The Second Coming of Gluttony - ตอนที่ 219
บทที่ 219 – มรดกของโรเซร่า ลา กราเซีย (1)
‘ฉันจะอธิบายยังไงดีนะ?’
ซอลจีฮูได้นั่งคิดกับตัวเอง ส่วนทางโรเซร่าก็ยังคงตัวแข็งทื่อด้วยใบหน้าตกตะลึง
“เจ้าหญิง ผมเรื่องเรื่องอยากจะถาม”
ซอลจีฮูได้หันไปหาเทเรซ่าที่กำลังนั่งอยู่ข้างๆเขา
“การที่จักรวรรดิล่มสลายนี่น่าตกใจหรอ?”
“ใช่แล้วล่ะ”
เทเรซ่าได้ตอบกลับมาโดยไม่ลังเลเลน
“มันไม่ใช่แค่เพียงมนุษยชาตินะ วิศวกรรมเวทย์ของจักรวรรดิได้ก้าวเหนือกว่าทุกๆเผ่าพันธุ์ในพาราไดซ์ มากถึงขนาดที่ไม่มีใครเทียบได้เลยสกนิด นี่ยังนับรวมเผ่าพันธุ์บางส่วนที่ประกอบเป็นสหพันธรัฐด้วยนะ จักรวรรดิได้ปกครองทั่วทั้งพาราไดซ์มาหลายพันปี”
เทเรซ่าได้พูดออกมาอย่างแน่วแน่
“ประเทศที่พระอาทิตย์ไม่เคยตก จักรวรรดิเป็นประเทศแบบนั้นแหละ”
ซอลจีฮูได้เม้มริมฝีปากออกมา
“แต่ว่า… กองกำลังที่รุกรานคือเทพ…”
“มันก็ไม่ใช่ว่าจักรวรรดิจะไม่ได้มีเทพอยู่ข้างพวกเขานี่”
เทเรซ่าส่ายหัวออกมา
“ถึงแม้ว่าราชินีปรสิตจะแกร่งกว่าเทพของจักรวรรดิ แต่ว่าจักรวรรดิก็ล่มสลายเร็วเกินไป ในตอนแรกที่ฉันได้ยินว่าจักรวรรดิล่มสลาย ฉันก็มีปฏิกิริยาที่คล้ายๆกันนี่แหละ ฉันคิดว่ามันคงเป็นแค่มุกของคนปัญญาอ่อนบ้างคนเท่านั้นเอง”
‘นี่มันบ้าอะไรกัน…?’
ซอลจีฮูได้หันไปมองโรเซร่าอีกครั้งหนึ่ง
ตึง! อ่า แก้วชาได้ตกลงไปจนแตก
ขณะที่ซอลจีฮูจะเริ่มพูดขึ้น…
“เดี๋ยวก่อน!”
โรเซร่าได้รีบยืนฝ่ามือออกมา เธอดูจะกังวลมากๆ
“ชะ ช่วยอธิบายรายละเอียดเพิ่มหน่อย…!”
บางทีอาจจะเพราะเธอได้อ่านใจทุกๆคนแล้ว ทำให้เธอดูจะมั่นใจว่าการล่มสลายของจักรวรรดิไม่ใช่เรื่องโกหก
ซอลจีฮูได้ย้อนมองกลับไปที่เทเรซ่า หากเป็นเรื่องของประวัติศาสตร์แล้ว การให้คนที่มีประสบการณ์ด้วยตัวเองเป็นคนเล่าคงจะดีกว่า
“คุณไม่ต้องพูดอะไรก็ได้ ก็แค่ค่อยๆนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างเป็นลำดับช้าๆ”
เทเรซ่าได้หลับตาลงอย่างสงบ ในระหว่างนี้ซอลจีฮูได้มองสำรวจใบหน้าของโรเซร่าด้วยความสนใจ
ตกตะลึง สงสัย ไม่เชื่อ… ในท้ายที่สุดตาของเธอก็ได้กลอกไปมา
ในตอนนี้โรเซร่าได้ถอดหน้ากากออกไปแล้ว เธอได้แสดงสีหน้าต่างๆออกมามากมาย แต่ข้อเสียวเดียวก็คืออารมณ์ส่วนใหญ่ที่เธอแสดงออกมาคือด้านลบ
ไม่นานนัก…
“โง่เง่า!”
เมื่อเทเรซ่าลืมตาขึ้นมา โรเซร่าก็ลุกขึ้นยืน ใบหน้าเรียวสีขาวของเธอได้แดงขึ้นมาเหมือนลูกมะเขือเทศ จากนั้นเธอก็เดินไปกลับภายในสวน
‘เดี๋ยวนะ! การกระทำนี่!’
มันจะเกิดขึ้นในตอนที่คนไม่ชอบในอะไรสักอย่าง ตัวอย่างเช่นในตอนที่ซอลจีฮูไม่พอใจชื่อคลาสเก่าที่กู่ลามอบให้ เขาก็ได้ทำแบบนี้เหมือนกัน
ดวงตาเธอได้หรี่ลง ริมฝีปากของเธอได้ชุ่มไปด้วยน้ำลาย
“อะไรนะ… อีกจักรวาล? แต่ถึงแบบนั้น… หือ!”
และเธอก็ได้พึมพำออกมาพร้อมทั้งหุบนิ้วลงไป เธอถึงขนาดหยิบถาดขึ้นมาและฟาดลงไปอย่างแรง
‘ทำไมเธอถึงโกรธล่ะ?’
ซอลจีฮูได้เอียงหัวออกมา เขาเข้าใจว่าทำไมเธอถึงผงะไป แต่ว่าในฐานะของคนที่เกลียดจักรวรรดิแล้ว เธอก็ควรที่จะปรบมือยินดีกับสิ่งที่เกิดขึ้นสิ
“ให้ตายสิ! ฉันทำไปเพื่ออะไร…!?”
แต่แล้วเมื่อเขาเห็นเธอก้มหน้าลง และกำหมัดแน่น ในที่สุดเขาก็เข้าใจ
โรเซร่าคงได้รอเวลานี้มาเป็นร้อยปี แต่แล้วเป้าหมายของเธอก็ได้พังลงราวกับปราสาททรายและหายไป
“…”
ซอลจีฮูไม่อาจจะเข้าใจถึงความรู้สึกสูญเสียที่เธอรู้สึกในตอนนี้ได้เลย แต่เมื่อผ่านไปประมาณ 40 นาที โรเซร่าก็หยุดกระสับกระส่าย และแสดงท่าทีสงบลงขึ้นมา
ในระหว่างนี้ทีมปฏิบัติการได้ปิดปากเงียบ โรเซร่าดูเดือดมากจนพวกเขากลัวว่าหากไปกระตุ้นเธอ เธออาจจะทำอะไรพวกเขา
“ฟู่ววว-“
หลังจากถอนหายใจยาวออกมา โรเซร่าก็ได้ลูบหน้าผากก่อนที่จะหยุดนิ่ง เมื่อมองย้อนกลับมาที่ทีมปฏิบัติการที่กำลังนั่งอย่างอึดอัดใจแล้ว เธอก็ก้มหน้าลงอย่างอับอาย
“ต้องขออภัยกับภาพที่ไม่น่ามองด้วย”
“ไม่ ครับ ไม่เป็นไรเลย”
แทนที่จะพูดว่าไม่น่ามอง การกระทำของเธอมันดูน่าขำมากกว่าซะอีก ซอลจีฮูกับพรรคพวกของเขาที่เหลือต่างก็รู้ว่าพวกเขาไม่ควรจะหัวเราะ แต่ว่าพวกเขาก็อดจะคิดไม่ได้ว่ามันน่าขำ
“พวกเราต่างหากที่ควรจะขอโทษที่พูดอะไรที่ไม่จำเป็น…”
โรเซร่าได้ส่ายหัวออกมา
“ไม่ ไม่เลยสักนิด ฉันดีใจที่ได้รู้… ใช่แล้ว ฉันดีใจ แต่ว่า…”
โรเซร่าได้ใช้มือปิดหน้าของเธอโดยที่ไม่อาจจะพูดได้จบประโยค
“จักรวรรดิ ไอ้สารเลว…”
เธอได้พึมพำกับตัวเอง แต่ว่าทุกๆคนได้ยินสิ่งที่เธอพูดอย่างชัดเจน
“…อ่า…”
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง โรเซร่าก็ค่อยๆยื่นมือออกมา และพูดขึ้นอย่างไร้พลัง
“คุณ… พวกคุณบอกว่ามาที่นี่เพื่อเอามรดกของตระกูลรอชชเชอร์ไปใช่ไหม?”
“ใช่แล้ว”
ซอลจีฮูได้ตอบกลับมาในทันที
“สัญญาแห่งการหักห้าม และวิญญาณที่มีสายเลือดของตระกูลรอชเชอร์… มันไม่มีอะไรให้ต้องสงสัยเลย… ฮ่าาาาห์…”
นี่มันเป็นครั้งที่สองแล้วที่เธอถอนหายใจออกมา หลังจากลังเลอยู่พักหนึ่ง โรเซร่าก็หยักหน้าและพูดขึ้น
“ในนามของโรเซร่า ลา กราเซีย- ไม่สิ ในเมื่อฉันรู้สึกไม่ค่อยดี ฉันขอข้ามพิธีการไปก็แล้วกัน ในตอนนี้เราจะส่งมอบมรดกคืนไป”
‘ตอนนี้?’
ขณะที่ซอลจีฮูกำลังจะถาม-
แปะ! เสียงปรบมือได้ดังออกมา
ในเวลาเดียวกันฉากก็ได้เปลี่ยนไปอีกครั้ง คราวนี้ไม่มีใครตกใจอีกต่อไปแล้ว ทุกๆคนต่างก็ก้นจ้ำเบ้าเพราะพวกเขาถูกเทเลพ็อตมาในระหว่างที่นั่งอยู่ แต่ว่าก็ไม่มีใครสงเสียงออกมา
พวกเขาดูเหมือนจะอยู่ชั้นใต้ดินของพระราชวัง แม้ว่าปกติแล้วที่แบบนี้จะมืด แต่ว่าก้อนหินจำนวนหนึ่งบนเพดานได้ส่องแสงสลัวๆออกมา ทำให้พวกเขาสามารถจะมองเห็นได้ตามปกติ
จะมีปัญหาก็คือรอบตัวพวกเขามีห้องอยู่จำนวนนับไม่ถ้วน มันมากจนพวกเขานับไม่ได้เลย นี่มันให้ความรู้สึกเหมือนพวกเขากำลังยืนอยู่ท่ามกลางเขาวงกต
“เอาล่ะนะ… มรดอกของตระกูลรอชเชอร์…”
โรเซร่าได้มองดูประตูแต่ล่ะบาน จากนั้นก็ดีดนิ้วขึ้นมา สิ่งน่าตกใจได้เกิดขึ้น ประตูนับหมื่นบานได้เริ่มหมุนตามเข็มนาฬิกาก่อนที่จะหยุดลงอย่างกระทันหัน
เมื่อมองดูประตูสีขาวตรงหน้า โรเซร่าก็หยักหน้าออกมา
“นี่แหละ ฉันจำได้ว่าต้องขยายห้องเก็บของสักหน่อยเพราะปริมาณของที่จะเก็บไว้”
เมื่อได้ยินแบบนี้ความคาดหวังของซอลจีฮูก็เพิ่มมากยิ่งขึ้น
เมื่อโรเซร่าได้เดินออกไป และลูบไปที่ประตูเบาๆ ประตูก็ถูกเปิดขึ้นเอง ซอลจีฮูได้มองออกไปด้วยหัวใจที่เต้นแรงด้วยความตึงเครียด
ในทันทีที่ประตูเปิดออกมา หมอกหนาทึบก็พุ่งออกมาก่อนที่จะตามด้วยแสงหลากสี
ไม่มีใครเข้าไปภายในห้อง และภายในนั้นก็ไม่อาจจะมองเข้าไปได้ แต่ว่าแสงสว่างจ้าก็ยังเต็มไปทั่วพื้นที่
‘ข้างในมีมากแค่ไหนกัน…?’
มรดกที่ถูกเก็บไว้ที่นี่จะต้องเป็น ‘หอกแห่งอาณาจักร’ กับเทคนิคลับของตระกูลรอชเชอร์ มันไม่น่าจะมีทองมากนักสิ แต่ทำไมมันถึงเปล่งประกายมากขนาดนี้?
ซอลจีฮูได้พยายามอย่างมากที่จะสงบใจที่เต้นแรงลงไป และเขาได้จ้องไปที่โรเซร่า
โรเซร่าได้ถอยกลับมาเงียบๆ ก่อนจะทำท่าให้พวกเขาเข้าไปในห้อง
“มรดกนี่เป็นของคุณ คุณไม่จำเป็นต้องรอรับอนุญาตจากฉันหรอก”
สายตาจำนวนมากได้มองมาที่แผ่นหลังของเขา มันชัดเจนมากว่าทุกๆคนอยากจะเข้าไป
‘สายตาที่รุนแรงเป็นพิเศษคงจะเป็นของคุณมาเรีย’
“เอาล่ะนะ”
ซอลจีฮูอยากจะเข้าไปข้างใน แต่ว่าเขายังคงรักษาท่าทีและค่อยๆเดินไปอย่างช้าๆ มาเรียได้หอบออกมาด้วยความเป็นกังวล แต่ว่าเขาก็ลืมเรื่องเธอไปในทันทีที่เข้ามาในห้อง
“…”
เขาแทบจะหยุดหายใจไปทันที
ภูเขาสมบัติ
เขาไม่อาจจะพูดเป็นอย่างอื่นไปได้อีก ทอง เงิน และอัญมณีต่างๆที่ทับถมกันจนเป็นภูเขา
ซอลจีฮูได้ค่อยๆเดินออกไปราวกับต้องมนต์และยื่นมือออกไป เมื่อเขาคว้าสิ่งต่างๆมาได้หนึ่งกำมือ และจากนั้นก็ไหลออกไปจากมือเขา น้ำพุหลากสีก็ไหลลงมา
เคร๊ง เคร๊ง เคร๊ง! คลื่นนน…
เสียงของสิ่งต่างๆที่กระทบกับพื้นได้ทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้นทันที ที่เขาตกใจยิ่งไปกว่านั้นคือของพวกนี้ไม่ใช่เหรียญทอง แต่เป็นไข่ทองคำ พวกมันคือก้อนทองที่มีรูปร่างเหมือนไข่อย่างที่เขาเคยเจอในคฤหาสน์จักรรดิ แต่ว่าไข่ที่นี่มีทรงกลมสวยยิ่งกว่าซะอีก
‘พระเจ้า….’
นี่เป็นเพียงเสี้ยวเดียวของความมั่งคั่งของตระกูลรอชเชอร์เท่านั้น ในที่สุดซอลจีฮูก็เข้าใจแล้วว่าทำไมจักรพรรดิถึงได้โลภขนาดนัน
โลงแก้วสี่เหลี่ยมผืนผ้าได้ตั้งอยู่กลางห้อง และถูกผ้าสีน้ำเงินคลุมเอาไว้
ต่อมาซอลจีฮูก็เห็นหีบสมบัติขนาดค่อนข้างใหญ่ที่มีสีซีด ด้านข้างของกล่องมีสัญลักษณ์ถูกสลักเอาไว้อีกด้วย
‘เครื่องราชอิสริยาภรณ์ของตระกูลรอชเชอร์’
เขาจำมันได้ในทันทีเพราะเขาเคยเห็นมันมาก่อนในบันทึกประวัติศาสตร์
ยังไม่หมดเท่านั้น อีกด้านหนึ่งของห้องมีหีบไม้สี่เหลี่ยมถูกวางจัดเรียงไว้เป็นระเบียบอีกด้วย
“เละเทะไปหมดเลย นี่มันคงเพราะฉันไม่เคยจัดพวกมันเลยหลังจากรับมา…”
พร้อมๆกันกับเสียงของโรเซร่า ภูเขาสมบัติก็ได้เริ่มขยับ
เคร๊ง เคร๊ง!
พร้อมกับเสียงดังวุ่นวาย แท่งทองคำกับไข่ทองคำได้แยกออกมาจากภูเขา และเขยิบไปทางซ้าย
วูบบบ!
ต่อมาอัญมณีต่างๆก็พุ่งขึ้นมาและขยับไปทางขวา
‘ภูเขาทอง ภูเขาเงิน แล้วก็ภูเขาอัญมณี…’
ซอลจีฮูได้ตั่วสั่นขึ้นมา
“ฉันคนนี้จะหลบไปสักเดี๋ยวแล้วกันนะ”
เสียงของโรเซร่าได้ดังออกมา ตัดสินจากน้ำเสียงเธอแล้ว เธอดูจะยังตกใจอยู่ แต่ว่าเมื่อซอลจีฮูหันกลับไป โรเซร่าก็หายไปแล้ว
จากนั้นก็มีเสียงตะโกนดังลั่นออกมา
“วู้ววววววววววว!”
มาเรียได้ร้องลั่น และวิ่งเข้าใส่ภูเขาทองด้วยความเร็วที่ไม่น่าเชื่อ
“ฮ่าห์… ฮ่าห์… เรื่องจริง…”
“ฝัน… นี่จะต้องเป็นความฝัน…”
โชฮงได้มองดูภูเขาต่างๆด้วยปากที่อ้างค้าง และมาแชล จิโอเนียก็ลูบดวงตาเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“โอ้ววววววววว!”
ฮิวโก้ได้คำรามออกมา
“แม่!!!!”
และเทเรซ่าได้ร้องหาแม่เธอก่อนที่จะวิ่งเข้ามากอดซอลจีฮู
“ฉันไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้เลย…”
คาซุกิได้พึมพำอย่างสับสนก่อนที่จะเหลือบมองมาด้านข้างและถามออกมา
“นายรู้เรื่องมรดกใช่ไหม?”
ซอลจีฮูได้แกะเทเรซ่าออกไป และยิ้มแห้งๆออกมา
สมาธิของทีมปฏิบัติการต่างก็อยู่ตรงนี้หมดแล้ว ภูเขาทั้งสามอาจจะเล็กลงไปมากเพราะการช่วยจัดแยกของโรเซร่า แต่ว่าพวกเขาแต่ล่ะคนก็ยังตกตะลึงอยู่เช่นเดิม
มาเรียที่กำลังนอนอยู่ในภูเขาไข่ทองคำ และใช้แก้มถูกับสิ่งเหล่านั้นด้วยสายตาเป็นประกาย
“ต่อให้เป็นความฝันฉันก็ยอม!”
จากนั้นเธอก็อยู่ในท่าดำลงไปในภูเขาทองคำ และแหวกว่ายออกมา
“อ๊า ก็ได้!”
โชฮงได้กระโดดทิ้งตัวเข้าใส่ภูเขาอัญมณี ในเวลาเดียวกันฮิวโก้ก็หยิบเงินขนาดเท่ากำมือโยนขึ้นไปบนท้องฟ้า
“เฮะเฮะเฮะเฮะ”
“คิคิคิคิ”
ช่วงเวลาแห่งความอิ่มเอมใจได้เริ่มดำเนินไป
ฮ่าฮ๋า โฮ่โฮ่
ซอลจีฮูได้ยิ้มออกมาเมื่อได้เห็นเพื่อนๆมีความสุข และจากนั้นก็ปรบมือออกมา ทุกๆคนที่ได้ยินเสียงนี้ก็ผงะไป และหันกลับมามอง
อาจจะเพราะโรเซร่า พวกเขาจึงดูเหมือนจะตอบสนองต่อเสียงปรบมือเป็นอย่างดี
“อ่า ชิ~”
“นายทำให้ฉันตกใจนะ~”
หากเป็นตามปกติแล้วหากพวกเขาถูกแกล้ง ซอลจีฮูก็คงต้องโดนสักหมัดแล้ว แต่ว่าอาจจะเพราะรางวัลที่มากมายได้ทำให้พวกเธอใจกว้างขึ้น โชฮงกับมาเรียต่างก็ยิ้มออกมาอย่างน่ารัก
ซอลจีฮูได้พูดขึ้นทั้งๆที่กำลังขำอยู่
“อย่างที่ทุกคนรู้นะ ในตอนนี้คุณโรเซร่าดูจะไม่ค่อยอารมณ์ดีอยู่”
มาเรียที่กำลังอยู่ในท่าว่ายน้ำกรรเชียงในมหาสมุทรทองคำได้ชะงักทันที
“เนื่องจากว่าเธอสุภาพกับเรามากในฐานะเจ้าบ้านแล้ว พวกเราก็ควรจะทำกับเธอในฐานะแขกที่ดีเช่นเดียวกัน อย่าส่งเสียงดังเกินไป เอาของที่เราจะเอามาดีกว่า แล้วก็รีบกลับกัน”
ซอลจีฮูบอกได้จากสายตาเลยว่าทุกๆคนก็เห็นด้วย พวกเขาได้มีประสบการณ์กับตาตัวเองแล้วว่าโรเซร่าทรงพลังแค่ไหน การออกไปจากที่นี่ในทันทีที่ทำได้ดีกว่าการอยู่ต่อโดยไม่จำเป็นและทำให้เธอไม่พอใจเป็นพันล้านเท่า
ในตอนนี้พวกเขาได้ความมั่งคั่งขนาดนี้มาแล้ว หากว่าพวกเขาตายไปโดยที่ยังไม่ได้ใช้มันก็คงจะน่าขมขื่นจนเกินไป
ในที่สุดแล้วทีมพวกเขาก็ได้เริ่มเก็บทรัพย์สมบัติใส่ถุงตามหมวดหมู่ เนื่องจากว่าซอลจีฮูได้เตรียมกระเป๋าลดน้ำหนักขนาดใหญ่มาหลายไป การนำสิ่งของเหล่านี้กลับไปจึงไม่ได้น่ากังวลเลยสักนิด
ขณะที่ทุกๆคนกำลังยุ่งกับการเก็บของนี้เอง เพดานได้เริ่มสั่นไหวเบาๆ
คลื่นนน…! ตึง…!
เมื่อฟังดีๆแล้ว เสียงนี้มันเหมือนกับสิ่่งต่างๆกำลังแตกสลายและพังทลายลงไป พวกเขาได้เริ่มมองขึ้นไปบนเพดานด้วยความสับสน
-กรี๊ดดดดดดดด! กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด!
-เชี้ย! เชี้ยยยยยยยยยยย!
เสียงกรีดร้องและคำสบถหยาบคายต่างๆมากมายได้ดังออกมา
ซอลจีฮูที่กำลังเก็บแท่งทองคำกับไข่ทองคำอยู่ได้ขมวดคิ้วขึ้น และเตือนออกมาอย่างเคร่งขรึม
“มาเรีย คุณควรจะเงียบเสียงลงหน่อยนะ? ผมเข้าใจว่าคุณมีความสุข แต่ว่าอย่างน้อยก็อย่าได้สบถแบบ-“
“หือ? ฉันไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย!”
มาเรียได้แย้งกลับมาอย่างไม่พอใจราวกับว่าเขากำลังใส่ความผู้บริสุทธิ์
‘ไม่ใช่คุณมาเรียหรอกหรอ?’
ซอลจีฮูได้เอียงหัวออกมา
ไม่ว่ายังไงก็ตามเสียงได้เบาลงไป และทุกๆคนก็กลับมาทำหน้าที่ต่อ เพราะมีทรัพย์สมบัติอยู่มากมายทำให้การเก็บพวกมันไปทั้งหมดต้องใช้เวลานาน ยังไงก็ตามไม่มีใครบ่นออกมาแม้แต่คำเดียว จริงๆแล้วพวกเขาพยายามอย่างสุดกำลังที่จะไม่เหลืออะไรทิ้งเอาไว้อีกด้วย
“ค่อยๆใส่เข้าไปให้ดีนะ ถ้ามีชิ้นไหนสักชิ้นมีรอยขีดข่วนล่ะก็ คนที่ทำมันจะถูกฉันทุบแน่”
โชฮงได้ข่มขู่ออกมาด้วยเสียงหัวเราะ
“ฉันก็ระวังอยู่ ฉันระวังแบบสุดๆเลยด้วย”
ฮิวโก้ก็ยังคำรามออกมาด้วยตาเป็นประกาย
ซอลจีฮูได้รู้สึกประหลาดขึ้นมาในใจ นี่มันเป็นครั้งแรกเลยที่เขาเห็นสองคู่หูตั้งใจจดจ่อ และมุ่งมั่นกันขนาดนี้
‘หากว่าพวกเขาทำแบบเดียวกันนี้ในระหว่างการฝึก อาจารย์จางก็คงจะดีใจ…’
หลังจากที่ทีมพวกเขาเก็บสมบัติไปได้กว่าครึ่งแล้ว จู่ๆซอลจีฮูก็รู้สึกว่ามีคนมาสะกิดเขา เทเรซ่ากำลังชี้ไปที่ประตู
ซอลจีฮูเห็นโรเซร่ากำลังยืนมองดูพวกเขาอยู่ด้านนอกอย่างเงียบๆ จากสายตาของเธอแล้ว ซอลจีฮูก็พอจะบอกได้ว่าเธอมีบางอย่างอยากจะถาม
ซอลจีฮูได้ส่งถุงในมือให้เทเรซ่า จากนั้นก็เดินไปที่ประตู
“พวกคุณดูจะสนุกกันนะ”
“อ่า… ฮ่าฮ่า”
ซอลจีฮูได้หัวเราะแห้งๆออกมา และสังเกตใบหน้าของโรเซร่า ดวงตาของเธอได้โค้งเป็นรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย
ตอนนี้เธอดูจะใจเย็นลงหน่อยแล้ว
“ฉันต้องขอโทษด้วยที่หายตัวไปอย่างกระทันหัน สิ่งที่ฉันได้ยินมันน่าตกใจเกินไปหน่อย…”
“ไม่ครับ ไม่เป็นไรเลย ผมเข้าใจคุณ”
“ขอบคุณที่เข้าใจนะ”
โรเซร่าได้ถอนหายใจออกมา จากนั้นเธอก็มองมาด้วยสายตาที่น่าสงสารเหมือนกับนางเอกละครเศร้า
“ฉันได้คิดถึงมันในระหว่างมองดูทะเลสาบในสวนอันเงียบสงบ”
ซอลจีฮูได้มองมาที่โรเซร่า บนไหล่ของเธอมีเศษหินเลอะอยู่เพราะเหตุผลอะไรบางอย่าง โรเซร่าได้รีบเช็ดไหล่ของเธอทันที
“โอ้ อย่าสนใจมันเลย ฉันล้มลงไปในระหว่างเดินไปเรื่อยน่ะ”
“โอ้”
“ยังไงก็ตาม”
โรเซร่าได้เปลี่ยนเรื่องอย่างกระทันหัน
“ฉันขอโทษด้วยที่มารบกวนในตอนที่คุณกำลังยุ่ง แต่ว่าคุณพอจะมีเวลาบ้างไหม? มันไม่นานนักหรอก”
สีหน้าของเทเรซ่าดูไร้ซึ่งความสงบนิ่งหเมือนก่อน และดูจริงจังเอามากๆ สัญชาตญาณของซอลจีฮูกำลังบอกเขาว่าเธอกำลังมีอีกหนึ่งคำขอให้กับเขา