The Legendary Mechanic - ตอนที่ 907 ความสนใจ
ตอนที่ 907 ความสนใจ
ขาข้างหนึ่งเธอยังถูกหานเซี่ยวกอดไว้และผิวก็ฉาบเข้ากับชุดจักรกลเย็น
เอเมสเอียงหัว
“ช่วยปล่อยขาฉันด้วย”
หานเซี่ยวปล่อยมือและถอยออกไปเล็กน้อยขายาวขาวเนียนจึงกลับเข้าไปในชุดสีดำของเธอ
หลังสังเกตเห็นว่าชุดของเอเมสฉีกขาดหานเซี่ยวก็ยกฝ่ามือและอนุภาคนาโนก็ไหลออกมา เปลี่ยนเป็นวัสดุที่อุดเนื้อผ้าที่ฉีกขาด
คชา!
เอเมสใช้สนามพลังเธอเพื่อดึงตัวเองออกจากอุกกาบาตก่อนปัดฝุน่บนตัวการถูกจับกระแทกเข้ากับอุกกาบาตจำนวนมากทำให้เธอมีรอยฟกช้ำเล็กน้อย
“ค่อนข้างเจ็บเลยนะ”เอเมสลูบเอวบาวของเธอและขมวดคิ้ว”ช่างเถอะฉันเป็นคนรนหาเรื่องเอง”
‘ฉันยั้งมือไว้แล้วนะ”หานเซี่ยวยักไหล่
“ตอนนี้นายแข็งแกร่งกว่าฉันแล้วจริงๆ”
เอเมสถอนหายใจแต่สีหน้าเธอดูสงบราวกับคาดไว้แล้ว
แบล็คสตาร์เข้าใจสถานการณ์การต่อสู้ตั้งแต่ต้นจนจบและเอเมสก็มีความเข้าใจลึกซึ้งมากขึ้นเกี่ยวกับพลังของเขาในตอนนี้
“ไม่จำเป็นต้องหมดกำลังใจฉัน..”
ก่อนหานเซี่ยวจะพูดจบเอเมสก็ตัดบท”พอแล้ว นายคิดว่าฉันเป็นคนที่ต้องให้คนมาคอยปลอบหลังแพ้หรือไง?”
“มันเป็นนิสัยที่พัฒนาหลังฝึกกับฮีล่า”หานเซี่ยวลูบคางด้วยความลำบากใจ
จากนั้นเขาก็หันไปส่งสัญญาณให้กองทัพจักรกลเขาเก็บกวาดสนามรบเมื่อเห็นเศษซากที่ลอยรอบจักรวาล เขาก็แสดงความคิด”อาวุธที่ฉันทำให้เธอพังแล้ว ฉันจะบอกให้แผนกโลจิสติกส์สร้างให้เธออีก…แน่นอน เธอต้องจ่ายนะ”
‘ฉันรู้”เอเมสพยักหน้าโดยไม่ขัดข้องเธอเป็นฝ่ายริเริ่มการต่อสู้และทำลายอาวุธที่หานเซี่ยวส่งมาให้เธอเอง เธอไม่สามารถขออันใหม่จากเขาได้ ในฐานะผู้อยู่เหนือ เธอยังมีศักดิ์ศรีของตัวเอง
หลังจบศึกกองยานเกาะมังกรที่ลอยอยู่ไกลก็ค่อยๆขยับเข้ามา เอเมสศูดหายใจ หมุนที่ฟื้นคืนมาเล็กน้อยเพื่อควบคุมเกาะมังกรให้หยุด
ม่านพลังของเกาะมังกรเปิดและกองยานก็จอดบนท่า
โหมดต่อสู้ของเกาะมังกรถูกยกออกและโครงสร้างอาคารที่ซ่อนใต้ดินก็เริ่มผุดขึ้นมาหลายคนรีบวิ่งไปตรวจสอบบ้านพวกเขา
ทีมโลจิสติกส์นำโดยไฮเออร์เริ่มงานซ่อมแซม
หานเซี่ยวและเอเมสจัดชุดก่อนบินตรงไปเกาะมังกรระหว่างทาง พวกเขาดึงดูดสายตาทุกคน
สมาชิกเกาะมังกรต่างเห็นว่าเอเมสพ่ายแพ้ให้หานเซี่ยวและดูเหมือนว่าเจ้านายพวกเขาจะถูกเอาเปรียบดังนั้น หัวใจพวกเขาจึงเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
เจนนี่รีบวิ่งมาอย่างไม่พอใจและหลังจ้องหานเซี่ยว เธอก็หันไปถามเอเมส”ไม่เป็นอะไรนะ?”
“ไม่ได้บาดเจ็บอะไรแค่ออกแรงมากไป”เอเมสโบกมือและหันหัวไป”แบล็คสตาร์ ไปวังฉันกัน”
ขณะพูดเธอก็เริ่มเดินไปโถงหลัก หานเซี่ยวถอดชุดจักรกลและเดินตามไป
หลังเข้าวังของเกาะมังกรเอเมสก็พาหานเซี่ยวไปสวนหลังที่พวกเขานั่งบนม้านั่งหิน
เธอควบคุมสนามพลังให้เทไวน์สองแก้วหลังจิบมัน เธอก็เห็นว่าหานเซี่ยวไม่ขยับ และมุมปากเธอก็ยกโค้งขึ้น
“นี่คือไวน์กระดูกมังกรที่บ่มโดยอีซอปซึ่งใช้กระดูกมังกรมิติที่ฉันให้ฉันแทบไม่ค่อยได้เอามันมาเลี้ยงแขก”
“มันช่างเป็นสูตรที่มืดมนจริงๆ”หานเซี่ยวแสดงความคิดเห็นเขายังยกแก้วเพื่อจิบ เขารู้สึกเหมือนมีสายไฟลากลงคอเขาราวกับเขากำลังดื่มลาวา หลังจากนั้น รสที่ค้างอยู่ในคอก็รุนแรงขึ้น
ตอนนี้เองเอเมสก็เปิดปากเพื่อพูด น้ำเสียงเธอมีอารมณ์เล็กน้อย
“พลังนายเหนือกว่าฉันแล้วและนายก็ใช้เวลาแค่20ปี…ฉันนับว่าเสียเวลาทั้งหมดไปอย่างเปล่าประโยชน์จริงๆ เทียบกับนาย ฉันเหมือนคนหยุดนิ่ง”
“มันไม่ใช่การเสียเปล่าเธอแค่ขี้เกียจ”หานเซี่ยวหยอกล้อ”แต่หากเธอฝึกหนักขึ้นมา นั่นคงไม่ใช่เธอ”
“ในหัวใจนายฉันเป็นคนขี้เกียจขนาดนั้นเลย?”เอเมสกลอกตา
“แล้วไม่ใช่หรอ?”หานเซี่ยวหัวเราะ
“หึ..หากให้เทียบกับนายฉันคงไม่มีแรงจูงใจมากขนาดนั้น”เอเมสส่ายหัว ไม่อาจโต้เถียงได้
ความจริงที่เธอแพ้ทำให้ทัศนคติเธอที่มีต่อหานเซี่ยวเปลี่ยนไปผู้อยู่เหนือทุกคนมีความชัดเจนถึงความยากในการพัฒนา และกฏของผู้แข็งแกร่งก็คือการเคารพผู้ที่แข็งแกร่งกว่า
เอเมสวางแก้วลงจ้องหานเซี่ยว”เพื่อให้มาถึงระดับนี้ในเวลา20ปี นายต้องทนทุกข์ทรมานมากแน่ๆ”
หานเซี่ยวหยุดชะงักรู้สึกราวกับประโยคนี้ช่างคุ้นหู
คำพูดนี้..เขาเคยได้ยินมาจากไหน?
เขาระงับความรู้สึกแปลกๆในหัวใจกระแอมเสียงแห้ง”มันก็ยังดี”
“ตอนนี้ที่นายสร้างพื้นที่ให้นายในจักรวาลแล้วนายมีแผนอะไรต่อในอนาคต?”เอเมสเปลี่ยนเรื่อง
“พัฒนาต่อไปและสะสมพลัง”novel-lucky
เมื่อได้ยินเช่นนี้เอเมสก็กระพริบตา
“นายรู้สึกว่าความสามารถของนายตอนนี้ยังไม่พอ?”
“ก่อนจะไปถึงขีดจำกัดพลังจะไม่เคยพอ”หานเซี่ยวส่ายหัว
“..เป็นอะไรที่ฉันไม่เข้าใจเลยจริงๆ”
เอเมสไขว่ห้างจับคางด้วยมือหนึ่งขณะจ้องเขา
“ประมาณ8-9ปีก่อนฉันถามนายว่าทำไมไม่หยุดเดินไปข้างหน้า และนายบอกว่านายไม่มีคุณสมบัติพอจะทำแบบนั้นแต่ก็ยังไม่ยอมบอกเหตุผลฉัน นายกลัวอะไรกันแน่?นายคือผู้อยู่เหนือที่มีอิทธิพลสูงและยังมีจักรวรรดิคริมสันหนุนหลัง อะไรที่ทำให้นายกลัว?”
เมื่อได้ยินหานเซี่ยวก็ลังเล
สิ่งที่เขากลัวคืออารยธรรมต้นไม้โลก
8-9ปีก่อนเมื่อเขายังเป็นภัยพิบัติ สถานะพวกเขาแตกต่างและดังนั้น เขาจึงไม่บอกเอเมส แต่ทว่า ตอนนี้สถานะพวกเขาคล้ายกัน มีแรงดึงดูดบางอย่างกับคำพูดเขา เมื่อครุ่นคิด ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจและเปิดปาก
“ฉันได้ข่าวมาและในอนาคต จะมีหายนะที่เกิดขึ้นกับจักรวาลเรา ไม่มีใครจะสามารถหลีกเลี่ยงมันได้ “
เอเมสแปลกใจเล็กน้อย”หายนะเช่นนั้นจะนับเป็นอะไรต่อสามอารยธรรม?”
“เมื่อหายนะมาถึงผู้อยู่เหนือจะเป็นแค่มด คนที่อยู่ด้านล่างเราจะรอดได้ยังไง?”
เอเมสแปลกใจ”งั้นนายก็มีลางสังหรณ์แบบนี้นี่เอง..ฉันคิดว่าแรงผลักดันของนายมาจากความทะเยอทะยานที่ไม่รู้จักพอซะอีก”
เธอไม่สงสัยคำพูดของหานเซี่ยวทุกคนมีช่องทางข้อมูลต่างกันและแค่ตำแหน่งเขาในจักรวรรดิก็ช่วยให้เขาเข้าใจความลับมากมายที่เธอไม่สามารถรับได้
นอกจากนี้ไม่มีเหตุผลอะไรให้แบล็คสตาร์โกหกเธอ
บรรยากาศเริ่มหนักขึ้นและเอเมสก็ดูเหมือนจะตกอยู่ในห้วงความคิด ที่หานเซี่ยวไม่พูด แต่กลับจิบไวน์แทน
หลังหมุนไวน์ไปมาสองสามรอบสุดท้ายเอเมสก็ยกหัวขึ้น
“มันดูเหมือนฉันคงจะไม่สามารถขี้เกียจได้อีกแล้วหากมีวันเช่นนั้นจริง ฉันจะยืนเคียงข้างนายเพื่อต่อสู้”
ในอดีตเพราะเกาะมังกรถูกทำลาย ชีวิตและความตายของเอเมสในช่วงการรุกรานของอารยธรรมต้นไม้โลกจึงไม่อาจรับรู้ แต่ทว่า ในเมื่ออีซอปอยู่บนเกาะมังกรและไม่ออกไปท่องจักรวาล โศกนาฏกรรมนั้นจึงไม่เกิดขึ้น
อิทธิพลที่หานเซี่ยวนำมาได้เปลี่ยนชะตากรรมของเอเมสเธอควรสามารถอยู่ได้จนถึงยุคที่ต้นไม้โลกเผยตัว
เมื่อมาถึงตอนนี้เจนนี่ก็เดินมาและไม่สนใจหานเซี่ยว”ท่านจักรพรรดินีมังกร ความเสียหายได้รับการประเมินแล้ว ฉันต้องการให้ท่านตรวจสอบ”
“เข้าใจแล้ว”เอเมสพยักหน้าหันไปมองหานเซี่ยว”ฉันมีธุระต้องจัดการ และพลังงานฉันก็ยังไม่ฟื้นฟู ฉันต้องพักผ่อน”
หานเซี่ยวยืนขึ้น”ไม่มีปัญหาฉันจะอยู่บนเกาะมังกรจนกว่าเธอจะหายดี ยังไงฉันก็จะไปเยี่ยมดาวเคราะห์อความารีนอยู่แล้ว”
“ตกลง”
เอเมสรู้ว่านี่คือวิธีแสดงความห่วงในและยิ้มให้หานเซี่ยว
หานเซี่ยวพยักหน้าและเดินออกไป
หลังส่งหานเซี่ยวออกไปด้วยสายตาใบหน้าเย็นชาของเจนนี่ก็ค่อยๆละลาย เธอหันไปมองเอเมสด้วยสีหน้าซับซ้อน และเปิดปาก แต่ก็ดูเหมือนจะลังเล
“อืม?”เอเมสชำเลืองมอง”เธออยากพูดอะไร?”
เจนนี่เปิดและปิดปากสุดท้ายก็รวบรวมความกล้า
“ท่านจักรพรรดินีมังกร..ท่านชอบแบล็คสตาร์ไหม?”
เมื่อได้ยินเอเมสก็เลิกคิ้ว
“จะมาสนใจทำไม?”
“ฉัน..ฉันอยากรู้”เจนนี่กัดฟัน”และฉันก็ไม่ชอบแบล็คสตาร์”
“ฉันรู้ส่วนสุดท้ายไม่ต้องย้ำ”เอเมสหัวเราะ
แต่เจนนี่กลับส่ายหัวอย่างจริงจัง
“การที่ฉันเกลียดแบล็คสตาร์ไม่ใช่เหตุผลให้ท่านต้องคิด…เดิมทีไม่มีใครยั่วโมโหเราเพราะเราคือกองกำลังที่เป็นกลาง วันของเราราบรื่นและแม้อิทธิพลเราจะจำกัด มันก็ไม่เป็นไร แต่หลังเขาปรากฏ เกาะมังกรก็พบเจอสถานการณ์อันตรายมากมาย และฉันก็มักคิดว่าหากไม่มีแบล็คสตาร์ มันคงไม่มีปัญหาแบบนั้น เขาไม่ใช่คนธรรมดาและจะนำเราไปสู่อันตรายเข้าสักวัน”
เมื่อได้ยินเอเมสก็ยังยิ้มและถาม”งั้น..เธอคิดว่าแบล็คสตาร์และฉันเป็นพันธมิตรกันเพราะฉันชอบเขา?”
“ฉันสังเกตท่าทีของท่านที่มีต่อเขาและไม่อาจตัดความเป็นไปได้นี้ได้”เจนนี่ตอบ
เอเมสพยักหน้าและหัวเราะ
“ไม่เลวฉันมีความรู้สึกต่อแบล็คสตาร์บ้า แล้วเธอคิดทำยังไง?ห้ามฉัน?”
“ฉัน..”เจนนี่ตกใจ
“เอาละฉันจะหยุดล้อเล่นกับเธอ”เอเมสโบกมือ”ฉันมีความชื่นชอบต่อแบล็คสตาร์ แต่ใครจะบอกได้ว่านั่นคือความรัก?ฉันแก่แค่ไหน?ฉันเป็นคนที่จะปิดซ่อนอารมณ์ตัวเองเพราะอาย?”
เอเมสลุกขึ้นหันหลังให้เจนนี่ขณะมองไปในจักรวาล
“ท่ามกลางผู้อยู่เหนือแบล็คสตาร์คือคนเดียวที่ถูกใจฉันสุด เขาเอาชนะฉันและมีคุณสมบัติที่จะสืบพันธุ์กับฉันได้..แต่ตั้งแต่ต้น ฉันไม่เคยคิดยอมให้ชายแดนส่งต่อยีนของเขา”
“ความชื่นชอบฉันที่มีต่อเขามาจากความช่วยเหลือที่เขามีต่อเกาะมังกรและความชื่นชมของฉันความสัมพันธ์ฉันกับเขาใกล้ชิด แต่เขาก็เป็นเพื่อนที่ดีและสามารถไว้ใจได้ เธอเคยเห็นเราคุยเรื่องความรักกันด้วยงั้นหรอ?”
เจนนี่ถอนหายใจโล่งอก
ใช่แล้วท่านจักรพรรดินีมังกรและแบล็คสตาร์จะไปมีความสัมพันธ์กันได้ยังไง?เธอคงคิดผิด
แต่ทว่าประโยคต่อมาของเอเมสก็ทำลายความหวังเธอ
“แต่ทว่าวันเวลายังอีกนาน หากฉันเปลี่ยนความคิดที่จะมีลูกหลานในอนาคต..”
เอเมสคิดถึงการอยู่เคียงคู่หานเซี่ยวส่ายหัวขณะหัวเราะ
“แบล็คสตาร์คือคนๆนั้น”
เปรี้ย!
อุปกรณ์สื่อสารในมือเจนนี่หักเป็นสองส่วน
…
ในขณะเดียวกันหานเซี่ยวก็เรียกกองทัพจักรกลเขากลับ ช่วยให้ฟิลลิกควบคุมยานเขามาจอดบนเกาะมังกร
เมื่อประตูปิดหานเซี่ยวก็เปิดหน้าต่างสถานะเขา
ภารกิจ[จักรพรรดินีมังกรเอเมส]ลุล่วงแล้ว พวกเขาสู้กันกว่า20นาที บรรลุข้อกำหนดทั้งหมด
และรางวัลที่ดีสุดคือเขาสามารถได้รับพรสวรรค์หรือความสามารถจากเอเมส!
อดทนอดทน…
หานเซี่ยวหายใจเข้าและสงบสติอารมณ์
เฟย์ดินและเนโร่ไม่ได้อยู่ข้างเขาและเขาอาจไม่โชคดี
เขาระงับนิ้วแสนคันไว้หานเซี่ยวหันไปมองรางวัลภารกิจอื่น ค่าประสบการณ์ หนึ่งแต้มตำนานและบัตรอัญเชิญตัวละครเอเมส