่ถ้วนถ่ายทอดสดงานแถลง
　　ไม่ว่าจะเป็นช่องบันเทิงหรือครอบครัวทุกช่องล้วนแสดงการแถลงข่าวของจักรวรรดิ
　　กัปตันของยานอวกาศต่างๆลูกค้าบาร์ นักเดินทางในสถานีขนส่งและหลายคนล้วนจับตาดูงานแถลง
　　ประชากรนับล้านล้านกำลังฟังการประกาศของจักรวรรดิ
　　ผู้คนรู้ว่าโลกริบหรี่คือทุ่งดาวใหม่ที่กำลังถูกสำรวจและไม่รู้อะไรมากแต่ทว่า การต่อสู้ระหว่าง11ผู้อยู่เหนือกลับแตกหักขึ้นในทุ่งดาวไร้การสำรวจ!สองอารยธรรมจักรวาลยังถึงขั้นประกาศพร้อมกันว่าพวกกำลังจะเข้าสู่สงคราม!
　　การประกาศนี้เปรียบเสมือนระเบิด!