The Legendary Mechanic - ตอนที่ 999 กลับมา และรับคำท้า

　　ยานอวกาศลำเล็กบินผานจักรวาลด้วยความเร็ววาร์ป คล้ายกับลำแสงสีขาวที่ส่องบนฉากหลังมืดมิด
　　ยานอวกาศขับอัตโนมัติ มีแค่คนสองคนในนั้น พวกเธอก็คือเอเมสกับฮีล่า
　　ฮีล่านั่งในท่าล่อแหลม หลับตาและมือของงเธอก็วางบนเข่า นิ้วเธอขยับอย่างต่อเนื่องขณะควบคุมพลังงานความตายให้แหวกว่ายระหว่างนิ้ม ฝึกฝนการควบคุมพลังเธอ
　　ตรงข้ามกับเธอ เอเมสเอนกายบนโซฟา มือข้างหนึ่งหนุนหัว
　　เมื่อมองดูพลังงานความตาย เอเมสก็อดถอนหายใจไม่ได้”เธอติดการฝึกจนฝังกระดูกจริงๆ แม้ที่ระดับผู้อยู่เหนือ เธอก็ยังฝึกไม่หยุด”
　　ฮีล่าลืมตา น้ำเสียงเธอไม่แยแส”ผู้อยู่เหนือไม่ใช่จุดสิ้นสุด และก็ไม่มีอะไรขวางทางข้างหน้าฉัน ฉันไม่พอกับสิ่งนี้”
　　“ฉันรู้สึกว่าเธอควรพักบ้าง”
　　เอเมสส่ายหัวหน่ายใจ เธอพอใจมากกับศิษย์ของเธอ แต่ความปรารถนาที่จะแข็งแกร่งขึ้นอย่างรุนแรงก็ทำให้เธอผู้เป็นอาจารย์ดูเหมือนคนขี้เกียจไป
　　“อนาคตมีเวลาให้พักผ่อนอยู่แล้ว”ฮีล่าส่ายหัว”ตอนฉันกลับไป ฉันจะต้องประลองกับหานเซี่ยวสักครั้งและทดสอบพลังฉัน ดังนั้น ฉันไม่สามารถพักผ่อนได้ แม้จะพัฒนาได้เล็กน้อยก็ยังดี”
　　“ทำตัวสบายๆ ตามสิ่งที่ฉันรู้ แบล็คสตาร์จะไม่ทุบตีเธอจนน่าสมเพชและทำลายความมั่นใจตัวเธอ”เอเมสหัวเราะ ดีดนิ้ว เปิดแผนที่ดาว”อีกแค่สองวันเราก็จะไปถึงประตูดาวทุ่งดาวของทะเลทรายดวงดาวแล้ว จากนั้นเราก็จะไปถึงเส้นทางดาวโดยตรง เราสามารถใช้ตัวตนของแบล็คสตาร์เพื่อยืมช่องทางของจักรวรรดิได้ ซึ่งจะช่วยเราประหยัดเวลาได้มาก…” 　　ก่อนเธอจะพูดจบ อุปกรณ์สื่อสารก็ดังขึ้น
　　“มันคือแบล็ค…เอ๊ะ?ตาแก่อีซอป”เอเมสแปลกใจ เดิมเธอคือว่ามันเป็นหานเซี่ยวที่โทรมาตื้อไม่หยุด แต่มันกลับกลายเป็นอาจารย์เธอ
　　เอเมสนั่งลง ใช้สนามพลังเพื่อนำอุปกรณ์สื่อสารมาก่อนตอบรับสาย และใบหน้าของอีซอปก็ปรากฏ
　　“ต้องการอะไร?”
　　“พวกเธออยู่ไหนกันแล้ว?จะกลับเกาะมังกรตอนไหน?”อีซอปถาม
　　“เรายังอยู่ในทะเลทรายดวงดาวโบราณ เกือบถึงประตูดาวแล้ว”
　　“ควรมาได้ทันเวลาพอดี”อีซอปผ่อนคลาย”รีบหน่อยละ ฉันเห็นเมื่อสักครู่นี้ ผู้อยู่เหนือคนใหม่ของศาสนจักรจะมาท้าทายเธอ”
　　นี่บ้าจริงๆ โทเลนแค่คิดเท่านั้น และอีซอปก็สัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของจักรวาลแล้ว ความสามารถของตาแก่นี่บ้ามาก　　แสงวูบวาบผ่านตาเอเมส เธอหัวเราะ”ผู้อยู่เหนือคนใหม่จะท้าทายฉัน?ฉันรู้ คนคนนี้อาจอยากได้หินเหยียบ ฮี่ๆ กลับเลือกฉันตอนเราห้าคนอยู่ภายในวงแหวนดาวกระจาย เขาคิดว่าฉันรังแกได้ง่ายขนาดนั้น?”
　　ด้วยความที่เกาะมังกรประจำการอยู่ที่ดาวอความารีน ปล่อยให้กองทัพแบล็คสตาร์ช่วยเหลือ นี่จึงเป็นการต่อสู้ระหว่างผู้อยู่เหนือ เนื่องจากอีกฝ่ายกำหนดเป้ามาที่เกาะมังกร กองทัพแบล็คสตาร์จึงต้องได้รับอนุญาตจากเอเมสก่อนถึงยื่นมือช่วยเหลือได้ แต่เรื่องเล็กๆแบบนี้เธอสามารถจัดการเองได้ เธอไม่มีเจตนาจะให้แบล็คสตาร์มายุ่ง
　　หลังวางสาย เอเมสก็พบว่าฮีล่ากำลังจ้องเธอ
　　เอเมสมองเธอและเข้าใจเจตนาทันที”อะไร เธอสนใจ?”
　　“คุณเป็นอาจารย์ ครั้งนี้ ให้ฉันช่วย”ฮีล่าพยักหน้า
　　เดิมเธอตั้งใจมุ่งตรงไปกองทัพเพื่อแจ้งข่าวดีแก่หานเซี่ยวหลังพวกเธอไปถึงวงแหวนดาวกระจาย แต่ด้วยสถานการณ์เช่นนี้ เธอจึงเปลี่ยนความคิด
　　อีกฝ่ายเองก็เป็นผู้อยู่เหนือ และศัตรูเช่นนี้ก็ไม่ได้พบง่ายๆ
　　มันเป็นช่วงเวลาเหมาะเจาะที่เธอจะได้ทดสอบว่าเธอเติบโตขึ้นมากแค่ไหน
　　…
　　บนเกาะแห่งหนึ่งรอบเกาะมังกร กลุ่มผู้ใช้พลังที่ได้รับคัดเลือกใหม่กำลังฝึกซ้อมอยู่ที่จัตุรัสนี้และวิลน่า ผู้บัญชาการทีมภาคสนามคนปัจจุบันก็กำลังดูแล
　　มันผ่านมากว่ายี่สิบปีแล้วตั้งแต่เกาะมังกรมาปักหลักที่ดาวอความารีน เกาะหลักขยายไม่หยุด ร่วมกับผู้ใต้บัญชาและกองทัพ แม้จะเทียบไม่ได้กับกองทัพแบล็คสตาร์หรือแดนหลั่งเลือด มันก็ถือเป็นองค์กรผู้อยู่เหนือบ้างแล้ว
　　ในทำนองเดียวกัน ขนาดของเจ้าหน้าที่เกาะมังกรยังขยาย และงานทุกคนก็ยากลำบากมากขึ้น วิลน่าได้ยึดตำแหน่งหานเซี่ยวและช่วยจัดการเกาะมังกรสุดความสามารถ
　　แม้อารมณ์เธอจะอ่อนโยน เธอก็สามารถดุร้ายและเข้มงวดได้เมื่อจำเป็น ดังนั้นทหารชุดใหม่จึงไม่กล้าหย่อนยาน ฝึกฝนกันอย่างเต็มที่
　　ปี้บ ปี้บ!
　　ตอนนี้ อุปกรณ์สื่อสารบนข้อมือวิลน่าดังขึ้น มันคืออีซอป
　　ขณะที่รัชบสาย อีซอปกลับไม่ทักทายเธอ รีบออกคำสั่งทันที
　　“รวมกองยานและตั้งแนวป้องกัน”
　　“เร็วขนาดนั้นเชียว!?”วิลน่าพูดตะกุกตะกัก แต่ไม่รีรอรีบเรียกระดมคน
　　เอเมสได้สั่งเป็นพิเศษไว้ว่าถ้าเธอไม่อยู่ อีซอปจะมีอำนาจสูงสุด
　　ดังนั้น ภายใต้คำสั่งของวิลน่า กองกำลังของเกาะมังกรจึงรวมกันอย่างรวดเร็ว ล้อมเกาะมังกรด้วยแนวป้องกันแน่นหนา
　　มีคนจำนวนมากกำลังคิดว่ามีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น แต่หลังรออยู่นาน ทุกอย่างก็ยังสงบ ไม่มีคำสั่งใหม่
　　“ไม่มีอะไรเลย ทำยังไงกันต่อ?”
　　“แค่การซ้อมรบงั้นหรอ?”
　　ขณะที่ทุกคนกำลังสับสน การเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน
　　ฮึ่ม!
　　ยานอวกาศทุกลำภายในกองยานส่งเสียงเตือนขณะที่กองยานขนาดมหึมาปรากกบนเรดาห์พวกเขาและเข้าใกล้อย่างรวดเร็ว!
　　วินาทีต่อมา ลำแสงก็สามารถเห็นได้แต่ไกล และกองยานก็ปรากฏขึ้นที่นอกดาวอความารีน แต่ละลำมีสัญลักษณ์ของศาสนจักรอาร์เคน
　　“ศาสนจักรอาร์เคน?!”
　　สีหน้าของวิลน่าเปลี่ยนไป　　ปฏิกิริยาของเธอม่รุนแรงนัก ขณะที่สมาชิกเกาะมังกรคนอื่นต่างแสดงปฏิกิริยาที่เกินจริงกว่า พวกเขาตื่นตระหนกมาก
　　เกาะมังกรแตกต่างจากองค์กรอื่นอย่างกองทัพแบล็คสตาร์ ซึ่งมีการติดต่อกันเป็นประจำในจักรวาล ดังนั้น การเห็นฉากดังกล่าวจึงทำให้พวกเขาหวั่นไหวง่ายๆ
　　แต่ทว่า มันไม่ใช่แค่เกาะมังกร แม้แต่ผู้สังเกตการณ์บนดาวอความารีนก็ยังตื่นตระหนก!
　　ผู้สังเกตการณ์พยายามส่งข่าวกลับไปศูนย์ใหญ่พวกเขาและข้อมูลนี้ก็ถูกอัปโหลดอย่างรวดเร็ว ข้ามชั้นอำนาจทั้งหมดให้ผู้ตัดสินใจอย่างเบนเน็ต
　　“ศาสนจักรอาร์เคนมา?”
　　ในอาคารบริหารที่ดาวอความารีน เบนเน็ตเองก็ตกตะลึง
　　ในฐานะผู้นำอารยธรรมที่ได้รับการปกป้องโดยสนธิสัญญาสันติภาพ กองทัพแบล็คสตาร์ จักรวรรดิคริมสัน และเกาะมังกร เขาไม่กลัวว่าศาสนจักรจะมีเจตนาร้าย แต่ทว่า การมาเยือนอย่างฉับพลันก็ทำให้เขาขมปาก การขาดมารยาททางการฑูตแสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีเจตนาดี
　　เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เบนเน็ตก็ออกคำสั่ง
　　“เชิญกายสถิตแบล็คสตาร์!”
　　เสียงเขาเพิ่งดัง และเขาก็พบเงาสองร่างบินแหวกท้อแงฟ้ามา เขายกหัวขึ้น เห็นเนโร่กับมีอาบินขึ้นฟ้า ทำการตรวจสอบสถานการณ์ novel-lucky
　　ในเวลาเดียวกัน โทเลนก็จ้องมองกองกำลังป้องกันจากยานหลัก
　　“เห้อ ฉันคิดว่าฉันจะทำให้พวกมันกลัวบ้างและมองพวกมันตื่นตระหนก…แต่พวกมันกลับรู้อยู่แล้วว่าฉันจะมา หรือนี่จะเป็นความสามารถในตำนานของอีซอป?”
　　เขาส่ายหัว โทเลนไม่คิดอะไรมาก การปรากฏตัวอย่างฉับพลันนี้แค่ความคิดชั่วร้ายเหนือสิ่งอื่นใด เขายังต้องประกาศความท้าทายเขาต่อสาธารณะ
　　เขาหันไปหาผู้บัญชาการ”ประกาศเจตนาฉันออกไป”
　　ผู้บัญชาการพยักหน้าก่อนดำเนินการตามคำสั่ง
　　…
　　การมาของกองยานศาสนจักรน่าประทับใจ ทำให้ทั้งดาวอความารีนและเกาะมังกรตื่นตัว หลังการเจรจา ทั้งสองฝ่ายก็ได้ข้อสรุป ด้วยกองยานเกาะมังกรที่ยอมให้โทเลนลงจอดบนเกาะมังกร
　　ฮู่!
　　ยานอวกาศลดจอดที่เกาะหลัก และโทเลนก็เดินออกมา
　　รอบๆเขาคือกลุ่มนักรบเกาะมังกรอาวุธครบมือ ทุกคนต่างใบหน้าประหม่า
　　นั่นช่วยไม่ได้ นั่นเพราะเขาได้ประกาศตัวตนและเจตนาไปแล้ว และโดยไม่มีเอเมสคอยค้ำจุน ทุกคนจึงรู้สึกประหม่าที่ต้องเผชิญหน้ากับผู้อยู่เหนือซึ่งไม่เป็นมิตร
　　โทเลนกวาดตามองก่อนกล่าวเสียงเย็น”ฉันอยากคุยกับผู้บัญชาการ”
　　ฝูงชนแหวกทาง ให้อีซอปกับเจนนี่เดินเข้ามา
　　เจนนี่รู้สึกกระอักกระอ่วน”ฉันหัวหน้าผู้ดูแลเกาะมังกร ท่านจักรพรรดินีมังกรไม่ได้อยู่ที่นี่ คุณมาผิดเวลา”
　　“ฉันไม่สนใจว่าเธอจะอยู่หรือไม่ เธอแค่ต้องให้คำตอบกับฉัน ว่าเธอกล้ารับคำท้าฉันไหม?”โทเลนกอดอก แสดงท่าทางสูงส่ง
　　“ฉันไม่สามารถตัดสินใจเรื่องนั้นได้”เจนนี่ส่ายหัว
　　“งั้นเธอก็ควรหุบปากไปซะ ยัยหัวล้าน ติดต่อเอเมสและให้เธอตอบรับฉัน”โทเลนไม่สุภาพเลย
　　เขามีอารมณ์แตกต่างกับผู้อยู่เหนือส่วนใหญ่ แม้เขาจะ’กลับเนื้อกลับตัว’ เขาก็ยังเคยเป็นอาชญากรมาก่อน
　　“หัวล้าน….?!”
　　เจนนี่โกรธ
　　ผมฉันยังมีอยู่ ฉันไม่ได้หัวล้าน!ฉันยังมีผม!
　　ตอนนั้น อีซอปตอบอย่างสุภาพ”ฉันได้ติดต่อเอเมสเลย เธอบอกว่าจะยอมรับคำท้าของนาย”
　　“โอ้ นายคืออีซอปสินะ?”โทเลนหันไปมองเขาด้วยสีหน้าสนใจ”ฉันเคยได้ยินชื่อนาย ทุกคนบอกว่านายเป็นสายพันธุ์อมตะที่มีความสามารถดี สนใจมาทำงานให้ฉันไหม?”
　　“นายไม่มีคุณสมบัติ”อีซอปยิ้มเล็กน้อย แม้เขาจะไม่ใช่ผู้อยู่เหนือ เขาก็มีชื่อเสียงและศักดิ์ศรีมากกว่าโทเลน
　　“จิ๊”โทเลนแค่นเสียงก่อนเมินเขา “ในเมื่อเอเมสตอบรับแล้ว ฉันก็จะรอจนกว่าเธอจะมา…แล้วพวกนายรออะไรกัน?ทำไมไม่มีใครเตรียมห้องให้ฉัน!?” 　　ตอนนี้เอง เงาหลายร่างบินมาจากดาวอความารีน ลงบนเกาะหลักของเกาะมังกร
　　ท่ามกลางพวกเขาคือเนโร่และมีอา ที่เหลือคือกองทัพจักรกลที่หานเซี่ยวทิ้งไว้บนดาว ซึ่งรวมถึงกายสถิต
　　เมื่อเห็นแบล็คสตาร์มา ทหารทุกคนก็ถอนหายใจโล่งอก
　　ชื่อเสียงที่หานเซี่ยวทิ้งไว้บนเกาะมังกรดำเนินมาจนถึงทุกวันนี้ ในสายตาสมาชิกเกาะมังกร แบล็คสตาร์ยังน่าเชื่อถือว่าเจ้านายพวกเขาซะอีก
　　จิตสำนึกของหานเซี่ยวได้จุติลงบนกายสถิตแล้ว และเขาก็สำรวจโทเลนก่อนพึมพำด้วยน้ำเสียงงงงวย”อะไร แกเบื่อชีวิตแล้ว?”
　　เขาเดาว่าผู้อยู่เหนือคนใหม่คงมาสร้างปัญหา แต่ไม่คิดว่าจะกระโดดมาอย่างนี้ วิ่งมาที่ดาวแม่เขา รนหาที่ตาย?
　　ตัวตนปัจจุบันเขาแตกต่างจากอดีต ถ้ามีคนยั่วยุเขา เขาคงไม่รังเกียจที่จะกำจัดผู้อยู่เหนือจากศาสนจักร ในเมื่อจักรวรรดิมอบงานให้เขารักษากฏ การฆ่าคนเป็นตัวอย่างคงไม่มีปัญหาอะไร
　　“มันเป็นนาย”โทเลนจ้องเขาก่อนพูดเสียงเบา”ท่านแบล็คสตาร์ ผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อสู้กับคุณ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณ”
　　โอ้ ท่าทางหยิ่งผยองมาก คนอย่างแก ฉันฆ่ามามากแล้ว เพิ่มไปอีกหนึ่งคงไม่เป็นอะไร หานเซี่ยวคิด
　　เขาได้อ่านเนื้อหาทั้งหมดของผู้อยู่เหนือคนใหม่ที่จักรวรรดิส่งมาให้แล้ว และเขาก็จำชายคนนี้ได้’ปีศาจแดง’โทเลน ซึ่งเข้าร่วมกับศาสนจักร พลังเขาถือเป็นระดับกลางของผู้อยู่เหนือ แต่เขามีความมั่นใจสูง คิดว่าตัวเองนั้นคือที่สุด
　　ผู้อยู่เหนือแต่ละคนก็มีนิสัยต่างกัน จากคนอย่างจักรพรรดิช่างกลหรือจ้าวแห่งความมืด และยังมีพวกจิ้งจอกเฒ่าอย่างโซโรคิน คนขี้เกียจแบบเอเมส และฮีเบอร์ที่ศักดิ์ศรีค้ำคอ และคนแบบเขา ที่ไม่สามารถซ่อนความหล่อได้…
　　“จักรพรรดินีมังกรเป็นพันธมิตรฉัน เนื่องจากเธอไม่อยู่ ให้ฉันเล่นกับนายเป็นไง?”หานเซี่ยวเอียงหัว
　　“ไม่เป็นไร”โทเลนยกมือขึ้น สีหน้าเย่อหยิ่งยังอยู่บนหน้า.”ผมเอาชนะคุณไม่ได้”
　　หานเซี่ยวตกตะลึง
　　สีหน้าแบบนั้น ฉันคิดว่าแกกำลังจะพูดดูถูกซะอีก!
　　หรือว่านั่นคือคำพูดกล้าหาญสุดที่แกสามารถบีบออกมาได้ด้วยสีหน้านั้น?
　　ปิดกั้นฉันตรงๆอย่างนั้น ช่างเป็นเด็กที่ฉลาดซะจริง!
　　หานเซี่ยวตั้งใจสอนบทเรียนให้โทเลน แต่คนคนนี้กลับมองเห็นผ่านอุบายเขาและปฏิเสธมันอย่าง’หยิ่งยโส’
　　แม้โทเลนอาจดูหุนหันพลันแล่น แต่เขาก็รู้ขีดจำกัดตัวเอง เขาเข้าใจว่ามันไม่ดีที่จะยั่วโมโหแบล็คสตาร์ ผู้ยืนอยู่บนจุดสูงสุด ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจท้าทายแค่เกาะมังกรเท่านั้น
　　ตอนนี้เอง ความผันผวนสามารถเห็นได้ในอวกาศไม่ไกลและวังคาถาลับก็กระโดดออกจากมิติ
　　เมื่อเห็นแบบนี้ หานเซี่ยวก็ตกตะลึง
　　ออสติน?
　　ทำไมถึงเป็นแก?!
　　แกไปไหนได้ทุกที่เลย?!
　　แต่ทว่า ออสตินไม่ได้มาเพื่อดูฉากนี้ หลังวังคาถาลับของเขามาถึง มันก็สามารถรอยแยกขึ้นอีกครั้ง และยานอวกาศลำเล็กก็บินออกมา จอดเทียบท่า
　　พรึ่บ!
　　ประตูเปิด และขายาวเนียนก็ปรากฏขึ้น เอเมสและฮีล่าเดินออกจากยานมา
　　เอเมสยิ้ม อธิบาย”แค่รีบมายังไม่เร็วพอ ฉันเลยเรียกออสตินมาช่วย”
　　หานเซี่ยวอดยกหัวขึ้นมองไม่ได้ และเห็นว่าบนยอดวังคาถาลับ ออสตินนั่งเหมือนเด็กตัวเล็กๆ ใช้สองนิ้วชี้ขึ้นและหมุน ทำท่าทักทายแสนปัญญาอ่อนกับหานเซี่ยว
　　“ขี้อวด”หานเซี่ยวบ่น
　　หลังทักทายกัน เอเมสก็สังเกตเห็นโทเลน และรอยยิ้มก็ปรากฏบนหน้าเธอ
　　“เป็นนายเองสินะที่อยากท้าทายเกาะมังกร?”
　　“มันไม่ชัดเจนหรือไง?”โทเลนแค่นเสียง
　　เอเมสพยักหน้าก่อนก้าวถอยหลัง ปล่อยให้ฮีล่าก้าวออกมา’ถ้าอยากสู้กับฉันก็ได้ แต่นายต้องเอาชนะลูกศิษย์ฉันก่อน เธอเองก็เป็นส่วนหนึ่งของเกาะมังกร”
　　แม้กายสถิตของหานเซี่ยวจะอยู่ ฮีล่าก็ไม่เหลือบมองหานเซี่ยวเลยแม้แต่ครั้งเดียว สายตาเธอจับจ้องโทเลนอย่างเฉยเมย
　　“เธอ?”
　　โทเลนแปลกใจ เขามองเธอ นึกประวัติกองทัพแบล็คสตาร์และแค่นเสียง　　“ฉันจำเธอได้ เธอคือคนของกองทัพแบล็คสตาร์ เป็นแค่ภัยพิบัติ แต่กล้าดียังไงถึงมาท้าทายฉัน?”
　　แต่ทว่า ขณะพูด พลังงานความตายก็ระเบิดจากตัวฮีล่าเหมือนคลื่นสึนามิ ระเบิดพร้อมความผันผวนพลังงานรุนแรงที่ทะยานขึ้นฟ้า!
　　บูม!
　　คลื่นพลังกระจายออกไป พื้นรอบๆพวกเขาถึงกับแตก
　　ทุกคนรีบปรับสมดุลร่างกายและมุ่งความสนใจไปยังฮีล่า ผู้ถูกล้อมด้วยพลังแห่งความตาย
　　ความผันผวนพลังงานระดับนี้…เป็นของผู้อยู่เหนือ!