The rise of the white lotus - ตอนที่ 121 ยอมรับอีธานล่
ตอนที่ 121 ยอมรับอีธานล่
ขณะที่เล็กซี่กําลังจะทาลิปสติกอยู่นั้น เธอก็หยุดกลางคันแล้วขมวดคิ้ว
“ฉันกําลังทําอะไรอยู่เนี่ย?” เธอคิดในใจ
อันที่จริงเธอเริ่มแต่งหน้าใหม่หลังจากโทรคุยกับอีธานลู่ โดยไม่รู้ตัวว่าตัวเองกําลังทําอะไรอยู่ จนตอนนี้เล็กซี่เกือบแต่งหน้าของเธอเสร็จแล้ว ในที่สุดเธอก็เริ่มรู้สึกตัวกับท่าทางที่ผิดปกติของเธอ
“อ่า ไม่นะ..” เธอพึมพําก่อนจะหยิบกระดาษเช็ดหน้าและลบเครื่องสําอางออก
อบิเกลผ่านที่มองดูเธอขณะที่ขับรถ ก็อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจกับนักแสดงของเธอ
เมื่อมองย้อนกลับไป เล็กซี่มักจะแต่งตัวทุกครั้งที่ออกไปข้างนอก ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่เธอจะติดต่อกับใครก็ตามที่เธอจะได้พบ แต่ทําไมเธอถึงลบเครื่องสําอางออกหลังจากแต่งไปแล้วกัน? ในความคิดของเธอ อบิเกลรู้สึกงุนงงมากกว่าเล็กซี่ที่กําลังสับสนซะอีก
อบิเกลกําลังใช้ความคิดของเธอ และรวบรวมความกล้าที่จะถามออกไป เพราะนี่เป็นสิ่งที่เธออยากรู้ “อืมม เล็กซี่ คุณกําลังไปเจอใครบางคนเหรอ?”
“อืม ” โดยไม่ต้องหันศีรษะไปที่เบาะของคนขับ เล็กซี่ก็ไม่หยุดเช็ดลิปสติกของเธอในขณะที่เธอเอ่ยคําพูดส่งไปที่ผู้จัดการ
แน่นอนว่าคําตอบของเธอสร้างแรงสะเทือนไปที่อบิเกล ซึ่งทําให้เธอปวดหัวในไม่ช้า
เธอชี้แจงว่า “ฉันก็รู้ว่ามันเป็นการดีที่คุณจะเลิกสนใจคุณชายหลิว แต่ … คุณเห็นไหมเรื่องอื้อฉาวของคุณยังคงมีอยู่ และหากมามีความสัมพันธ์กันในตอนนี้ละก็ -“
“คุณกําลังพูดถึงอะไร?” ก่อนที่ผู้จัดการของเธอจะพูดจบ เล็กซี่ก็หยุดชะงักกลางคันขณะที่เธอหันมาจ้องมองด้วยความตกใจ
เธอกล่าวเสริมและกลอกตา “ฉันก่าลังไปเจอใครบางคนก็จริง แต่ไม่มันก็ไม่ได้หมายความว่าฉันไปออกเดท เข้าใจมั้ย?”
“โอ”
“แล้วทําไมคุณถึงคิดว่าฉันจะเดทกับใครสักคนหลังจากที่ทุกอย่างมันเป็นแบบนี้? ฉันหมายความว่าฉันยังไม่พร้อมสําหรับเรื่องนี้หรอก นอกจากนี้แล้ว…ฉันไม่ต้องการใช้ใครเพื่อลืมใครสักคน คุณช่วยเข้าใจฉันที” เสียงของเล็กซี่ค่อยๆจางหายไปในขณะที่เธอพูดคําพูดสุดท้ายของเธอ
สาเหตุหนึ่งที่ทําให้เธอผิดหวังคือเล็กซี่ยอมรับว่าเธอกําลังอยู่ในสถานะที่แย่ที่สุด เธอรู้สึกสับสนหลงทางและดิ้นรน แต่ระบบเจ้ากรรมนายเวรนี่ต้องการให้เธอเปิดใจให้อีธานลู่ ภารกิจหลักต่อไปของเธอคือการยอมรับคําสารภาพของอีธานลู่
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าความคิดของเธอจะวนเวียนอยู่กับงานต่อไปของเธอมากแค่ไหน เล็กซี่ก็ไม่สามารถทําตามความปรารถนาของระบบได้ ไม่เพียงแต่มันจะไม่ยุติธรรมกับเธอแล้ว แต่กับอีธานก็เช่นกัน
เธออาจชอบเขาในฐานะ “เพื่อน” แต่เล็กซี่ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองอยากจะมีความสัมพันธ์ที่โรแมนติกกับผู้ชายคนนี้
ดังนั้นตอนนี้ที่เธอคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เล็กซี่จึงขัดแย้งกับตัวเอง หากการตัดสินใจของเธอที่จะพบกับเขาในคืนนี้เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง ท้ายที่สุด ถ้าอีธานสารภาพความรู้สึกของเขากับเธอ เล็กซี่อาจปฏิเสธมันในทันที … หรือบางที
“อ่า…เอาล่ะ ฉันแค่กังวลเพราะก่อนที่เราจะเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจกัน ฉันก็เป็นผู้จัดการของคุณและก็เป็นเพื่อนของคุณ” อบิเกลยกคิ้วขึ้นทั้งสองข้างส่งเสียงพึมพําเบา ๆ หลังจากมองไปที่หน้าโกรธเคืองของเล็ก
เล็กซี่หลับตาลงช้าๆขณะที่เธอนวดขมับเบา ๆ ด้วยความทุกข์ใจ เธอเอ่ยออกไปว่า ” ลืมมันไปเถอะ แล้วไปส่งฉันที่โรงแรม ขอฉันพักผ่อนเลย”
หลังจากครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว เล็กซี่ก็เปลี่ยนใจและสั่งให้ผู้จัดการของเธอส่งเธอไปยังจุดหมายเดิม
เธอรู้สึกโง่ที่เห็นด้วยกับค่าขอของอีธานโดยไม่คิดอะไรเลย ในขณะที่เธอรู้สึกหวิว ๆ ที่จะไปหาเขา แต่ตอนนี้ด้วยการมีส่วนร่วมของงานของระบบและความรู้สึกของอีธานลู่ที่มีต่อเธอ เล็กซี่รู้สึกเหมือนอยากจะหนี้จากมัน
เมื่อเธอผ่อนคลายลงเล็กน้อยกับการตัดสินใจครั้งสุดท้าย คําพูดต่อไปของผู้จัดการของเธอทําให้ดวงตาของเธอลืมตาขึ้นทันทีและปากของเธอก็แยกออกจากกัน
“หือ? แต่เรามาถึงที่นี่แล้วนะ “อบิเกลค่อยๆดึงตัวไปด้านข้างเพื่อดูสีหน้าของเล็กซี่ที่ตกตะลึง ซึ่งทําให้คิ้วของเธอยันด้วยความสับสน
ทันใดนั้นเสียงเคาะเบา ๆ ที่ด้านนอกของรถก็ท่าให้เล็กซี่กลับมาสู่ความเป็นจริง เธอหันหน้าไปทางหน้าต่างของเธอ แล้วเห็นใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยของชายคนหนึ่งในชุดสูททางการ ในทางกลับกันคิ้วของอบเกลกลับขมวดเข้าหากันมากขึ้น เมื่อเธอรู้สึกถึงกับผู้ชายคนนี้
“นี่คือผู้ชายที่เธอมาหาใช่ไหม? แล้วผู้ชายคนนี้เป็นใคร?”
เล็กซี่หายใจออกอย่างหนักก่อนที่จะหันหน้าไปหาผู้จัดการที่งงงวย ” ไม่ต้องรอนะ แค่เอาของไปวางในห้องฉันพอ… เดี๋ยวฉันกลับไปจัดการเอง ” หลังจากเอ่ยข้อความดังกล่าว เล็กซี่จึงปลดเข็มจัดนิรภัยและออกจากรถโดยไม่พูดอะไรอีก ปล่อยให้ผู้จัดการของเธอมีคําถามมากมายในใจ
“ทําไมวันนี้เธอถึงเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาขนาดนี้เนี่ย? ” อบิเกลบ่นพึมพําขณะที่เธอจ้องมองร่างของเล็กขณะที่เดินตามชายคนนั้นจากด้านหลัง
อบิเกล ส่ายหัวเล็กน้อยโยนเรื่องนี้ไว้ในใจ สิ่งที่สําคัญสําหรับเธอคือเล็กซี่ให้คํามั่นของเธอ และเธอต้องให้ประโยชน์กับข้อสงสัยนี้
“เธอรู้ว่าเธอกําลังทําอะไรอยู่” เธอมั่นใจในตัวเองในขณะที่เธอเริ่มหมุนรถและกลับไปที่โรงแรม
ปัจจุบัน อีธานอยู่บนชั้นสองของร้านอาหารเรียบง่ายและรอคอยเดทที่กําลังมาถึงอย่างอดทน ดังนั้นในขณะที่รถของอบิเกลฝานสนคุ้นเคยมาถึงจุดนัดพบดังกล่าว ริมฝีปากของอีธานลู่จึงโค้งงอเป็นรอยยิ้มและเขาเรียกเธออย่างไม่รอช้า
อย่างไรก็ตาม ตามปกติเล็กซี่ไม่ได้ลงมาทันที โชคดีที่เขาได้ให้คนของเขาคนหนึ่งๆไปรับ แล้วนั่นคือเหตุผลที่ผู้ช่วยคนหนึ่งของเขาต้อนรับและนําทางเธอไปยังห้องที่พวกเขาจะรับประทานอาหาร
เมื่อเล็กซี่เข้ามาในร้าน และอีธานมองไม่เห็นเธออีกต่อไปหัวใจของเขาเริ่มเต้นรัวอย่างควบคุมไม่ได้และรู้สีกกระวนกระวาย
เขามีสถานการณ์มากมายในใจเมื่อพบกันอีกครั้ง แต่สิ่งที่เขากําลังเผชิญอยู่ในตอนนี้ความกังวลและความไม่สบายใจที่เริ่มห่อหุ้มหัวใจของเขา และเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด
“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร…แค่มื้อเย็นไม่มีอะไรต้องกังวลเลย” เขาพึมพําเพื่อสงบสติอารมณ์ขณะเดินกลับไปกลับมา
“นายภารกิจหลัก คุณนี่หยาบคายมากเลยนะ! ทําไมถึงมีซาลาเปาและเกี่ยวในเมนูเสมอเมื่อคุณเดทกับเธอเนี่ย คุณกําลังทําสิ่งนี้โดยตั้งใจใช่ไหม!? “ชูรูขมวดคิ้วด้วยความหงุดหงิดขณะที่เธอยืนอยู่บนโต๊ะพร้อมกับย่า เท้าที่น่ารักของเธอ เธอได้ยินทุกคําสั่งของอีธานและเธอก็รู้สึกหงุดหงิดเมื่อได้ยินว่าเขาสั่งเกี้ยวและซาลาเปา หนึ่งจาน ตอนนี้ถ้าเล็กซี่เพียงแค่เห็นมัน เธอจะต้องถูกแกล้งอีกแน่นอน