The rise of the white lotus - ตอนที่ 132 ผมกําลังจะแต่งงาน
ตอนที่ 132 ผมกําลังจะแต่งงาน
“อีธาน คุณได้ตัดสินใจที่จะเป็นหัวหน้าตระกูลคนต่อไปหรือเปล่า?” เอ็ดเวิร์ดลุ่มองตรงข้ามเขาอย่างเคร่งเครียดจิบชาจากถ้วยชาที่สวยงาม
“ปู่เรียกผมมาทําไมเนี่ย?” อีธานขมวดคิ้ว เขานอนหลับสบายเพียงห้านาทีก่อนที่เขาจะถูกรบกวนจากผู้ช่วยที่คนสนิทของเขาอย่างลริคเจียง เขาได้รับแจ้งว่าปู่ของเขาให้มาตาม พวกเขาต้องการเพื่อพูดคุยเรื่องสําคัญ ดังนั้นอีธานลู่จึงต้องต่อสู้กับความต้องการที่จะนอนหลับให้มากขึ้นไปอีก
ตั้งแต่เขามาถึง ปู่ของเขาก็ไม่ได้พูดอะไรเลยเป็นเวลานานและสิ่งแรกที่เขาจะทําคือ?
“ชิ มันยังไม่ชัดเหรอไง? ไม่เข้าใจจริงๆว่าทําไมลุงกับคุณปู่ถึงท่าราวกับว่าพวกเขาไม่เข้าใจเรื่องสําคัญอะไรเลย หรือพวกเขาแก่เกินไป? ‘เมื่อนึกถึงเรื่องนี้อีธานลู่ก็ส่ายหัวด้วยความเสียดาย
เมื่อเห็นการแสดงออกของหลานชายและเดาความคิดที่ชัดเจนของเขาออก ริมฝีปากของเอ็ดเวิร์ดลูกกระตุก เขาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้ใจเขาเต้นแรงจนเกินไป กลัวว่าถ้าไม่มั่นคงทําเขาจะตายเร็วกว่าที่คิด
“อีธาน หลานรู้ไหมว่าทําไมปู่ถึงอยากให้ให้หลานสือทอดของปู่แทนพ่อหรือลุงของหลาน ” เอ็ดเวิร์ดลู่พูดอย่างใจเย็น โดยไม่สนใจการแสดงออกที่เหยียดหยามบนใบหน้าของหลานชาย เขาก็กลับมาเอ่ยต่อในอีกไม่กี่วินาที
“สิ่งหนึ่งก็คือ พวกเขาเอาแต่เถียงกันว่าใครคือคนที่คู่ควรที่สุดระหว่างทั้งสองคนนั้นก่อนที่หลานและเหล่าลูกพี่ลูกน้องของหลานจะเกิด ปู่ค่อนข้างหงุดหงิดที่พวกเขาเอาแต่พูดราวกับว่าปู่ใกล้จะตาย แต่เมื่อเวลาผ่านไป ปู่ก็สังเกตเห็นบางอย่าง”
คิ้วของอีธานเล็กขึ้นเมื่อความสนใจของเขาถูกกระตุ้น ด้วยเหตุผลว่าเขาได้ยินถึงเหตุผลของปู่ของเขาว่า ทําไมเขาถึงบอกให้อีธานลู่เป็นทายาทคนเดียวของเขา ว่าเขาหงุดหงิดกับลุงและพ่อของเขา ถึงกระนั้นอีธานก็รู้ว่ามีเหตุผลที่ลึกซึ้งอยู่เบื้องหลังของมัน
แต่อีธานไม่ได้ใส่ใจเพราะเขาไม่เคยตั้งใจที่จะสืบทอดบริษัท ท้ายที่สุดอีธานมั่นใจว่าเขาสามารถรักษาวิถีชีวิตของเขาได้ด้วยความพยายามของตัวเอง ในขณะที่เขาไม่มีจุดอ่อนในตอนนั้นเลย
แต่ตอนนี้ เมื่อได้เห็นว่าสมาชิกหลักของตระกูลลู่เจ้าเล่ห์เพียงใด และพวกเขาเกือบจะคว่าโต๊ะและทําให้เขาเสียเปรียบได้อย่างไร ความเข้าใจของอีธานก็ลึกซึ้งขึ้น เขาตระหนักดีว่าหลักฐานและข้อเท็จจริงนั้นจะใช้ไม่ได้กับพวกเขา เพราะพวกเขาสามารถบิดเบือนมันให้เป็นไปตามต้องการได้เสมอ
โชคดีที่อีธานลู่ส่งเอกสารให้ปู่ของเขาเมื่อเดือนที่แล้ว ดังนั้นปู่ของเขาจึงทําการตรวจสอบด้วยตัวเองก่อน ถึงอย่างนั้นเขาก็ต้องยอมรับว่ามันไม่ง่ายอย่างที่คิดเกี่ยวกับการจัดการกับพวกเขาและครั้งนี้ อีธานลู่แค่โชคดีเท่านั้น แต่มันคงจะไม่สนุกถ้าได้มาอย่างง่ายดาย
“ทั้งพ่อและลุงของหลานขาดบางอย่างไป…นั้นคือความเป็นผู้นําพวก เขาอาจจะทําธุรกิจได้ดีและการที่พวกเขาทําโครงการสําเร็จนั้นเป็นเรื่องที่น่ายกย่อง อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่มีความเป็นผู้นําที่ดีซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สําคัญที่สุดที่ทําให้ครอบครัวของเรามายืนอยู่ในจุดสูงสุด อีธานพ่อของหลานเก่งในสิ่งที่เขาทําอย่างปฏิเสธไม่ได้ แต่เขาก็ชอบทําสิ่งต่างๆด้วยตัวเอง เขาไม่ไว้ใจใคร แม้เรื่องเล็กน้อยนั่นก็กลายเป็นสาเหตุที่ทําให้สุขภาพของเขาแย่ลง ในทางกลับกันด้านเดนนิส แม้ว่าเขาจะดูเหมือนว่าเขาเป็นผู้นําทุกคนได้ แต่บางครั้งแทนที่จะควบคุม เขากลับถูกควบคุมเสียเอง นั่นพิสูจน์แล้วโดยพ่อของหลานนั่นแหละ” ทันใดนั้น ดวงตาของเอ็ดเวิร์ดก็ดูเคร่งขรึมในขณะที่เขาจิบชาอีกครั้งจากถ้วยชาของเขา
“เอ๊ะ? แล้วทําไมปู่ถึงประกาศว่าผมจะเป็นทายาทของปู่ตอนที่ผมอายุ 5 ขวบล่ะ ปู่ ผมจําไม่ได้ว่าผมเคยเล่นเป็นหัวหน้ามาเฟียกับเพื่อน ๆของผมนะ” เขาขมวดคิ้ว อีธานตรวจสอบความทรงจําในวัยเด็กของเขา และไม่มีสิ่งใดในความทรงจําของเขาที่บ่งบอกได้ว่าเป็นสัญญาณของผู้น่าที่ดี
เอ็ดเวิร์ดพินิจพิจารณาสีหน้าสงสัยของหลานชายก่อนที่เขาจะแสยะยิ้ม” ก็จริง แต่หลานสามารถฝึกมันได้
“เฮอะ ไม่ได้เรื่องเลย ” เมื่อได้ยินคําตอบของปู่ อีธานก็ยกนิ้วโป้งลง เขาคิดไว้แล้วว่าปู่ต้องตอบแบบนี้ เขากล่าวเสริมว่า ” ซึ่งถือเป็นความล้มเหลวครั้งยิ่งใหญ่”
“ฮ่า! ไอ้เด็กนี่! ฉันเองก็สงสัยว่าแกผิดพลาดตรงไหน” ด้วยการถอนหายใจอย่างหนัก เอ็ดเวิร์ดไม่มีแรงที่จะตบตีกับหลานชายที่ชื่อ ๆ ของเขาคนนี้
“ฮะๆ คุณปู่ยอดเยี่ยมมาก ดังนั้นผมถึงยอดเยี่ยมมากยังไงล่ะ ” เมื่อเห็นว่าอารมณ์ของเอ็ดเวิร์ดอู่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันอีธานก็ยิ้มและกล่าวชมเขาทันที
ถึงแม้ว่าเอ็ดเวิร์ดจะเป็นคนที่เข้มงวด แต่เขาก็ใจเย็นกับหลานเขามาตลอด ดังนั้นแม้ว่าอีธานอาจจะไม่ได้พูดมันออกมาดัง ๆ แต่เขาก็ห่วงใยความเป็นอยู่ของปู่ของเขาอย่างแท้จริง และจะทําตามคําขอของเขา ยกเว้นการเป็นผู้นําตระกูล … แต่ตอนนี้เขาอาจอยากทําสิ่งนั้นได้สําเร็จ
“ฮ่าฮ่า เด็กคนนี้นี่ … ยังไงก็เถอะ หลานได้ทําตามคําแนะนําความรักที่ให้ไปรึเปล่าเกี่ยว” เอ็ดเวิร์ดสู่สายหัวในขณะที่เขาพอใจกับคําชมของอีธาน เอ็ดเวิร์ดลู่เปลี่ยนเรื่องขณะจิบชาอีกครั้ง
“อ๋า! ผมเกือบลืมไปเลย!” หลังจากได้ยินคําพูดสุดท้ายของปู่ อีธานก็ได้รับการเตือนเกี่ยวกับบางสิ่งที่สำคัญที่เขาต้องพูดคุยกับปู่ เขาพูดต่อหลังจากเว้นช่วงไป
“คุณปู่ ผมขอคําอวยพรจากปู่ด้วย…ผมกําลังจะแต่งงาน!” อีธานลู่ยืนยันด้วยสีหน้าเคร่งขรึมบนใบหน้าของเขา
เอ็ดเวิร์ดจะแทบสําลักตาย เมื่อได้รับข่าวที่น่าตกใจที่หลานชายของเขาบอกมาในตอนนี้ เขาปล่อยไอรุนแรงออกมาหลายครั้งพร้อมกับเคาะหน้าอกของเขา ผู้ช่วยของเขาตื่นตระหนกและรินน่าลงแก้วที่เอ็ดเวิร์ดอู่ดีมให้เขา
“ไอ้หลานเนรคุณ แกพยายามจะฆ่าฉันรึไง!?” เมื่อเอ็ดเวิร์ดสามารถสงบสติอารมณ์ได้เขาก็ตะโกนและจ้องมองไปที่อีธานซึ่งนั่งอยู่ตรงข้ามกับเขา
“ว่า ปู่ใจเย็นก่อน ” อีธานลู่ยกมือทั้งสองข้าง เขาสะดุ้งเมื่อเห็นว่าปูที่รักของเขาถูกกระตุ้น
“ทําไมแกจะแต่งงานกะทันหันได้? ห้ะ! ฉันลืมบอกไปว่าแกต้องป้องกันด้วย เธอท้องอย่างนั้นเหรอ? เดี๋ยวก่อนนะ นี้หมายความว่าฉันกําลังจะมีเหลนหรือเปล่า!” เอ็ดเวิร์ดอู่ที่กลายเป็นคนฉุนเฉียวในตอนแรก แต่เมื่อสรุปได้ว่าเขาจะมีเหลน ใบหน้าของเขาก็เปล่งประกายแวววาวและดวงตาของเขาเป็นประกายด้วยความหวัง
“เดี๋ยวๆ! ปู่ ผมยังจีบเธออยู่เลย ผมก็หวังว่าเธอจะอุ้มลูกของผมเหมือนกัน ผมแค่ขอล่วงหน้าเพราะผมอาจจะแต่งงานตอนไหนเมื่อไหร่ก็ได้” อีธานขมวดคิ้วขณะที่เขาอยากมีลูกกับเล็กสี่เหมือนหัน อย่างไรก็ตามตอนนี้ มันยังคงเป็นความฝันที่ไกลเกินเอื้อม
“อ้าก! ไอ้น … ให้ความหวังจอมปลอมกับฉันเหรอ!” เขารู้สึกผิดหวังกับความก้าวหน้าในชีวิตรักของอีธานที่เชื่องช้า เอ็ดเวิร์ดอู่มีสายตาที่หดหู่ใจ
“อ้า!ได้เวลาแล้วผมคงต้องไปก่อนนะผมยังมีงานสําคัญรออยู่ สําหรับงานแต่งงานในอนาคต ไม่ต้องกังวลนะครับ ผมจะไม่เสียเวลาเมื่อเราแต่งงานกันเลย” อีธานก้มหน้าขณะขออนุญาตจากไป ก่อนที่เขาจะค่อยๆลุกขึ้นยืนจากที่นั่งและพูดประโยคสุดท้ายพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์บนริมฝีปากของเขา