The rise of the white lotus - ตอนที่ 11 คุณป็นใครกันแน่?
ตอนที่11 คุณป็นใครกันแน่?
“ คุณลู่คงจะไม่ได้แค่พาฉันมาทานอาหารอย่างเดียวสินะคะ? ” เล็กซี่พูดขึ้น หลังจากที่เธอเช็ดมุมปากอย่างละเอียดอ่อนด้วยผ้าเช็ดหน้าของเธอเอง จากนั้นเธอก็เงยหน้าขึ้นมาสบตากับเขาอย่างยั่วเย้า
รอยยิ้มอันน่าหลงใหลของอีธานลู่ปรากฏบนใบหน้า พร้อมกับเท้าคางมองมาที่เธอ “ แน่นอน ผมอยากรู้เรื่องที่คุณสามารถนัดพบกับคุณทานากะได้ ผมสนใจที่จะแลกเปลี่ยนข้อตกลงนี้นะ หากคุณทำได้ ผมจะลงทุนในธุรกิจของคุณแทน เพราะผมก็ไม่แน่ใจที่จะโน้มน้าวมอริส ให้เลิกมองคุณเป็นศัตรูได้อย่างไร”
เล็กซี่ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง เธอจ้องมองเขาอย่างเคร่งเครียดราวกับว่าจะตรวจสอบอย่างละเอียดว่าอะไรคือความตั้งใจของอีธานลู่กันแน่ “ แล้ว พี่ – ประธานลู่ล่ะ? คุณไม่กลัวว่าเขาจะรู้ว่าคุณช่วยฉันเหรอคะ? ”
รอยยิ้มของอีธานลู่สดใสยิ่งขึ้น มันทำให้เขาดูมีชีวิตชีวาและน่าคบหา เขาค่อนข้างประทับใจกับคำถามของเธอ สำหรับเขาแล้ว ภาพตรงหน้าที่เธอมองเขาอย่างไม่ละสายช่างน่าสนใจ ท้ายที่สุดเธอคงคาดหวังในคำตอบที่ดีจากเขามากเกินไป
“ คุณเป็นห่วงผมใช่ไหมล่ะ ? ”
“…ต้องขอโทษด้วยนะคะคุณลู่ สำหรับฉันแล้วสิ่งที่ฉันห่วง ก็คงมีแค่ธุรกิจครอบครัวของฉัน ที่บรรพบุรุษของฉันสร้างด้วยหยาดเหงื่อแรงกาย จนน้ำตาสามารถกลายเป็นเลือดได้ และฉันแค่อยากจะแน่ใจว่าคุณไม่ได้พูดมันออกมาลอย ๆ ” เล็กซี่กล่าวอย่างตรงไปตรงมา แม้ว่ามันอาจจะดูหยาบคายที่จะพูดออกไปแบบนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ชายอย่างอีธานลู่ อย่างไรก็ตามเล็กซี่ก็เป็นคนที่รอบคอบ ดังนั้นการที่เธอพูดออกไปแบบนั้นก็ถือว่าเธอได้แสดงเจตนาชัดเจน ซึ่งเป็นทางออกที่ดีที่สุด
“คุณหยาง คุณทำให้ผมประทับใจจริง ๆ ผมอาจจะดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือสักเท่าไหร่ แต่คุณมั่นใจได้ ว่าทางออกที่ดีที่สุดของคุณคือผมเอง ” รอยยิ้มของอีธานลู่ยังคงเหมือนเดิม แต่น้ำเสียงของเขาสัมผัสได้ถึงอำนาจและความมั่นใจ ซึ่งบ่งบอกว่าเขาจริงจังกับข้อตกลงนี้
มองหน้ากันสักพัก เล็กซี่ก็พยักหน้ารับเล็กน้อย ” ขอบคุณสำหรับอาหารนะคะคุณลู่ แล้วก็ขอบคุณสำหรับโอกาสที่คุณมอบให้ ฉันจะติดต่อไปหาคุณ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยนะคะ ” จบประโยคดังกล่าว เล็กซี่ค่อยๆลุกขึ้นยืนจากที่นั่งของเธอ จากนั้นก้มศีรษะเล็กน้อยก่อนจะจากไป
เมื่อแผ่นหลังเล็กของเธอห่างออกไปจากสายตาเขาแล้ว อีธานลู่ก็วนปลายนิ้วของตัวเองลงบนโต๊ะ ในขณะเดียวกัน เขายังคงขบกรามแน่น ไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ แต่ดวงตาที่สดใสของเขากำลังลอกแล่กไปมา เขาเริ่มสนใจอดีตคู่หมั้นของเพื่อนตัวเองแล้วสิ
แน่นอนว่าความประทับใจของอีธานที่มีต่อเล็กซี่นั้น ไม่ถือว่าเลวร้ายอย่างที่เคยได้ยินมา หลังจากที่เขาได้เห็นฉากทั้งหมดก่อนหน้านี้ และได้ร่วมมื้ออาหารเป็นเวลาสั้น ๆ อีธานลู่ก็ค่อนข้างอยากรู้ว่าทำไม เล็กซี่ที่ดูซับซ้อนและฉลาดคนนี้ ถึงถูกมองเป็นคนที่ร้ายกาจได้
“อ่า เล็กซี่หยาง … คุณเป็นใครกันแน่ ?” เขาพึมพำ ขณะที่เล็กซี่ เดินออกไปโดยไม่ได้หันกลับมามองอีกเป็นครั้งที่สอง
—-
[ติ๊ง! + 0.5 คะแนนเสน่ห์! ตอนนี้คุณมี 1.6 คะแนนเสน่ห์แล้ว!]
เล็กซี่เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย มองดูการแจ้งเตือนเกี่ยวกับความคืบหน้าในภารกิจแรกของเธอ
“ว้าวชู ~!” ชูรูอุทานด้วยความตื่นเต้นเกี่ยวกับความคืบหน้าของเล็กซี่ในวันนี้ ” คุณสุดยอดไปเลย ชู~!” ชูรูกล่าวเสริม ขณะที่ชูรูบินอยู่ต่อหน้าเล็กซี่
ในทางกลับกัน เล็กซี่ที่จ้องมองการแจ้งเตือนที่อยู่ด้านบนของเธอ หลังจากที่ได้เห็นมันแล้ว จากนั้นเธอก็กลับมาสนใจในการขับรถต่อ ‘ ก็แค่คะแนนเล็กน้อย ‘ เธอกล่าวอย่างมั่นใจว่าชูรูสามารถได้ยินความคิดภายในของเธอ
“แต่มันก็หมายความว่าคุณกำลังก้าวหน้านะชู ~!” ชูรูแสดงให้เห็นอย่างกระตอรือล้น
” อย่างไรก็ตาม… ” เล็กซี่กลอกตาก่อนจะพิงหลังที่เบาะคนขับพร้อมกับขับออกไป ” สิ่งที่ฉันต้องจัดการ คือการนัดกับมิสเตอร์ทานากะให้ได้ มาดูกันว่าฉันได้คะแนนเท่าไหร่ หากฉันสามารถทำสำเร็จ “
“อย่างงั้นเหรอ ชู ~!”
“มาคอยดูกัน” เล็กซี่นั่งลงก่อนที่จะขับรถออกจากลานจอดรถ
—-
3 วันผ่านไปนับตั้งแต่ที่เล็กซี่ พบกับ มอริสและอีธาน ในช่วงหลายวันที่ผ่านมาเธอค้นหาเกี่ยวกับบริษัท L-tech และมันทำให้เธอประหลาดใจเกี่ยวกับบริษัทดังกล่าว บริษัทนี้ก่อตั้งขึ้นเพียงไม่กี่ปี และถือได้ว่าเป็นบริษัทใหม่มาก อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่าเหลือเชื่อก็คือการเติบโตและการขยายตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทำให้บริษัททัดเทียมกับ บริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมธุรกิจทั้งหมด
แม้ว่าจะไม่มีภาพของ ‘ทานากะ เหวิน’ ผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของบริษัทดังกล่าว แต่เล็กซี่มีวิธีที่จะจดจำเขาได้ เพียงแค่เธอเห็นหน้าเขาเพียงแวบเดียวก็ตาม
ถึงแม้บริษัทของ L-tech จะเป็นบริษัทระดับนานาชาติ แต่ตอนนี้ก็ได้รับการจัดอันดับอย่างน่าตกใจในทั้งประเทศ x เมื่อพวกเขาก่อตั้งสาขาทางภาคตะวันออกเมื่อเดือนที่แล้ว
เล็กซี่หยางถอนหายใจด้วยความหงุดหงิด เธอเอนหลังพิงหัวเตียงอันหรูหราของตน ขณะที่วางแล็ปท็อปไว้บนตัก ในขณะเดียวกัน ชูรูก็กำลังนอนอยู่ข้างๆเธออย่างเกียจคร้าน
“ทำไมเหรอ ชู? ~” ชูรูถาม เมื่อเห็นว่าเธอเริ่มหงุดหงิด
“ นายทานากะดูเหมือนจะไม่ง่ายอย่างที่ฉันคิดแล้วล่ะ” เล็กซี่พึมพำขณะหลับตาคิดหาวิธีที่พอจะเป็นไปได้ในการดึงดูดทานากะเหวิน แน่นอนเนื่องจากกิจการของ ทานากะเหวินนั้น กำลังเป็นไปได้ดี ทั้งคนในและนอกวงการธุรกิจล้วนอยากร่วมงานกับเขา แล้วเธอจะเอาอะไรไปสู้กับบริษัทที่กำลังแก่งแย่งชิงดีกันล่ะ?