The Strongest Hokage - ตอนที่ 138
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจักระของ ไนโตะ ยังไม่เพียงพอในการฝึกวิชานี้ แต่ความแข็งแกร่งของ ไนโตะ นั้นเกินความต้องการเป็นอย่างมาก และเรื่องนี้ก็ได้รับการรับรองมาแล้วจากคนทั้งสนามรบ
ยิ่งไปกว่านั้น วิชาเปิดประตูด่านพลังทั้ง 8 แบบย้อนกลับ ก็ทำหน้าที่ของมันได้อย่างดีเยี่ยม มันช่วยให้ ไนโตะ สามารถฟื้นฟูจักกระของเขาได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้เขาสามารถฝึกวิชา อาภรณ์สายฟ้า ขั้นที่ 2 ได้อย่างต่อเนื่อง
แต่แม้ว่าเขาจะฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง แต่ความก้าวหน้าของเขาก็ยังช้ามากอยู่ดี
อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้ก็ทำให้ ไนโตะ รู้สึกทึ่งกับพลังของวิชา อาภรณ์สายฟ้า ขั้นที่ 2
แท้จริงแล้วมันก็เป็นหนึ่งใน คาถาลับ ที่ทรงพลังในโลกนินจาแห่งนี้!
ในขั้นที่ 1 มันอาจไม่ได้แสดงพลังที่แท้จริงของมันออกมา แต่ในขั้นที่ 2 มันก็พิสูจน์ให้เห็นว่ามันมีพลังมากจริง ๆ
หาก ไนโตะ ไม่ได้เรียนรู้วิชา กระบวนท่าเปิดประตูด่านพลังทั้ง 8 แบบย้อนกลับ มาก่อนหน้านี้ เขาก็จะไม่สามารถฝึกวิชา อาภรณ์สายฟ้า ได้อย่างแน่นอน!
มันเป็นวิชาที่ลึกลับมาก!!
ด้วยรูปแบบจักรนี้ ทำให้แสงสีฟ้าและสายฟ้าเริ่มปรากฏขึ้นรอบ ๆ ร่างกายของ ไนโตะ มันดูน่ากลัวมาก
เส้นสายฟ้ารอบตัว ไนโตะ ชัดเจนกว่า อาภรณ์สายฟ้า ขั้นแรก และมันก็ทำให้เสื้อผ้าของ ไนโตะ ฉักขาด
อย่างไรก็ตาม ไนโตะ ไม่ได้สนใจเรื่องนี้ และเขาก็ยังคงมุ้งมั่นในการควบคุมมันต่อไป…อันที่จริง เขาพยายามควบคุมไม่ให้มันทำลายร่างกายของเขา
คนอื่น ๆ ที่ไม่ได้เชี่ยวชาญในการใช้ธาตุสายฟ้า ร่างกายของเขาจะไม่สามารถทนต่อสายฟ้าในระดับนี้ได้!
และแม้ว่าคนคนนั้นจะไม่ได้กลายเป็นผงในทันที แต่ร่างกายของเขาจะได้รับบาดเจ็บจากการสะท้อนของคุณสมบัติจักระธาตุสายฟ้าในร่างกายของเขาอย่างรุนแรง
เด็กน้อยที่สามารถเรียนรู้วิชา กระบวนท่าเปิดประตูด่านพลังทั้ง 8 แบบย้อนกลับ ได้ขณะที่มีอายุแค่ 9 ขาบ มีเพียงสิ่งที่เหมือนกัน ไนโตะ เท่านั้น ที่สามารถทนต่อการฝึกฝนวิชานี้ได้
หลังจากผ่านการฝึกไปครึ่งวัน ไนโตะ ก็เริ่มรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในร่างกายของเขา
บางทีนี่อาจเป็นเพราะความจริงที่ว่า จุดเริ่มต้นของการเติบโตของเมล็ดพันธุ์ จะบ่งบอกถึงความธรรมดาหรือไม่ธรรมดาของต้นไม้ในอนาคต!
ด้วยความก้าวหน้านี้ เป็นไปได้ที่ ไนโตะ จะสามารถพัฒนาขึ้นได้อย่างรวดเร็ว จนอาจทำให้เขาสามารถเปิดประตูด่านพลังบานที่ 4 ได้ในเร็ว ๆ นี้
เป็นเวลาเกือบ 1 ปีแล้วที่ ไนโตะ ได้เขาสู่ มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 2
คำนวณเวลาแล้ว หากทุกอย่างยังคงดำเนินต่อไปแบบนี้ตามในการ์ตูน มหาสงครามนี้ก็กำลังจะถึงจุดจบแล้ว
ต่อจากนี้ถ้า ไนโตะ สามารถทำการฝึกฝนได้ทุกวันตลอดทั้งปี บางทีเขาก็อาจจะเปิดประตูด่านพลังบานที่ 4 ของวิชา กระบวนท่าเปิดประตูด่านพลังทั้ง 8 แบบย้อนกลับ ได้
แต่มันยังห่างไกลจากตอนนี้มาก
โชคดีที่ตั้งแต่ ไนโตะ สามารถควบคุมวิชา อาภรณ์สายฟ้าขั้นแรก ได้ เขาก็ได้ทำการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลากว่า 3 เดือนแล้ว
“ฮึ๊บ!!”
ไนโตะ สูดหายใจเข้าลึก ๆ ร่างกายของเขาเริ่มเมื่อยล้า และตอนนี้เขาก็เหนื่อยเล็กน้อย เขาจึงต้องการหยุดพัก
ไนโตะ หลับตาและเริ่มนั่งสมาธิ เขากำลังคิดเกี่ยวกับ อาภรณ์สายฟ้าขั้นที่ 3 อยู่ แต่มันก็ยากมากที่จะเข้าใจได้ ความลับของวิชานี้คงจะถูกจัดให้เป็นความลับสุดยอด และคงถูกเก็บไว้ใน หมู่บ้านคุโมะ
คนเดียวที่สามารถขโมย ม้วนคัมภีร์วิชาอาภรณ์สายฟ้าขั้นที่ 2 มาได้ก็มีเพียงแค่ โอโรจิมารุ คนเดียวเท่านั้น แต่คงจะเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะขโมย ม้วนคัมภีร์วิชาอาภรณ์สายฟ้าขั้นที่ 3 มาได้
ขณะที่เขากำลังเรื่องนี้อยู่นั้น เขาก็ได้ยินเสียงที่ดังมาจากด้านนอกห้องของเขา
“ไนโตะคุง เธออยู่ไหม?”
เป็นเสียงที่คุ้นเคยเป็นอย่างมาก นั้นก็คือเสียงของ ซึนาเดะ นั้นเอง เธอกำลังเปิดประตูและเดินเข้ามาหา ไนโตะ
“อยู่ครับผม”
ไนโตะ ลืมตาขึ้นมาและมองไปที่ ซึนาเดะ ที่ยืนอยู่ตรงหน้าของเขา จากนั้นเขาก็พยักหน้าให้เธอ แต่เขาก็สังเกตเห็นว่าเธอมีท่าทางแปลก ๆ
เกิดอะไรขึ้น?
ไนโตะ มองไปที่เธอ เขาก็สังเกตเห็นว่าเธอมองเขาด้วยสายตาแปลก ๆ เขาจึงก้มลงมองตัวเอง จากนั้นเขาก็สะดุ้งขึ้นมาทันที
เนื่องจากการฝึกฝนของ ไนโตะ ทำให้เสื้อผ้าของเขาถูกฉีกออกเป็นชิ้น ๆ แต่เขาก็ไม่ได้สังเกตจนกระทั่งตอนนี้
“…”
ไนโตะ รู้สึกเขินอายเล็กน้อย จากนั้นเขาก็ยักไหล่และหยิกเศษผ้าชินหนึ่งมาปิดตรงนั้นไว้ จากนั้นเขาก็พูดอย่างจริงจังว่า “เอาล่ะ ทีนี้เราก็หายกันแล้วนะ”
“หายกันบ้าอะไรละ!!”
ซึนาเดะ ดูอารมณ์เสียเล็กน้อย ภาพมันติดตาไปแล้วจะหายกันได้ยังไงกัน?!
ไนโตะ ทำหน้าตาน่ารักนิดหน่อย และทำให้เธอสงบลง
พูดอีกอย่างหนึ่งว่า ไนโตะ มักใช้ใบหน้ามราไร้เดียงสาของเขา เพื่อทำให้ทุกสิ่งกลับสู่สภาวะปกติในสถานการณ์แบบนี้
แม้ว่า ไนโตะ จะรู้ว่า ซึนาเดะ ไม่ได้โกรธเขาจริง ๆ เพราะเธอคิดว่าเขาเป็นเพียงแค่เด็กหนุ่มขี้เล่นเท่านั้น
บรรยากาศดูอึดอัดเล็กน้อย
“เอ้อ แล้วพี่มาหาผมทำไมเหรอ?”
ไนโตะ พยายามที่จะเปลี่ยนเรื่องคุยเพื่อทำให้บรรยากาศดีขึ้น
ซึนาเดะ กัดฟันจากนั้นเธอก็พูดด้วยความโกรธขึ้นมาว่า “เจ้าแก่นั่น สั่งรวมกองทัพใหม่จำนวน 2,000 คน จากนั้นพวกมันก็เข้าโจมตีหนึ่งในหน่วยของเรา ในขณะที่พวกเขากำลังทำภารกิจอยู่ พวกเราต้องไปช่วยพวกเขา”
เมื่อได้ยินข่าวนี้ ไนโตะ ก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยและพูดว่า “พวกเขาไม่กลัว หมู่บ้านคุโมะ ลอบโจมตีเหรอ?”
“จะไปรู้เหรอ?!”
ซึนาเดะ ยักไหล่แล้วมองไปที่ ไนโตะ และพูดว่า “มีโอกาสสูงที่ โอโนกิ จะเข้าร่วมการต่อสู้ในครั้งนี้ด้วย เธอต้องระวังเจ้าแก่นั้นให้ดี เขาแข็งแกร่งมาก และเธออาจจะเป็นเป้าหมายของเขา”
“ไนโตะ ยิ้มแล้วพูดกลับไปว่า “งั้นก็เป็นเกียรติที่ผมจะได้สู้กับเขา”
ซึนาเดะ รู้สึกโกรธมากกับความคิดของ ไนโตะ และพูดว่า “นี้เธอฟังฉันอยู่หรือเปล่า ทั้งโลกรับรู้ถึงความแข็งแกร่งของเธอ เธอควรระวังตัวมากกว่านี้!”
เมื่อได้ยินคำพูดของเธอ ไนโตะ ก็พยักหน้าด้วยความจริงจัง
เพราะ ไนโตะ แค่พูดเล่น ๆ ไปเท่านั้น เขารู้ว่าจากการกระทำของเขาทั้งหมดที่ผ่านมา เขารู้ว่าเขาต้องระวังให้มากขึ้น
“ก็จริงที่ทุกคนจะเล็งเป้ามาที่ผม แต่พี่ก็รู้นิว่าผมไม่ใช่เป้าหมายที่ง่าย!”
การแสดงออกของ ไนโตะ สงบมาก
บางที อาจจะยากกว่าการเล็งเป้าไปที่ ฮาตาเคะ ซาคุโมะ ก็เป็นได้!
ไนโตะ แข็งแกร่งทั้งในด้านการโจมตีระยะไกลและการต่อสู้ตัวต่อตัว เขามีภูมิคุ้มกันต่อ วิชาคาถาลวงตา ระดับพื้นฐาน และความเร็วที่สูงมากของเขา อีกทั้งยังมีวิชาเคลื่อนย้ายชั่วพริบตา ทั้งหมดทำให้เขาสมบูรณ์แบบในทุกด้าน
พูดได้อีกอีกอย่างหนึ่งว่า ไนโตะ เกือบจะไม่มีจุดอ่อนเลยก็ว่าได้
การเล็งเป้ามาที่เขานั้น เป็นความคิดที่ผิด!
……
แคว้นแห่งฝน
ใกล้กับชายแดนของแคว้นแห่งนี้
มีพื้นที่โลงกว้างอยู่ มันดูเหมือนกับที่ที่ ฮันโฮ และ 3 นินจาในตำนาน ใช้ในการต่อสู้กัน
ฝนตกลงมาจากท้องฟ้า ชำระล้างคราบเลือดที่นองอยู่เต็มพื้น
นินจาโคโนฮะ และ นินจาอิวะ กำลังต่อสู้กับอยู่
เป็นอีกหนึ่งการต่อสู้ครั้งใหญ่ มันเป็นการต่อสู้ของนินจาประมาณ 400 – 500 คน ในขณะที่กองทัพของทั้ง 2 ฝ่ายกำลังมุ่งหน้าเข้าปะทะกัน
ผู้นำกองทัพอิวะในครั้งนี้ ไม่ใช่ โอโนกิ เขาคือผู้ช่วยของ โอโนกิ ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ผู้บัญชาการกองทัพอิวะ กองทัพนี้ เขามีชื่อว่า ซันโดะ และเขาคือคนที่ถูก ซาคุโมะ ตัดแขน!
และด้านหลังของเขาก็มีนินจาที่สวมหน้ากากยืนอยู่
เมื่อดูจากตำแหน่งที่ยืนอยู่ เขาคงไม่ใช่ ผู้บัญชาการกองทัพหน่วยลับอิวะ
เขาน่าจะเป็นเพียงแค่หนึ่งในสมาชิก หน่วยลับ เท่านั้น
ถึงแม้ว่า ซันโดะ จะเคยพ่ายแพ้ให้กับ ซาคุโมะ แต่พวกเขาทั้ง 2 ก็ได้กลับมาเผชิญหน้ากันอีกครั้ง
ในสนามรบ นินจาส่วนใหญ่เป็น นินจาระดับ จูนิน
เมื่อมองดูสถานการณ์ในสนามรบ ซาคุโมะ ก็วิเคราะห์สถานการณ์อย่างใจเย็น และทันใดนั้นเขาก็ออกคำสั่งให้ หน่วยโจนิน เข้าสู่สนามรบ
โอโรจิมารุ ก็อยู่ที่นั่นด้วย แต่เขาก็ยังคงยืนอยู่อย่างสงบ ในขณะเดียวกันจิตสังหารของเขาก็กระจายออกไปทั่วบริเวณ
ตอนนี้ ความดุเดือดของสงครามได้มาถึงจุดสูงสุดแล้ว