The simple life of the emperor - ตอนที่ 111
หลังจากเสร็จพิธีเทียนเหอเทียนหลางก็เดินมาหาหลินหลินพร้อมกับลูบหัวเธอเบาๆก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า
”หลังจากนี้จะเป็นพิธีมอบของขวัญ ศิษย์พี่ของเจ้าจะมอบของขวัญต่างๆให้ไปดูสิ”
เมื่อหลินหลินได้ยินแบบนั้นดวงตาของเธอก็เป็นประกายขึ้นมาทันทีพร้อมกับวิ่งไปหาเหล่าศิษย์พี่ของเธอ หลังจากนั้นเทียนหลางและคนอื่นๆก็กลับมาที่ตำหนัก
ในตอนนี้ทุกคนกำลังมีความสุขกับการต้อนรับศิษย์น้องคนใหม่ ทางด้านของเทียนหลางตอนนี้ก็กำลังนั่งอ่านเอกสารบางอย่างอยู่ในห้องหนังสือซึ่งใบหน้าของเขาก็แลดูจะกังวลนิดหน่อยหลังจากที่ได้อ่านเอกสารพวกนั้น
เทียนหลางหมกตัวอยู่ในห้องหนังสือจนถึงมื้อเย็นก่อนจะออกมาทานอาหารร่วมกับคนอื่นๆ ในขณะที่กำลังทานอาหารกันอยู่นั้นเยี่ยเอ๋อก็ได้ถามขึ้น
”ท่านอาจารย์ ท่านอาจารย์จะกลับเมื่อไหร่งั้นเหรอ ?”
เทียนหลางที่ได้ยินดังนั้นก็คิดเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับไปว่า
”คงจะเป็นพรุ่งนี้นั่นแหละ เพราะตัวของอาจารย์นั้นก็ยังมีหน้าที่ที่ต้องทำมีโลกอีกไม่น้อย แถมหลินหลินก็ยังจะต้องไปโรงเรียนอีกด้วย”
เยี่ยเอ๋อได้ที่ยินแบบนั้นก็พยักหน้าก่อนจะแสดงท่าทีสงสัยออกมา
”น้องหลินหลินยังต้องไปโรงเรียนอีกงั้นเหรอ ? ในเมื่อเธอเป็นศิษย์ของท่านอาจารย์”
เทียนหลางที่ได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะออกมาเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า
”ความรู้ที่ข้ามอบให้กับหลินหลินได้ก็มีเพียงความรู้ของโลกการบ่มเพาะเท่านั้น ส่วนเรื่องอื่นนั้นหลินหลินจำเป็นจะต้องเรียนรู้ในโรงเรียน เจ้าเขาใจใช่ไหมเยี่ยเอ๋อ”
เยี่ยเอ๋อพยักหน้าเล็กน้อยพร้อมกับแสดงสีหน้าเศร้าๆออกมา เทียนหลางก็ทำได้เพียงยิ้มออกมาก่อนจะเอ่ยว่า
”เจ้าไม่จำเป็นจะต้องเศร้าไปเยี่ยเอ๋อ หากไม่มีเหตุขัดข้องอะไรไม่กี่ปีข้ากับเฟิงหยวนก็จะกลับมาอยู่ที่นี้แล้ว”
เมื่อเยี่ยเอ๋อได้ยินแบบนั้นใบหน้าที่เศร้าสร้อยของเธอก็เปลี่ยนไปยิ้มแย้มออกมาทำให้เหล่าศิษย์คนอื่นนั้นหัวเราะออกมาเล็กน้อยเพราะทุกคนนั้นรู้ดีว่าเยี่ยเอ๋อนั้นติดเทียนหลางมากแค่ไหนเพราะสมัยก่อนเยี่ยเอ๋อมักจะตัวติดกับเทียนหลางอยู่เสมอๆ ไม่เว้นแม้แต่ตอนที่เทียนหลางนั้นได้รับตำแหน่งจักรพรรดิสวรรค์เยี่ยเอ๋อก็ยังคงตัวติดกับเทียนหลางอยู่บ่อยๆ
ในวันรุ่งขึ้นเทียนหลาง เฟิงหยวน หลินหลิน และหลินจินทงก็เตรียมที่จะเดินทางกลับ เทียนหลางและเฟิงหยวนนั้นได้ล่ำลาอาจารย์ของพวกเขาก่อนที่เทียนหลางจะกลับเข้าไปที่หอคอยนิรันดิ์เพื่อเอาของบางอย่าง
หลังจากที่กลับออกมาแล้วเทียนหลางก็ได้เตรียมที่จะเดินทางกลับโดยที่มีเหล่าศิษย์และคนรับใช้ต่างมาคอยยืนส่งพวกเขา
ทางด้านหลินจินทงที่แสดงสีหน้าเศร้าๆออกมาพร้อมกับหันไปมองยังดินแดนนิรันดิ์ เทียนหลางที่ได้เห็นแบบนั้นก็พูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม
”ดูเหมือนคุณจะตกหลุมรักดินแดนแห่งนี้แล้วสินะ”
หลินจินทงที่ได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้ายอมรับออกมาก่อนจะพูดขึ้นว่า
”ตั้งแต่ฉันเกิดมายังไม่เคยพบเห็นสถานที่ที่วิเศษขนาดนี้มาก่อน หากจะบอกว่าฉันไม่ตกหลุมรักมันก็จะกลายเป็นการโกหกฉันถึงขั้นอยากจะขอให้ปล่อยฉันทิ้งไว้ที่นี้เลยด้วยซ้ำ”
เทียนหลางที่ได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะออกมาก่อนจะพูดว่า
”คุณไม่สามารถอยู่ที่นี้ได้หรอกนะ”
หลินจินทงที่ได้ยินก็แสดงสีหน้าที่สงสัยออกมาเล็กน้อย เทียนหลางจึงอธิบายไปว่า
”แม้ดินแดนแห่งนี้ผมจะเป็นคนสร้างขึ้นมาก็ตามแต่ถึงอย่างงั้นก็ใช่ว่าจะมีแค่ผมและตัวลูกศิษย์อยู่เท่านั้น ยังมีเหล่าสัตว์วิเศษอาศัยอยู่ที่นี้อีกมากมาย แม้พวกมันจะเชื่องแต่แน่นอนว่าพวกมันไม่ค่อยจะเป็นมิตรกับคนแปลกหน้าเท่าไหร่นัก”
หลินจินทงที่ได้ยินแบบนั้นก็ถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนจะเดินไปหาเทียนหลาง และทั้งสี่คนก็เดินเข้าไปยังประตูมิติเพื่อกลับสู่โลก
หลังจากกลับมาทุกคนก็ต่างทำตัวเหมือนเดิมหลินหลินก็กลับไปเรียนตามปกติ เทียนหลางก็ยังคงไปมหาลัย เฟิงหยวนก็ยังคงหาอะไรทำแก้เบื่อเช่นเดิม ทางด้านหลินจินทงก็กลับไปบ่มเพาะและดูแลธุรกิจของตัวเอง
ในขณะที่เทียนหลางกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่ห้องนั่งเล่นกับเฟิงหยวนอยู่นั้นโทรศัพของเขาก็ดังขึ้นเมื่อมองดูก็พบว่าเป็นเลขาไป๋ที่โทรมาเขาจึงกดรับพร้อมกับเอ่ยถามด้วยความสงสัย
”มีอะไรงั้นเหรอครับเลขาไป๋ ?”
เมื่อปลายสายได้ยินเสียงของเทียนหลางเขาก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจก่อนจะเอ่ยถามกับเทียนหลางไปว่า
[ ช่วงสามสี่วันนี้เธอหายไปไหนมา ฉันโทรหาเธอตั้งหลายครั้ง ]
เทียนหลางที่ได้ยินแบบนั้นก็เกาหัวตัวเองเบาๆก่อนจะเอ่ยขอโทษออกไป
”ต้องขอโทษด้วยครับพอดีว่าไปพักร้อนนิดหน่อยและปิดโทรศัพไว้นะ ว่าแต่เลขาไป๋มีธุระอะไรกับผมงั้นเหรอครับ ?”
[ เธอช่วยมาที่กองบัญชาการทีนะ พอดีว่ามีภารกิจด่วนเข้ามานะ ]
”ภารกิจด่วน ?”
[ ถูกต้อง เรื่องรายละเอียดมาคุยกันที่กองบัญชาการนะ รีบหน่อยนะเวลาไม่ค่อยจะมีแล้ว ]
เทียนหลางที่ได้ยินดังนั้นก็ถอนหายใจก่อนจะตอบรับพร้อมกับวางสายไป ก่อนจะลุกขึ้นและบิดขี้เกียจทำให้เฟิงหยวนถึงกับมองเขา
เทียนหลางก็ได้แต่ยิ้มพร้อมกับอธิบายว่า
”เดียวผมมานะ พอดีต้องไปรับใช้ชาตินะ”
เฟิงหยวนที่ได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้าพร้อมกับบอกว่า
”กลับมาเร็วๆละ ฉันรอทานยื้อเย็นกับคุณอยู่”
เทียนหลางที่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มออกมาทันที
”เข้าใจแล้วครับคุณภรรยา”
เทียนหลางออกจากบ้านพร้อมกับขับรถไปที่ยังกองบัญชาการหน่วยหมาป่า เมื่อเข้ามาด้านในเทียนหลางก็พบกับนายพลหลินและเลขาไป๋กำลังพูดคุยกันอยู่ เทียนหลางมองไปรอบๆห้องก็พบว่าคนอื่นในหน่วยไม่อยู่เขาจึงเอ่ยถามออกไปด้วยความสงสัย
”แล้วคนอื่นละครับ ?”
เลขาไป๋ที่ได้ยินคำถามของเทียนหลางเขาก็เอ่ยตอบกลับทันทีด้วยความรวดเร็ว
”พอดีว่าทุกคนไปทำภารกิจอื่นนะ ต้องขอโทษที่เรียกเธอมานะพอดีว่านี่เป็นภารกิจเร่งด่วนจริงๆ”
เทียนหลางส่ายหน้าเล็กน้อยพร้อมกับบอกไปว่า
”ไม่เป็นไรครับ ยังไงคุณก็จ่ายเงินเดือนให้ผม ผมย่อมต้องทำงานให้อยู่แล้ว”
เมื่อเลขาไป๋ได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะออกมาเล็กน้อยพร้อมกับอธิบายเกี่ยวกับภารกิจในครั้งนี้ของเขาให้ฟัง
”เมื่อสี่วันก่อนเวลาประมาณ 18:12 น. ได้มีการติดต่อมาจากศูนย์วิจัยของเราที่ขั้วโลกเหนือว่าถูกโจมตีโดยอะไรบางอย่าง เราได้ทำการส่งหน่วยพิเศษอื่นไปตรวจสอบสถานะการณ์ที่นั้นแล้วแต่ว่าพวกเขาได้ขาดการติดต่อไปพวกเราคาดว่าพวกเขาคงถูกจู่โจมโดยสิ่งที่โจมตีศูนย์วิจัย ซึ่งทางเราเองก็ไม่ทราบเช่นกันว่ามันคือสิ่งใด”
เทียนหลางที่ได้ฟังก็พยักหน้าพร้อมกับเอ่ยถามไปว่า
”คุณจึงคิดจะให้ผมไปสำรวจที่นั่นสินะ”
เลขาไป๋พยักหน้าพร้อมกับอธิบายเพิ่มเติม
”ผมได้รู้มาจากไป๋ตงหลินว่าคุณมีทักษะการลอบเล้นที่ยอดเยี่ยมดังนั้นคุณน่าจะเหมาะกับภารกิจนี้ แน่นอนว่าทางเราไม่ให้คุณไปเสี่ยงอันตราย คุณเพียงไปตรวจสอบสถานะการณ์โดยรอบพร้อมกับหน่วยพิเศษที่ 6 หน้าที่ของพวกเขาคือการคุ้มกันคุณให้สำรวจสถานที่ได้อย่างปลอดภัย หลังจากตรวจสอบเสร็จแล้วคุณก็ทำการรายงานมาทางศูนย์บัญชาการ หากทางคุณสามารถจัดการภัยคุกคามที่โจมตีศูนย์วิจัยและช่วยเหลือนักวิทยาศาสตร์ของทางเราได้นั้นจะเป็นเรื่องที่ดีมาก”
เทียนหลางที่ได้ยินคำอธิบายภารกิจเขาพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยกับเลขาไป๋ว่า
”เลขาไป๋ ผมมีเรื่องที่อยากจะพูดเล็กน้อย”
เลขาไป๋ที่ได้ยินแบบนั้นก็แสดงสีหน้าสงสัยออกมา
”เธอไม่พอใจอะไรงั้นเหรอ ?”
เทียนหลางส่ายหน้าพร้อมกับบอกว่า
”เปล่าเลยครับ ก่อนอื่นผมต้องบอกก่อนว่าผมไม่ได้สงสัยในความสามารถของหน่วยพิเศษที่ 6 แต่ผมอยากจะขอทำงานนี้คนเดียวจะได้ไหมครับ ?”
เลขาไป๋ที่ได้ยินแบบนั้้นก็ตกใจเล็กน้อย แต่เขาก็ใช่ว่าจะเป็นคนไม่มีเหตุผลเขาจึงต้องการคำอธิบาย
”ฉันขอทราบเหตุผลได้ไหม ?”
เทียนหลางที่ได้ยินก็ให้เหตุผลกับเลขาไป๋ไปว่า
”ผมสะดวกกับการทำงานคนเดียวเสียมากกว่าและก็ไม่ค่อยชอบฟังคำสั่งใครสักเท่าไหร่ หากจะให้เข้าใจอย่างง่ายก็คือพวกเขาเกะกะนะครับ”
เมื่อได้ยินคำตอบเลขาไป๋ก็ได้แต่ตกใจก่อนจะถอนหายใจออกมา และหันหน้าไปหานายพลหลินเพื่อขอคำตอบ นายพลหลินก็มองกลับไปที่เทียนหลางเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าให้กับเลขาไป๋เป็นการบอกว่าเขานั้นอนุญาต
เลขาไป๋ที่ได้รับคำตอบจากนายพลหลินแล้วเขาก็เอ่ยกับเทียนหลางไปว่า
”ก็ได้ ทางเราจะยอมให้เธอทำภารกิจคนเดียวแต่จำเอาไว้ว่าหากไม่เป็นไปตามที่เธอคิดให้เธอถอนตัวเองมาทันทีเข้าใจไหม”
”เข้าใจแล้วครับ แล้วคุณจะให้ผมเดินทางไปขั้วโลกเหนือเมื่อไหร่ ?”
เลขาไป๋ก็ตอบกลับไปอย่างรวดเร็วว่า
”เดี๋ยวนี้”