The rise of the white lotus - ตอนที่ 29 ทิ้งความประทับใจที่ดี
ตอนที่29 ทิ้งความประทับใจที่ดี
เมื่อเล็กซี่กลับมาที่ห้องโถงจัดงานของโรงแรม งานเริ่มต้นด้วยราชินีแห่งมัลติมีเดีย มาร์ก้า เยว่ ซึ่งถือว่าเป็นการเปิดงานที่ยิ่งใหญ่เอาการ อย่างไรก็ตามมาร์ก้าเป็นรุ่นพี่ที่ได้รับการยอมรับนับถือในวงการบันเทิง แม้ว่าพวกเขาจะอายุเท่ากันก็ตาม
‘ มาร์ก้าเองก็เกี่ยวข้องกับตระกูลนี้สินะ … ฉันเข้าใจแล้ว ‘
เนื่องจากเธอเพิ่งก้าวเข้ามาอย่างเป็นทางการ เล็กซี่จึงตรงไปที่โต๊ะของเธอ และนั่งข้างนาดีน เธอมองไปรอบ ๆ โดยไม่รู้ตัว ด้วยอะไรดลใจ เธอก็ยังมองไม่เห็นอีธานลู่ในงาน
ชวนให้นึกถึงบทสนทนาของพวกเขาผ่านข้อความ ไม่ใช่ว่าเธอปฏิเสธข้อเสนอของเขา แต่มันตรงกันข้าม เธอยอมรับข้อเสนอของเขาทางอ้อม แต่แน่นอนว่าในฐานะคนที่หยิ่งยโสอย่างที่เธอสามารถเป็นได้ เธอบอกเขาว่าพวกเขาควรมาด้วยรถของตัวเองดีกว่า เพราะเธอแก้ตัวว่าจะมีการประชุมเล็กๆ ก่อนที่จะมุ่งหน้าไปที่งานของตระกูลเยว่
ยิ่งไปกว่านั้นเธออยู่ในช่วงเวลาแห่งการไถ่ชีวิต และถ้าเธอมาถึงพร้อมกับอีธานลู่ อดีตคู่หมั้นของเธอ อาจจุดประกายการปะทะกันอีกรอบ และจะขุดหลุมฝังเธอก็เป็นได้
อย่างไรก็ตามมันค่อนข้างน่าสงสัยที่อีธานลู่จะมาสายในสถานการณ์แบบนี้ แม้ว่าเขาจะบอกว่าเขารถติดอยู่ก็ตาม ตอนนี้เล็กซี่ได้พูดคุยกับนักธุรกิจและบุคคลที่มีชื่อเสียงคนอื่น ๆ ประปราย จนกระทั่งประธานหญิงคนใหม่ของ เยว่ อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็มไพรส์ ขึ้นบนเวที ซึ่งทุกคนให้ความสนใจไปที่เธอโดยไม่รู้ตัว
ผู้หญิงบนเวทีสวมชุดสูทธุรกิจแบบสบาย ๆ พร้อมทรงผมมวยต่ำระต้นคอเรียบร้อย และแว่นสายตาสั้นทรงแปลก ๆ อย่างไรก็ตามแม้ว่าประธานหญิงจะจงใจปกปิดตัวเองเพื่อไม่ให้โดดเด่น แต่เล็กซี่ก็สามารถเดาความงามที่อยู่เบื้องหลังหน้ากากโดยไม่ได้ตั้งใจได้
ช่วงเวลาที่เล็กซี่ได้ยินเสียงของประธานกรรมการคนใหม่พูดผ่านไมโครโฟน เล็กซี่ก็ชะงัก เมื่อมันเป็นเสียงที่คุ้นเคยจากก่อนหน้านี้ในห้องน้ำ
‘ เป็นเธอเหรอ? ‘ เธอคิดในใจ หมายความว่าเธอได้ยินคำสบประมาททั้งหมดที่เช่อเตียหยูโพล่งออกมา? เล็กซี่ให้ความสนใจเป็นพิเศษกับหญิงสาวที่กลายเป็นผู้นำคนใหม่ของบริษัทที่มีชื่อเสียง และประเมินเธออย่างพิถีพิถัน
เมื่อฟังการประกาศอย่างมั่นคงที่มาจากผู้นำคนใหม่ของบริษัทดังกล่าว ทำให้เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ขึ้นจากพนักงาน และพันธมิตรทางธุรกิจอื่น ๆ แม้แต่ผู้ถือหุ้นก็ดูเหมือนจะประหลาดใจกับการประกาศ
ไม่ว่าเล็กซี่จะสนใจหรือไม่ เธอเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัวนี้จากเร็นเมื่อไม่กี่วันก่อน ไม่ว่าเรื่องที่พวกเขาจะตั้งเป้าที่จะเป็นอันดับต้น ๆ หรือไม่ เล็กซี่ไม่สนใจ ตราบเท่าที่มันจะไม่ทำให้ครอบครัวของเธอเดือดร้อน
สุนทรพจน์ของประธานหญิงเยว่จบลงแล้ว ส่งผลกระทบอย่างมากต่อแขกส่วนใหญ่ของเธอ แม้แต่กับเธอเอง เล็กซี่มองไปรอบ ๆ เธอก็เห็นรอยยิ้มของทานากะเร็นที่ราวกับฉีกถึงหูได้ ซึ่งทำให้เธอสับสนเล็กน้อย
เขาอาจจะรู้สึกได้ถึงการจ้องมองของเธอ เร็นหันหน้าไปหาเธอที่อยู่ไม่ไกลจากเขานัก เมื่อเห็นการปรากฏตัวของเธอ ดวงตาของเร็นก็สว่างขึ้นและเดินไปหาเธออย่างร่าเริง
“คุณหยาง! คุณมาด้วย?”
“ค่ะ ดีใจที่ได้เจอนะคะคุณทานากะ ” เล็กซี่ตอบกลับนักธุรกิจที่ถ่อมตัวอย่างน่าประหลาดใจ
” ทำไมมาอยู่ตรงนี้ล่ะ? คุณอยากมากับผมไหม? ” ดวงตาคู่นั้นของเขานั้นแพรวพราวราวกับเด็กน้อยที่มองเห็นไอดอลของเขา เขาถาม ในทางกลับกัน เล็กซี่พยักหน้าเล็กน้อยเห็นด้วย
เร็นจับมือกันอย่างตื่นเต้นและเชิญชวน “อ่าใช่แล้ว ฉันจะแนะนำคุณให้รู้จักกับเธอ” แน่นอนว่าเล็กซี่จะไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดลอย ในขณะที่เธอพยักหน้าเห็นด้วยและเดินตามเร็นไปที่กลุ่มเพื่อนของเขา
เล็กซี่ต้องยอมรับว่าเธอรู้สึกหนักใจที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยผู้ชายที่มีชื่อเสียงและมีอิทธิพล เธอพูดคุยกับพวกเขาด้วยความรู้ที่เธอศึกษามาสองสามวัน ดังนั้นเธอจึงตามสนทนาได้โดยไม่ต้องอายตัวเอง
ไม่ช้าเธอก็รู้สึกผ่อนคลายเล็กน้อย เพราะเธอมั่นใจว่าเธอทำได้ดีมากแล้ว อย่างไรก็ตามด้วยเหตุผลบางประการ มีบางอย่างเตือนว่ามีสิ่งผิดปกติ ราวกับว่าเธอกำลังลืมบางสิ่งที่สำคัญ…คือชูรูนั่นเอง หลังจากที่ชูรูตรวจสอบสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เธอก็ไม่กลับมาอีกเลยตั้งแต่นั้นมา
แต่เมื่อนึกถึงชูรู เล็กซี่ก็ยักไหล่ เธอมั่นใจว่าเดี๋ยวชูรูก็โผล่มาจากไหนสักแห่ง ในไม่ช้าประธานเยว่ อินเตอร์เนชั่นแนลเอ็มไพรส์ที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่ เซราฟิน่า เยว่ ก็ปรากฎกลางวงของพวกเขา พร้อมกับเจ้าชายวงการอุตสาหกรรมแพทย์ เลียม จิน
แน่นอนว่ามุมมองของเล็กซี่ ที่มีต่อผู้หญิงแปลก ๆคนนี้ ซึ่งมีความสามารถนี้จะตะเกียกตะกายมาถึงจุดนี้ได้ ท้ายที่สุด จิน เมดิแคลกรุ๊ป ผูกขาดอุตสาหกรรมการแพทย์ทั้งหมดและเป็นตัวเลือกแรกของตระกูลที่มีชื่อเสียงอันดับต้น ๆ ในเรื่องดูแลบสุขภาพของพวกเขา
เร็น: ” ท่านประธาน แม้ว่าคุณจะไม่ได้แต่งตัว แต่ความงามของคุณก็เปล่งประกายอยู่ “
” ฮ่าฮ่า ผมได้ยินมาว่าคุณทานากะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับมาดามเยว่?” ผู้ประกอบการธุรกิจรายอื่นอย่าง นายถังกล่าวเบา ๆ
เร็น: ” เฮ้ ประธานเย่วเป็นเพื่อนคนสกำคัญของผม เธอช่วยผมสองสามครั้งตอนที่เราอยู่ที่ประเทศ y ถ้าไม่ใช่เพราะเซร่า ผมเกรงว่าบริษัทของผมจะไม่เป็นอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้หรอก ใช่ไหม ประธานเยว่?”
เซราฟิน่า เยว่: “หึ เร็นยกยอกันเกินไปนะ แต่อนิจจา พูดตามความจริงแล้ว ฉันก็เป็นนักธุรกิจที่เก่งกว่าเขา “
เมื่อได้ยินคำพูดของเธอ เล็กซี่ก็เกือบจะทำแชมเปญของเธอหก เพราะการยอมรับในความสามารถของตัวเองอย่างไร้ยางอายของคนตรงหน้า แน่นอนความสัมพันธ์ของประธานเยว่และเร็นนั้นลึกซึ้งเกินคาด เมื่อมองไปที่เลียมจินผู้น่านับถือ เล็กซี่ไม่สามารถสนใจน้อยลงเกี่ยวกับการแสดงออกทางสีหน้าเฉยเมยของชายผู้สง่างามคนนี้ได้
เล็กซี่พูดคุยกับพวกเขาบ้างเป็นบางช่วง แต่ไม่ได้แสดงให้ดูอยากมีส่วนร่วมขนาดนั้น เพียงพอที่จะสร้างความประทับใจให้กับพวกเขาได้ อย่างไรก็ตามในฐานะผู้สังเกตการณ์เธอไม่สามารถหยุดริมฝีปากของเธอกระตุกได้ เมื่อได้ยินคำพูดที่คลุมเครือและทำให้เข้าใจผิดของเร็น เขาโจมตี เซราฟิน่า เยว่ หรือ เลียม จิน? จากมุมมองของเธอ เร็นอาจจะหรือไม่ตั้งใจที่จะพูดคำเช่นนี้โดยเฉพาะต่อหน้าคู่หมั้นของใครบางคน เนื่องจากเขาเติบโตในวัฒนธรรมที่แตกต่างออกไป
หลังจากนั้นไม่นาน เล็กซี่ก็พบเวลาที่เหมาะสมในการเกาะติดบทสนทนาเมื่อมันถูกเบี่ยงเบนไปสู่การสนทนาทางธุรกิจ
ซึ่งเธอไม่รู้เลยว่า อีธานลู่ซึ่งเข้ามาในงานแล้วกำลังเฝ้ามองดูเธออยู่ไม่ไกล ใบหน้าที่น่าหลงใหลปรากฏรอยยิ้มยั่วยวนบนริมฝีปากสีเข้มของเขา