The Legendary Mechanic - ตอนที่ 906 ปะทะเดือด
ในจักรวาลสนามพลังของเธอสามารถเร่งวัตถุได้โดยไร้ข้อจำกัด และนี่คือสนามรบที่เหมาะกับเอเมสสุด ความสามารถเอสเปอร์สนามพลังเธอเอนไปทางป้องกันและควบคุม และมันก็ทรงพลังมากในมือของเอเมส
ภายใต้การควบคุมของสนามพลังความเร็วของเกาะมังกรเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หากหานเซี่ยวยอมให้เกาะมังกรเร่งความเร็วเช่นนี้ มันคงยากที่จะหลบและมันก็จะทรงพลังมาก
แต่ทว่าเกาะมังกรยังไม่เร็วพอและมันก็เหมือนเต่าในสายตาของหานเซี่ยว เขามีกว่าสิบวิธีเพื่อหลบมัน
แต่ทว่าเอเมสไม่ใช่คนที่รู้แค่วิธีใช้ก้อนอิฐตบหน้าคนอื่น ดวงตาเธอทอประกายและปล่อยสนามพลังเพื่อจับร่างหานเซี่ยวและดึงเขาเข้าหาเกาะมังกร
สนามพลัง: เนตรมังกร!
อวกาศรอบเขาดูเหมือนจะแข็งตัวและร่างหานเซี่ยวก็ต้องทนกับแรงกดดันจำนวนมหาศาล เขาพบว่ามันยากที่จะยกแขนและเขาก็ถูกลากไปทางเกาะมังกร
“ฉันเคยใช้การโจมตีนี้มาก่อนในอดีต..”หานเซี่ยวบิดปาก
ด้วยพลังปัจจุบันเขาเขาไม่กลัวความสามารถควบคุมของเอเมสเลยและสามารถทำลายสนามพลังเธอได้ง่ายๆ แต่ทว่า เขาไม่คิดหลบการโจมตีนี้ เขาอยากได้รับข้อมูลต่อสู้ผ่านการโจมตีนี้และทดสอลผลการแปลงพลังชีวิตละมาน่าเขา
เกาะมังกรเข้าใกล้เขาอย่างรวดเร็วและหานเซี่ยวก็สามารถเห็นโครงสร้างต่างๆบนผิวเกาะมังกรได้
แรงกดดันมหาศาลโถมใส่เขาจากด้านหน้าและเขาสามารถรู้สึกได้ถึงอันตราย
หานเซี่ยวยกแขนและอนุภาคนาโนก็ไหลไปบนผิวของชุดจักรกลเขาเพื่อสร้างม่านพลังจากนั้นม่านพลังสีฟ้าก็ปรากฏตรงหน้าเขา
วินาทีถัดมาเกาะมังกรก็บดขยี้เข้ากับม่านพลังเขาและส่งเขาลอยออกไปขณะยังแนบติดกับเกาะมังกร
จากนั้นเอเมสก็พลิกฝ่ามือและวิถีของเกาะมังกรก็เล็งไปยังดาวใกล้ๆ เตรียมกระแทกหานเซี่ยวกับดาว
ในเวลาเดียวกันกองทัพจักรกลจำนวนมากที่นำโดยไซโอนิคไพรม์ก็เข้าใกล้เอเมสและเริ่มยิง
ดาวเทียมทั้งสิบของเอเมสไม่นิ่งเฉยหกอันล้อมเอเมสไว้ในทิศต่างๆและปกคลุมด้วยชั้นสนามพลังเพื่อก่อตัวเป็นแนวป้องกัน
ช่องโหว่ของแนวป้องกันถูกอุดด้วยสนามพลังและมันก็กล่าวได้ว่าแนวป้องกันเธอไร้จุดบอด
จากนั้นดาวเทียมอีกสี่ก็พุ่งไปทางกองทัพจักรกลภายใต้การควบคุมของเอเมส
ทหารจักรกลไม่ได้นุ่มนวลต่อดาวเทียมและปล่อยพลังทำลายโดยไม่ยับัย้งดาวเทียมถูกปูพรม เศษโลหะกระจายไปทั่ว จากนั้นเศษโลหะเหล่านี้ก็เปลี่ยนเป็นพายุเหล็กภายใต้การควบคุมของเอเมสและบินผ่านกองทัพจักรกล
อาวุธอัครฑูตไม่สนใจการโจมตีเหล่านี้และเข้าใกล้การป้องกันของเอเมสไซโอนิคไพรม์สะบัดหอกและกระแทกกับสนามพลังเพื่อสร้างรู
วินาทีถัดมาสนามพลังใหม่ก็อุดรู เพียงเมื่อไซโอนิคไพรม์กำลังจะโจมตีต่อ เอเมสก็ชูนิ้วและสนามพลังก็ปกคลุมอาวุธอัครฑูตและโยนพวกมันออกไป จากนั้น สนามพลังที่รุนแรงยิ่งกว่าก็ก่อตัว และขบวนรบกองทัพจักรกลก็แยกเป็นสองส่วน
ความสามารถเอสเปอร์สนามพลังของเอเมสเหมาะกับการยับยั้งกลยุทธ์คลื่นมนุษย์เป็นที่สุด
ตอนนี้เองแสงสว่างด้านหลังเอเมสและนักล่าฟ้าคลั่งก็ปรากฏด้านหลังเธอ มันเปิดปากและเผยให้เห็นฟันเหล็ก กัดใส่เอวเธอ
แต่ทว่ามันทำได้แค่กัดอากาศ
จากนั้นนิ้วเรียวยางก็เคาะบนหัวนักล่าฟ้าคลั่งเอเมสหลบการโจมตีโดยใช้ไฮเปอร์ไดรฟ์มิติ หลังได้รับพลังวิวัฒนาการ ความเร็วเธอก็เพิ่มขึ้นมาก
จากนั้นสนามพลังป่าเถื่อนก็เข้าไปในตัวนักล่าฟ้าคลั่งผ่านนิ้วเธอ
สนามพลัง: คลื่นสั่นสะเทือน
รอยแตกเริ่มปรากฏบนตัวนักล่าฟ้าคลั่งและอะไหล่จำนวนมากก็หลุดจากร่างมันบาดเจ็บสาหัส และรีบหรีไปด้วยความกลัว
ความสามารถเอสเปอร์สนามพลังเป็นวงกว้างแต่พลังของสนามพลังจะทรงพลังยิ่งกว่าในระยะประชิด
ทันใดนั้นเอเมสก็รู้สึกถึงความผันผวนในมิติ เธอมอง เห็นว่าหานเซี่ยวที่แนบติดกับเกาะมังกรได้หายไปแล้ว
หานเซี่ยวบิดมือและตกใจกับข้อมูลการต่อสู้
“เธอสามารถสร้างความเสียหายบดขยี้ต่อฉันได้มีเพียงนักสู้อย่างฮีเบอร์ถึงสามารถใช้หัวเขาชนกับเกาะมังกรได้”
แม้ความเสียหายจะสูงหานเซี่ยวก็ไม่สนใจ การโจมตีวงกว้างของเอเมสมีขีดจำกัด
ความเร็วการฟื้นฟูเขาสูงมากและตราบเท่าที่ความเสียหายของศัตรูไม่ถึงระดับที่จะทำให้เขาติดสถานะ[บาดแผลสาหัส]เขาก็จะไม่กลัว
เกาะมังกรไม่ได้บดขยี้ลงต่อแต่กลับพลิกเป็นค้อนฟาดใส่หานเซี่ยว ตัวเกาะขนาดใหญ่เฉียดผ่านดาวและสร้างเป็นพายุทราย
เอเมสที่อยู่ไกลออกไปใช้เนตรมังกรอีกครั้งและหานเซี่ยวก็รับรู้ถึงสนามพลังที่ยับยั้งเขาอีก เขาได้รับข้อมูลต่อสู้มาแล้วและไม่คิดรับการโจมตีอีก จากนั้นเขาก็วางฝ่ามือไว้ด้วยกัน
ฮึ่ม!
ชุดจักรกลเขาสั่นและสร้างกระแสพลงงานไร้สิ้นสุดเพื่อก่อตัวเป็นม่านพลังขนาดเล็กรอบตัวเขา
ม่านพลังขนาดเล็กนี้ขวางสนามพลังของเอเมสไว้ด้านหลังและเนตรมังกรก็ไร้ผล
นี่คืออุปกรณ์’ต่อต้านจักรพรรดินีมังกร’ที่เขาสร้างขึ้นโดยเฉพาะ
นี่คืออุปกรณ์ที่มีผลจำกัดแต่ทว่าสนามพลังของเมเอสสามารถเพิ่มขึ้นได้และเธอต้องสามารถทำลายม่านพลังได้หากเธอมีเวลาพอ ดังนั้น หานเซี่ยวจึงไม่คิดเข้าใกล้เอเมสแต่จะเล่นหลบซ่อนจากระยะไกลขณะควบคุมกองทัพจักรกลเขาให้โจมตี
เมื่อเห็นว่าหานเซี่ยวไม่กล้าเข้าใกล้เธอเอเมสก็เริ่มขยับและบินไปหาหานเซี่ยวขณะจัดการกับกองทัพจักรกลเขา
เมื่อเห็นแบบนั้นหานเซี่ยวก็ถอยและรักษาระยะห่างไว้ หลังออกการควบคุมของสนามพลัง เกาะมังกรก็ไม่สามารถไล่ทันเขาได้และความคล่องตัวเขาก็เหนือกว่าเอเมส.novel-lucky
เมื่อเห็นว่าเกาะมังกรอันเดียวไม่สามารถทำอะไรหานเซี่ยวได้ฝ่ามือของเอเมสก็เปลี่ยนเป็นกรงเล็ฐและทำท่าคว้าจับหนึ่งในดาวเทียมที่กำลังโจมตีกองทัพจักรกล
จากนั้นดาวเทียมนี้ก็หยุดนิ่งราวกับติดกับและชั้นสนามพลังก็เริ่มกระเพื่อนซึ่งทำให้ดาวเทียมสั่นอย่างรุนแรง
เอเมสดึงแขนกลับช้าๆและสนามพลังก็ยังกระเพื่อมสะสมพลังสะท้อนกลับ วินาทีต่อมา ดวงตาเธอก็ทอประกายเรืองกล้า และเธอก็กำหมัด เหมือนลูกศรที่ถูกยิง พลังสะท้อนที่สะสมภายในดาวเทียมระเบิดไปข้างหน้า!
ดาวเทียมนี้พุ่งใส่หานเซี่ยวด้วยความเร็วสูง!
สนามพลัง: ปืนใหญ่ดาวเทียม!
แรงผลักอันน่ากลัวลอกเหล็กหุ้มและเกือบสลายดาวเทียม
หานเซี่ยวเห็นดาวเทียมพุ่งใส่เขาด้วยความเร็วสูงแต่ก็ไม่คิดหลบ
ในเวลาเดียวกันประกายแสงสีเงินที่รออยู่ก็เปลี่ยนเป็นปืนใหญ่ทำลายดาวและยิงใส่ดาวเทียม
แสงสีเงินหนาชนเข้ากับดาวเทียมและเจาะผ่านดาวเทียมไปเหมือนมีดเฉือนเนย!
วินาทีต่อมาดาวเทียมก็เริ่มระเบิดจากภายใน แสงสีแดงสว่างออกมา มันระเบิดตรงหน้าหานเซี่ยวเหมือนส้ม!
ดาวเทียมถูกหลอมโดยความร้อนสูงจากปืนใหญ่ทำลายดาวและเศษทั้งหมดก็เปลี่ยนเป็นเหล็กเหลวสีแดงเหมือนน้ำส้มที่สาดกระจายไปทั่วอวกาศ
ด้วยดาวเทียมใหญ่ที่ระเบิดตรงหน้าหานเซี่ยวจึงต้องหลับเหล็กเหลว
นี่ดูเหมือนจะเป็นสัญญาณดาวเทียมหลายอันมาถึงขีดจำกัดความทนทาน และอีกสามอันก็ถูกทำลายโดยกองทัพจักรกล
จำนวนดาวเทียมที่เอเมสมีเหลือหกพวกมันยังเสียหายและดูเหมือนจะพร้อมแตกสลายได้ทุกเมื่อ
“เธอจะทำยังไงต่อ?”หานเซี่ยวพึมพำ
การโจมตีของเอเมสเกรี้ยวกราดมากแต่พวกมันไม่ได้สร้างความเสียหายให้หานเซี่ยวนักหลังการพัฒนาหลายรอบ ทหารจักรกลเขาก็แข็งแกร่งมากและไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ชั้นต่ำที่จะถูกสนามพลังบดขยี้ง่ายๆ แม้เอเมสจะดูเหมือนได้เปรียบ หานเซี่ยวก็ยังมีลูกไม้ซ่อนอีกมากและเป็นฝ่ายคุมเกม
เอเมสเองก็รู้และดวงตาเธอก็หรี่แคบ
การโจมตีฉันไม่สามารถทำอะไรเขาได้…
เธอสามารถบอกได้ว่าหานเซี่ยวเอาแต่ตั้งรับไม่คิดโจมตี เห็นได้ชัดว่าเขาออมมือให้เธอ
แต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังทำอะไรเขาไม่ได้!
เขาเติบโตจนถึงขั้นนี้แล้ว?
ดวงตาเอเมสหรี่ลงในที่สุดเธอก็เข้าใจพลังของหานเซี่ยว ช่องว่างในพลังของพวกเขาชัดเจนแล้ว และแบล็คสตาร์ก็แข็งแกร่งกว่าเธอมาก
แต่ทว่าเธอไม่ได้รับผลกระทบอะไร การต่อสู้ยังไม่จบ และเธอก็ไม่คิดล้มเลิกกลางคัน
จากนั้นเอเมสก็คว้าไปทางดาวเคราะห์และวงแหวนดาวก็กลายเป็นอาวุธใหม่เธอ
สนามพลัง: หมัดดาวตกลมหายใจมังกร!
วงแหวนดาวคืออาวุธใหญ่!
ไม่แปลกใจที่เธอเลือกสถานที่นี้เป็นสนามรบหานเซี่ยวคิดกับตัวเอง
วงแหวนดาวกลายเป็นอาวุธใหม่เธอและบดขยี้ใส่กองทัพจักรกลเขากองทัพจักรกลพังเสียหายและกลายเป็นศึกยืดเยื้อ
…
เพียงเมื่อทั้งคู่กำลังสู้กับรอบดาวกองยานหนึ่งได้จอดอยู่ไกลออกจากสนามรบ กองยานนี้เป็นของเกาะมังกร
เพราะฐานพวกเขาถูกหัวหน้าเอาไปทำเป็นอาวุธยานรบเหล่านี้จะไม่อาจอยู่บนเกาะมังกรได้
แม้ราคาบ้านบนเกาะมังกรจะต่ำมากเพราะความเสี่ยงสูงก็ยังมีบางคนที่ซื้อที่ดินบนเกาะมังกร ตอนนี้ พวกเขาต้องมองที่ดินที่พวกเขาใช้เงินซื้อถูกนำไปใช้เป็นอาวุธและหลายคนก็รู้สึกปวดใจ
ในยานหลักเจ้าหน้าที่เกาะมังกรกำลังดูผู้นำพวกเขาตกอยู่ในสภาพเสียเปรียบ สีหน้าพวกเขาน่าเกลียดกันมาก
มันคือความจริงที่แบล็คสตาร์เป็นพันธมิตรแต่พวกเขาก็ยังอยากให้เอเมสชนะ
นอกจากเจ้าหน้าที่ยังมีภาพฉายสองอันที่คอยดูการต่อสู้ มันคือฮีล่ากับออโรร่า
ไม่จำเป็นต้องทำให้การต่อสู้เป็นความลับสนิทและวิลน่าก็แจ้งฮีล่ากับออโรร่า ในฐานะศิษย์ของเอเมส ทั้งคู่มีสิทธิ์รู้
“อาจารย์เราไม่ใช่คู่มือแบล็คสตาร์เลย”ออโรร่ากล่าวด้วยสีหน้าขมขื่น
ฮีล่ายังมีความซับซ้อนในดวงตาและพยักหน้า
สถานะพวกเธอน่าอึดอัดสุดพวกเธอคือคนของแบล็คสตาร์และศิษย์ของเอเมส ทั้งสองฝ่ายคือคนที่พวกเธอสนิทสุดและก็ไม่รู้ว่าควรสนับสนุนใคร
ฮีล่าติดตามเอเมสถึงสิบปีและชัดเจนดีว่าเอเมสทรงพลังแค่ไหนเธอเต็มไปด้วยความเคารพต่อเอเมส และเมื่อเห็นอาจารย์ที่เคารพถูกสะกดข่มโดยแบล็คสตาร์ เธอจึงรู้สึกซับซ้อนในหัวใจ
ความผันผวนพลังงานของการต่อสู้ทำให้เธอเข้าใจว่านี่คือการต่อสู้ที่เธอไม่สามารถแทรกแซงได้มันยังห่างไกลจากระดับปัจจุบันของเธอ ไม่ว่านิสัยของฮีล่าจะรั้นแค่ไหน เธอก็อดสงสัยตัวเธอเองไม่ได้
ผู้อยู่เหนือน่ากลัวจริงๆและดาวเคราะห์ก็เป็นได้แค่ของเล่นต่อพวกเขา ฉันจะสามารถครอบครองพลังเช่นนี้ได้จริงๆ?
…
เศษอุกกาบาตนับไม่ถ้วนและเศษเหล็กลอยในอวกาศการต่อสู้ระหว่างทั้งสองกินเวลานานมากแล้ว
หลังใช้สนามพลังอยู่นานพลังงานและความแข็งแกร่งของเอเมสก็ลดลงมาก หัวเธอเปียกชุ่มด้วยเหงื่อ เธอไม่อยู่ในสภาพสูงสุดอีกและพลังของสนามพลังก็ลดลง
อีกด้านหานเซี่ยวยังเต็มไปด้วยพลัง เขามี[การดูดซับพลังงานขั้นสูง]และอัตราฟื้นฟูเขาก็ไม่ใช่สิ่งที่เอเมสจะมาเทียบด้วยได้
เนื่องจากเขาไม่ขาดพลังงานเขาจึงสามารถใช้[การก่อสร้างจักรกลขั้นสูง]และ[การดัดแปลงของเสีย]ได้เรื่อยๆเพื่อฟื้นคืนกองทัพจักรกลเขา
เมื่อเอเมสเริ่มหละหลวมหานเซี่ยวก็ได้รับการควบคุมสนามรบ การป้องกันสนามพลังของเอเมสถูกทำลายโดยอาวุธอัครฑูตและเธอก็รับมือกับจักรกลมากมาย เธอไม่มีเวลามาสนใจตัวเธอและไม่มีพลังมาโจมตีหานเซี่ยวอีก
จากนั้นไซโอนิคไพรม์ก็แทงใส่เอวเธอเอเมสหลบ และหอกของไซโอนิคไพรม์ก็แหวกผ่านสนามพลังเธอไป สร้างเป็นประกายไฟ
จากนั้นราชาทองคำก็ซุ่มโจมตีเอเมสและหมัดมันก็ถูกขวางโดยสนามพลัง
จากนั้นขาของเอเมสก็ตวัดเหมือนแส้และลูกเตะเธอก็ทำให้เกราะของราชาทองคำยุบ ส่งมันลอยออกไป
ทันใดนั้นอาวุธอัครฑูตอีกตนก็ยิงปืนใหญ่ไซโอนิคใส่เธอ มันกระจายสนามพลังด้านหลังเธอและยิงใส่เธอ จากนั้นเอเมสก็หรี่ตาด้วยความเจ็บปวด
เมื่อเห็นแบบนั้นหานเซี่ยวที่มองอยู่ก็กล่าว”พอแค่นี้แหละ พลังงานเธอหมดแล้ว”
ตอนนี้เองเอเมสแหงนมองหานเซี่ยวผู้อยู่ไกลออกไป แรงดูดจำนวนมากก็รวมกันที่เธอและดูดอาวุธอัครฑูตทั้งหมดไปหาเธอ
เมื่อเผลอทหารจักรกลทั้งหมดก็ถูกมัดรวมกันเป็นกอง
จากนั้นหานเซี่ยวก็พบความผันผวนในมิติ
โดยไม่ลังเลหานเซี่ยวหมุนตัวและยกแขนเพื่อกันลูกเตะจากด้านหลังเขา ลูกเตะนี้มาจากเอเมส ผู้ใช้ไฮเปอร์ไดรฟ์มิติ
“เธอกล้าเข้าประชิดฉัน?คิดทุ่มทุกอย่างกับความพยายามนี้งั้นหรอ?”
ดวงตาหานเซี่ยวเป็นประกายและเขาก็ดึงขาเอเมสเข้ามาพร้อมกระแทกฝ่ามือใส่ท้องเธอ
ปัง!
เอเมสรวมสนามพลังเพื่อป้องกันการโจมตีของหานเซี่ยวและสับคอหานเซี่ยวด้วยฝ่ามือเธอ
แต่ทว่าฝ่ามือเธอกลับยังไม่ถึงตัวดี หานเซี่ยวก็คว้าคอเธอไว้ จากนั้นตัวขับด้านหลังเขาก็พ่นไฟและกระแทกเอเมสเข้ากับอุกกาบาตใกล้ๆ
อุกกาบาตนี้แหลกทันทีแต่หานเซี่ยวไม่หยุดแค่นั้น เขาคว้าเธอและพุ่งใส่กลุ่มอุกกาบาตขณะใช้ร่างเธอชนกับอุกกาบาตทุกลูก
ร่างพวกเขาเปลี่ยนเป็นรังสีแสงและวนรอบวงแหวนดาวใครจะไปรู้ว่ามีอุกกาบาตมากแค่ไหนถูกทำลาย?หานเซี่ยวสามารถรับรู้ได้ว่าสนามพลังของเอเมสอ่อนลงเรื่อยๆและเกือบหายไป
หานเซี่ยวชะลอความเร็วและกระแทกไปในอุกกาบาตครั้งนี้ มันไม่ถูกทำลายและทั้งคู่ก็หยุด
จากนั้นแก๊สก็ยิงออกจากชุดจักรกลและห่อหุ้มทั้งคู่หานเซี่ยวถอดหมวกและส่ายหัว
“พลังงานเธอเกือบหมดแล้วเธอแพ้แล้ว”
คิ้วเอเมสขมวดกันเป็นปมเธอทนความเจ็บปวดจากการโจมตีของหานเซี่ยว ชุดเธอขาดในหลายจุด เผยให้เห็นผิวเนียน คอและขาเธอยังถูกจับโดยหานเซี่ยวและก็ไม่อาจดิ้นรน
เมื่อได้ยินเอเมสก็เผยรอยยิ้ม”ไม่ ฉันยังมีพลังเหลือพอสำหรับการโจมตีสุดท้าย”
“งั้นขอฉันดูหน่อยว่าเธอมีอะไร”หานเซี่ยวตอบ
จากนั้นเอเมสก็ยกแขนขึ้นและดีดหน้าผากหานเซี่ยวเบาๆ
มันคือการโจมตีที่ไร้พลัง
ความแปลกใจสามารถเห็นได้บนหน้าหานเซี่ยว
จากนั้นเอเมสก็หดแขนและกระจายสนามพลังเธอจากนั้นก็กล่าวด้วยรอยยิ้ม”เอาละ ฉันใช่พลังเฮือกสุดท้ายไปแล้ว นายชนะ”
หานเซี่ยวปล่อยคอเอเมสและลูบหัวเขา
“ร้ายกาจมาก”