The Legendary Mechanic - ตอนที่ 967 การเปลี่ยนชะตากรรม
จากนั้นการประชุมก็ดำเนินอยู่ครึ่งวันและสิ้นสุดลงหลังทาราคอฟแนะนำวัตถุประสงค์ต่างๆของการสำรวจระยะสอง
“เรื่องสุดท้ายคือจดบันทึกเหตุการณ์แปลกในช่วงสำรวจเราเห็นองค์กรมากมายที่พยายามลอบเข้าโลกริบหรี่ในการสำรวจระยะแรก และเราก็ได้ใช้มาตรการต่างๆเพื่อกวาดล้างคนเหล่านี้ แต่ทว่า เราก็ยังคงพลาดบางส่วนไป หากพวกคุณพบพวกลักลอบ คุณต้องไล่ล่า”
โลกริบหรี่ยังอยู่ในช่วงปิดกั้นและหลายองค์กรก็พยายามลอบเข้าโลกริบหรี่ ทุกคนรู้ชัดว่ากองกำลังลักลอบเหล่านี้มักมาจากอารยธรรมกลุ่มดาวหรืออารยธรรมกลุ่มดาวชั้นยอด
เพราะการสำรวจระยะแรกเสร็จสิ้นไปแล้วพวกลักลอบเหล่านี้จึงไม่วิ่งเข้าพื้นที่ที่ยังไม่ได้รับการสำรวจและหลบซ่อน จักรวรรดิได้ส่งกองกำลังบางส่วนไปไล่ล่า แต่ก็มีผลงานแสดงให้เห็นเพียงเล็กน้อย
จากที่จักรวรรดิเห็นวิธีที่สุดในการรับมือกับสถานการณ์เช่นนั้นคือสำรวจต่อไป ไม่ว่าในกรณีใด พวกลักลอบเหล่านี้จะไม่มีที่ให้หนีเมื่อทัพหลักพวกเขามาถึง
หลังจบการประชุมตัวแทนของหลายองค์กรก็รายงานรายละเอียดการประชุมให้เบื้องบน ผู้อยู่เหนือส่วนหนึ่งไม่ได้ออกไปทันทีและสนทนากัน
หลังคุยสักพักทาราคอฟก็เดินมาหาหานเซี่ยวเพื่อขอคุยเป็นการส่วนตัว
ทั้งคู่เดินไปด้านข้างและหานเซี่ยวก็สงสัย
“มีเรื่องอะไร?”
“ฉันจะคุยกับนายเล่นไม่ได้เลยงั้นหรอ?”ทาราคอฟหัวเราะ”อย่างไรก็ตามมันมีเรื่องจริงๆ กลุ่มดาวการูและกลุ่มดาวรัสโซ่อยู่ติดกันและอาณาเขตนายก็อยู่ระหว่างรัสโซ่กับการู อาณาเขตนายสามารถเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางขนส่งระยะยาว และกองทัพเราส่วนหนึ่งจะผ่านอาณาเขตนาย เราอาจต้องการให้นายช่วยขนทรัพยากรบางอย่าง.”
“ได้สิ”หานเซี่ยวตอบรับทันที
เนื่องจากจักรวรรดิมอบเจ็ดระบบดาวให้เขาเขาจึงมีสิทธิ์ควบคุมอย่างแท้จริง ในเมื่อสัญญาถูกร่างแล้ว จักรวรรดิจึงไม่สามารถตัดสินใจใดๆได้ภายในดินแดนของเขาเว้นแต่จะได้รับอนุญาต
การปล่อยให้กองกำลังจากองค์กรอื่นผ่านอาณาเขตเขาจะทำให้เขาได้รับผลประโยชน์มากกว่าส่วนเสียเขาจะสามารถสร้างเส้นทางขนส่งทรัพยากรที่เหมาะสมได้ภายในอาณาเขตเขาและยังประสานตำแหน่งเขาในฐานะแกนกลางของกลุ่มดาวการู
การดูแลเส้นทางขน่สงหมายความว่าเขาจะรับผิดชอบด้านโลจิสติกส์ในระดับหนึ่งอีกด้วยจำนวนผลประโยชน์ที่ได้รับจากการรับผิดชอบโลจิสติกส์เป็นสิ่งที่ทุกคนเข้าใจดี ในช่วงการสำรวจระยะแรก กองทัพแบล็คสตาร์คือผู้บุกเบิกการสำรวจและหลังได้รับอาณาเขต พวกเขาจึงยิ่งได้รับผลประโยชน์ขึ้น
หลังพูดจบทาราคอฟก็ลดเสียง”นายได้รับข่าวยัง?เสียงร้องภายในจักรวรรดิเรื่องการเปิดสิทธิ์ขายโทเท็มวิวัฒนาการเริ่มขึ้นอีกแล้ว”
หานเซี่ยวพยักหน้าและไม่สนใจ”มันไม่สำคัญยังไงก็ไม่ส่งผลต่อฉันอยู่แล้ว”
การแบ่งแยกภายในหมู่เบื้องบนเรื่องลูกบาศก์ไม่ส่งผลต่อเขาแล้วตลอดหกปี ไม่มีใครโจมตีเขาเลยเพราะรู้ว่ามันเปล่าประโยชน์
“ฉันรู้แต่นายควรระวัง”ทาราคอฟกล่าวเสียงเบา”ฉันได้ยินมา ว่าที่ผู้ปกครองอยากได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มเหล่านี้…”
เมื่อได้ยินหานเซี่ยวก็อดหยอกล้อไม่ได้”นายมาบอกข่าวเช่นนี้กับฉันเนี่ยนะ?ไม่กลัวว่าพวกเขาจะแก้แค้นหรือไง?”
“อ่าฉันไม่ได้เอ่ยชื่อใครเลย และนอกจากนี้ นายจะหักหลังฉันงั้นหรอ?แถม ฝ่ายที่ฉันอยู่ก็ไม่ชอบวิธีการของเขาจริงๆ”ทาราคอฟยิ้ม
จากนั้นหานเซี่ยวก็เริ่มตระหนักเขาเข้าใจว่าทาราคอฟไม่เพียงมาเตือนเขา แต่ยังมีวัตถุประสงค์ทางการเมืองอีกด้วย
ผู้ปกครองจักรวรรดิคนต่อไปมักได้รับการฝึกเมื่อผู้ปกครองคนปัจจุบันยังมีอำนาจว่าที่เหล่านี้มักมีพวกระดับสูงของจักรวรรดิของฝ่ายต่างๆคอยหนุนหลัง
ผู้ปกครองมีได้แค่คนเดียวดังนั้น ผู้สมัครบางคนจึงรู้ว่ามันยากที่พวกเขาจะได้รับเลือกจนต้องหาการสนับสนุน
ในชีวิตก่อนหน้าเขาระยะเวลาที่เออแรนเรลดำรงตำแหน่งสิ้นสุดไม่นานหลังเนื้อเรื่องโลกริบหรี่
จักรวรรดิจะไม่เปลี่ยนเพราะผู้ปกครองคนใหม่แต่รูปแบบของจักรวรรดิก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างละเอียดด้วยสไตล์ของผู้ปกครองคนใหม่ ตัวอย่างเช่น วิธีที่พวกเขาจัดการกับการแข่งขัน อารยธรรมภายใต้และพันธมิตรผู้อยุ่เหนือ
ผู้ปกครองจักรวรรดิจะถูกเลือกจากภายในและนอกจากสถานการณ์พิเศษบางอย่างพันธมิตรจักรวรรดิจะไม่สามารถมีอิทธิพลต่อตำแหน่งผู้ปกครองได้
ดังนั้นมันจึงสำคัญมากที่ผู้สมัครจะต้องได้รับการสนับสนุนของฝ่ายต่างๆแทนการประจบผู้อยู่เหนือ แม้หานเซี่ยวจะแปลกใจกับสถานการณ์ที่ทาราคอฟพูด เขาก็ไม่ได้ตกใจเกินไป
ไม่ว่าในกรณีใดเขามีเป้าหมายที่เกาะติดเขาอยู่แล้ว
“เฮ้ผู้สมัครก็เป็นแค่ผู้สมัคร เขาอาจไม่ใช่ผู้ปกครองในอนาคต”หานเซี่ยวยิ้ม
“นายพูดถูกฉันเองก็คิดแบบนั้น”ทาราคอฟพยักหน้า
หลังหยุดสักพักเขาก็พลันกล่าว”ฉันยังมีเรื่องจะถามนาย”
“ว่าไง?”
“นายเข้าใจมรดกที่เทพเอสทิ้งไว้มากแค่ไหน?”
ทำไมจู่ๆเขาถึงนำเรื่องเทพเอสขึ้นมา?หานเซี่ยวสับสน
‘ไม่ใช่ว่ามรดกเขากระจายไปทั่วจักรวาลหรือไง?ส่วนไหนที่นายกำลังพูดถึง?”
“อ่าเรื่องนี้เกี่ยวกับนาย..นายจำพิกัดที่นายมอบให้เราก่อนหน้าได้ไหม?อันที่เทพเอสกำลังมองหา”
คำพูดเหล่านี้ฟังเหมือนเสียงฟ้าผ่าในหูหานเซี่ยวเขาพยายามระงับความตกใจ
พิกัดนั่นคือกุญแจสู่ต้นไม้โลก!
ทำไมเขาถึงถามเช่นนั้น?จักรวรรดิคริมสันพบอะไรบางอย่างแล้ว?
“พวกนายเจออะไรงั้นหรอ?”หานเซี่ยวถามเสียงต่ำ
“ฉันไม่รู้ฉันไม่ใช่นักวิจัย”ทาราคอฟส่ายหัว”แต่ทว่า หัวหน้าทีมวิจัยที่รับผิดชอบด้านนี้ดูเหมือนจะได้อะไรบางอย่าง เขาขอให้ฉันถามนายถึงสถานการณ์ตอนนั้น”
หลังมรดกของเทพเอสรั่วไหลพิกัดก็ถูกซ่อนไว้ในข้อมูลมากมายและดูเหมือนจะไม่มีนัยสำคัญอะไร ทีมวิจัยใช้เวลาไปกับการวิจัยสิ่งอื่นมากกว่าพิกัดชุดนี้
แต่หลังใช้เวลาหลายปีทีมวิจัยก็วิจัยมรดกส่วนใหญ่ของเทพเอสจนหมดแล้วและดังนั้นจึงมาดูพิกัดลึกลับ
“ฉันพบโดยบังเอิญว่าเทพเอสกำลังค้นหาพิกัดเหล่านี้แต่ก็ยังไม่ชัดเจนถึงรายละเอียด”
หานเซี่ยวถอนหายใจโล่งอกและปิดบังความจริงไว้
“อืม”ทาราคอฟไม่สงสัยในคำตอบ
หลังคุยกันต่อหานเซี่ยวก็ปิดภาพฉายระยะไกลและกลับมาห้องเขาพร้อมถอนหายใจ
…
ตามข้อสรุปการประชุมจักรวรรดิได้ประกาศเริ่มการสำรวจระยะสองต่อจักรวาล
หลังการสำรวจระยะแรกกองทัพแบล็คสตาร์ก็คุ้นเคยกับขั้นตอนนี้ดีและได้เตรียมการมาอย่างดี พวกเขายังเริ่มการสำรวจในช่วงเริ่มต้นระยะสองแล้ว
เขาได้รับมอบหมายให้สำรวจกลุ่มดาวรัสโซ่โดยมีกองกำลังสำรวจมากมายติดตามเขาไปด้วยงานของทุกองค์กรมีระเบียบและรอบคอบมากขึ้น
ภารกิจเนื้อเรื่องหลัก[โลกริบหรี่]ของหานเซี่ยวยังได้รับการปรับใหม่
ภารกิจรอบสอง[โลกริบหรี่]สำเร็จ
คะแนนภารกิจท่านคือ: A
ท่านได้รับค่าประสบการณ์1500ล้าน x2รางวัลสุ่ม 1500แต้มสะสมจักรวรรดิ และบัตรอัญเชิญตัวละครเปล่าหนึ่งใบ
ความคืบหน้าปัจจุบัน[ผู้บุกเบิกการสำรวจ: 2/3
รอบสามได้รับการปรับใหม่
คำแนะนำภารกิจ: ทำการสำรวจระยะสองให้สำเร็จ
พื้นที่สำรวจปัจจุบัน: กลุ่มดาวรัสโซ่
แต้มสำรวจส่วนตัว: 0
แต้มสำรวจทั้งหมด: 0
คะแนนปัจจุบัน: E-
รอบสามของภารกิจคือให้เขาสำรวจกลุ่มดาวรัสโซ่ไม่มีปัญหาอะไรในการทำภารกิจให้สำเร็จและวัตถุประสงค์หลักก็คือการเพิ่มคะแนนภารกิจตัวเอง
หานเซี่ยวยังมั่นใจมากถึงเรื่องนี้แม้จะมีองค์กรมากมายกำลังสำรวจภูมิภาคเดียวกับเขา ข้อได้เปรียบของเขาคือความคุ้นเคยกับพื้นที่ แม้เขาอาจจะไม่สามารถบรรลุคะแนน S+ได้ คะแนนAก็ไม่ควรยาก
ด้วยกองกำลังสำรวจที่ถูกส่งออกไปหานเซี่ยวจึงอยู่ในวังแบล็คสตาร์และแค่ส่งกายสถิตกับกองทัพจักรกลไปกลุ่มดาวรัสโซ่
เหล่านักเรียนยังถูกส่งออกไปยังกองกำลังต่างๆหานเซี่ยวจงใจแยกเนโร่กับมีอาออกจากกัน
ตามความเข้าใจเอากลุ่มดาวรัสโซ่ไม่มีอะไรผิดปกติ กองยานสำรวจจะแค่พบปัญหาในกลุ่มดาวแสงธุลีเท่านั้น
หานเซี่ยวกำลังรอให้ปัญหาปะทุขึ้นอีกด้านหนึ่งเพื่อที่เขาจะได้โยนเนโร่ไปได้เขาได้คิดแผนนับสิบเพื่อกระตุ้นภารกิจเนื้อเรื่องของเนโร่ เขาต้องไม่ปล่อยให้เรื่องสงบแน่หากเขาทำให้เนโร่รู้สึกสิ้นหวังและเจ็บปวดไม่ได้
เฟย์ดินยังเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านจิตอยู่แล้วต่อให้เงาถูกทิ้งไว้ในหัวใจเนโร่ เฟย์ดินก็ยังจัดการได้
…
ที่ชายแดนกลุ่มดาวแสงธุลีหนึ่งในกองยานสำรวจของจักรวรรดิเริ่มสร้างประตูดาวหลังมาถึงไม่นาน
ตอนนี้เองกลุ่มหนึ่งกำลังสอดแนมกองยานนี้ไกลออกไปหลายระบบดาวด้วยอุปกรณ์พิเศษ
กองยานสำรวจของจักรวรรดิถูกแสดงบนหน้าจอใหญ่ภายในห้องประชุมมีสิ่งมีชีวิตที่มีเปลืกอ เหมือนกุ้งสีเทานั่งในห้อง พวกเขาคือเผ่าคุนเด้นั่นเอง
ทุกคนในห้องเงียบไปเมื่อเห็นกองยาน
จากนั้นผู้นำเผ่าคุนเด้ก็กล่าวช้าๆ
“ข้อมูลบนยานนั้นเป็นของจริงมีสิ่งมีชีวิตมากมายในจักรวาลและมนุษย์ต่างดาวกำลังหมายตาดาวเรา”
ทุกคนเงียบไป.ไอลีนโนเวล.
เผ่าคุนเด้ได้รับการพัฒนาช้าๆตลอดหลายล้านปีและเริ่มเดินบนเส้นทางอารยธรรมกาแล็กซี่เมื่อหมื่นปีก่อนอาณาเขตพวกเขาขยายออกไปอย่างต่อเนื่อง ยึดดาวได้มากขึ้น
มันไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่พบกับเผ่าทรงภูมิปัญญาเลยแต่ทว่า เผ่าที่พวกเขาพบอ่อนแอกว่าพวกเขามากและต้องกลายเป็นสัตว์เลี้ยงหรือทาสพวกเขา
เผ่าคุนเด้เคยสงสัยว่ามีอารยธรรมที่ทรงพลังกว่าในจักรวาลหรือไม่แต่พวกเขาก็ยังไม่เคยพอ หลังผ่านไปหลายปี พวกเขายึดครองได้หลายระบบดาวและเป็นอารยธรรมที่ทรงพลังสุดในกลุ่มดาวนี้
แต่ทว่าพื้นที่สังเกตการณ์ของพวกเขาจำกัดไว้แค่กลุ่มดาวแสงธุลี
โดยไม่มีสังคมกาแล็กซี่หรืออารยธรรมอื่นใดให้ติดต่อด้วยสถานที่นี้จึงเหมือนเกาะโดดเดี่ยว เผ่าคุนเด้ไม่มีความเข้าใจถึงระบบดาวและกลุ่มดาว โครงสร้างเทคโนโลยีก็ไม่ได้สมบูรณเท่าอารยธรรมกาแล็กซี่ พวกเขาไม่มีเทคโนโลยีประตูดาว และเทคโนโลยีไฮเปอร์ไดรฟ์ก็ล้าหลัง พวกเขาทำทได้แค่ใช้ห้องแช่แข็งเพื่อเดินทางระยะยาว
วันเดียวของการเดินทางสำหรับสังคมกาแล็กซี่อาจเป็นเวลานานนับสิบปีสำหรับเผ่าคุนเด้
แต่ทว่าทั้งหมดนี้เปลี่ยนไปเมื่อไม่กี่ปีก่อน
เผ่าคุนเด้ยังจำวันที่ซากยานตกลงบนดาวอาณานิคมพวกเขาได้มีเทคโนโลยีล้ำหน้ามากมายที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อนและข้อมูลอารยธรรมต่างดาวนับไม่ถ้วน
ในที่สุดพวกเขาก็พบกับอารยธรรมที่ทรงพลังกว่าพวกเขา!
หลังค้นคว้าเทคโนโลยีบนยานเผ่าคุนเด้ก็พัฒนาเทคโนโลยีด้านต่างๆได้มากมายเช่นไฮเปอร์ไดรฟ์ ประตูดาวและเครือข่ายควอนตัม
แต่ทว่าความตกใจก็มาพร้อมความประหลาดใจ ยานอวกาศยังบันทึกอารยธรรมต่างดาวที่ทรงพลังสุดชื่อจักรวรรดิคริมสัน
ข้อมูลแสดงว่าจักรวรรดิคริมสันไม่ใช่แค่อารยธรรมที่ทรงพลังแต่เป็นนักล่าระดับจักรวาล ทุกอารยธรรมที่พวกเขาค้นพบมีแค่สองเส้นทางให้เดิน ถูกทำลายหรือยอมจำนน
ผลลัพธ์ของการยอมจำนนจะเป็นการเสียโอกาสพัฒนาและพวกเขาจะไม่มีทางไต่เต้าขึ้นได้อีก อนาคตพวกเขาจะหยุดนิ่ง เป็นได้แค่บริวารไปตลอดกาล
เผ่าคุนเด้สงสัยในความจริงของข้อมูลแต่เทคโนโลยีทั้งหมดของยานเป็นของจริง เช่นนั้น นี่จึงเป็นการรับประกันถึงข้อมูล มันน่าเสียดายที่มีเพียงซากศพบนยาน ไร้ชีวิตใดให้สอบปากคำ
บันทึกข้อมูลของยานระบุว่าสมาชิกยานคือกลุ่มผู้หลบหนีพวกเขากำลังหลบหนีการขยายตัวของจักรวรรดิและยังประกาศว่าจักรวรรดินั้นอยู่ห่างจากดาวคุนเด้อีกไม่ไกล พวกเขายังบันทึกเส้นทางที่เป็นไปได้ที่จักรวรรดิจะใช้เดินทาง และนี่ก็ทำให้ชาวคุนเด้ไม่สบายใจ
ข้อมูลบนอุปกรณ์เฝ้าระวังทางไกลยังรวมในฐานข้อมูลด้วยและเผ่าคุนเด้ก็สร้างอุปกรณ์พร้อมส่งคนไปจับตาดูตำแหน่งต่างๆที่จักรวรรดิอาจปรากฏ หลายปีต่อมา ข้อมูลชุดนี้ก็เป็นจริง มีกองยานลึกลับปรากฏไม่ไกลจากอาณาเขตพวกเขา
“นักล่าปรากฏตัวแล้วเราควรทำยังไง?ควรติดต่อกับพวกเขาอย่างเป็นมิตรหรือริเริ่มโจมตี?”ผู้นำคุนเด้กล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง
หนึ่งในเบื้องบนทุบโต๊ะ”เราไม่อาจยอมจำนนได้!เราต้องเตรียมการเราต้องหาเส้นทางถอยกันก่อนและหาบ้านใหม่ให้ลูกหลานเรา จากนั้นเราควรคว้าโอกาสโจมตีพวกมันก่อนที่พวกมันจะพบเรา!”
“พวกมันทรงพลังเกินไปเราไม่สามารถชนะได้ เผ่าเราอาจถูกกวาดล้างแทน เราไม่สามารถเริ่มสงครามกับพวกมันได้และควรติดต่อกับพวกมันก่อน…”
“หยุดเพ้อฝันเสีย!ผลลัพธ์เดียวของการติดต่อกับพวกมันคือกลายเป็นขี้ข้าแกเต็มใจจะเสียอนาคตของเราและกลายเป็นเผ่าเหล่านั้นที่เป็นทาสเราหรือ?”
“บางทีอีกฝ่ายอาจไม่ใช่นักล่าแต่เป็นอารยธรรมที่เป็นมิตร?”
“อารยธรรมที่เป็นมิตร?แกได้รับตำแหน่งนี้มาได้ยังไง?อย่าลืมเราเคยเป็นมิตรกับเผ่าอื่นไหม?จะมีอารยธรรมที่เป็นมิตรในจักรวาลจริงหรือ?!พวกแกอยากยอมจำนนและให้ทั้งเผ่าเราเป็นทาสหรือไง!?”
“แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าข้อมูลนั้นเป็นจริงหากไม่ได้ลอง?”
“แกบ้าหรือเปล่า?ทักษะเทคโนโลยีทั้งหมดล้วนเป็นจริงทำไมแกถึงยังสงสัยในข้อมูลอีก!?”
เบื้องบนยังคงโต้เถียง
หากไม่ใช่การตกลงมาของยานลำนั้นหลายคนคงตกลงที่จะติดต่อกับพวกต่างดาวก่อน
แต่ทว่าหลายคนเชื่อว่าอารยธรรมต่างดาวเหล่านี้คือนักล่าที่จะมายึดดินแดนพวกเขา
ในขณะนี้ความผันผวนแปลกๆสามารถเห็นได้ในตาของผู้นำ และเขาก็กล่าวเสียงเย็น”หยุดเถียงกันเสีย ฉันตัดสินใจได้แล้ว…”