The Legendary Mechanic - ตอนที่ 895 แยกย้าย
วินาทีที่กาลอวกาศแอมเบอร์ก่อตัวพลังงานทั้งหมดก็ถูกแยก และทุกคนก็คลายพลัง ล้อมมันและจ้องเทพเอส ผู้ติดภายในอำพันด้วยความอยากรู้
“เรียบร้อยแล้ว?”นักล่าดวงอาทิตย์เคาะบอลอำพันจ้องเทพเอสที่ไม่ไหวติง
ก่อนปฏิบัติการพวกเขาประเมินว่าอัตราสำเร็จคงไม่ต่ำ แต่ตอนนี้มันสำเร็จ พวกเขาจึงพบว่ามันน่าเหลือเชื่อ
เทพเอสเป็นที่เลื่องลือในจักรวาลและหลบหนีการจับกุมของสามอารยธรรมจักรวาลได้ซ้ำแล้วซ้ำอีกตอนนี้ เขากลับถูกจับจริงๆ!
นอกจากนี้ปฏิบัติการยังราบรื่นมาก
“เมื่อติดอยู่ในกาลอวกาศแอมเบอร์เวลาและมิติจะถูกหยุด เทพเอสยังมีสติแต่ไม่อาจขยับร่างกายได้ เราทำสำเร็จแล้ว”หานเซี่ยวสรุปผล
“ฮึ่มสุดท้ายวันนี้ก็มาถึง”มิลิซาสส่ายหัว
“ด้วยเรา11คนมันคงน่าอายหากเราล้มเหลว”สีหน้าของแมนิสันสงบ แต่เขารู้สึกสะเทือนใจเมื่อเสียคนที่รู้จักไป
แต่นั่นก็แค่อารมณ์บนผิวเผินมันพลันหายไปเมื่อสายตาเขาจับจ้องกาลอวกาศแอมเบอร์ที่หานเซี่ยวถือ ทุกคนเองก็มองไปที่มัน
การจับเทพเอสทำให้ทุกคนประหลาดใจแต่นี่ก็คงอยู่ไม่นานเพราะพวกเขาล้วนเป็นผู้อยู่เหนือ สิ่งที่พวกเขาสนใจมากสุดคือกาลอวกาศแอมเบอร์
เนื่องจากข่าวลือของศึกดาวประภาคารกาลอวกาศแอมเบอร์จึงเป็นที่ต้องตาของใครหลายคน และพวกเขาก็สนใจสิ่งที่สามารถผนึกสมบัติจักรวาลชิ้นอื่นได้ง่ายๆ ตอนนี้ที่พวกเขาเห็นมัน ความรู้สึกอิจฉาย่อมเกิดขึ้นตามธรรมชาติ
แบล็คสตาร์มีวิธีผนึกความสามารถของผู้อยู่เหนือซึ่งนับเป็นภัยคุกคามต่อทุกคน ทุกคนต้องพิจารณาพลังของแบล็คสตาร์ใหม่อีกครั้ง ตำแหน่งเขาพิเศษมาก
เมื่อเห็นสายตาคิ้วหานเซี่ยวก็ขมวด เขาเก็บกาลอวกาศแอมเบอร์ไป
“เป็นของดีไม่เบา”นักล่าดวงอาทิตย์ถอนหายใจ.”แบล็คสตาร์โชคนายดีมากถึงครอบครองสมบัติจักรวาลได้ถึงสองชิ้น”
หานเซี่ยวเลิกคิ้วตอบเขามีความสุขทุกครั้งที่มีคนชมโชคเขา
มันเหมือนกับการที่คนโดนชมว่าหล่อหรือสวย
หลังหยุดสักพักเขาก็ไม่ตอบแต่เปลี่ยนเรื่องแทน”ตอนนี้เทพเอสถูกจับ ปฏิบัติการลุล่วง ฉันจะพาเทพเอสกลับไปจักรวรรดิ มีใครคัดค้านอะไรไหม?”
แมนิสันส่ายหัวเขาสนใจร่างกายของเทพเอส แต่มันน่าเสียดายที่เขาไม่อาจเปิดอำพันได้
ทั้งสามจากศาสนจักรรวมถึงนักล่าดวงอาทิตย์คิดก่อนจะตอบรับคำขอของหานเซี่ยว ศาสนจักรอยากจับเทพเอส แต่สถานการณ์มักเหยียบย่ำความปราถนาคน ด้วยเจ็ดผู้อยู่เหนือจากจักรวรรดิ ไม่มีทางที่พวกเขาจะชิงมันได้ และก็ไม่จำเป็นต้องทำด้วย
“ในเมื่อทุกคนเห็นพ้องต้องกันงั้นก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่เรา”มิลิซาสพยักหน้า”แบล็คสตาร์ ผลงานของนายมากสุดในปฏิบัติการนี้ จักรวรรดิจะประกาศถึงผลงานของนายแน่”
“ก็ดี”หานเซี่ยวยิ้ม
เทพเอสและกองยานผู้ร่วงหล่นเป็นที่รู้จักกันดีในจักรวาลข่มขวัญประชากรดวงดาวนับไม่ถ้วน ตอนนี้ที่เขาถูกจับโดยจักรวรรดิ มันย่อมเป็นข่าวใหญ่ จักรวรรดิย่อมไม่ปล่อยโอกาสนี้เพื่อสร้างชื่อเสียง
ในฐานะผู้สนับสนุนใหญ่สุดในปฏิบัติการหานเซี่ยวย่อมเป็นบุคคลสำคัญของโฆษณาชวนเชื่อนี้ เมื่อข่าวกระจาย ชื่อเสียงเขาจะเพิ่ม และมันอาจกลายเป็นหนึ่งในบันทึกการต่อสู้เขา อิทธิพลของเหตุการณ์นี้จะไม่น้อยไปกว่าศึกบนดาวประภาคาร
สำหรับคนเช่นเทพเอสเขาอาจไม่ได้รับสินทรัพย์ทางการเมืองใดๆ แต่เขาควรได้รับแต้มตำนานแน่
แน่นอนเมื่อเทียบกับภัยคุกคามซ่อนเร้นของอารยธรรมต้นไม้โลก นี่เป็นเรื่องขี้ผง แต่มันเป็นการกำจัดอันตรายซ่อนเร้นไป อย่างน้อยพลเมืองก็จะไม่ได้รับการรุกรานล่วงหน้า
โดยปราศจากเทพเอสการวิจัยของสามอารยธรรมจักรวาลย่อมลดลง และแดนผู้ร่วงหล่นก็จะไม่โจมตีโดยปราศจากผู้นำ ดังนั้น เวลาที่อารยธรรมต้นไม้โลกจะเชื่อมโยงกับพวกเขาย่อมเลื่อนออกไป
ในอนาคตสามอารยธรรมจักรวาลและอารยธรรมต้มโลกต้องสังเกตเห็นกัน และต้องเกิดหายนะระดับจักรวาล หานเซี่ยวต้องสะสมพลังเขาไว้ ยิ่งมันเกิดขึ้นช้า มันยิ่งดี
ถูกต้องเทพเอสบอกว่าเขาจะได้พบกับฉันอีกครั้ง
ดวงตาหานเซี่ยวเป็นประกายตอนนั้น เขายุ่งกับการผนึกเทพเอสและไม่สนใจกับคำพูดเขา ตอนนี้ที่เขาผ่อนคลาย สมมติฐานทุกประเภทจึงผุด
เทพเอสยังรู้ถึงการดำรงอยู่ของอารยธรรมต้นไม้โลกและรู้ว่าต้องมีสงครามระหว่างทั้งสองความหมายเขาคือ…พวกเขาจะต้องปล่อยเขาออกไปเมื่อตระหนักว่าพวกเขาต้องการพลังของเขา?
หานเซี่ยวส่ายหัวมันจะไม่รู้จนกว่าจะเกิด และถึงตอนนั้น มันยากจะบอกว่าจิตสำนึกของเทพเอสจะยังอยู่ไหม
ครั้งนี้นักดาบดอกบัวเปิดปากเธอขึ้น”มีเรื่องที่ฉันต้องเตือนนาย เมื่อฉันแทรกซึมวิญญาณของเทพเอส วินาทีที่เขาถูกผนึก ฉันรู้สึกได้ถึงความผันผวนจิตที่แข็งแกร่งมาก”
สีหน้าหานเซี่ยวเปลี่ยนไป”ความผันผวนแบบไหน?”…novel-lucky
“สภาวะจิตของเทพเอสระเบิดขึ้นณ ตอนนั้น และความต้านทานเขาก็เพิ่มขึ้นหลายเท่า ราวกับเขาอยากใช้พลังงานจิตเขาเพื่อกระตุ้นร่างกายเขาและลบพันธนาการ แต่ท่ว่า เขาทำไม่สำเร็จและกาลอวกาศแอมเบอร์ก็คลุมตัวเขาพอดี พลังจิตฉันจึงถูกดีดออกมา”
“เข้าใจแล้ว”หานเซี่ยวเงียบไปก่อนพยักหน้า
มันฟังดูเหมือนการเดิมพันครั้งสุดท้ายของเทพเอสแต่เขาดูเหมือนจะล้มเหลว มันไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร
ไม่มีใครเถียงสิทธิ์ครอบครองเทพเอส
จากนั้นทุกคนก็หันกลับไปมองสนามรบกองยานของสามอารยธรรมยังกวาดล้างศัตรูอยู่ แต่ไม่มีใครไปช่วย
พวกเขามีแค่เทพเอสในสายตาตอนนี้ปีศาจร้ายถูกจับแล้ว พวกแมลงวันจึงไม่คู่ควรให้ลงมือ
หานเซี่ยวนึกถึงแต้มสะสมที่จักรวรรดิจะมอบให้จากภารกิจและจึงแบ่งกองทัพจักรกลเขาไปล่ากองยาน
วินาทีที่เทพเอสถูกจับสมาชิกผู้ร่วงหล่นที่เหลือก็ยอมแพ้ ไม่มีใครยอมจำนนเพราะพวกเขาล้วนเป็นอาชญากรแต่กลับหนีไปทุกทิศทาง
ขณะรอให้การไล่ล่าจบหานเซี่ยวก็เปิดหน้าต่างสถานะและเห็นข้อความมากมาย
[ปฏิบัติการรบจักรวรรดิ: ผู้ร่วงหล่น(ทำซ้ำได้)]จะจบลงในไม่ช้า และภารกิจมากมายที่เกี่ยวกับการเผชิญหน้ากับเทพเอสก็ลุล่วง รางวัลค่าประสบการณ์วัดแล้วมากกว่าสามหมื่นล้าน และมากพอจะเลื่อนระดับหลายระดับ แน่นอน ส่วนใหญ่มาจากการทำลายร่างแยก
แต้มสะสมของจักรวรรดิเพิ่มขึ้นทะลุหมื่น เกือบจะใกล้กับจำนวนที่เขาสามารถซื้อได้สองความรู้
รางวัลสูงมาก!
ในเวลาเดียวกัน[บัตรอัญเชิญตัวละครเทพเอส]ใบใหม่ก็ตกอยู่ในมือหานเซี่ยว
แต่ทว่าเทพเอสมีความสามารถมากเกินไป และโอกาสสุ่มได้ผนึกเอสเปอร์ก็ต่ำมาก ครั้งนี้ การสุ่มเขาธรรมดา และได้การเคลื่อนไหวชั่วพริบตา เขาสามารถใช้มันได้ประมาณสิบครั้ง และผลมันก็ดีมาก แต่มันไม่มีค่าอะไรต่อเขานัก เพราะเขามีไฮเปอร์ไดรฟ์มิติอยู่แล้ว
แต่ทว่าไฮเปอร์ไดรฟ์มิติก็เป็นอีกอัน และการมีอีกอันย่อมดีกว่า
ครั้งนี้หานเซี่ยวใช้ไปหลายสิ่งเพื่อจัดการเทพเอส เขาใช้ผนึกเอสเปอร์จนหมด ดังนั้นความสามารถต่อต้านเหล่าเอสเปอร์จึงหมดไป นอกจากนี้ [สัมผัสจักรกลสมบูรณ์]ยังใช้ได้อีกแค่ครั้งเดียว
เขายังมีบัตรอัญเชิญตัวละครเปล่าอีกใบซึ่งสามารถใช้เพื่อผลิต[สัมผัสจักรกลสมบูรณ์]ได้อีก แต่เขาไม่คิดใช้มันตอนนี้
การต่อสู้บนดาวประภาคารและกับเทพเอสช่วยมอบชื่อเสียงให้เขามากพอและมันก็คงไม่มีใครมาตอแยเขาสักพักไม่จำเป็นต้องคิดใช้บัตรอัญเชิญตัวละครเปล่า
อีกภารกิจ[ศัตรูของสามอารยธรรมจักรวาล]ยังแสดงสถานะ’สำเร็จ’
ด้วยการจับเทพเอสเป็นๆเขาเติมเต็มข้อกำหนดเพิ่มเติมของภารกิจ และดังนั้น เขาจึงสุ่มความสามารถจากเทพเอสได้สามอย่าง ซึ่งดีกว่าบัตรอัญเชิญตัวละครมาก
พรสวรรค์การปั้นเขาจะถูกนำมาสุ่มด้วย
หานเซี่ยวไม่รับรางวัลทันทีรางวัลล้ำค่าเช่นนี้ หากเขาไม่กลับไปและแตะตัวเฟย์ดินกับลูกบุญธรรมเขาก่อน เขาคงเสียโอกาสไปฟรีๆ
แค่วัดจากโชคเขาเขาอาจสุ่มได้แค่ของน่ารังเกียจ!
นอกจากรางวัลหานเซี่ยวยังได้รับค่าประสบการณ์จำนวนมากในการฆ่าศัตรู การฆ่าร่างแยกทำให้เขาได้รับค่าประสบการณ์มากมาย และเนื่องจากร่างแยกเพิ่มไม่หยุด มันจึงช่วยให้เขาได้รับค่าประสบการณ์มากมาย
ขณะจ้องหน้าต่างสถานะการต่อสู้ก็จบลงแล้ว
หานเซี่ยวมองไปทางอีกสองอารยธรรมจักรวาล
“การร่วมมือเราจบลงแค่นี้ขอบคุณที่มาช่วย”
“ไม่จำเป็นต้องสุภาพหากมีเวลา นายสามารถมาเยือนฐานฉันได้”แมนิสันส่งคำเชิญอีกรอบ
“ไม่ใช่วันนี้ฉันยังต้องนำตัวเทพเอสกลับไป”หานเซี่ยวกล่าว
“งั้นก็เอาไว้คราวหน้า”
แมนิสันส่ายหัวอย่างเสียใจก่อนหันจากไป
นักล่าดวงอาทิตย์แลกเปลี่ยนหมายเลขติดต่อกับหานเซี่ยวก่อนนำคนของศาสนจักรกลับไปยานหลักหานเซี่ยวนำเทพเอสและตามมิลิซาสกับคนอื่นกลับไปยานหลักจักรวรรดิเช่นกัน
ทั้ง11กลับไปฝ่ายตัวเองและสามอารยธรรมก็จากไป
ในเวลาเดียวกันรายงานของปฏิบัติการก็ถูกส่งไปยังเบื้องบนของสามอารยธรรมจักรวาล