The rise of the white lotus - ตอนที่ 20 โชคก็ถือเป็นทักษะ
ตอนที่20 โชคก็ถือเป็นทักษะ
“โอ้ คุณคงเป็นคุณหนูของตระกูลหยางสินะครับ ผมได้ยินเรื่องคุณมาเยอะเลยล่ะ ” เร็นเปิดการสนทนาอย่างสดใส อนิจจาสำหรับเล็กซี่ เธอคิดว่าเขาต้องเคยได้ยินเกี่ยวกับการพยายามฆ่าตัวตายของเธอ และการล้มละลายของตระกูลเธอแน่ ๆ ดังนั้นเล็กซี่จึงทำได้เพียงยิ้มกลับ และปิดปากเงียบ อย่างไรก็ตาม หากยิ่งคุณพูดน้อยลง คุณก็จะยิ่งทำผิดพลาดน้อยลงเท่านั้น เพราะจุดประสงค์ของเธอคือต้องสร้างความประทับใจที่ดีให้กับเขา
” อ่า ผมรบกวนเวลาของสุภาพสตรีหรือเปล่า? ” เร็นสอบถาม อย่างไรก็ตามการสอบถามของเขาทำให้เล็กซี่สนใจ เนื่องจากเช่อเตียหยูบอกแล้วว่าพวกเขากำลังจะออกเดทกัน แต่จากรูปการณ์ของมัน ดูเหมือนว่าเร็นจะมีจุดประสงค์อื่นของตัวเองที่มาที่นี่
“ไม่ ไม่เลย พวกคุณไปเดทต่อกันเถอะค่ะ ” เล็กซี่ยิ้ม ขณะที่เธอก้มศีรษะอย่างสุภาพและหยิบกระเป๋าเงินของเธอออกมา กลับกันคิ้วของเร็นขมวดด้วยความสับสน
” เดท? กับใคร? ผมกับคุณหนูเช่อเหรอ? ห๊ะ “
เมื่อได้ยินเร็นปฏิเสธเรื่อง ‘เดท’ ของพวกเขาโดยไม่สบตา เช่อเตียหยูยังคงยืนอยู่…อย่างพูดไม่ออก ถ้าพวกเขาไม่ได้ไปเดทกัน ทำไมเขาถึงขอให้เธอมาเจอเขาที่นี่ ?
เล็กซี่อดไม่ได้ที่จะหัวเราะคิกคักในใจ เมื่อเห็นการแสดงออกที่เด๋อด๋าบนใบหน้าของเช่อเตียหยู ก่อนหน้านี้เธอค่อนข้างรำคาญกับการโอ้อวดและท่าทางใสซื่อ ดังนั้นการที่เธอถูกหักหน้าเช่นนี้ ทำให้เธออดรู้สึกสะใจไม่ได้
‘ หึ ตอนนี้เธอก็รู้แล้วว่าตอนนั้นฉันรู้สึกยังไง ‘ เล็กซี่คิดในใจ นึกถึงตอนมอริสปฏิเสธการมีเธอต่อหน้าเพื่อนและคนอื่นอย่างไร ถ้าไม่ใช่เพราะเธอว่าเป็นทายาทของตระกูลหยาง เล็กซี่อาจได้ยินคำพูดเยาะเย้ยมากมายแน่นอน โชคดีที่เธอมีภูมิหลังครอบครัวที่ดี จึงสามารถเชิดหน้าชูตาให้สูงได้เสมอโดยไม่ต้องสนใจใคร
“อืม..ทำไมเราไม่ทานอาหารด้วยกันเลยล่ะ ถ้างั้นผมขอนั่งด้วยนะครับคุณผู้หญิง” เร็นเสนอเสนอออกมา เล็กซี่ไม่ได้ตอบรับในทันที ราวกับว่าเธอคิดทบทวนเรื่องนี้ก่อนที่เธอจะค่อยๆพยักหน้าเห็นด้วย
‘ คุณโชคดีจริง ๆเลยชู! ‘ ชูรูยกนิ้วโป้งให้เล็กซี่ ขณะเดียวกัน เธอก็กำลังวางแผนใจกับบทสนทนาที่จะเกิดขึ้น
‘ โชคดีก็ถือเป็นทักษะ ‘ เล็กซี่ตอบทางกระแสจิต แม้ว่าแผนของเธอคือมาเพื่อดูหน้าตาของเขา และแอบฟังบทสนทนาที่เขาคุยกันสักสองสามเรื่อง แล้วค่อยเอากลับไปวางแผนที่จะยื่นข้อเสนอทางธุรกิจที่เขาไม่อาจปฏิเสธได้
อย่างไรก็ตาม ความโชคร้ายที่ถูกชโลมกายของเธอราวกับห่าฝนเมื่อก่อน ตัดภาพมาตอนนี้ เธอมีความสุขกับโชคที่ได้รับ ดังนั้นเธอจะใช้โอกาสนี้ในการตีสนิทกับเร็น ก่อนที่เธอจะเสนอข้อตกลงธุรกิจกับเขา ท้ายที่สุดแล้ว หาเธอดันทุรังเข้าหาเขาเพียงเรื่องนี้ ก็อาจจะทำให้ความประทับใจของเขาที่มีต่อเธอแย่ลง และก็จบลงที่เขามองเธอไม่ดีไปเลย
หลังจากนั้นไม่นานเร็นก็นั่งอยู่ที่อีกฝั่งหนึ่งของโต๊ะ ที่ออกแบบอย่างหรูหรา ส่วนเล็กซี่อยู่ทางซ้าย และเช่อเตียหยูอยู่ทางด้านขวาของเขา เขาเหลือบมองด้านข้างของเขาเล็กน้อย และประสานมือไว้ใต้คางอย่างร่าเริง
“ รออะไรอยู่? เริ่มทานเถอะ!”
ขณะที่พวกเขากินอาหารอยู่นั้น เช่อเตียหยูยังคงเงียบโดยก้มหน้าลงต่ำ เธอตักซุปอย่างช้า ๆ ในอีกด้านหนึ่งเล็กซี่สังเกตการตอบสนองของพวกเขา และเธอสามารถบอกได้ว่า เร็นดูไม่ได้สนใจเช่อเตียหยูเลย เธอรู้ได้อย่างไรน่ะเหรอ? สำหรับคนอย่างเธอที่รักข้างเดียวมาหลายปี เธอสามารถบอกได้ด้วยการมองเพียงครั้งเดียว
” คุณหนูหยาง อย่างที่คุณรู้ ผมเพิ่งมาที่นี่ แต่ผมมักจะได้ยินเรื่องเกี่ยวกับบริษัทของคุณที่คอยสนับสนุนและมีส่วนร่วมในวงการอุตสาหกรรมนี้”
“ขอบคุณสำหรับคำชมนะคะประธานทานากะ ฉันรู้สึกปลื้มใจจังเลยค่ะ คุณพ่อของฉันทำงานหนักมากจริง ๆ ” เล็กซี่พูดขอบคุณด้วยท่าทางที่ดูดี โดยรู้ว่าเร็นพยายามประจบเธอ แต่จริง ๆแล้วไม่ได้หมายความตามที่พูด ท้ายที่สุดแล้วนักธุรกิจมักใช้ภาษาดอกไม้ในการพูด ด้วยเหตุผลบางอย่างเร็นยิ้มอย่างพอใจกับคำตอบของเธอ
“เฮ้ คุณได้รับเชิญไปงานเลี้ยงของตระกูลเยว่ด้วยหรือเปล่า?” เร็นถามเธอ โดยลืมไปเสียสนิทว่ายังมีเช่อเตียหยูนั่งอยู่ด้วย
” หืม? ” เล็กซี่รู้สึกสับสนเล็กน้อยกับคำพูดของเขา แน่นอนว่าตระกระกูลเยว่นั้น เธอรู้จักอย่างคลุมเครือ แต่เธอไม่เคยให้ความสนใจเรื่องของพวกเขา หรือเป็นเพราะเธอไม่ได้ให้ความสนใจในเรื่องธุรกิจมานานแล้ว ดังนั้นเธอจึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง นอกเหนือจากบริษัทผู้สนับสนุนนวัตกรรม L-Tech สาขาตะวันออกที่เป็นสาขาใหม่
“คุณรู้หรือเปล่า ว่าคุณควรเข้าร่วมนะ…คุณจะได้รับประสบการณ์ที่เป็นขั้นกว่าของการสร้างคอนเนคชั่นเลยล่ะ” เร็นยิ้มอย่างพอใจ ในขณะที่เขาเองกำลังสนับสนุนธุรกิจของใครบางคน นับตั้งแต่เขามา เขาก็ยังไม่หยุดชวนเธอคุยตั้งแต่ต้นจนจบ ราวกับให้เกียรติเธอ
ยิ่งไปกว่านั้นจากการสังเกตของเขาที่มีต่อบริษัทหยางและเล็กซี่ เขาแน่ใจและพบว่าพวกเขาอาจจะกลายเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่ดีในอนาคต อย่างไรก็ตามเขาเชื่อว่าตระกูลหยางจะสามารถหลุดพ้นในข้อครหาเรื่องการทุจริตได้แน่นอน