The Second Coming of Gluttony - ตอนที่ 266
บทที่ 266 – พิธีเปิดอันงดงาม (3)
“นั่นเป็นสิ่งที่ไม่ว่าซอกกูนีร์หรืออีวาเกลีน โรสก้ทำไม่ได้”
ม่านตาของจองซูได้สั่นไหวออกมา เธอดูจะปรับทับใจมากๆ
“ใช่แล้ว คุณไม่ใชอีวาเกลีน โรส แต่ว่าคุณเป็นเหมือนแม่ของฉัน”
“ราชินี…”
“มาใกล้ๆสิ”
ราชินีได้กางแขนออกไป และจองซูได้เดินเข้าไปกอดเธอราวกับรอคอยอยู่แล้ว
“หลังจากสูญเสียพ่อแม่ไปตั้งแต่เด็ก ฉันก็ต้องยืนด้วยตัวเองและเดินมาจนถึงจุดนี้ ฉันรู้สึกขอบคุณสำหรับเรื่องนี้อยู่เสมอ”
“องค์ราชินี ฉันสาบานเลยว่าฉันไม่ได้ร่วมมือกับกลุ่มพันธมิตร”
“ฉันรู้ดี ฉันมั่นใจว่าคุณต้องมีเหตุผลที่ติดต่อไปหากุ๊ยพวกนั้น อีวาเกลีน โรสก็ทำเหมือนกัน ฉันรู้ว่าคุณทั้งคู่ทำเพื่อฉัน”
“ใช่แล้ว ฉันติดต่อหาพวกเขาเพื่อคอยจับตาดู และกระทั่งที่ฉันติดต่อไปหาพวกเขาเร็วๆนี้ก็เพื่อบอกให้พวกเขาอยู่นิ่งเฉยๆ”
จองวูได้ใช้โอกาสนี้อธิบายออกมา
“แต่ว่าสถานการณ์ของฉันมันซับซ้อนจนไม่มีใครเชื่อ”
ชาล็อต อาเรียได้ลูบหลังของจองซู
“ฉันมั่นใจว่ามันเป็นเรื่องเข้าใจผิด ฉันจะช่วยคุณเอง ไม่ต้องห่วงนะ”
“ฉันขอโทษ ทั้งหมดเป็นเพราะฉัน… ฉันคิดว่ามันจะง่ายกว่าหากว่า-“
“หยุด ฉันบอกให้คุณเชื่อฉัน ยังจำที่คุณทำตัวสูงส่งยิ่งใหญ่และบอกให้ฉันหยุดโศกเศร้าและพึ่งพาคุณได้ไหม? ตอนนี้มันถึงเวลาที่ฉันต้องทำเพื่อคุณบ้างแล้ว”
“ฉะ ฉันไปทำตัวสูงส่งยิ่งใหญ่ตอนไหนกัน?”
“ฉันแค่ล้อเล่นเท่านั้นเอง”
ชาล็อต อาเรียได้ปลอบจองซูอยู่สักพัก เมื่อฝ่ายหลังมีสีหน้าที่สดใสยิ่งขึ้น ราชินีก็ได้บอกให้เธอไปพัก และมองส่งเธอไป
หลังจากจองซูออกไปได้ไม่ถึงสิบนาทีก็มีเสียงดังขึ้นจากอีกฝั่งหนึ่งของประตู
“องค์เหนือหัว ผู้ดูแลราชวงศ์ซอกกูนีร์อยากจะเข้าเฝ้า”
เมื่อได้ยินแบบนี้สีหน้านิ่งสงบของชาล็อต อาเรียก็เปลี่ยนแปลงไป
“ฟู่วว…”
เธอได้ใช้มืออดงดงามกดหน้าผากเอาไว้ก่อนจะถอนหายใจยาวออกมา สีหน้าเธอดูจะไม่เต็มใจ แต่ยังไงเธอก็ต้องตอบกลับราวกับไม่มีทางเลือกอื่น
“ให้เขาเข้ามา”
***
วัลฮาลาได้จัดพิธีเปิดตัวขึ้นในทันทีที่ทำการลงทะเบียนองค์กรสำเร็จ
คิมฮันนาห์ได้บอกว่าจุดประสงค์ในพิธีนี้คือการประกาศออกไปว่า ‘อีวาเป็นของเรากับซันเหอ’ แต่ภายนอกแล้วมันเป็นเหตุการณ์เรียบง่ายที่บอกกับโลกว่า ‘พวกเราคือองค์กร’
แน่นอนว่ามันก็มีนัยยะสำคัญเช่นเดียวกัน พิธีนี้ก็เป็นโอกาสที่สมาชิกขององค์กรใหม่ได้เริ่มต้นด้วยกัน
แม้ว่ามันจะเป็นคำที่ดูยิ่งใหญ่ แต่จริงๆแล้วพิธีเปิดตัวเป็นการรวมตัวสมาชิกเพื่อพูดว่า ‘เรามาร่วมงานกันเถอะ’
ก่อนที่จะจัดพิธีเปิดตัว คิมฮันนาห์ก็ได้วาดสัญลักษณ์ประจำวัลฮาลา – เป็นภาพวาดที่มีหอกสีขาวและโล่ไขว้กันอยู่ ซึ่งซอลจีฮูชอบมันมาก
พูดตามตรงแล้วซอลจีฮูกังวลว่าคนอื่นๆจะไม่รู้เรื่องพิธีนี้ แต่ความกังวลของเขากลับเก้อไป
-ยินดีด้วย! ในที่สุดนายก็สร้างองค์กรแล้ว!
“ถึงมันจะสายไปหน่อย แต่ก็เกิดขึ้นแล้ว”
-ฉันได้ยินมานะ ฉันมีหลายคำถามที่อยากจะถามนายนะ แต่ว่าอย่างแรกเลยนายได้เจอกับชาล็อต อาเรียหรือยัง?
“ไม่ ยังไม่เจอเลย”
-ฟุฟุฟุ เธอเป็นคนที่รับมือได้ยากอยู่นะ
เขาได้รับการติดต่อมาจากเทเรซ่า ฮัสเซย์จากฮารามาร์คเป็นคนแรก
-ฉันได้ยินถึงสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วนะ นี่นายก่อสงครามตั้งแต่วันแรกจริงๆหรอ?
“นั่นมันเกิดขึ้นไปแล้ว…”
-น่าเสียดาย ฉันน่าจะฟังแอ็กเนส เหยี่ยวสงครามแบบนายน่าจะมาอยู่กับเราจริงๆ
“คุณแอ็กเนสสบายดีไหมครับ?”
-เธอดูจะไม่ค่อยพอใจที่นายจากไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ
“อ่า”
ทาเซียน่า ซินเซียก็ยังติดต่อมาแสดงความยินดีกับเขาเช่นกัน
ฮ่าวอวิ่นจากซันเหอกับคาซุกิก็ยังมาหาเขาเป็นการส่วนตัวเพราะพวกเขาอยู่ในเมืองเดียวกัน และกระทั่งตัวแทนของกลุ่มพ่อค้าดงชุนก็ยังมาเยี่ยมพวกเขา
“ว่างาย~ สวัสดี”
“ยินดีต้อนรับ”
“โย่วๆ คนแบบผมเข้าไปได้ไหมเนี้ย….”
“ได้สิ เข้ามาเลย เอาอาหารหน่อยไหม”
“โอ้ ขอบคุณมาก ถ้างั้นก็ไม่เกรงใจแล้วนะ… ฮ่าฮ่า!”
ปาร์คดงชุนได้ถูมือเข้าด้วยกันพร้อมพูดคุยอย่างสุภาพ จากนั้นเขาก็เริ่มหอบหนักเพราะต้องขึ้นไปที่โรงอาหารชั้น 10
“ฮ่าห์ ฮ่าห์!”
หลังจากเดินขึ้นบันไดอย่างยากลำบากแล้ว เขาก็วางกระเป๋าใบใหญ่ลง และสูดหายใจลึก
“ขะ ขออภัยด้วย… เรี่ยวแรงของผมไม่ค่อยดี…”
เขาได้พยายามสงบลมหายใจก่อนจะถอนหายใจออกมา
“หืม… ไม่เป็นไร-“
อะแฮ่ม หลังจากกระแอ่มออกมา เขาก็ได้ปลดสายคล้องกระเปาที่เขามาด้วย จากนั้นเขาก็หยิบกล่องใบเล็กๆออกมาวางไว้บนโต๊ะ ก่อนจะส่งให้กับซอลจีฮูด้วยความเคารพ
“นี่เป็นของขวัญจากผมสำหรับตัวแทนซอลเพื่อแสดงความยินดีกับการก่อตั้งวัลฮาลา”
“ของขวัญ?”
“อ๊า ก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษหรอกครับ มันก็แค่ของแสดงความจริงใจเล็กๆน้อยๆ มันไม่ได้มีอะไรมากจริงๆ เพราะงั้นผมหวังว่าคุณคงจะไม่รู้สึกไม่สบายใจนะ คุณลองดูก็ได้นะ ผมพูดจริง!”
ซอลจีฮูได้มองลงไปบนกล่องไม้หรูหราที่มีขนาดเท่าฝ่ามือ
“บุหรี่?”
ภายในกล่องมีบุหรี่บรรจุเอาไว้หลายสิบมวน
“คุณคงเคยได้ยินว่ามีบุหรี่ที่ดีต่อสุขภาพด้วยใช่ไหม?”
ปาร์คดงชุนได้พูดออกมาอย่างมั่นใจ
“หุหุ บุหรี่พวกนี้เป็นความภาคภูมิใจของกลุ่มพ่อค้าดงชุนเลยล่ะ พวกเรายังไม่ได้เริ่มขายมัน แต่ว่าพวกเราก็มั่นใจว่าพวกมันจะต้องตีตลาดได้อย่างแน่นอน!”
“โอ้? มีบุหรี่ที่ดีกับร่างกายด้วยงั้นหรอ?”
“นี่เป็นเรื่องจริง คุณเห็นหญ้าแห้งข้างในไหม? มันจะเปล่งประกายแวววาวออกมาเมื่อต้องแสงจันทร์อ่อนๆ มันไม่ใช่ยาสูบหรกอนะครับ แต่เป็นใบแสงจันทร์ มันเป็นใบไม้หายากที่หาได้เฉพาะในพาราไดซ์เท่านั้น”
ปาร์คดงชุนได้อธิบายยาวออกมาจนทำให้ซอลจีฮูสนใจ
บุหรี่ที่ดีกับร่างกาย? สำหรับสิงควันบุหรี่แล้ว นี่มันคือบุหรี่ในฝันของพวกเขาเลย
“หากว่านายเอาของพวกนี้ไปที่โลก บุหรี่พวกนี้ตีตลาดแตกแน่ๆ ฉันมั่นใจได้เลยในทันที”
“ใช่ครับๆ แต่ว่าใบแสงจันทร์มันหาได้ยากในอาณาเขตของมนุษยชาติ…”
ปาร์คดงชุนได้เกาหัวพร้อมเม้มปาก มันดูเหมือนเขาจะอยากพูดอะไรสักอย่าง แต่เลือกเงียบไว้
ซอลจีฮูได้ปิดกล่องลง ของขวัญแบบนี้น่าจะรับมาไว้ได้
“ขอบคุณมาก”
“โอ้~ ไม่เลยครับ ไว้ลองค่อยช่วยบอกให้ผมรู้หน่อยนะครับว่าคุณคิดยังไงกับมัน”
ปาร์คดงชุนได้หัวเราะแห้งๆออกมาก่อนที่จะหยิบของอีกอย่างพร้อมพูด “แล้วก็ยังมี-“
ในคราวนี้เป็นพัสดุขนาดใหญ่
“ช่วยรับสิ่งนี้เอาไว้ด้วย”
“?”
“มันก็ไม่ได้มากอะไร แต่เป็นแค่เครื่องเซ่นที่เต็มไปด้วยพลังแห่งเทพ”
ซอลจีฮูได้เบิกตากว้างขึ้น
“เครื่องเซ่น?”
“คะ ครับ ผมได้ยินข่าวลือ… ผมหวังว่ามันจะช่วยได้… ฮิฮิ!”
ตอนแรกซอลจีฮูคิดที่จะปฏิเสธของขวัญนี้ แต่ว่ามันยากที่จะทำแบบนั้นเพราะสถานการณ์ของซอยูฮุย หากว่าเป็นเรื่องของเครื่องเซ่น เขาก็ไม่ได้อยู่ในจุดที่จะเรื่องมากได้
‘คะ คนๆนี้… ค่อนข้างจะฉลาดเลย’
ยังไม่หมดเท่านั้น ปาร์คดงชุนพูดอยู่เสมอว่าไม่ได้มีอะไรพิเศษ แต่ว่าเขาก็ยังเอาของขวัญมาให้อีก เขาได้เอาของขวัญมาให้สมาชิกวัลฮาลาทุกๆคน ยกเว้นก็แต่โฟลนเท่านั้น เขาถึงขนาดเอาอาหารคุณภาพสูงมาให้กับลูกเจี๊ยบอีกด้วย
ซอลจีฮูได้หัวเราะออกมาโดยที่ไม่รู้ว่าควรจะมีความสุขหรืออึดอัดกันแน่ แน่นอนเขารู้ว่าทำไมปาร์คดงชุนถึงทำแบบนี้ ปาร์คดงชุนกำลังสร้างความประทับใจให้กับเขาอยู่
จากที่คิมฮันนาห์ได้บอกกับเขา ปาร์คดงชุนเป็นคนที่ให้คำใบ้เรื่องการลอบโจมตีของกลุ่มพันธมิตรอีวากับพวกเขา แม้ว่าเขาจะไม่ได้บอกทุกๆอย่างออกมา แต่ว่าแค่คำใบ้ก็ชัดเจนบอกให้เข้าใจแล้ว
จะยังไงนี่ก็นับเป็นผลงาน
นอกไปจากนี้ในคืนเหตุการณ์ลอบโจมตี กลุ่มพ่อค้าดงชุนกับเรดฮวารุก็ได้ปฏิเสธที่จะเคลื่อนไหวตามคำขอของกลุ่มพันธมิตร และในตอนนี้กลุ่มพันธมิตรก็ไม่ได้มีอยู่อีกต่อไป และแม้กระทั่งองค์กรอีวาเกลีนก็กำลังอยู่ในกระบวนการทำลายตัวเอง
มีเพียงแค่กลุ่มพ่อค้าดงชุนกับเรดฮวารุเท่านั้นที่ยังปกติดี
‘เขาคงจะกังวลอยู่’
พูดตามตรงแล้ววัลฮาลาสามารถจะจัดการสององค์กรนี้ได้ง่ายๆด้วยการดึงพวกเขาไปรวมกับกลุ่มพันธมิตรที่เหลือ แต่ว่าคิมฮันนาห์ก็บอกว่าให้ปล่อยพวกเขาเอาไว้ก่อน
กลุ่มพ่อค้าภายในเมืองคือสิ่งสำคัญในเวลาฉุกเฉิน และเธอบอกว่าพ่อค้ามากพรสวรรค์อย่างปาร์คดงชุนนั้นหาได้ยาก
‘ตอนนี้มาคิดดูแล้ว คุณคาซุกิก็ชมปาร์คดงชุนด้วยเหมือนกัน’
พูดตามจริงแล้งซอลจีฮูก็ไม่ได้คิดจะทำลายอีกสององค์กรที่เหลือ แต่ว่านั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะปล่อยสององค์กรไปเฉยๆ
หากว่าทั้งสององค์กรยอมละทิ้งผลประโยชน์ที่ได้รับ และยอมถอยกลับไปในที่ของตัวเอง เขาก็พร้อมที่จะปล่อยพวกเขาเอาไว้ แต่แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องสัญญาจะทำตามกฎของวัลฮาลาด้วย
“โอ้ จริงสิ ฉันได้ยินมาจากคิมฮันนาห์แล้วนะ”
“โอ้ โอ้ นั่นมันไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยครับ… ยอดเยี่ยม! พวกคุณยอดเยี่ยมมากจริงๆ! ผมรู้สึกเกลียดเจ้าพวกเศษสวะนั่นมาตลอด คุณคงไม่รู้หรอกว่าผมยินดีแค่ไหนเมื่อได้ยินว่าพวกเขาทั้งหมดถูกจัดการลง!”
ปาร์คดงชุนได้ปรบมือพูดออกมาอย่างตื่นเต้น
นั่นไม่ใช่พันธมิตรของนายหรอกหรอ? ซอลจีฮูได้หัวเราะในใจก่อนจะพูดต่อ
“ฉันชอบคนที่รักษาสัญญา”
“อะไรนะครับ?”
ปาร์คดงชุนได้กระพริบตาออกมา
“ฉันเคยให้นายสัญญากับฉันตอนอยู่ที่เขตพรมแดนจำได้ไหม? ฉันเพิ่งได้อ่านรายงานจากคิมฮันนาห์ มันดูเหมือนว่านายได้รักษาสัญญาจริงๆ”
“อ่อ… ฮ่าฮ่า! แน่นอนสิครับ คุณคิดว่าผมคือใครกัน? ผมคือคนที่มีสมอง! ไม่สิ ผมเป็นคนที่เชื่อถือได้ ปาร์คผู้สัญญา! การจะเป็นพ่อค้าได้เราก็จะต้องรักษาสัญญากับลูกค้าอยู่เสมอ!”
ซอลจีฮูได้ยิ้มกับคำโม้ของปาร์คดงชุน จากนั้นก็พูดออกมา
“ฉันก็อยากจะคุยกับนายเร็วๆนะ แต่คงไม่ใช่วันนี้ แล้วก็อยากจะคุยกับคุณโร๊กจากเรดฮวารุด้วยเหมือนกัน เหตุการณ์ครั้งก่อนพวกนายทั้งคู่ได้ช่วยเราเอาไว้ ฉันอยากจะขอบคุณพวกนายทั้งคู่สักหน่อย”
ปาร์คดงชุนไม่ได้โง่จนไม่เข้าใจความหมายนี้ สีหน้าของเขาได้สดใสขึ้นในทันที
“ขอบคุณครับ! ขอบคุณมาก!”
เขาได้ก้มโค้งอยู่อย่างสุภาพก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมาด้วยรอยยิ้มอบอุ่น
“อ่า พูดไปแล้ว… ผมขอพาอีกคนหนึ่งมาด้วยได้ไหม?”
“ใครหรอ?”
“หญิงสาวที่ชื่อชินซังอา คุณรู้จักเธอไหม?”
ซอลจีฮูได้เบิกตากว้างขึ้น ในคราวนี้เขาตกใจจริงๆ เขาไม่คิดเลยว่าจะได้ยินชื่อนี้จากปาร์คดงชุน
ชินซังอา เธอกับซอลจีฮูเป็นคนจากพื้นที่เดียวกัน และพวกเขาก็ได้เจอกันระหว่างพื้นที่ฝึกสอน ซอลจีฮูได้รู้จักเธอผ่านการที่เขาได้หยุดคังซอกไม่ให้ทำร้ายเธอ
จากที่เขาจำได้หลังจากพิธีปลุกพลังเธอก็ได้กลายเป็นนักบวชจนนำไปสู่อนาคตที่สดใส
“ใช่ ฉันรู้จักเธอ เป็นคุณชินซังอาที่ฉันรู้จักจริงๆสินะ?”
“แน่นอนสิครับ เราก็คิดว่ามันบังเอิญมากเหมือนกัน นั่นเพราะลูกน้องของผมเอาแต่ขอร้องให้ผมทำอะไรกับปากของเธอ…”
“ปาก?”
“มะ ไม่มีอะไรหรอก ยังไงก็ตามหากคุณไม่ว่าอะไร ผมก็จะขอพาเธอมาด้วย… ซังอาเองก็อยากจะเจอคุณเหมือนกัน”
“ได้สิ ไม่มีปัญหา ฉันก็อยากจะเจอเธอเหมือนกัน”
เขากำลังสนใจเรื่องของเพื่อนจากเขตพื้นที่เป็นกลางอยู่เลย เพราะงั้นก็ไม่มีเหตุผลอะไรให้ปฏิเสธ
“คุณซังอาสบายดีไหม?”
“ครับ เธอสบายดี สบายมากเลยด้วย เพียงแต่ว่าหากเราทำอะไรกับปากของเธอได้…”
“ก่อนหน้านี้นายก็พูดแบบนี้นี่ นั่นมันหมายถึงอะไรงั้นหรอ?”
“ตอนแรกผมก็สงสัยว่ามันแย่ขนาดไหนถึงทำให้คนอื่นต้องไม่พอใจ… เอาเถอะนะ การที่เธออธิบายรายละเอียดก็เป็นเรื่องดี มันดีเลยล่ะ แต่ว่าทุกๆครั้งที่มีคนถามอะไรกับเธอ เธอก็จะเอาแต่เริ่มพูดว่า ‘นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในระหว่างการฝึกสอน…”
คำถามง่ายๆของซอลจีฮูได้เปลี่ยนให้ปาร์คดงชุนพูดจาโผงผ่างออกมาโดยไม่รู้ตัว แต่ว่าบรรยากาศการพูดของเขาก็ดูสดใส
จากนั้นเอง ขณะที่ซอลจีฮูกำลังฟังเรื่องราวของชินซังอาอย่างมีความสุขก็ได้มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้อง
“หัวหน้า”
มาแชล จิโอเนียได้เดินเข้ามากระซิบหูเขา
“หัวหน้าต้องรีบลงไปข้างล่างเดี๋ยวนี้เลย”
“หืม? มีอะไรงั้นหรอ?”
“ที่ล็อบบี้มีปัญหาอยู่ครับ”
น้ำเสียงของมาแชล จิโอเนียดูจะค่อนข้างจริงจัง ซอลจีฮูได้แต่เอียงหัวออกมา ไม่ใช่ว่าคิมฮันนาห์อยู่ที่ล็อบบี้หรอ? ในเมื่อเธอเป็นคนคอยนำทางผู้ที่เข้าร่วมพิธีเปิดตัวก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนี่นา
ซอลจีฮูได้หันไปหาปาร์คดงชุน ฝ่ายหลังคงจะพอจับสัญญาณได้ทำให้เขาพยักหน้า และพูดออกมา
“โอ้ ผมคงต้องอยู่ที่นี่ไปอีกสักพัก ไม่เป็นไรหรอกครับ เชิญไปต้อนรับแขกคนอื่นได้เลย!”
“โอเค ระหว่างรอก็ทำตัวตามสบายเลยนะ”
“ครับๆ ไว้ระหว่างนั้นผมก็จะแนะนำตัวกับทุกๆคนด้วย…”
ปาร์คดงชุนได้มองซ้ายขวาด้วยดวงตาเป็นประกาย
ซอลจีฮูได้รีบลุกขึ้นยืน ในทันทีที่เขาเดินไปที่บันได มาแชล จิโอเนียก็ตามหลังเขามา
“เกิดอะไรขึ้นงั้นหรอ?”
“ผมก็ไม่มั่นใจ แต่คุณคิมฮันนาห์ดูจะผงะไปเลย”
คิมฮันนาห์ผงะ? ไม่อยากจะเชื่อเลย
“ราชินีอีวามางั้นหรอ? หรือว่าเป็นตัวแทนของอีวาเกลีนกันล่ะ?”
“ไม่ใช่ทั้งคู่ครับ แต่ว่า…”
ในตอนนั้นเองพวกเขาก็ได้มาถึงที่ชั้นหนึ่ง หซอลจีฮูได้มองไปรอบๆที่ชั้นหนึ่งก่อนที่จะเดินลงไป
“…”
เขาเห็นผู้คนนับสิบกำลังยืนมองอยู่ที่ประตูทางเข้า
‘นั่น…’
ซอลจีฮูได้หรี่ตาลง เขารีบเดินลงไปทันทีที่เห็นแผ่นหลังของคิมฮันนาห์ ภายนอกของเธอดูปกติดี แต่ว่าตัวเธอแข็งทื่อเหมือนกับเป็นกบที่อยู่ต่อหน้างู
ไม่นานนะ…
“เอ๋?”
เมื่อเขาได้เดินไปหาเธอ เขาก็มองเห็นร่างที่อยู่เยื้องไปทางขวาของคิมฮันนาห์
“เขามาแล้ว”
หญิงสาวได้เอียงหน้ามาเล็กน้อยโดยที่ยังไขว้มืออยู่ด้านหลัง
ซอลจีฮูได้หยุดลงโดยไม่รู้ตัว ใบหน้าของหญิงสาวดูคุ้นๆ
เธอมีความงดงามอันเปล่งประกายเจิดจ้า และหลังจากที่เห็นซอลจีฮู
“สวัสดีค่ะ!”
…เธอได้ยิ้มเบิกบานและตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงสดใสชัดเจน