The Legendary Mechanic - ตอนที่ 977 เปิดมุมมองใหม
เสียงของกระแสไฟฟ้าพลันดังบนบัลลังก์จักรกลขณะที่สายฟ้าของพลังจักรกลระเบิดออกมา ทิ้งรอยไหม้สีดำไว้บนพื้น
สมองเขารู้สึกเสียวซ่าเล็กน้อยราวกับถูกกระตุ้นด้วยไฟฟ้า
ด้วยแสงแวววาวในตาเขาหานเซี่ยวสามารถรู้สึกได้ว่าเซลล์ในตัวเขากำลังทำงานอย่างเต็มกำลัง
หลังจากนั้นไม่กี่นาทีปรากฏการณ์ดังกล่าวก็เริ่มจางหายไป โลกตรงหน้าเขาเปลี่ยนไป ตอนนี้มีการรับรู้เชิงจักรกลที่ชัดเจนขึ้นและวิสัยทัศน์เขาก็เจาะลึกไปในโครงสร้างจุลภาค
“อัศจรรย์มาก…”
หานเซี่ยวหรี่ตาชื่นชมกับการเปลี่ยนแปลง
การใช้บัตรอัญเชิญตัวละครนั้นแตกต่างจากการครอบครองจริงๆตอนนี้ [สัมผัสจักรกลสมบูรณ์] ส่งผลให้ร่างกายเขาเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง
ค่าสถานะพื้นฐานเขาไม่เปลี่ยนแต่สิ่งที่เพิ่มมาคือความสัมพันธ์กับเครื่องจักร รวมถึงพลังจักรกลเขา ผ่านอวัยวะรับรู้ เครื่องจักรนั้นให้ความรู้สึกใกล้ชิดและคุ้นเคยกับเขามากขึ้น
ผลกระทบหลักของสัมผัสจักรกลสมบูรณ์คือพัฒนาความสัมพันธ์กับเครื่องจักรทั้งหมด1.4 เท่า และนี่จะทำให้เขามีความสัมพันธ์กับเครื่องจักรเพิ่มขึ้นจากสองพันเป็นสามพัน นี่มากพอให้เขาก้าวกระโดดขึ้นหลายชั้น!
ยังมีผลเสริมอีกด้วยหนึ่งคือเพิ่มคุณภาพเครื่องจักรเขา พัฒนามันไปหนึ่งหรือสองระดับ ซึ่งแตะที่ระดับสีชมพู ปัจจุบัน อุปกรณ์ของหานเซี่ยวล้วนเป็นสีส้ม และโบนัสนี้ก็ไม่ได้สำคัญนัก อีกอันที่สำคัญคือการ+4ต่อทักษะช่างกลทั้งหมด ซึ่งสามารถทำลายผ่านขีดจำกัดสูงสุดได้ นี่ช่วยให้เขามีช่องสำหรับอาวุธอัครฑูตมากขึ้น
สัมผัสจักรกลสมบูรณ์ถูกจัดเป็นพรสวรรค์ส่วนตัวและความยากของการพัฒนามันก็แตกต่างกันไปตามแต่บุคคลอัจฉริยะบางคนจะเข้าใจมันได้ง่ายๆ ส่วนบางคนจะไม่สามารถเรียนมันได้ต่อให้พลังส่วนตัวพวกเขาจะเหลือเชื่อแค่ไหนก็ตาม [สัมผัสจักรกลพื้นฐาน] ของหานเซี่ยวเป็นรางวัลสุ่ม ดังนั้นโอกาสที่เขาจะพัฒนามันเป็นสัมผัสจักรกลสมบูรณ์จึงเป็น 0
พูดง่ายๆพรสวรรค์เช่นนั้นต้องได้รับการปลุกหรือปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก ยิ่งโต ความยากการเรียนก็จะเพิ่มขึ้น
“สุดท้ายฉันก็ได้รับสัมผัสจักรกลสมบูรณ์ และความสามารถต่อสู้ทั่วไปของฉันก็เหมือนกับตอนฉันใช้บัตรอัญเชิญแล้ว”
หานเซี่ยวพอใจเขาอยากได้ความสามารถนี้มานานแล้ว!
การครอบครองพลังเป็นของตัวเองถือเป็นหลักประกันที่ดีสุดและการเปลี่ยนไพ่ตายที่เขาพึ่งพาแบบฉับพลันให้เป็นพลังต่อสู้จริงจะช่วยให้เขามั่นคงขึ้นตอนนี้ คุณสมบัติเขาในฐานะช่างกลผู้อยู่เหนือมั่นคงแล้ว และช่องว่างระหว่างเขากับจักรพรรดิช่างกลก็ลดลงไปอีก
แต่ทว่ามันก็ยังเร็วเกินไปหากคิดสู้กับแมนิสัน อีกฝ่ายครอบครองสัมผัสจักรกลสมบูรณ์เช่นกัน
หานเซี่ยวไม่รีบแม้เขาจะมาถึงอาณาจักรผู้อยู่เหนือ เขาก็แตกต่างจากทุกคน เขายังเติบโตได้อีก
ก่อนการอัปเดทครั้งใหญ่ต่อไปหานเซี่ยวไม่อยากยุ่งกับแมนิสัน เขาอยากใช้โอกาสนี้ขณะที่แมนิสันคิดว่าเขาพัฒนาตัวเองในเงามืดที่อีกฝ่ายบดบังไว้เอง
แม้หานเซี่ยวจะไม่กลัวแมนิสันเขาก็ไม่อยากลงมือก่อนรากฐานเขาภายในโลกริบหรี่จะมั่นคง เหนือสิ่งอื่นใด แมนิสันมีสหพันธ์หนุนหลัง และหานเซี่ยวก็ไม่มีทางต่อต้านอีกฝ่ายได้
“แต่ทว่าแม้สัมผัสจักรกลสมบูรณ์จะเป็นส่วนหนึ่งของพลังจริงฉันแล้ว มันก็ไม่ได้หมายความว่าไพ่ตายฉันหายไป”
การใช้บัตรอัญเชิญตัวละครไม่เกี่ยวกับความสามารถเขาและการใช้ผลที่คล้ายกับก็จะมอบโบนัสซ้อนทับกัน
กล่าวอีกนัยหนึ่งบัตรอัญเชิญตัวละครสัมผัสจักรกลสมบูรณ์ยังเป็นประโยชน์ต่อเขา
ในเมื่อเขาได้รับสัมผัสจักรกลสมบูรณ์มาแล้วนี่จะนำไปสู่โบนัสที่ซ้อนทับกัน
การซ้อนทับของสองทักษะจะน่ากลัวแค่ไหน?มันอาจเป็นสัมผัสจักรกลสมบูรณ์สองเท่าอันเดียวในจักรวาล แค่คิดก็ทำให้เขาขนลุกแล้ว
หากเขาใช้มันต่อหน้าแมนิสันมุมมองทั้งหมดของยุคคงแตกเป็นเสี่ยงๆ
“มันดีกว่าที่ฉันจะเก็บบัตรเปล่าไว้ใช้กับเรย์โนลกับเนโร่และไม่ว่าฉันจะสามารถได้รับทักษะหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับโชคฉัน”
หลังมองทักษะนี้อยู่นานในที่สุดหานเซี่ยวก็เลือกปิดคำอธิบายพรสวรรค์
เขากลับไปรายชื่อทักษะเขาเลื่อนหาแถวพิมพ์เขียวและมองหาพิมพ์เขียวใหม่ที่เขาเพิ่งได้รับ
ตัวประกบมิติเวลา: ใช้เทคโนโลยีมิติเวลาที่แปลกประหลาด เปิดเส้นเวลาที่แยกออกจากเส้นเวลาหลัก ด้วยการระบุแผนปฏิบัติการที่สมบูรณ์ คนสามารถสร้างห่วงโซ่เวลาที่มีจุดเริ่มต้นและจุดจบได้ ทำลายผ่านความต่อเนื่องของมิติเวลาโดยการกระโดดผ่านจุดต่างๆ ของเส้นเวลา มันสามารถใช้กับวัตถุใดก็ได้
การใช้อุปกรณ์นี้จะก่อให้เกิดผลเสียที่ไม่สามารถย้อนกลับได้วัตถุที่ถูกประกบโดยเวลาและมิติจะได้รับการแก้ไขโดยเส้นเวลาหลัก และเมื่อการแก้ไขสำเร็จ วัตถุจะถูกทำลายพร้อมกับเส้นเวลาแยกที่ถูกตัด
หมายเหตุ: หากท่านเป็นแฟนตัวยงของอุปกรณ์ฆ่าตัวตาย อุปกรณ์นี้ก็เหมาะกับท่านมาก แม้เทคโนโลยีจะยังไม่สมบูรณ์ มันก็ยังใช้กับปฏิบัติการฆ่าตัวตายได้!
หานเซี่ยวขโมยเทคโนโลยีประกบมิติเวลามาจากเผ่าคุนเด้เรียนรู้มันและลงทุนค่าประสบการณ์เพื่อทำความเข้าใจเทคนิคนี้ก่อนจะได้รับพิมพ์เขียวใหม่บนหน้าต่างสถานะ หลังใช้เวลากับมันสักพัก ในที่สุดเขาก็สร้างต้นแบบได้เสร็จ
ผลิตภัณฑ์สมบูรณ์มีลักษณะคล้ายตึกสามชั้น
ตลอดหลายวันมานี้เขาได้ทำการทดสอบง่ายๆ และแก้จุดบกพร่องของมัน การทำงานมันปกติมาก แต่เวลาเริ่มใช้งานนานไปห่อย มันยังไม่สามารถใช้ได้ตามใจชอบ มันต้องเชื่อมเป้าหมายก่อนถึงจะมีผล
โดยปกติแล้วหานเซี่ยวย่อมไม่ใช้อุปกรณ์อันตรายเช่นนี้กับตัวเอง แต่หลังคิดอยู่หลายวัน เขาก็สรุปได้ว่าของชิ้นนี้เป็นประโยชน์มากต่อสายช่างกล
วัตถุที่เหมาะสมสุดในการใช้เทคโนโลยีประกบมิติเวลาย่อมเป็นเครื่องจักรจำนวนมาก!
การเสียกองทัพจักรกลจะไม่ทำให้เขาปวดใจอีกและคุณสมบัติเพิ่มเติมนี้ก็ทำให้เขาใช้กลยุทธ์ที่เป็นไปไม่ได้ การพัฒนาความสามารถเชิงรบเช่นนี้คล้ายกับการแลกเปลี่ยนชีวิตคนคนหนึ่งเพื่อแลกกับการจู่โจมฉับพลัน แต่ทว่า สำหรับช่างกลที่ใช้กองทัพจักรกล มันไม่เสียหายอะไรเลย
สองนี่สามารถใช้เป็นอาวุธสังหารเชิงกลยุทธ์รูปแบบใหม่ได้ เทียบกับระเบิดไซโอนิคพกพา อาวุธพันธุกรรมชีวภาพ และอื่นๆ ตัวประกบมิติเวลาซ่อนเร้นและตรวจจับได้ยากกว่า เหมาะกับภารกิจลอบสังหารและทำลายล้างกว่า
หานเซี่ยวลูบคาง novel-lucky
“แต่ทว่าฉันควรลดการทำงานมันให้ได้มากสุด เมื่อจักรวรรดิพบพลังของเทคโนโลยีประกบมิติเวลา พวกเขาจะเริ่มซ่อนมันและผูกขาดเทคโนโลยีนี้ แม้จักวรรดิจะไม่บังคับให้ฉันส่งมอบเทคโนโลยีในมือ พวกเขาก็จะขอให้ฉันเก็บเป็นความลับ”
เขาไม่ได้ปิดบังเรื่องที่เขาได้รับเทคโนโลยีประกบมิติเวลาจากจักรวรรดิเขาแค่ยึดมาก่อนที่จักรวรรดิจะผูกขาด ไม่จำเป็นต้องซ่อนอะไร
การปล่อยให้จักรวรรดิรู้ว่าเขาครอบครองเทคโนโลยีดังกล่าวย่อมเพิ่มอำนาจเขาและในเมื่อเขาได้รับเทคโนโลยีก่อนจักรวรรดิจะให้ความสำคัญมันจึงเป็นข้ออ้างที่ถูกต้องและไม่ใช่เรื่องน่าอาย นอกจากนี้ หากเขาใช้เทคนิคนี้ต่อหน้าคนอื่นในอนาคต เขาจะเผยความจริงที่เขาครอบครองเทคโนโลยี งั้นสู้เปิดเผยตอนนี้และให้จักรวรรดิปกป้องเขาจะดีกว่า
ไม่ว่ายังไงเขาจะไม่คายสิ่งที่กินเข้าไปออกมา
เขาส่ายหัวนำกาลอวกาศแอมเบอร์ออกมา ทำให้มันลอยอยู่กลางอากาศก่อนเชื่อมต่อกับตัวประกบมิติเวลา
เขาเตรียมพร้อมจะทดสอบว่ากาลอวกาศแอมเบอร์จะได้ผลกับเทคโนโลยีประกบมิติเวลาไหมนี่คือการทดลองครั้งแรก
การทำงานของตัวประกบมิติเวลานั้นซับซ้อนและหานเซี่ยวก็ต้องใช้เวลาสักพักก่อนจะเริ่ม
ฮึ่ม!
อุปกรณ์ทั้งหมดเริ่มสั่นและลำแสงสีรุ้งก็ส่องบนกาลอวกาศแอมเบอร์จากท่อพลังงาน
เขาก้าวถอยหลังเล็กน้อยรอด้วยความเงียบจนกระทั่งแรงสั่นหยุดลง
“การประกบสำเร็จ…”
ดวงตาหานเซี่ยวเป็นประกายและตัดการเชื่อมต่ออนุภาคนาโนที่เกาะกาลอวกาศแอมเบอร์ไว้ กาลอวกาศแอมเบอร์ตกลง ผิวมันยังเรียบเนียนไร้ตำหนิราวกับมันไม่ได้ผ่านการเปลี่ยนเส้นเวลามาก่อน
เขาหรี่ตาแคบก้าวไปหยิบแอมเบอร์ขึ้นมา เขาตระหนักว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ หลังตรวจสอบสักพัก
“ดูเหมือนเทคโนโลยีประกบมิติเวลาจะไม่มีผลกับแอมเบอร์”
เมื่อได้ข้อสรุปนี้หานเซี่ยวก็ถอนหายใจโล่งอก นี่เป็นข่าวดีต่อเขา
ในเมื่อแม้แต่เทคโนโลยีประกบมิติเวลาก็ไม่สามารถทำให้กาลอวกาศแอมเบอร์แตกได้มันก็แสดงว่ากาลอวกาศแอมเบอร์ยังไม่มีทางแก้ได้ ต่อให้จักรวรรดิหรือองค์กรอื่นได้รับเทคโนโลยีนี้ แอมเบอร์ในมือเขาก็ยังมีบทบาทที่ไม่สามารถแทนที่ได้
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้หานเซี่ยวก็ทำการทดลองใหม่
เขาประกบเครื่องจักรธรรมดาก่อนใช้กาลอวกาศแอมเบอร์เพื่อสร้างอำพันห่อหุ้มตรวจสอบว่าผลของเทคโนโลยีประกบมิติเวลาจะมีผลไหม
หลักการของกาลอวกาศแอมเบอร์คือการทำให้มิติเวลาแข็งตัวและเครื่องจักรที่ถูกหุ้มด้วยมันจะไม่ได้รับผลข้างเคียงของการประกบมิติเวลาไม่สนใจพลังแก้ไขของเส้นเวลา
แต่ในเวลาเดียวกันผลกระทบปกติของการประกบมิติเวลาจะไม่เกิดขึ้นด้วย
แต่ทว่าหลังลบอำพันออก เครื่องจักรก็จะยังถูกแก้ไขโดยเส้นเวลาและถูกกำจัด ปล่อยพลังงานนับไม่ถ้วนและแทบระเบิดคลังสินค้าเขา
ในกรณีนี้นี่หมายความว่ากาลอวกาศแอมเบอร์สามารถแยกวัตถุได้แค่ชั่วคราวและไม่ได้หักล้างผลข้างเคียงของเทคโนโลยีประกบมิติเวลาอย่างสมบูรณ์…ดังนั้นมันจึงเป็นได้แค่โลงศพ? มันเหมาะกับชื่อมันจริงๆ หานเซี่ยวคิดกับตัวเองพลางปัดฝุ่นบนตัว
อาจมีวิธีอื่นอีกเช่นเริ่มการทำงานของการประกบมิติเวลาล่วงหน้า จากนั้นก็ผนึกมัน หยิบยืมผลของอำพัน ฉันสามารถส่งมันไปยังตำแหน่งเป้าหมายได้ก่อนคลายอำพันและเปิดใช้ผลของการประกบ..อืม มันคล้ายกับระเบิดเวลา
หลังคิดๆดู หานเซี่ยวก็รู้สึกว่านี่เป็นแนวทางที่สมควรนำไปใช้และเขาก็ต้องใช้เวลาเพื่อสำรวจความเป็นไปได้ต่างๆ
หลังทดสอบอีกหลายครั้งเพื่อให้มั่นใจว่านี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญเขาก็เก็บตัวประกบมิติเวลาไปและนำอุปกรณ์สื่อสารเขาออกมา ติดต่อผู้บัญชาการของกองทัพสำรวจ ทาราคอฟ
เมื่อสายเชื่อมต่อใบหน้าใหญ่ก็ปรากฏบนจอ ด้วยพื้นหลังเป็นห้องประชุม
“โอ้แบล็คสตาร์ มีเรื่องอะไร?”
“นายกำลังประชุม?ฉันค่อยโทรหาทีหลังก็ได้”
“แค่การพูดคุยประจำวันไม่มีอะไรสำคัญหรอก”
หานเซี่ยวยิ้ม”การเคลื่อนไหวของศัตรูดูแปลกๆ ฉันเชื่อว่านายคงพบแล้วเหมือนกัน”
“ใช่ศัตรูดูเหมือนจะอยากล่อเราเข้าไป นายมีข้อมูลงั้นหรอ?”
“ประมาณนั้นฉันส่งกองทัพไปไม่นานมานี้และบุกเข้าฐานข้อมูลศัตรู ฉันพบว่าพวกมันตั้งใจใช้กลยุทธ์ผืนดินมอดไหม้ วางแผนกลืนกินทั้งระบบดาวนี้ด้วยพลังงานไซโอนิคแรกเริ่ม สร้างความเสียหายให้กองยานเรา ฉันมีพิกัดของพลังงานที่พวกมันฝังรวมถึงการเคลื่อนไหวของกองยานทั้งหมด”
“ทำได้ดีมาก”ดวงตาของทาราคอฟสว่างขึ้น เขารู้สึกโล่งใจ
กลุ่มผู้อยู่เหนือส่วนใหญ่ไม่สนใจศึกนี้เลยอย่างแรก พวกเขามีศักดิ์ศรีและไม่คิดลดหัวมารังแกอารยธรรมที่ไร้ผู้ใช้พลัง สอง พวกเขากลัวว่าศัตรูพวกเขาจะทิ้งระเบิดพลังงานไซโอนิคแรกเริ่มใส่ พวกเขาจึงแค่ส่งคนของพวกเขามาตอบสนองต่อการเรียกทัพ
แต่ทว่าแบล็คสตาร์กลับลงมือเอง เขาสมควรกับเป็นคนที่จักรวรรดิให้ความสนใจ
“ฉันจะส่งข้อมูลต่อให้นายทีหลังอย่าลืมให้เครดิตฉันด้วยละ” หานเซี่ยวพูดติดตลก
“ฮ่าๆมั่นใจได้เลย ผลงานนี้จะเป็นของนาย” ทาราคอฟอารมณ์ดีมากหลังได้รับข่าวดี
หานเซี่ยวยิ้มก่อนวางสาย
ด้วยสัมผัสจักรกลสมบูรณ์และเทคโนโลยีประกบมิติเวลาในมือเขาวางแผนจะจบสงครามให้เร็วที่สุดเพื่อกลับมาทำงานสำรวจปกติ
อีกจุดประสงค์ของการให้ข้อมูลเพื่อเพิ่มคะแนนภารกิจสงครามเผ่าคุนเด้เนื่องจากเป้าหมายอื่นเขาสำเร็จแล้ว เขาก็อาจช่วยจักรวรรดิให้จบการต่อสู้เร็วขึ้นได้
เพราะเขาไม่ตั้งใจปกปิดเทคโนโลยีประกบมิติเวลาหานเซี่ยวจึงไม่ลังเล นำข้อมูลทั้งหมดออกมาและส่งไปโดยตรง
…
ทาราคอฟหัวใจและจัดเตรียมทันทีหลังได้รับข้อมูลของหานเซี่ยว
กองทัพแนวหน้าลอบถูกส่งไปพิกัดที่แสดงบนข้อมูลเพื่อขัดขวางแผนการศัตรู
ในข้อมูลที่หานเซี่ยวให้มามีพิกัดและการเคลื่อนไหวของกองยานเผ่าคุนเด้ทั้งหมดถูกทำเครื่องหมายไว้ นี่เทียบเท่ากับการเปิดโปงแผนการทั้งหมดของศัตรู
กองทัพไม่ทำอะไรเชื่องช้าด้วยความระมัดระวังอีกแต่กลับกระจายไปอย่างมีจุดมุ่งหมาย มุ่งเป้าไปยังกองยานหลักของเผ่าคุนเด้
เผ่าคุนเด้ยังไม่รู้ว่าแผนการทั้งหมดของพวกเขาถูกเปิดโปงและตกเป็นเป้าโดยจักรวรรดิ ตอนนี้ พวเขายังคงประชมหารือแผนการรบกันอยู่
ด้วยความช่วยเหลือของหานเซี่ยวจักรวรรดิจึงช่วยชีวิตทหารนับไม่ถ้วนไว้ได้ แถมยังบดขยี้เผ่าคุนเด้ได้ง่ายขึ้นผ่านข้อมูล
สมดุลระหว่างชนะหรือแพ้เอนไปทางจักรวรรดิอย่างสมบูรณ์