The rise of the white lotus - ตอนที่ 68 คุณทําให้ผมภูมิใจใช่มั้ย?
ตอนที่ 68 คุณทําให้ผมภูมิใจใช่มั้ย?
” หืมม แล้วคุณกับชานนี้ยังไงกัน ที่นี่เป็นของคุณเหรอ?” เล็กซี่ยิ้มอย่างจริงใจ ขณะที่อีธานหัวเราะไม่หยุด
” ฮะๆชานเป็นลูกของอดีตพี่เลี้ยงของผมเอง และที่นี่เป็นของขวัญที่ผมมอบให้เธอ” สายตาของอีธานอ่อนลงและมีรอยยิ้มอ่อนโยนเกิดขึ้นที่ข้างริมฝีปาก ขณะที่เขานึกถึงบางสิ่งในความทรงจําของเขา
เมื่อเห็นการแสดงออกของเขาที่อ่อนโยนแม้ไม่ได้พูดอะไรมาก เล็กซี่ก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชมอีธานจากก้นบึงของจิตใจ ราวกับว่าเขาปฏิบัติต่ออดีตพี่เลี้ยงของเขาเหมือนเป็นครอบครัวของเขาเอง เพราะนั่นคือสิ่งที่เธอรู้สึกเมื่อได้ยินเขาพูด
“ ฉันเข้าใจแล้วเธอคงเป็นคนที่วิเศษมากจริงๆ”
“ อื่ม…เธอวิเศษมากจริงๆ ถ้ามีโอกาศผมจะพาคุณไปหาเธอ” โดยไม่ต้องคิดมากว่าจะพูดอะไร อีธานก็โพล่งออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ
หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีที่คําพูดของเขาหลุดออกมาจากปาก อีธานก็ตระหนักถึงคําพูดที่เขาไม่เคยเอ่ยออกมาก่อน เขาค่อยๆขยับสายตาที่ตกตะลึงไปยังเล็กซี่ โชคดีที่เล็กที่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่คิดไปในทางอื่น ขณะที่เธอพยักหน้าด้วยความสนใจ
“ แน่นอนว่าฉันจะไม่นินทาคุณให้เธอฟังหรอก ” ตรงข้ามกับสิ่งที่เธอพูด ด้วยรอยยิ้มซุกซนของเล็กซี่นั้นบอกเขาเป็นอย่างอื่น
” สาวน้อย ขอเตือนเลยนะว่าอย่าคิดทําอย่างนั้นเชียว “ อีธานขู่อย่างไม่จริงจังนัก โดยตอบสนองแผนการที่เธอกําลังคิดอยู่ในใจ
“ อะไร?ฉันบอกว่าฉันจะไม่ทําหรอกเหรอ?” เล็กซี่หัวเราะคิกคักอย่างไร้เดียงสา ขณะที่เธอแกล้งเขาอยู่
แม้แต่ตัวเธอเอง เธอก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่กําแพงที่แตกสลายของเธอเริ่มพังทลายรอบ ๆ อีธานคู่แต่สําหรับเธอนั้นไม่สําคัญ ตราบใดที่อีธานลู่ยังทําตัวเป็นตัวของตัวเอง และพิสูจน์ว่าเขาไม่ใช่คน แบบที่เธอคิด ตอนนั้นเธอยอมรับกับมัน
“ชิชิ ในที่สุดฤดูใบไม้ผลิก็มาถึงแล้ว” ชูรพาร่างที่อ่อนปวกเปียกของเธอนั่งลงที่กลางโต๊ะแล้วหัวเราะคิกคัก ในขณะที่ใช้มือปิดปากเธอไว้
จากนั้นชานก็มาพร้อมกับถาดอาหารที่สั่ง “ อาหารมาเสิร์ฟแล้วครับ “ ชานยิ้มอย่างอ่อนโยนขณะเสิร์ฟบะหมีร้อนๆและเกี้ยวนึ่งข้างๆชูรู
เมื่อเห็นว่าชานบังเอิญเสิร์ฟเกี้ยวนึ่งข้างชูรูที่มีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อย เล็กซี่ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ
“เฮ้! ทําไมนายถึงวางมันไว้ข้างๆฉันน่ะซูรู!” ชูรูบ่นอย่างเคือง ๆ ด้วยความที่ชานเพิ่งเอาอาหารจานนึ่งที่ดูเหมือนเธอมาวางไว้ข้างๆ
* น้องสาว ดีใจที่เธอกลับมาพบเจอกับพี่น้องของเธออีกครั้งนะ เธอเปล่งเสียงข้างในใจขณะที่กัดริมฝีปากล่างเพื่อระงับเสียงหัวเราะจากการประท้วงที่น่ารักของชูรู
ในมุมมองของอีธาน เขาไม่รู้ว่าเธอจําอะไรที่ดูเหมือนจะตลกได้ถึงได้แสดงท่าทางแบบนั้นแต่ เห็นเธอเป็นแบบนี้เขาก็พอใจอย่างน่าประหลาด
เมื่อมองไปที่ความอยากรู้อยากเห็นที่ชัดเจนของชาน เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพวกเขาอีธานยิ้มโดยไม่มีเงื่อนงําใด ๆ กับการซักถามของชาน เขาเอียงศีรษะไปด้านข้างซึ่งทําให้ชานถอนหายใจด้วยความหงุดหงิด
” ก็ได้ๆ ฉันจะไม่รบกวนการออกเดทของพวกพี่ก็ได้ ชานบ่นภายในขณะที่เขาเดินออกไปพร้อมกับถาดในมือ
“ ถึงตาคุณแล้ว ” เล็กซี่คนผสมบะหมี่กับตะเกียบให้เข้ากัน แล้วถามก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาดูอีธาน เมื่อเห็นว่าชานอยู่ห่างออกไปอีธานจึงสอดส่องไปที่ผู้หญิงที่นั่งตรงข้ามเขา
“ อะไรเหรอ อ่าาาา ผมจะบอกว่า “ อีธานเกาขมับด้วยนิ้วชี้ของเขา ขณะที่เขากําลังคิดคําพูดของเขาที่ไม่ฟังดูเหมือนสอบสวนหรืออะไรทํานองนั้นกับเธอ เพราะเขากลัวว่าเล็กซีอาจจะเข้าใจผิดในความอยากรู้อยากเห็นที่ บริสุทธิ์” ของเขา
” เอ่อ นายภารกิจแรกกําลังทําอะไร? นายอายหรืออะไรชู?” ชูรูที่ไม่พอใจก็มี สีหน้าอัปลักษณ์ขณะที่เธอบินไปบนขอบโต๊ะห่างจากเกี้ยวที่มนุษย์กินอยู่
ในทางกลับกัน เล็กซี่ขมวดคิ้วขณะที่เธอเงยหน้าขึ้นเพื่อมองอีธานที่ขัดแย้งในตัวเอง และยังคงคนบะหมีไปด้วย
” พูดส์ “
“รู้ตัวไหม ทําไมคุณถึงมาอยู่กับ …” อีธานครุ่นคิดอย่างหนักกับคําพูดของเขา แต่สุดท้ายมันก็ยังทําให้เขาหงุดหงิดที่มันฟังดูแปลกๆ ทําไมคุณถึงมาอยู่กับมอริสและทําไมคุณไม่เลื่อนนัดไปคุยในตอนเช้า แทนที่จะเป็นตอนกลางคืน แต่นั่นคือประเด็นทั้งหมด! เขาฟังดูเหมือนแฟนขี้หึงแปลก ๆ ซึ่งทําให้เขาผิดหวังมากยิ่งขึ้น
“ ทําไมฉันถึงมาอยู่ที่ห้องทํางานของประธานหลิวกลางดีก? คุณไม่ถามฉันแล้วเหรอ? เขาขอให้ฉันมาน่ะ ” เล็กซี่ยักไหล่อย่างไม่ไยดี ขณะที่เธอเป่าเส้นก๋วยเตี๋ยวที่อยู่บนตะเกียบของเธอก่อนที่จะเอาเข้าไปในปาก
“ใช่ แต่ทําไมคุณถึงไม่ปฏิเสธ? ผมหมายความว่า..ผมรู้ว่าคุณเชื่อใจเขา – เอ่อ ช่างมันเถอะ” อีธานไม่พอใจกับคําตอบที่เรียบง่ายของเธอ แต่ก็หยุดคําถามของเขาเมื่อรู้ว่าตอนนี้เขาฟังดูไม่เป็นตัวของตัวเองมากกว่าก่อนหน้านี้ เขาส่ายหัวเรียกสติและเอื้อมมือไปหาตะเกียบขณะที่เขาเพ่งสายตาไปที่ชามบะหมีตรงหน้า
“โอ้โห ในที่สุดความหึงก็เกิดขึ้นแล้ว!” ชูรโหมกระหน่ําทั้งที่รู้ว่าอีธานไม่ได้ยินความคิดเห็นของเธอเธอกล่าวเสริมว่า
” ให้คะแนนเดี๋ยวนี้นะชูเพื่อที่เราจะได้ดําเนินเรื่องราวความรักของคุณต่อไปได้ไงชู ”
เธอมองลงไป เล็กซี่เคี้ยวอาหารในปากของเธออย่างสบาย ๆ ก่อนที่จะกลืนมันแล้วตอบด้วยน้ําเสียงที่เคร่งขรึมและซื่อสัตย์ ” ฉันบอกตัวเองเสมอว่าลืมเขา แต่ฉันทําอย่างนั้นไม่ได้ง่ายๆ
อีธานขมวดคิ้วเมื่อได้รับคําตอบที่จริงใจของเธอ เขาไม่รู้ว่าทําไม แต่มันทําให้เขารู้สึกไม่พอใจที่ได้ยินพวกมันออกมาจากปากของเธอโดยตรง อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้พูดอะไรในขณะที่เขาเล่นกับอาหารในชามของเขาต่อไปโดยไม่รู้สึกกระหายในวินาทีต่อมา
” และมันจะเป็นไปไม่ได้มากกว่านี้ ถ้าฉันยังคงวิ่งหนีเขา ดังนั้นฉันจึงมาเผชิญหน้ากับเขาและขีดเส้นกําหนดที่เราทั้งคู่จะไม่ข้ามมัน”
ด้วยความตกตะลึง อีธานเงยหน้าขึ้นมาอย่างเชื่องช้าเพื่อดูรอยยิ้มที่โล่งใจของเธอ มันไม่มีความขมขึ้นหรือเสียใจใด ๆ มีแต่ความสงบที่บริสุทธิ์ซึ่งช่วยคลายอารมณ์มัวหมองของอีธาน
“ อ่า คุณทําให้ผมภูมิใจใช่มั้ย? ” อีธานยืดนิ้วก้อยของเขาออกโดยไม่คิดอะไรอีก แล้วแตะที่ข้อนิ้วซ้ายของเล็กซี่