The rise of the white lotus - ตอนที่ 101 ปฏิบัติตนอย่างมีศักดิ์ศรี
ตอนที่ 101 ปฏิบัติตนอย่างมีศักดิ์ศรี
เล็กซี่สะดุ้ง เมื่อจู่ๆชูรูก็ยืนขึ้นและชี้นิ้วชี้ไปที่ทุกคน ก่อนหน้านี้ซูรูไม่มีแรงที่จะพูดเลยซักนิด แต่ตอนนี้เธอเรียกชื่อพวกเขาราวกับว่าเธอได้รับผลกระทบมากกว่าตัวเล็กซี่เอง
” กล้าดียังไง…ชู … ” ชูรูกําลังจะระเบิดต่ออีก ตาไม่นานตัวเธอก็โยกเยกไปมาบนฝ่ามือที่แผ่กว้างของเล็กซี่ ราวกับว่าแบตเตอรี่เหลือน้อยเต็มที
โดยไม่รู้ตัวถึงการกระทําที่แปลกประหลาดของเล็กซี่ ริมฝีปากของเช่อเตียหยูก็โค้งงอเป็นรอยยิ้มเย้ยหยัน ในสายตาของเธอไม่ว่าเล็กซี่จะมีเหตุผลอะไรมันก็ไม่สําคัญ เพราะคนอย่างเธอไม่ควรอยู่ที่นี้ เมื่อมองไปที่อบิเกลฝาน ผู้จัดการที่ชอบความยุติธรมม เช่อเตียหยูก็หัวเราะเยาะออกมา
” ผู้จัดการอาบี ฉันได้ยินมาว่าคุณถูกไล่ออกเพราะประพฤติตัวไม่เหมาะสมนี้ ฉันต้องบอกว่าคุณควรรีบเกาะพี่สาวเล็กแน่นๆเสียแล้ว “ แน่นอนว่าเช่อเตียหยูมีความกล้ามากขึ้นกับการพูดคุยที่ดูเหมือนเป็นมิตรกับเล็กซี่ จากเสียงพึมพําที่เธอได้ยิน แม้แต่อบิเกลเองเช่อเตียหยูก็ไม่คิดปล่อยเธอไป
อบิเกลกําหมัดแน่นขณะที่กรามของเธอขบแน่นขึ้นจากคําพูดของเช่อเตียหยู ไล่ออกเหรอ? นั่นคือสิ่งที่เบื้องบนนั้นบอกทุกคนว่าเธอโดนไล่ออกแทนที่จะลาออกเอง อย่างไรก็ตาม อบิเกลฝานไม่ยอมถอยในขณะที่เธอรู้ว่าเช่อเตียหยูต้องการอะไร และเธอไม่สามารถให้สิ่งนั้นกับเธอได้
‘ ผู้หญิงคนนี้นี่… ถ้าไม่ใช่เพราะวิกฤตของเล็กซี่ เธอคงจะไม่ได้รับทรัพยากรทั้งหมดที่ฉันมีให้เล็กซี่ อบิเกลฝานกัดฟันของเธอ ถ้าเธอทําได้เธอคงจิกหัวของเช่อเตียหยูจนเธอหัวล้านในตอนนี้ไปแล้ว อย่างไรก็ตามในความมืออาชีพของเธอ อบิเกลจึงทําได้เพียงก้มหัวเพื่อปลดปล่อยความโกรธในใจของเธอ
“ โอ้เป็นเธอเองเหรอเตียหยู “ หลังจากตรวจสอบชูรูอย่างเป็นห่วงและแน่ใจว่าเธอสบายดีในที่สุดเล็กซี่ก็จ้องมองไปที่อบิเกลและเช่อเตียหยู นอกจากนี้เธอยังมองไปที่สองผู้ติดตามของเธอที่อยู่เบื้องหลังหญิงสาวขี้โม้ ก่อนที่จะทักทายเธอ เธอกล่าวเสริมว่า
” ฉันคิดว่าเสียงแมลงที่ไหน…ฉันไม่ได้สังเกตเลยว่าเป็นเธอนี่เอง! โอ้พระเจ้า เธอเป็นอย่างไรบ้างหลังจากนั้น “ เล็กซี่เม้มริมฝีปากของเธอ ขณะที่คิ้วของเธอยกขึ้นราวกับว่าเธอลังเลที่จะทําสิ่งที่เธอกําลังจะพูดต่อไปนี้ เมื่อเห็นว่าสีหน้าโอ้อวดของเช่อเตียหยูเปลี่ยนไปเล็กน้อย เล็กซี่ก็ยิ้มเยาะภายในใจ ขณะที่เธอหัวเราะ
” หลังจากคืนนั้น? “ กล่าวถึงความอัปยศอดสูที่เช่อเตียหยูได้รับ ย้อนกลับไปในงานเลี้ยงของครอบครัวเยว่ เล็กซี่ฟังดูเหมือนเสียใจแต่เธอไม่ได้รู้สึกแบบนั้น
อบิเกลฝานจ้องมองเธอ จากท่าทางไร้เดียงสาของเล็กซี และเช่อเตียหยูที่กํามือของเธอไว้แน่น เธอไม่รู้ว่าเล็กซี่พูดถึงอะไร อย่างไรก็ตามเมื่อเห็นแววที่ส่องประกายในดวงตาของเล็กซี่แล้ว อบิเกลก็รู้ทันทีว่าเล็กซี่จงใจขัดเกลือบนบาดแผลที่มองไม่เห็นของเช่อเตียหยู
“ เธอ… ” ด้วยฟันที่กัดแน่นของเธอ เช่อเตียหยูพยายามควบคุมหัวใจของเธอที่ไม่สงบ เธอมีเรื่องที่ต้องทํามากมาย จนลืมคืนที่ต้องเผชิญหน้ากันต่อหน้าทุกคน แต่สิ่งที่เธอพบว่าน่ารําคาญกว่าคือเล็กซี่ก็อยู่ที่นั่นเพื่อเป็นพยานว่าทานากะเร็นไม่สนใจเธออย่างไร
“ ฉันเหรอ ฉันมีความสุขดีที่ได้เป็นตัวแทนตระกูลหยางและโชคดีที่ฉันไม่ได้ทําให้ครอบครัวของฉันต้องอับอาย “ เล็กซี่ยังคงแสร้งทําเป็นไม่รู้เรื่องของเธอ เธอได้อวดช่วงเวลาที่ดีของเหตุการณ์นั้นและทิ้งเหตุการณ์ที่ไม่ธรรมดาทั้งหมดไว้เบื้องหลัง น้ําเสียงของเธอยังแสดงถึงการเหน็บแนมเล็กน้อยเพื่อให้เช่อเตียหยูรู้ว่าเธอจะไม่ยอมถอย
” หึ เธอกล้าพูดถึงเรื่องนั้นจริงๆหลังจากยั่วยวนผู้ชายของฉันเหรอ ” เธอไม่รู้ว่าจะตอบโต้อะไรเช่อเตียหยูโจมตีทางวาจาด้วยคําโกหกที่บิดเบี้ยวของเธอ เมื่อได้ยินคําตอบที่ไร้สาระของเธอ เล็กซี่ก็มองเธอด้วยความรังเกียจ
อย่างไรก็ตามเมื่อเธอมองไปที่เช่อเตียหยูมากขึ้น คิ้วของเล็กซี่ก็ขมวดมุ่น ฉากนี้ช่างคุ้นเคยสําหรับเธอจริงๆ มันคุ้นเคยมากเกินไป เพราะสิ่งที่เช่อเตียหยูแสดงอยู่ตอนนี้ทําให้เธอนึกถึงตัวตนเก่า ๆ ของเธอ
เล็กซี่มักจะทําตัวชอบกลั่นแกล้งคนอื่นเหมือนกับเช่อเตียหยู ซึ่งเธอเคยทํากับมีอาเฉินในอดีต ราวกับว่ามันกลายเป็นงานอดิเรกที่เลือกมีอาเฉินผู้น่าสงสารที่ไม่เคยโต้ตอบเธอ อนิจจา เล็กซี่ยังคงโทษเธอสําหรับทุกสิ่งที่ทําให้เธอต้องรับผลกรรมนี้
คําพูดของเช่อเตียหยูดังพอที่จะทําให้นักแสดงที่มาคัดเลือกได้รับความบันเทิงอย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่พวกเขาฟังและดูฉากตรงหน้า ทันทีที่พวกเขาได้ยินคํากล่าวหาของเช่อเตียหยู บางคนก็มองอีกคนด้วยริมฝีปากของพวกเขาที่มีรูปร่าง ‘ O ‘ สําหรับพวกเขาไม่ว่าจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ก็ตาม เรื่องอื้อฉาวของเล็กซี่ก็เป็นหลักฐานมากพอให้พวกเขาเชื่อถือได้
“ อะไรนะ เธอยังยั่วยวนแฟนหนุ่มที่เป็นข่าวลือของเช่อเตียหยูด้วย? ซอีโอทานากะน่ะเหรอ? “
“ ข่าวลือเป็นเรื่องจริงเหรอ ที่เธอชอบนอนกับผู้ชายคนอื่นน่ะ? ไม่แปลกใจจริงๆที่อดีตคู่หมั้นของเธอยกเลิกการหมั้นไป ”
” ฉันได้ยินมาว่าครอบครัวของเธอกําลังวิกฤต เธออาจต้องการกอดต้นขาของใครสักคน ”
“ คิคิ ช่างเป็นความงามและชีวิตที่ไร้ค่าจริงๆ ”
ตามที่คาดไว้ มีการคาดเดาที่ไร้เหตุผลของคนกลุ่มหนึ่งถูกโยนมาที่เธอ อย่างไรก็ตามเล็กที่มีเพียงการแสดงออกที่ว่างเปล่า ในขณะที่เธอจับจ้องดวงตาทั้งคู่ที่หันไปทางเช่อเตียหยู
” ฮ่า! ถูกต้องแล้วล่ะ! เธอไม่รู้สินะว่าพี่สาวเตียหยูของฉันผ่านไปได้อย่างไร เพราะความโลภของเธออยากได้ผู้ชายจนตัวสั่น! ” ลูกไล่คนหนึ่งของเซ่อเตียหยูร้องเสียงหลง ขณะที่เธอจ้องไปที่สีหน้าไม่แสดงออกของเล็กซี่
” ไม่ใช่แค่นั้นนะ เธอตั้งใจทําแบบนี้เพราะเธอรู้ดีว่าพี่สาวเตียหยูกําลังคัดเลือกบทนี้อยู่ยังไงล่ะ! ” ลูกสมุนอีกคนหนึ่งที่ทําตัวเหมือนเป็นพวกไร้สมอง โดยใช้ประโยชน์จากความจริงที่ว่าไม่มีใครเชื่อเล็กซี่ แม้ว่าเธอจะพูดความจริงก็ตาม ท้ายที่สุดแล้วชื่อเสียงที่แปดเปื้อนของเธอนั้นเลวร้ายยิ่งกว่าบุคคลที่ไม่มีชื่อเสียงให้ยึดถือเสียอีก
“ อะไรกัน- “ อบิเกลฝานตะคอกขณะที่เธอไม่สามารถยอมรับคําดูถูกนี้ได้อีกต่อไป อย่างไรก็ตาม แม้พวกเขาจะไม่ชอบเล็กซี่ ทําไมพวกเขาต้องกล่าวหาเล็กซี่ด้วยเรื่องไร้สาระเช่นนี้ด้วย? แน่นอนว่าเล็กชื่อาจจะไม่ใช่คนที่ใจดีที่สุด และเธอก็ไม่ใช่คนที่อบอุ่นที่สุด แต่อบิเกลก็รู้ดีเกี่ยวกับความภักดีของเล็กซี่ที่มีต่อมอริสหลิว อย่างไรก็ตามในขณะที่เธอกําลังจะปกป้องเล็กที่อยู่นั้น เธอก็ถูกขัดจังหวะเมื่อเล็กซี่ตะโกนขึ้นมา
” ขอให้ปฏิบัติตนอย่างมีศักดิ์ศรีด้วย ” จากนั้นเล็กซี่ก็หันไปจ้องไปที่อบิเกลฝานและพูดต่อ “ ผู้จัดการฝาน คุณช่วยถือโทรศัพท์อันมีค่าของฉันสักพักได้ไหม “