The Legendary Mechanic - ตอนที่ 939 แผนร้าย
ตอนที่ 939 แผนร้าย
ฉันมักพบกับเหตุการณ์ไม่คาดคิดเสมอเมื่อนำตัวละครเอกออกมากับฉันฉันแค่อยากฝึกพลังงานฉันอย่างสงบ มันยากขนาดนั้นเชียว?หานเซี่ยวถอนหายใจและโบกมือ
“เนื่องจากมีคนมาสร้างปัญหาในจักรวรรดิก็แค่ต้องช่วยพวกเขาหยุดมัน ฉันจะส่งมอบเรื่องนี้ให้นายจัดการ นายสามารถเรียกระดมองครักษ์แบล็คสตาร์ได้หากเจอกับปัญหา นอกจากนี้ ฉันจะให้นายอีกภารกิจ นายและออโรร่าควรปิดบังตัวตนเพื่อเข้าร่วมพันธมิตรลงทัณฑ์และช่วยฉันหาข้อมูลเกี่ยวกับของชิ้นหนึ่ง”
โบสถ์ค้อนโลหิตและพันธมิตรลงทัณฑ์มีระดับชั้นต่ำกว่าเขามากเกินไปหากมันเป็นช่วงเวลาปกติ หานเซี่ยวก็เต็มใจแทรกแซงเอง แต่ตอนนี้ เขาแค่อยากฝึกฝนพลังงานเขาอย่างสงบและไม่สนใจเข้าร่วมเรื่องแบบนั้น เช่นนั้น เขาจึงให้เฟย์ดินช่วยเขาหาเบาะแสเรื่องของผนึกแทน
เขาค่อยลงมือครั้งเดียวปิดฉากมันช่วยเขาประหยัดเวลาได้มาก
เขาสบายใจที่จะมอบภารกิจนี้ให้คนอย่างเฟย์ดิน
“งั้นก็ได้”เฟย์ดินกล่าว”เกี่ยวกับปัญหาเรื่องปกปิดตัวตนเรา..”
“ฉันจะให้ฟิลลิปปลอมประวัติพวกนายและจะไม่มีช่องโหว่อะไร มันพอจะได้รับความไว้วางใจ”หานเซี่ยวกล่าว”ในเมื่อพวกนายกำลังจะปกปิดตัวตน ก็อย่าทำตัวโดดเด่นเกินไป นายสามารถร่วมมือกับเจ้าคนชื่อเรย์มอนด์นั่นได้ และไม่ต้องแสดงอะไรมากเกินไป”
“นี่..ก็ได้”เฟย์ดินลังเลครู่หนึ่งก่อนถาม”นายช่วยเราแกะร่องรอยที่อยู่ของโบสถ์ค้อนโลหิตได้ไหม?”
หานเซี่ยวส่ายหัว”หากไร้เบาะแสฉันจะต้องเจาะระบบหลักพวกเขา หรือแม้กระทั่งควบคุมเครือข่ายควอนตัมของศูนย์เอ็นย่าหากอยากตรวจสอบเรื่องนี้ นี่เป็นเรื่องใหญ่และดาวนี้ก็เป็นของพันธมิตรผู้อยู่เหนืออีกคน พวกเขาจะต้องมีกองกำลังป้องกัน และไม่จำเป็นต้องให้ฉันแทรกแซง ฉันบอกไปแล้วไงว่าอย่าทำตัวโดดเด่นเกิน มันคงไม่ดีหากนายดึงดูดความสนใจของเรย์มอนด์มากเกินไป
การค้นหาเป้าหมายด้วยการสอดแนมทั้งดาวต้องใช้การคำนวณมากมายแม้หานเซี่ยวจะทำได้ มันก็ยังลำบาก
โบสถ์ค้อนโลหิตเก็บตัวมากและเขาก็ไม่อยากสิ้นเปลืองเวลาไปกับมัน กองกำลังรักษาความปลอดภัยของศูนย์เอ็นย่าควรมีวิธีแกะรอย หานเซี่ยวจึงอยากมอบเรื่องนี้ให้พวกเขาจัดการซะมากกว่า
“เอาละ”เฟย์ดินคิดสักพักและตระหนักว่าหานเซี่ยวนั้นพูดสมเหตุสมผลการสร้างปัญหาให้ผู้อยู่เหนือด้วยเรื่องล็กน้อยแบบนี้ไม่ดีนัก ในฐานะสมาชิกองครักษ์แบล็คสตาร์ เขาจะให้หัวหน้าเขาช่วยทำทุกอย่างได้อย่างไร?
เรย์มอนด์และคนอื่นเป็นแค่เกรดBและภัยพิบัติอย่างเขาก็ควรพอจะจัดการกับสถานการณ์ ต่อให้มันเลวร้าย เขาก็สามารถเรียกพวกเฮดาวี่มาช่วยได้
แต่พวกองครักษ์แบล็คสตาร์นั้นเป็นพวกขี้เกียจสันหลังยาวกันจริงๆ
เฟย์ดินปิดอุปกรณ์สื่อสารรายงานกับออโรร่าและดวงตาของออโรร่าก็สว่างวาบ
“เขาให้เราดูแลเรื่องนี้?เยี่ยม!ในที่สุดฉันก็มีอะไรทำแล้ว!”
เฟย์ดินยิ้มและติดต่อเรย์มอนด์จากนั้นก็ตอบรับคำเชิญของเรย์มอนด์และบอกว่าเขาเต็มใจเข้าร่วมพันธมิตรลงทัณฑ์
เรย์มอนด์ดีใจมากเมื่อได้ยิน
“เยี่ยม!ฉันยินดีต้อนรับพวกนายทั้งสองคนในนามพันธมิตรลงทัณฑ์ฉันจะแจ้งคนอื่นทันทีและจัดการให้พวกนายสองคนเข้าร่วม!”
เมื่อเห็นเรย์มอนด์กำลังจะวางสายเฟย์ดินก็หยุดเขาและกล่าว”เราจะต้องกรอกใบสมัครไหม?นายลืมหรือเปล่า?”
“ใช่ๆ”เรย์มอนด์ตบหัวตัวเอง”ฉันตื่นเต้นเกินไปนายต้องกรอกแบบฟอร์มเพื่อเข้าร่วมก่อน ฉันจะส่งให้เดี๋ยวนี้แหละ”
เฟย์ดินส่ายหัวและได้รับเอกสารที่เรย์มอนด์ส่งมาหลังมอง มันก็แค่ต้องกรอกชื่อ ความสามารถ เกรดและการจ้างงานที่ผ่านมา
จากนั้นเขาก็กรอกตัวตนที่ฟิลลิปปลอมให้เขาตัวตนใหม่เขาคือผู้ใช้พลังเกรดB นี่ทำให้เขาดูธรรมดาขึ้น หากคนอื่นรู้ว่าเขาเป็นภัยพิบัติ สถานะเขาคงแตกต่างไปและมันคงไม่ดีสำหรับเขาที่จะลอบเข้าองค์กร แม้ภัยพิบัติในกาแล็กซี่กลางจะมีเยอะ มันก็ยังเป็นคนหายาก.novel-lucky.
หลังกรอกแบบฟอร์มแล้วเรย์มอนด์ก็ส่งมันให้สมาชิกพันธมิตรลงทัณฑ์โดยไม่ลังเล
…
ห่างออกจากศูนย์เอ็นย่าไปสองเขตดาวมียานขนาดเล็กในไฮเปอร์ไดรฟ์กำลังมุ่งหน้าไปศูนย์เอ็นย่า มีโลโก้อยู่นอกยานที่เป็นของพันธมิตรลงทัณฑ์
กลุ่มคนในยานกำลังนั่งหรือยืนอยู่ บางคนกำลังเช็ดอาวุธ บางคนกำลังทำความสะอาดปืน มีคนที่หลับตาทำสมาธิ มีคนกำลังดูรายการทีวี พวกเขาคือฮีโร่ของพันธมิตรลงทัณฑ์
พวกเขาไม่มีผู้นำและก็เป็นสหายที่มีระดับเท่าเทียมกัน มีผู้นำเพียงไม่กี่คนในองค์กรซึ่งเป็นสมาชิกเก่าชื่อดัง นี่คือโครงสร้างทั่วไปขององค์กรฮีโร่
หน้าจอโฮโลแกรมพลันปรากฏกลางห้องและข้อความของเรย์มอนด์ก็ฉาย
“เรย์มอนด์ส่งข่าวมา!”
ทุกคนจ้องหน้าจอทันทีและหัวหน้าทีมชั่วคราวก็อ่านออกเสียง
เรย์มอนด์พูดถึงสิ่งที่เขาพบและเน้นย้ำถึงความสามารถของออโรร่าเขายังระบุด้วยว่าเขาหวังให้ทั้งคู่ตอบรับการเข้าร่วม
“มันเป็นความสามารถเอสเปอร์สายรักษาที่ทรงพลังจริงๆ”หัวหน้าแปลกใจและเข้าใจคุณค่าของความสามารถดังกล่าวทันที
พันธมิตรฮีโร่อย่างพวกเขาพบว่ามันยากที่จะรับสมาชิกใหม่ทุกครั้งที่ฮีโร่ตาย พวกเขาจะเสียสมาชิกไปคนหนึ่ง หากมีคนเช่นนี้ในอดีต พวกเขาคงได้รับการรักษาอย่างทันท่วง และอัตราการตายคงลดลงมาก
“มีปัญหาอะไรเกี่ยวกับประวัติพวกเขาไหม?”
“ฉันตรวจสอบแล้วมันเป็นจริงหมด”ฮีโร่สายช่างกลกล่าว
“งั้นเราก็สบายใจได้ฉันสนับสนุนให้พวกเขามาเข้าร่วมกับเรา”
“รอก่อน”ชายร่างผอมกล่าว”เราต้องระวังและตรวจสอบให้แน่ว่านี่ไม่ใช่แผนการของโบสถ์ค้อนโลหิตบางทีพวกเขาอาจเป็นสายที่พวกมันส่งมา อย่าลืมว่าพวกมันมีความสามารถรักษาที่ชั่วร้ายเช่นกัน ถามเรย์มอนด์ดูว่าเขาได้เห็นอีกฝ่ายรักษาเขากับตาตัวเองไหม”
“สเลดนายคิดมากไป แม้เรย์มอนด์จะสมองทึบ เขาก็ยังพึ่งพาได้”หัวหน้าขมวดคิ้ว
“ฉันเชื่อใจเรย์มอนด์แต่ไม่เชื่อเรื่องบังเอิญแบบนี้”เขากล่าวเสียงเย็น
เขาชื่อสเลดและเป็นสมาชิกเก่าแก่ขององค์กรเขาเป็นคนขี้สงสัยและไม่มีเด็กใหม่สักคนที่จะได้รับความไว้วางใจจากเขาตั้งแต่ต้น
หัวหน้ารู้ดีว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะโน้มน้าวอีกฝ่ายและเปลี่ยนเรื่อง”งั้นก็อย่าพูดถึงเรื่องนี้มันสำคัญกว่าที่เราจะทำลายแผนการของโบสถ์ค้อนโลหิต”
“ถูกต้อง”
ใบหน้าทุกคนเปลี่ยนไป
แต่ทว่าไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาได้เห็นแค่ยอดภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น เบื้องหลังของเรื่องนี้ไม่ง่ายอย่างที่พวกเขาคิด
การสมรู้ร่วมคิดกำลังก่อตัวในความมืด
…
ในฐานที่มั่นชั่วคราวของโบสถ์ค้อนโลหิตบนศูนย์เอ็นย่านักบวชหลายคนที่ซุ่มโจมตีเรย์มอนด์ได้กลับฐานและสมาชิกคนอื่นของฐานก็รู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติทันที
ในห้องชายร่างสูงยืนขึ้น เขาสวมชุดคลุมหรูหราและถือค้อนขนาดใหญ่ไว้ เขาคือหัวหน้าบิชอปของโบสถ์ค้อนโลหิต
“มีกลิ่นเลือดเจอศัตรูมางั้นหรอ?”
“มันเป็นสมาชิกพันธมิตรลงทัณฑ์เขาตามเรามาและเราก็ใช้ม่านเวทมตร์ อยากกำจัดเขา แต่เขาดันทำลายม่านพลังและหนีไป”
“พวกมันอีกแล้ว!พวกมันทำลายแผนเรามามากและเหมือนพวกแมลงวัน!”
หัวหน้าบิชอปโกรธเขาเกลียดคู่ปรับเก่าพวกเขามาก
เรย์มอนด์คิดว่าโบสถ์ค้อนโลหิตกำลังจะทำการบูชายัญเลือดแต่นี่ไม่ใช่ความจริง
มันคงไม่สำคัญหากนี่เป็นแค่พิธีสังเวยเลือดธรรมดาแต่ครั้งนี้ พวกเขาได้รับภารกิจจ้างงานสำคัญที่เกี่ยวกับอนาคตของโบสถ์ค้อนโลหิต เช่นนั้น หัวหน้าบิชอปจึงโกรธมาก
“เราไม่สามารถอยู่ในฐานนี้ได้อีกต่อไปเราต้องเปลี่ยนสถานที่ทันที”หัวหน้าบิชอปกล่าว”เราไม่สามารถปล่อยให้เกิดเรื่องผิดพลาดได้ในระหว่างภารกิจนี้ รีบเก็บของกันเร็ว”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นทุกคนในฐานก็แยกย้ายกันไปทำงานและเก็บข้าวของ
หัวหน้าบิชอปเดินไปหน้าโต๊ะก้มมองแผนที่กระดาษบนนั้น
ตำแหน่งสำคัญของศูนย์เอ็นย่าถูกระบุไว้บนแผนที่และมีการทำเครื่องหมายแผนโดยละเอียดด้วยลูกศรต่างๆที่ชี้ไปยังตรงกลาง
สถานที่นี้เป็นสถานที่ที่วางโทเท็มวิวัฒนาการ!
…
ห่างออกไปหลายถนนมีฐานลับขององค์กรอื่น
ในห้องมีคนยืนล้อมโต๊ะ และโครงสร้างของตำแหน่งโทเท็มวิวัฒนาการอีกอันก็วางไว้บนโต๊ะ
กลุม่นี้เป็นกลุ่มโจรชื่อดังในตลาดมืดที่เชี่ยวชาญการขโมยของสำคัญพวกเขายังได้รับการว่าจ้างให้ทำงานที่นี่
“เรากำลังจะขโมยโทเท็มวิวัฒนาการบนศูนย์เอ็นย่าของชิ้นนี้ได้รับการปกป้องหลายชั้น และมันก็เป็นงานยาก มันใกล้ถึงวันที่นายจ้างกำหนดไวแล้ว พวกนายมีความคิดยังไงกันบ้าง?”
“ฉันได้รับข้อมูลมาหลังสอดแนมสถานที่นั้นอยู่หลายครั้งมีอุปกรณ์เฝ้าระวังขั้นสูงมากมายคอยตรวจสอบตลอดเวลา ฉันมีความคิดคร่าวๆ แต่แผนต้องทำให้สมบูรณ์แบบ”
“มันเป็นไปไม่ได้ที่เราจะขโมยของลำพังเราจะมีโอกาสหากเราได้ผู้ช่วยตามที่นายจ้างกล่าวไว้”
จากนั้นพวกเขาก็ลงเสียงและหารือเรื่องกลยุทธ์กัน
…
ที่ท่าจอดหนึ่งของศูนย์เอ็นย่าโถงหลักแออัดไปด้วยคนและผู้โดยสารที่เข้าออกท่าจอดก็จำเป็นต้องผ่านที่นั่น ในร้านขายเครื่องดื่มใกล้กับประตูโถงหลัก หญิงสาวธรรมดาคนหนึ่งกำลังอ่านหนังสือพร้อมเครื่องดื่มตรงหน้า
เธอนั่งอยู่มานานพอสมควรราวกับกำลังรอใครบางคน
ความปั่นป่วนเกิดขึ้นจากท่าเข้าท่าและกลุ่มผู้คุ้มกันก็เดินล้อมชายหนุ่มคนหนึ่งมา
มีคนคุ้มกันสองคนแตกต่างจากคนอื่นพวกเขาไม่ปกปิดกลิ่นอายพวกเขาและพลังของภัยพิบัติก็เล็ดรอดออกมา พวกเขายืนทางซ้ายขวาของชายหนุ่ม มันเห็นได้ชัดว่าชายหนุ่มคนนี้เป็นคนใหญ่คนโต
เมื่อผู้คนเห็นพวกเขาก็รีบเปิดทางหั้นที
หลังเฝ้าดูทั้งกลุ่มออกโถงหลักไปหญิงสาวคนนั้นก็จ่ายค่าเครื่องดื่มและเดินออกไป ด้วยหนังสือใต้แขน เธอเดินไปทิศทางตรงข้ามกับกลุ่มนั้น
หลังเดินไปตามถนนประมาณสิบสายคนก็น้อยลง และเธอก็เดินไปในเงาของตึก แต่ว่า บุคคลที่โผล่ออกจากเงานั้นกลับเป็นชายร่างกำยำและหนังสือในแขนเธอก็หายไปเช่นกัน
คนๆนี้มีความสามารถเอสเปอร์ปลอมแปลงและเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์หลายครั้งก่อนจะขึ้นยานพาหนะไปที่อื่นของเมืองจากนั้นเขาก็เดินไปโรงแรมเก่าแห่งหนึ่งและกลับห้องเขา
มีอีกสามคนต่างเผ่ากันในห้องทั้งสามเป็นอาชญากรชื่อดังระดับภัยพิบัติที่เคยเป็นสมาชิกผู้ร่วงหล่น หลังหานเซี่ยวจับเทพเอส พวกเขาก็ออกแดนร่วงหล่นมา
หลังปิดประตูคนที่ปลอมตัวก็กล่าว”ข้อมูลถูกต้อง เป้าหมายมาถึงแล้วและเขาก็มีคนคุ้มกันระดับภัยพิบัติสองคน คนคุ้มกันทั้งสองคนหนึ่งเป็นไปตามรายงาน”
“ดีมากดำเนินการตามแผนได้”หนึ่งในนั้นกล่าวด้วยจิตสังหารในตา
…
บนดาวแม่ของจักรวรรดิคริมสันการประชุมเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันของจักรวรรดิกำลังจะจบในวัง
นับตั้งแต่สหพันธ์แห่งแสงและศาสนจักรอาร์เคนได้ใช้แผนพวกเขาเพื่อยับยั้งจักรวรรดิจักรวรรดิก็ต้องรับแรงกดดันมากมายจากหลายๆส่วน เพราะจักรวรรดิได้ลงทุนทรัพยากรจำนวนมากกับโลกริบหรี่ ภูมิภาคอื่นจึงถูกละเลยไปบ้างและอีกสองฝ่ายก็จงใจเปิดช่องโหว่
เพราะสภาพการณ์ที่เลวร้ายการประชุมเช่นนี้จึงจัดขึ้นบ่อยครั้ง
“สหพันธ์แห่งแสงและศาสนจักรอาร์เคนมุ่งเป้ามาที่เราและสร้างแรงกดดันให้เราในหลายๆพื้นที่เป้าหมายพวกเขาชัดเจนและมันเพราะพวกเขาอยากให้เราอนญาตการขายโทเท็มวิวัฒนาการแบบสาธารณะ พวกคุณคิดว่าอย่างไร?”เออแรนเรลกล่าว
เบื้องบนทั้งหมดพยักหน้า
พวกเขาไม่ได้อยู่ในฝ่ายปกครองและก็มีคนที่เป็นสมาชิกสำคัญของฝ่ายอื่น เออแรนเรลให้ความสำคัญกับความคิดของคนเหล่านี้มาก
จากนั้นเออแรนเรลก็มองเจ้าหน้าที่เก่าแก่”ลุดเวลล์คุณคิดว่าอย่างไร?”
ลุดเวลล์เป็นเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบด้านการเงินและยังเป็นหัวหน้าฝ่ายเป็นกลางสถานะเขาสูงมาก”ท่านผู้ปกครอง จะมีทั้งส่วนได้ส่วนเสียไม่ว่าเราจะเลือกอย่างไร”
“ไหนคุณลองพูดมาหน่อยสิ”
“ครับ”ลุดเวลล์พยักหน้า”ผลประโยชน์ของการไม่ขายโทเท็มวิวัฒนาการอย่างเปิดเผยจะเพิ่มจำนวนข้าราชบริพารและได้รับพันธมิตรเพิ่มมันจะพัฒนาศักยภาพของเผ่าเราในระยะยาว และเราจะผลิตผู้มีพรสวรรค์ได้ล้ำหน้าอารยธรรมอื่น ข้อเสียคืออีกสองอารยธรรมจะกำหนดเป้ามาที่เรา”
“การขายโทเท็มอย่างเปิดเผยจะลดแรงกดดันและทำให้สถานะของสามอารยธรรมมั่นคงเรายังสามารถได้รับผลประโยชน์ทางการเมืองโดยการขายแบบจำกัด แต่ทว่า เราจะไม่สามารถเพลิดเพลินกับข้อดีของโทเท็มวิวัฒนาการได้ลำพังและจะเสียโอกาสเหนือกว่าคนอื่นในแง่ศักยภาพ”
ตอนนี้เองลุดเวลล์พลันเปลี่ยนเรื่อง ยกนิ้วขึ้นและกล่าว”แต่ทว่า จะมีปัญหาที่ไม่สามารถเลี่ยงได้หากเราอยากขายโทเท็มแบบเปิดเผย อุปกรณ์ในการผลิตโทเท็มไม่ได้ถูกควบคุมโดยเราและนี่คือองค์ประกอบที่ไม่มั่นคง ตอนนี้เรากำลังรับแรงกดดันมหาศาล แต่ผลประโยชน์ส่วนใหญ่มอบให้แบล็คสตาร์ นี่ไม่ใช่เรื่องดี เราต้องพิจารณาแง่มุมนี้หากเราอยากขายโทเท็มแบบเปิดเผย หากเราไม่สามารถรับผลประโยชน์ทั้งหมดจากโทเท็มได้ การแบกรับแรงกดดันก็จะเป็นผลเสีย”
“เอาละฉันรู้ความคิดเห็นคุณแล้ว”เออแรนเรลยกแขนขึ้นแต่ไม่ใช่ไม่เห็นด้วยกับคำพูดเหล่านั้น
ลุดเวลล์รู้ว่าเออแรนเรลไม่อยากให้เขาพูดต่อและดังนั้นเขาจึงปิดปาก
เออแรนเรลอดถอนหายใจไม่ไดลุดเวลล์คือผู้นำฝ่าย แต่เขาจะไม่ขัดคำสั่งเธอ เขาแค่มีความเห็นทางการเมืองที่แตกต่างในบางเรื่องเท่านั้น ปัญหาของลูกบาศก์วิวัฒนาการคือหนึ่งในนั้น
ลุดเวลล์เป็นฝ่ายที่เชื่อมั่นอย่างแรงกล้าในการให้แบล็คสตาร์ส่งมอบลูกบาศก์เขาคือคนที่รับผิดชอบการเงิน และเขามักเห็นสิ่งต่างๆจากแง่มุมทางเศรษฐกิจหรือการเมือง เขาไม่เชี่ยวชาญกิจการทางทหาร
เขาไม่พอใจที่จักรวรรดิต้องมาทนรับแรงกดดันจากสองอารยธรรมแต่ก็ไม่สามารถเพลิดเพลินผลประโยชน์ของลูกบาศก์วิวัฒนาการได้เขามักเชื่อเสมอว่าการเอาลูกบาศก์วิวัฒนาการจากแบล็คสตาร์คือทางออกที่ดี ไม่ว่าต้องใช้กำลังหรือทรัพยากรก็ตาม ไม่ว่าในกรณีใด เขารู้สึกว่าจักรวรรดิควรเป็นคนที่ถือสมบัติจักรวาลไว้
เออแรนเรลให้ความสำคัญกับแบล็คสตาร์มากและพวกเขาก็มีความเห็นแตกต่างกันมันเพราะเธอที่ทำให้ฝ่ายอื่นไม่สามารถยึดลูกบาศก์วิวัฒนาการจากแบล็คสตาร์สำเร็จ
“วันนี้ขอให้จบการประชุมไว้แค่นี้”เออแรนเรลส่ายหัว
ภาพฉายในห้องประชุมหายไป
ลุดเวลล์โค้งคำนับก่อนปิดอุปกรณ์สื่อสารเขาจากนั้นมุมมองเขาก็กลับมาห้องทำงานตัวเอง ถอนหายใจ ถูตาและมองเห็นรอยพับที่มุมตา
ตื่อตื่อ!
โทรศัพท์บนโต๊ะเขาสั่นและลุดเวลล์ก็รับสาย
“ท่านค่ะหลานท่านโทรมา จะให้ฉันต่อสายไหมคะ?”
“เจ้าหนูนี่ฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าโทรมาที่ห้องทำงานฉัน!”ลุดเวลล์ขมวดคิ้ว”ส่งสายมา”
ครู่ต่อมาเสียงของชายหนุ่มก็ดังขึ้น
“ปู่?ผมอยู่ที่ศูนย์เอ็นย่าแล้วผมบอกปู่ล่วงหน้าเพราะเกรงว่าปู่จะส่งคนมาหาผมอีกและทำให้คนจากบริษัทผมคิดว่าผมหายตัวไป”
“ฮึ่ม”ลุดเวลล์แค่นเสียงและอายเล็กน้อย
“ใช่แล้วปู่บอกว่าปู่ชอบกินอาหารอร่อยๆที่ศูนย์เอ็นย่านี่ ผมจะซื้อกลับไปให้”
“ก็ดี”ลุดเวลล์กล่าว”ดูแลตัวเองด้วยจักรวาลไม่สงบอีกแล้ว มีการโจมตีหลายครั้งภายในอาณาเขตจักรวรรดิ ฮึ่ม พวกเขาต่างอยากชิงโทเท็มวิวัฒนาการ คนคุ้มกันสองคนที่ปู่ส่งไปอยู่ข้างหลานหรือเปล่า?”
“เห้อพวกเขามองผมเหมือนเป็นนักโทษ พวกเขายังอยากตามผมไปห้องน้ำด้วย ปู่ ช่วยพาพวกเขากลับไปได้ไหม?ด้วยพวกเขาข้างๆ ทุกคนคิดว่าผมเป็นพวกคนใหญ่คนโตและแม้กระทั่งนายผมก็ยังไม่กล้าตำหนิผม หากเป็นแบบนี้ ผมคงโดนไล่ออกในไม่ช้า”
“นั่นจะไม่เกิดขึ้นแกเป็นหลานชายคนเดียวของฉัน และความปลอดภัยแกต้องมาก่อน ฉันจะมั่นใจก็ต่อเมื่อทั้งสองอยู่ข้างแก”ลุดเวลล์กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมก่อนตระหนักว่าน้ำเสียงเขาไม่ดีนัก จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลง”เห้อ ดูแลตัวเองด้วย นอกจากนี้ แกไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของจักรวรรดิและไม่ควรโทรมาสายใน มีสมาชิกบางคนของแผนกภายในได้ร้องเรียนเรื่องนี้กับปู่”
“ครับครับ ผมจะวางสายแล้ว”
จากนั้นสายก็ถูกตัดและลุดเวลล์ก็เผยสีหน้าหน่ายใจ