The Legendary Mechanic - ตอนที่ 933 การท่องเที่ยวของแบล็คสตาร
ในวังของแดนหลั่งเลือดจอร์ดรายงานอย่างตื่นเต้น”…สรุป เราได้รับช่องทางธุรกิจใหม่มากมายในเวลาอันสั้น และปฏิบัติการเราก็จะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในปีนี้ครับ”
ร่างกำยำยืนตรงหน้าต่างและฟังรายงาน
จากนั้นจอร์ดก็อ่านต่อ”กองทัพแบล็คสตาร์ผ่านการเปลี่ยนแปลงเมื่อหลายปีก่อนและมีปฏิบัติการหลากหลาย เราไม่มีลูกบาศก์วิวัฒนาการ แม้จะมีการสนับสนุนของเคล็นท์ การเปลี่ยนแปลงเราก็ยังช้ามาก เรายังถูกจำกัดด้วยคุณภาพของภารกิจจ้างงานที่เราได้รับ ประมาณ70-80%ของเงินทุนเรามาจากภารกิจจ้างงานสงครามต่างๆ หลังทำงานร่วมกับกลุ่มการเงินไร้ขีดจำกัด พวกเขาก็ช่วยเหลือเราอย่างดีเยี่ยมและสถานะตัวอ่อนของการเปลี่ยนแปลงเราก็ลุล่วงแล้ว”
กองทัพแบล็คสตาร์และแดนหลั่งเลือดต่างก็เป็นองค์กรผู้อยู่เหนือแต่ทิศทางปฏิบัติการต่างกัน ภายใต้การนำของหานเซี่ยว กองทัพแบล็คสตาร์สามารถกระจายปฏิบัติการได้ผ่านลูกบาศก์วิวัฒนาการ พวกเขามีทั้งกำลังทหารและการเงิน สำหรับแดนหลั่งเลือด พวกเขาเป็นกองทัพจนๆ ด้วยอิทธิพลและปฏิบัติการที่ต่ำมาก นี่คือปัญหาที่สร้างความหนักให้พวกเขามาตลอด
ด้วยความช่วยเหลือของกลุ่มการเงินไร้ขีดจำกัดปัญหาของฮีเบอร์จึงหมดไป ตราบเท่าที่พวกเขาเดินบนเส้นทางนี้ต่อไป แดนหลั่งเลือดจะไม่เป็นกลุ่มพวกกักขฬะที่รู้แค่วิธีสู้อีก พวกเขายังมีสิทธิ์สู้กับกองทัพแบล็คสตาร์ในฐานะองค์กรเอกชน
ฮีเบอร์หันมาและกล่าว”ทำได้ดีมาก”
จอร์ดลังเลครู่หนึ่งและอดถามไม่ได้”ท่านทำข้อตกลงอะไรกับกลุ่มการเงินไร้ขีดจำกัดกันแน่ครับ?ทำไมพวกเขาถึงเต็มใจช่วยเรามากขนาดนี้?”
“มันแค่การแลกเปลี่ยนผลประโยชน์”ฮีเบอร์มองเขา”พวกเขาอยากเข้าวงแหวนดาวกระจายและอยากยืมอิทธิพลเราเพื่อครองตลาดฮึ่ม แม้เป้าหมายพวกเขาจะเป็นองค์กรที่ร่วมมือกับกองทัพแบล็คสตาร์ เราเองก็เป็นองค์กรผู้อยู่เหนือ และมันก็ไม่เสียหายอะไรที่มาเข้าร่วมกับเรา”
นี่คือเหตุผลพื้นๆสำหรับเจตนาลึก ฮีเบอร์ไม่คิดอธิบายให้ลูกน้องเขาฟัง
แม้ฮีเบอร์ไม่พูดอะไรอีกจอร์ดสามารถสัมผัสได้ว่าเรื่องนี้ไม่เรียบง่ายขนาดนั้น กลุ่มการเงินไร้ขีดจำกัดไม่ได้เข้าหาแบล็คสตาร์แต่มาหาตัวเลือกที่สองแทน เห็นได้ชัดว่าพวกเขากำลังคิดโค่นกองทัพแบล็คสตาร์กัน
จอร์ดหลั่งเหงื่อเย็นขณะนึกถึงความเป็นไปได้เบื้องหลังความร่วมมือนี้และไม่กล้าถามต่อเขายังอยากมีชีวิตจนถึงวันที่ได้กอดหลาน
จากนั้นจอร์ดก็ปาดเหงื่อและเดินออกห้องไป ฮีเบอร์เป็นคนเดียวที่เหลืออยู่และเขาก็ยังคงมองออกนอกหน้าต่างด้วยมุมปากที่ยกโค้งขึ้น
แม้เขาจะรักษาท่าทางสงบต่อลูกน้องเขาแต่เขาก็มีความสุขมาก
เขาไม่สนใจว่ากลุ่มการเงินไร้ขีดจำกัดจะทำสำเร็จไหมเขาแค่อยากใช้โอกาสนี้เพื่อพัฒนา การขาดทุนของกองทัพแบล็คสตาร์ไม่ส่งผลต่อเขา ทั้งคู่คือพันธมิตรจักรวรรดิแต่ก็ยังเป็นคู่แข่ง เขาย่อมมีความสุขที่เห็นแบล็คสตาร์ขาดทุน
อีกด้านคาร์ล็อตผู้ปฏิเสธคำเชิญหานเซี่ยวได้กลับไปหอพักเขาและเพื่อนๆเขาก็รีบรุมล้อม
“เห้ยทำไมอาจารย์ใหญ่ถึงเรียกหานาย?”คาร์ล็อตใสซื่อและคะแนนก็เป็นอันดับล่าง ดังนั้น ความสัมพันธ์เขากับคนอื่นจึงไม่เลวนัก
เพื่อนเขาเห็นอาจารย์ใหญ่มาหาคาร์ล็อตตอนเลิกคาบเรียนและคิดว่าเขาทำอะไรผิดดังนั้น พวกเขาจึงกังวลมาก
คาร์ล็อตเกาหัว”ไม่มีอะไรมากมีคนอยากพบฉันเฉยๆ”
“ใคร?เขาถึงกับสามารถให้อาจารย์ใหญ่มาเชิญนายเป็นการส่วนตัวได้!”หนึ่งในเพื่นร่วมหอของคาร์ล็อตอุทานเขาเป็นคนที่มีภูมิหลังดีสุดในนี้ แต่ก็ยังห่างไกลจากระดับของอาจารย์ใหญ่ ครอบครัวของคาร์ล็อตธรรมดามาก ดังนั้นเขาจึงอดสับสนไม่ได้
“เขาบอกว่าเขาชื่อแบล็คสตาร์และอยากขอให้ฉันเข้าร่วมกองทัพแบล็คสตาร์”คาร์ล็อตกล่าว
วินาทีที่เขาพูดทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบและความเหลือเชื่อก็ฉาบบนหน้าทุกคน
“แบล็คสตาร์ในตำนานคนนั้น?”
“นายล้อฉันเล่นหรือเปล่า?ทำไมเขาถึงมาหานาย?”
เมื่อเห็นสีหน้าเพื่อนๆเขาคาร์ล็อตก็อดถามไม่ได้”พวกนายรู้จักเขากันด้วยงั้นหรอ?”
“พระเจ้าอย่าบอกฉันนะว่านายไม่รู้ว่าแบล็คสตาร์เป็นใคร?”หนึ่งในเพื่อนเขาเกือบเป็นลม
“ฉัน..ไม่เคยได้ยินมาก่อน”คาร์ล็อตพูดด้วยความลำบากใจ”เขาเป็นคนใหญ่คนโตงั้นหรอ?”
“เขาไม่ใช่แค่ใหญ่โต!เขาคือผู้อยู่เหนือ!คนที่อยู่บนจุดสูงสุดของจักรวาลและเป็นตัวตนที่สามารถคุยกับผู้ปกครองจักรวรรดิเราได้!”หนึ่งในเพื่อนเขาเริ่มอธิบายประวัติของหานเซี่ยวจากนั้นคนอื่นก็ล้อมเขาและยิงคำถามใส่รัวๆ คาร์ล็อตอธิบายสถานการณ์คร่าวๆแต่ก็ตะกุกตะกัก คนอื่นต้องใช้เวลาสักพักถึงเข้าใจได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เพื่อนร่วมหอพักหน้าตาดีของเขาอดรู้สึกขมขื่นไม่ได้ทำไมสิ่งดีๆเช่นนี้ถึงตกใส่หัวคนงี่เง่าอันดับต่ำแทนที่จะเป็นเขา?
ตอนนี้เองเพื่อนร่วมหอพักอีกคนก็นึกได้และถาม”นาย..นายตอบรับคำเชิญของแบล็คสตาร์ไหม?”
“ไม่”คาร์ล็อตตอบ
“นายปฏิเสธโอกาสเข้าร่วมกองทัพแบล็คสตาร์จริงๆ?”ทุกคนพูดไม่ออก”นายมันโง่มาก!นี่คือโอกาสที่จะพลิกชะตากรรมนาย!คนธรมดาอย่างเราไม่มีทางเข้ากองทัพแบล็คสตาร์ได้หรอก!นาย..นายมัน…”
เมื่อทุกคนพูดแบบนั้นคาร์ล็อตก็ตกอยู่ในความเงียบและเริ่มสงสัยทางเลือกตัวเอง
ฉันเลือกผิดจริงๆ?
ฉันควรถามครอบครัวฉันก่อน
จากนั้นคาร์ล็อตก็หยิบอุปกรณ์สื่อสารขึ้นมาและวิ่งไปด้านข้างเพื่อติดต่อกับครอบครัวเขาจากนั้นเพื่อนร่วมหอพักหน้าตาดีคนนั้นก็มองตามคาร์ล็อตไปด้วยความอิจฉาตาร้อน
ทำไมถึงเป็นเขา?ทำไม?ทำไมเขาถึงได้รับโอกาสเช่นนี้แต่ไม่รู้ว่ามันคือสมบัติ?เขามันโง่จริงๆ!ทำไมคนในตำนานเช่นนั้นถึงมาสนใจคนเช่นนี้!
เดิมเขาชอบคาร์ล็อตและเต็มใจดูแลแต่ตอนนี้ เขาเต็มไปด้วยความรังเกียจ
วันต่อมาหานเซี่ยวไม่สนใจการกระทำของกลุ่มการเงินและจับตาดูคาร์ล็อตต่อ เขาสังเกตเห็นบางอย่างน่าสนใจ
เหตุการณ์ได้กระจายไปทั่วแล้วและทัศนคติของนักเรียนทุกคนก็เปลี่ยนไปมาก ส่วนหนึ่งมองข้ามเขา ขณะบางส่วนได้กีดกันเขา
“เพราะการกระทำของฉันเมื่อวานชีวิตโรงเรียนเขาจึงถูกเขียนใหม่โดยฉัน เขาไม่ใช่คนเจือจางเหมือนในชีวิตก่อนหน้าฉันอีก..”หานเซี่ยวส่ายหัว
สำหรับคาร์ล็อตที่ถูกลากเข้าพายุก่อนหน้าการเติบโตเขาจึงไม่อาจรับรู้ได้ มันอาจเป็นเรื่องดีหรือร้าย
แต่ทว่าการกระทำเขาต้องช่วยอีกฝ่ายแน่ บุคคลที่มีความสามารถเป็นผู้อยู่เหนือได้ต้องมีความอดทนและไม่เต็มใจยอมรับความพ่ายแพ้แน่ ความยากลำบากจะกระตุ้นศักยภาพเขาและเขาจะยินดีต้อนรับทุกปัญหา ใครจะรู้ว่าคาร์ล็อตมีนิสัยแบบนี้?บางทีการแข่งขันที่รุนแรงในโรงเรียนอาจทำให้คาร์ล็อตพบกับการเปลี่ยนแปลง
“หากเป็นแบบนั้นทำไมฉันไม่ทำให้สถานการณ์เขาแย่ลงไปอีกละ?”หานเซี่ยวลูบคาง
หลังรอสักพักระฆังก็ดัง นักเรียนพากันออกห้อง จากนั้นหานเซี่ยวก็ส่งเสียงเรียก
“คาร์ล็อต”
เมื่อได้ยินคนเรียกชื่อเขาคาร์ล็อตก็หันมา เมื่อเห็นหานเซี่ยวในชุดตัวเดียวกันกับเมื่อวาน เขาก็จำหานเซี่ยวได้และตกใจ”แบล็ค..แบล็คสตาร์ คุณอีกแล้ว”
เสียงเขาไม่ดังแต่ดูเหมือนจะมีพลังวิเศษ นักเรียนทั้งหมดหยุดและมองหานเซี่ยวด้วยสายตาร้อนแรง
“นายดูเหมือนจะกังวลมากเลยใช่ไหม?”หานเซี่ยวไม่สนใจคนอื่นและยิ้มให้คาร์ล็อตแม้คนอื่นจะไม่สามารถเห็นรูปลักษณ์แท้จริงเขาได้ แต่เขาก็ยังแสดงอารมณ์ได้
“พ่อขอให้ผมขอบคุณคุณแต่เขาไม่อยากให้ผมคุยกับคนมากนัก”คาร์ล็อตกล่าวด้วยท่าทางประหม่า
หานเซี่ยวไม่สนใจคำพูดเขายกนิ้ว จากนั้นอุปกรณ์สื่อสารของคาร์ล็อตก็บินมาในมือเขา หลังเล่นกับมันสักพัก หานเซี่ยวก็ส่งมันกลับคืนให้คาร์ล็อต
“ไม่เป็นไรฉันทิ้งหมายเลขติดต่อไว้ให้นายแล้ว นายสามารถติดต่อหาฉันได้หากเปลี่ยนใจ”
คาร์ล็อตกล่าวตอบโดยปราศจากความมั่นใจ”ผม..ผมไม่เข้าใจว่าทำไมคุณถึงสนใจผมมากขนาดนี้”
“ฉันแค่สนใจคนมีพรสวรรค์”
จากนั้นเขาก็ลูบหัวคาร์ล็อตและรู้สึกสายตาที่เปลี่ยนไปของคนรอบข้างรอยยิ้มลึกซึ้งสามารถเห็นได้บนหน้าเขา
เห้ยฉันช่วยนายได้เท่านี้แหละ ไม่ต้องขอบคุณ
จากนั้นหานเซี่ยวก็มองคาร์ล็อตอย่างลึกซึ้งก่อนหายไปจากสายตาของทุกคน
วินาทีต่อมาร่างของหานเซี่ยวก็ปรากฏนอกชั้นบรรยากาศ เขาไม่อยู่บนดาวและจากไปในยานอวกาศเขา ในช่วงเวลาต่อมา หานเซี่ยวก็ยังอยู่ในอาณาเขตของจักรวรรดิ เหล่าเบื้องบนของจักรวรรดิให้ความสนใจกับการกระทำของหานเซี่ยวและสังเกตว่าเขาไปหาคนมากมาย บางคนเป็นสมาชิกขั้นกลางภายในจักรววรรดิ บางคนเป็นคนธรรมดา
เหล่าเบื้องบนของจักรวรรดิเข้าใจเจตนาของหานเซี่ยวแบล็คสตาร์กำลังวางแผนสำหรับอนาคตและพิจารณาว่าเขาควรลงทุนกับใครเพื่อเพิ่มอำนาจเขาในจักรวรรดิ
แต่ทว่าทางเลือกที่หานเซี่ยวเลือกนั้นก็แปลก หานเซี่ยวไม่ได้เลือกบุคคลระดับสูง แต่กลับหาคนแปลกๆ
จักรวรรดิได้ตรวจสอบทุกคนที่หานเซี่ยวไปเยี่ยมบางคนมีศักยภาพจริง แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้ดูพิเศษเลย
เบื้องบนของจักรวรรดิงงงวยพวกเขาไม่สามารถเข้าใจการเลือกของหานเซี่ยวได้เลย การเลือกของเขาดูสุ่มเกินไป
ทางด้านของหานเซี่ยวเขาไปเยือนNPCหลายคนที่มีชื่อเสียงในอนาต
ส่วนใหญ่ปฏิเสธเข้าร่วมกองทัพแบล็คสตาร์เหมือนกับคาร์ล็อตมีบางคนที่ตอบรับคำเชิญของหานเซี่ยว และเขาก็สามารถนำคนมีพรสวรรค์มาอยู่ข้างๆได้บ้าง แน่นอน หานเซี่ยวไม่ได้ผูกมัดคนเหล่านั้น
ทางด้านวงแหวนดาวกระจายซิลเวียปฏิบัติตามคำแนะนำของหานเซี่ยว เธอติดต่อองค์กรหลายแห่งที่ร่วมมือกับกองทัพเพื่อต้านทานแรงกดดันจากกลุ่มการเงินไร้ขีดจำกัดด้วยกัน
ความคิดนี้บรรลุผลและองค์กรส่วนหนึ่งได้ยอมรับข้อเสนอแนะและจัดตั้งพันธมิตรหลวมๆเพื่อลดแรงกดดันของกลุ่มการเงินไร้ขีดจำกัด แต่ทว่า นี่เป็นิวธีการที่ไม่สามารถแก้ไขสาเหตุของปัญหาได้
กองทัพไม่ใช่กลุ่มการเงินจริงๆและรากฐานก็ไม่แกร่งเท่ากลุ่มการเงินไร้ขีดจำกัดองค์กรเหล่านี้แค่ร่วมมือกับกองทัพและไม่ใช่สมบัติของกองทัพ
สิ่งสำคัญสุดคือให้องค์กรเหล่านี้ต้องเข้าร่วมสำหรับส่วนที่เหลือ กองทัพสามารถโน้มน้าวอารยธรรมพันธมิตรบางส่วนเพื่อมอบช่องโหว่ทางการเมือง ช่วยเหลือธุรกิจขององค์กรเหล่านี้.ไอลีนโนเวล.
ทางเดียวที่จะแก้ต้นตอได้คือให้จักรวรรดิเปิดสิทธิ์ขายโทเท็มวิวัฒนาการแก่ทุกคนอย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่สิ่งที่หานเซี่ยวสามารถตัดสินใจได้เอง เนื่องจากการแข่งขันเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ หานเซี่ยวจึงไม่คิดมากนักและทุ่มกับการฝึกพลังงานเขา ตราบเท่าที่พลังงานเขาไปถึงข้อกำหนดของภารกิจยกระดับ เขาก็จะไปสร้างปัญหาให้ฮีเบอร์
เขาไม่อาจแก้ปัญหาได้ด้วยทางนี้แต่ก็สามารถสถานการณ์ที่เสียหายต่อทั้งคู่ได้
เขาสามารถใช้กำลังกับฮีเบอร์ได้แต่ไม่ใช่กับการขอท้าประลองโซโรคิน อีกฝ่ายคือผู้นำกลุ่มการเงินและใช้วิธีการทางธุรกิจทั่วไปเพื่อแข่งขันกับเขา หากหานเซี่ยวใช้กำลังจัดการกับโซโรคิน พลเมืองของจักรวาลจะคิดว่ากองทัพแบล็คสตาร์เป็นเผด็จการ นอกจากนี้ โซโรคินไม่ไดต้องการศักดิ์ศรี และสามารถคิดหาร้อยพันเหตุผลเพื่อยอมแพ้ได้ทันที แต่ฮีเบอร์ไม่เหมือน ในฐานะพันธมิตรจักรวรรดิ ฮีเบอร์ช่วยศัตรูแทงหลังเขา และหานเซี่ยวก็ไม่ต้องกังวลอะไรมากที่จะทุบตีฮีเบอร์ ฮีเบอร์ให้ความสำคัญมากกับชื่อเสียงเขาและไม่เคยหนีจากคำท้าใด นี่ยังเป็นโอกาสดีให้หานเซี่ยวล้างแค้นตอนที่เขาเพิ่งกลายเป็นผู้อยู่เหนือใหม่ๆ
ในฐานะเจ้าของลูกบาศก์วิวัฒนาการองค์กรใหญ่มากมายจึงให้ความสนใจกับทุกการกระทำของหานเซี่ยว ต่อให้เขาจะใช้เวลาหยุดแค่ในอาณาเขตของจักรวรรดิ หลายองค์กรก็ยังให้ความสนใจกับเขา ทุกคนรู้ว่าเขากำลังหลบซ่อนพายุ และไม่มีใครอยากรบกวนเขา
แต่ทว่ามีบางคนที่มีความคิดอื่น
ดาวเคราะห์แลดบูคือดาวอาณานิคมของอารยธรรมระบบดาวในดินแดนจักรวรรดิเพราะการแทรกแซงจากอารยธรรมจักรวาล อารยธรรมข้าราชบริพารทั้งหมดในกาแล็กซี่กลางจึงต้องใช้ระบบการเมืองที่หละหลวมและล้าหลัง อารยธรรมนี้ก็เป็นอย่างนั้น ดาวอาณานิคมนี้ถูกจัดการโดยเจ้าศักดินาท้องถิ่น นอกจากสถานการณ์ฉุกเฉิน เจ้าศักดินาจะไม่ได้รับการแต่งตั้งโดยอำนาจส่วนกลางแต่เป็นการเลือกตั้งจากภูมิภาค มันคือระบบกึ่งเสรี
วิธีปกครองล้าหลังเช่นนั้นเป็นประโยชน์ต่อผู้มีอำนาจของอารยธรรม
ตำแหน่งเจ้าศักดินาบนดาวแลดบูมักจะอยู่ในมือของตระกูลชื่อดังไม่กี่ตระกูล
แม้การเลือกตั้งจะจัดขึ้นตามข้อตกลงโบราณการเลือกตั้งก็เป็นแค่การแสดง และตระกูลที่เข้ารับตำแหน่งก็ได้รับการตัดสินล่วงหน้าอยู่ตลอด
ปีนี้คือปีเลือกตั้งของดาวแต่มันแตกต่างจากปีอื่น คนที่ชื่อเลพตัสผู้เกิดในตระกูลค้าขายกลับมาเข้าร่วมการเลือกตั้ง เดิมคนอย่างเขาย่อมถูกตระกูลอื่นข่ม และมันก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะได้รับชัยชนะ
แต่คราวนี้พลเมืองของดาวกลับดูเหมือนจะเบื่อหน่ายกับตระกูลใหญ่ที่เล่นการเมืองและต้องการหน้าใหม่ เช่นนั้น พวกเขาจึงมอบคะแนนให้กับคนนอกและเลพตัสก็กลายเป็นผู้สมัครที่ได้รับความนิยมสุด อย่างแรก เขาเป็นคนท้องถิ่น และสอง เขามาจากตระกูลนักธุรกิจชื่อดังในดาว ตามคะแนนเสียงปัจจุบัน เขาคือคนที่มีโอกาสมากสุด
“เราหวังว่าคุณจะถอนตัวออกจากการเลือกตั้ง”
ในอพาร์มเมนต์หรูหราสุดแห่งหนึ่งของดาวฑูตของตระกูลต่างๆวางอุปกรณ์สื่อสารพร้อมหน้าการโอนเงินผ่านธนาคาร
”นี่หมายความว่ายังไง?”เลพตัสขมวดคิ้ว
“บอกราคามา”
“ผมไม่ได้ขาดเงิน”
“คุณอยากขวางทางเราจริงๆ?”
เลพตัสตอบ”ผมเล่นตามกฏนี่คือความหมายของการเลือกตั้ง”
จากนั้นฑูตก็มองหน้ากันและออกไปจากนั้นหนึ่งในนั้นก็มองเลพตัสอย่างเย็นชา”คุณเลือกผิดแล้ว”
หลังฑูตออกห้องไปเลพตัสก็ถอนหายใจยาว แผ่นหลังเขาเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ และก็หัวเราะขมขื่น
ตอนนี้เองหญิงสาวสวมชุดเลขาก็เดินมาและยืนตรงหน้าเลพตัส เธอกล่าวด้วยความกังวลบนใบหน้า”พวกเขาจะไม่ปล่อยคุณไปง่ายๆ”
“ฉันรู้”เลพตัสโบกมือและพึมพำ”ตอนนี้การเจรจากับฉันล้มเหลวพวกเขาจะต้องใช้วิธีรุนแรงกว่านี้แน่ หากพวกเขาใจดี พวกเขาจะลักพาตัวฉันและใช้วิธีต่างๆเพื่อใส่ร้าย หากใจร้าย ฉันคงไม่สามารถรอดชีวิตได้”
“ฉันได้จ้างทหารรับจ้างมาเป็นคนคุ้มกันคุณแล้วพวกเขาจะปกป้องคุณ”
“ทหารรับจ้าง…คนที่สามารถซื้อได้ด้วยเงินไม่สามารถไว้วางใจได้”
“..พี่ทำไมพี่ไม่ยอมถอนตัวละ?ชีวิตพี่สำคัญกว่าอะไรนะ”
เลขาสาวคนนี้ไม่ใช่พนักงานธรรมดาแต่เป็น’ญาติ’ของเลพตัส
“ไม่ทุกคนต่างก็มีเรื่องที่ตัวเองต้องทำให้ได้”เลพตัสส่ายหัว
เลขาสาวมองอย่างซับซ้อนและชื่นชมเธอมักชื่นชมเลพตัส ไม่ใช่แค่เพราะวิธีการเขา แต่ยังเพราะความกล้าหาญ
จากนั้นทั้งคู่ก็เงียบไปชั่วขณะและดวงตาเลพตัสก็สว่างวาบราวกับเขาคิดอะไรได้
“ใช่แล้วฉันได้ยินมาว่าแบล็คสตาร์กำลังท่องเที่ยวอยู่แถวนี้ ตำแหน่งสุดท้ายเขาอยู่ไม่ไกลจากดาวแลดบูใช่ไหม?”
“เอ่อฉันคิดว่างั้น”
“ฉันมีความคิดที่กล้าหาญบางที…เราอาจสามารถใช้แบล็คสตาร์ได้!”