The Legendary Mechanic - ตอนที่ 992 พายุ 1
ข่าวการสำรวจระยะสี่แพร่กระจายไปทั่วจักรวาลราวกับไฟป่า
ทั้งจักรวาลตั้งตารอคอยวันนี้มานานแล้ว และทุกทุ่งดาวต่างก็คึกคัก อารยธรรมต่างๆเริ่มรับสมัครกำลังคนละซื้อทรัพยากร
ประชากรกาแล็กซี่ทั่วไปก็ตื่นเต้นเหมือนกัน พวกเขาอดใจไม่ไหวที่จะสำรวจทุ่งดาวใหม่และหลายคนก็อยากเสีย่งโชคเพื่อความร่ำรวย
กองทัพและทรัพยากรนับไม่ถ้วนถูกระดมทั่วทั้งจักรวาล
คลื่นอพยพจำนวนมากหลั่งไหลไปยังโลกริบหรี่จากทุกทิศทาง
….
บนดาวเคราะห์เหมืองแดง มีนักโทษจำนวนมากกำลังขุดทรัพยากร
ใจกลางเทือกเขาวงกลม มีคุกสีเทาอยู่
“ยินดีด้วย ในที่สุดก็ได้ออกมา”
หลังก้าวออกพื้นที่เฝ้าระวังของคุก แม้แต่อากาศก็ยังหอมหวานขึ้น มเอมองผู้คุมเรือนจำที่ยิ้มให้เขา อีวานก็รู้สึกราวกับเขาได้รับการปลดปล่อย
ในที่สุดเขาก็สามารถทิ้งชุดนักโทษที่เต็มไปด้วยเหงื่อได้และสวมชุดเรียบง่ายพร้อมกระเป๋าเดินทางในมือ มันนานแล้วที่เขาไม่รู้สึกสบายใจเช่นนี้
อุปกรณ์ลอยฟ้าหยุดไม่ไกล นี่คือรถบัสของเรือนจำที่ทำหน้าที่ส่งนักโทษไปยังท่ายานนอดชั้นบรรยากาศ ตอนนี้ มีคนในชุดทหารยืนอยู่ข้างรถ โบกมือให้เขา
แม้มันจะนานแล้วที่พวกเขาไม่ได้พบกัน อีวานก็ยังจำชายในชุดทหารได้
เขาอดยิ้มไม่ไดและกอดอีกฝ่าย
“ฉันมารับนาย นายเป็นไงบ้าง?”
“ทำงาน กิน นอน ทุกวัน”
พวกเขาตื่นเต้นมากที่ได้พบกันอีกครั้งและก็มีหัวข้อสนทนาไม่รู้จบ
อีวานสำรวจเพื่อนเขาและคร่ำครวญ”เวลาผ่านไปเร็วจริง นายเคยเป็นเด็กตัวผอมที่วิ่งตามหลังฉันก่อนฉันเข้าคุก ใครจะไปคิดว่าเด็กคนนั้นจะเป็นทหาร?”
“นายเองก็เปลี่ยนไปมากเหมือนกัน อย่ายืนเฉยสิ ขึ้นมา”
ทั้งคู่ขึ้นรถไปยังท่ายานและขึ้นยานเพื่อไปดาวอาณานิคมไม่ไกล
คุกนี้ตั้งอยู่บนดาวเหมืองที่ล้อมด้วยดาวอาณานิคมต่างๆ มีนักโทษจำนวนมากอยู่ที่คุกซึ่งเป็นแรงงานขุดเหมือง
เพื่อนของอีวานได้จ้องห้องพักโรงแรมชั้นดีและเลี้ยงอาหารหรูอีวาน
มันนานมาแล้วตั้งแต่ที่อีวานไม่ได้ลิ้มรสอย่างอื่นนอกจากสารอาหารเหลว เขากลืนอาหารทั้งหมดและยัดจนแน่นท้อง
อีวานลูบท้องป่อง และถอนหายใจด้วยความพึงพอใจ
ตอนนี้เอง เพื่อนเขานำกล่องออกมาและเปิดขึ้น มีอุปกรณ์สื่อสารกาแล็กซี่ ตัวแปลภาษาและสิ่งจำเป็นอื่นๆ ยังีชุดจักรกลพกพาในนั้น novel-lucky
“ฉันเตรียมทั้งหมดนี้ให้นาย ฉันยังเปิดบัญชีให้นายด้วยเงิน 15000 อีนาส”
“ฉันจะรับของอื่น แต่นายเอาเงินกลับไปเถอะ ฉันไม่ต้องการ ฉันได้รับเงินเดือนในคุก ฉันจึงมีเงิน”อีวานโบกมือ
“ได้ไงกัน?”เพื่อนเขาอุทาน”นายช่วยชีวิตฉันไว้ ถ้าไม่ใช่เพราะนาย ฉันจะมีชีวิตแบบนี้ได้ยังไง?นายต้องรับมัน”
เขามักขอบคุณอีวานมาตลอด อีวานฆ่าผู้ใช้พลังชั่วร้ายเพื่อปกป้องเขาและติดคุกเพราะมัน
ความสามารถเหนือธรรมชาติของผู้ใช้พลังจะขยายความมืดในใจคน พวกเขาพยายามแสวงหาความรู้สึกเหนือกว่าจากคนธรรมดาและทำให้บุคคลเหล่านี้อับอายหรือทรมานด้วยพลังพวกเขา
พวกเขาเคยพบผู้ใช้พลังเช่นนี้มาแล้วและถูกคุกคามชีวิต แม้อีวานจะเป็นแค่คนธรรมดา เขาก็สามารถหาทางกำจัดผู้ใช้พลังระดับEคนนั้นได้
เพื่อนสนิทเขาเป็นนายทหารแล้ว และยังปลุกยีนผู้ใช้พลังขึ้นมา แต่ทว่า มันน่าเสียดายที่อีวานไม่มียีนผู้ใช้พลังและเป็นได้แค่คนธรรมดาไปตลอดชีวิต
ด้วยความสามารถของอีวาน ถ้าเขามีพรสวรรค์เป็นผู้ใช้พลัง เขาต้องทรงพลังกว่าฉันแน่ในอนาคต
เห้อ น่าเสียดายที่นี่คือโชคชะตาของเขา
“ฮ่าๆ งั้นฉันก็ต้องรับมันสินะ แต่ฉันไม่ต้องการเงินนาย อย่าคิดตอแบทนฉันด้วยสิ่งของถ้าเรายังเป็นพี่น้องกัน”อีวานกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“นายสามารถมาบ้านฉันได้ถ้านายอยาก”เพื่อนเขาไม่ยอม
“นายแต่งงานแล้ว ฉันไม่อยากรบกวนนาย”
“ฉันสามารถกำจัดประวัตินายได้ถ้านายอยากเข้าเป็นทหาร”
“ไม่เป็นไร ฉันเป็นแค่คนธรรมดาและจะเป็นได้แค่โล่เนื้อถ้าเข้าร่วมกองทัพ”อีวานรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะกลายเป็นผู้ใช้พลัง
เขาไม่มีนิสัยไม่ดีของการบ่นชีวิต จากที่เขามอง แทนที่จะใช้เวลาคร่ำครวญ สู้เองไปลงมือจริงดีกว่า
“งั้น นายคิดทำอะไรต่อ?”เพื่อนเขาพูด
“อืม ฉันจะหางานก่อนและค่อยคุยเรื่องอื่นทีหลัง”
จากนั้นอีวานก็เริ่มท่องเว็บด้วยอุปกรณ์สื่อสารเขาเพื่อดูโฆษณาการจ้างงาน เขาตกใจทันทีที่เห็นโฆษณา
มีงานมากมาย แต่เกณฑ์แรกของงานทั้งหมดเหมือนกัน
‘ตำแหน่งงาน : โลกริบหรี่!’
ตราบเท่าที่พวกเขาสามารถทำงานในโลกริบหรี่และไม่เป็นบุคคลต้องจับ พวกเขาก็จะได้รับการจ้าง!
เพื่อนเขามองมาและส่ายหัว
“ในที่สุดจักรวรรดิคริมสันก็ประกาศเปิดโลกริบหรี่ ทุกองค์กรต่างก็กำลังจ้างคนเพิ่ม”
ในความทรงจำเขา โลกริบหรี่ยังอยู่ในยุคคลื่นแดงเดือด จักรวาลมีการเปลี่ยนแปลงไปมากระหว่างที่เขาถูกจองจำ
จากนั้นเขาก็ลดหัวลง มองประกาศรับสมัครก่อนพยักหน้า
“โลกริบหรี่…งั้นฉันจะไปดูหน่อยละกัน”
…
“ในที่สุดมันก็เปิดข้น”
บนดาวแม่ของเผ่าเนตรม่วง ไซเคอร์ยืนหน้าหน้าต่าง
หลังเหตุการณ์บนดาวประภาคาร เขาก็เก็บตัวมาตลอดเพื่อฟื้นตัวจากความสูญเสีย
หลังผ่านมากว่าสิบปี อิทธิพลด้านลบที่เขายอมทิ้งลูกบาศก์วิวัฒนาการก็ได้หายไปแล้ว และเขาก็ยังเป็นผู้นำที่สูงส่งในสายตาใครหลายคน
แม้เขาจะอยู่ใกล้กับโลกริบหรี่มาก เขาก็ทำได้แค่เฝ้าดูแบล็คสตาร์กับฮีเบอร์ยึดเอาผลประโยชน์ในโลกริบหรี่เพราะเขาคือสมาชิกศาสนจักร ไซเคอร์อิจฉามากและกระวนกระวาย เขาเฝ้ารอวันนี้มานานและยังอยากแบ่งเค้กด้วย
จากที่เขาเห็น โลกริบหรี่คือโอกาสสำหรับเผ่าเนตรม่วง เขาไม่ต้องถูกจำกัดอยู่ในวงแหวนดาวกระจายอีก สถานการณ์ปัจจุบันเขามีแต่จะย่ำแย่เมื่อแบล็คสตาร์และฮีเบอร์พัฒนาตัวเอง เช่นนั้น เขาจึงต้องหาทางออกใหม่ให่เผ่าเขา
เช่นนั้น ศสนจักรจึงมีข้ออ้างแทรกแซงและสนับสนุนเขา ยิ่งเขาสามารถได้รับผลประโยชน์ในโลกริบหรี่มากเท่าไร มันยิ่งดีต่อเผ่าเขา
ขณะที่เขาคิดถึงอดีต ภาพร่างของหานเซี่ยวก็ปรากฏในใจเขา
“แบล็คสตาร์…เขาเองก็เงียบมากว่าสิบปี มันดูเหมือนว่าพลังของเขาจะหยุดนิ่งหลังมาถึงจุดสูงสุดของผู้อยู่เหนือ…”