The Strongest Hokage - ตอนที่ 170
มาดาระ รู้สึกกลัวมาก และ เซ็ทสึ ก็ไม่กล้าทำให้เขาไม่พอใจ
แม้ว่า ไนโตะ นั้นจะแข็งแกร่ง แต่พลังของเขาก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้พวกเขารู้สึกว่าถูกคุกคามจนต้องออกมาเคลื่อนไหว
ท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาก็ยังคงซ่อนอยู่ในความมืดเพื่อมองดูโลกทั้งใบ
แต่อย่างไรก็ตาม แค่เรื่องที่ ไนโตะ รู้นั้น ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้พวกเขารู้สึกกลัว
ด้วยความสามารถของ เซ็ทสึ ทำให้ มาดาระ คิดว่าเขารู้ทุกอย่าง…จนกระทั่ง ไนโตะ ปรากฏตัวออกมา…เขาไม่สามารถรู้สิ่งที่ ไนโตะ คิดได้เลย!
ตอนแรก ไนโตะ ก็เหมือนนินจาธรรมดา ๆ คนอื่น ๆ
แต่จู่ ๆ ไนโตะ ก็กลายเป็นอันตรายต่อแผนของ มาดาระ อย่างถึงที่สุด!
“เจ้าเด็กคนนี้ มันไม่สามารถอ่าน ศิลาจาลึก ของ ตระกูลอุจิฮะ ได้ เพราะมันไม่มี เนตรวงแหวน แต่จากสิ่งที่มันพูด ดูเหมือนว่ามันจะรู้เรื่องอะไร ๆ มากกว่าฉัน มันเป็นไปได้ยังไง?”
มาดาระ พูดออกมาเบา ๆ ในขณะที่เขากำลังนั่งทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ แต่เขาก็ยังไม่รู้จุดประสงค์ของ ไนโตะ
คนคนนี้ เมื่อก่อนเขายังเป็นแค่คนธรรมดา ๆ แต่ตอนนี้เขากำลังเป็นอันตรายต่อ มาดาระ และ มาดาระ ก็รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ
มันทำให้ มาดาระ รู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก!
…….
ไนโตะ ไม่รู้ว่า มาดาระ จะรู้สึกยังไงหลังจากที่รู้ว่า ไนโตะ รู้แผนการของเขา แต่ ไนโตะ ก็มั่นใจว่า มาดาระ จะต้องตกใจไม่มากก็น้อยอย่างแน่นอน
และมันจะทำให้ มาดาระ ไม่มารบกวน ไนโตะ อีกต่อไป
หลังจากเรื่องนี้ ไนโตะ ก็ยังคงฝึกสัมผัสพิเศษของเขาต่อไป เขาพยายามที่จะเพิ่มสีสันให้กับโลกแห่งสัมผัสพิเศษของเขา
แต่ในที่สุดมันก็ล้มเหลว
นั่นทำเห็นว่าขั้นที่ 4 ของ พลังสั่นสะเทือน ยังไม่สามารถทำแบบนั้นได้ ดังนั้นเขาจึงเห็นโลกแห่งสัมผัสของเขาเป็นสีดำและสีขาวเท่านั้น
สำหรับระยะการสัมผัสนั้น มันสามารถครอบคลุมทั่วทั้งโลกก็จริง แต่มันอ่อนแอมากจนเข้าไม่สามารถสัมผัสอะไรได้และในที่สุดมันก็จะหายไป
ระยะที่เขาสามารถครอบคลุมการสัมผัสของเขาได้อย่างชัดเจนก็คือระยะประมาณ 1 กิโลเมตร
แต่ภายในระยะ 1 กิโลเมตรนี้ การสัมผัสของเขาจะสมบูรณ์แบบ!
แม้ว่าการเคลื่อนไหวของศัตรูจะเร็วมาก แต่ ไนโตะ ก็สามารถรับรู้ได้อย่างง่ายดาย ถึงอย่างนั้น ไนโตะ ก็ยังไม่รู้ว่าเขาจะสามารถจับการเคลื่อนที่ของ เทพอัสนีเวหา ได้หรือไม่ แต่อย่างน้อยเขาก็สามารถตามการเคลื่อนไหวของ ไรคาเงะ ได้อย่างสมบูรณ์!
ในความพยายามที่จะเพิ่มสีให้แก่โลกแห่งสัมผัสของเขา เป้าหมายต่อไปของ ไนโตะ ก็คือการเข้าสู้สภาวะสัมผัสพิเศษโดยการไม่ต้องปิดกันประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของเขา
เขาเริ่มเพิ่มประสาทสัมผัสของเขาเข้าไปทีละอย่าง การสัมผัส , การได้ยิน , การมองเห็น…
ไนโตะ ค่อย ๆ เพิ่มประสาทสัมผัสเข้าไปทีละ 1 อย่าง และโลกแห่งการสัมผัสของเขาก็ยังคงชัดเจนอยู่ และเขาสามารถสัมผัสได้แม้กระทั่งการเคลื่อนไหวของมดที่อยู่ในระยะ 1 กิโลเมตร!
แน่นอนว่าถ้าเขาพยายามเพิ่มระยะการสัมผัสออกไป เขาจะไม่สามารถตรวจจับได้อย่างสมบูรณ์ มันจะเหมือนภาพที่เบลอ ๆ และถ้าไกลกว่า 3 กิโลเมตร มันจะมืดสนิทจนเขาไม่สามารถรู้สึกถึงอะไรได้เลย
“ความสามารถนี้ ถึงจะต้องเจอกับ ตระกูลคุรามะ ที่แข็งแกร่งในวิชาคาถาลวงตา พวกเขาก็จะไม่สามารถทำอะไรเราได้!”
ด้วยความสามารถนี้ทำให้ ไนโตะ สามารถเป็นนินจาตรวจจับได้
และมันจะทำให้การลักลอบเข้าไปใน หมู่บ้านซึนะ สามารถทำได้งายขึ้น
ดังนั้น ไนโตะ จึงพร้อมแล้วที่จะไปที่นั่น
ในวันนั้น ไนโตะ นั่งอยู่เงียบ ๆ เขาเสื้อคลุมสีขาวเพื่อเตรียมพร้อมที่จะไป
โคนัน นั่งอยู่ตรงข้ามกับเขา แต่เธอมีสีหน้าที่เศร้ามาก
อีกฝั่งหนึ่ง ยาฮิโกะ ยังคงฝึกฝนอยู่ไกลออกไป
เมื่อเทียบกันแล้ว โคนัน เป็นผู้หญิงที่มีความเห็นอกเห็นใจและอารมณ์ของเธอก็สามารถควบคุมจิตใจของเธอได้เสมอ
ในทางกลับกัน ยาฮิโกะ มีเป้าหมายชัดเจนเหมือนในการ์ตูน แล้วเขาเป็นเหมือน นารูโตะ แม้ว่าความฝันของทั้ง 2 จะแตกต่างกัน แต่พวกเขาต่างต้องการสันติภาพเหมือนกัน
คนหนึ่งตกอยู่ท่ามกลางสงคราม และทั้งหมดที่เขาต้องการคือการเปลี่ยนแปลงโลก
อีกคนหนึ่ง ต้องการเปลี่ยนความคิดของคนอื่น ๆ ที่มีต่อเขา ดังนั้นเขาจึงอยากเป็น โฮคาเงะ เพื่อทำให้ทุกคนเชื่อใจ
ทั้งหมดก็เพื่อความสงบสุขของโลก
“ความคิดเรื่องสงครามของ ครูไนโตะ คืออะไร?”
โคนัน เงียบอยู่นาน จากนั้นเธอก็พูดในสิ่งอยู่ในใจออกมา
ดวงตาเธอเป็นประกาย จากนั้นเธอก็พูดออกมาเบา ๆ ว่า “ยาฮิโกะ บอกว่าเขาต้องการแข็งแกร่งขึ้นเพื่อหยุดดสงครามทั้งหมดในโลกนี้ แล้วความคิดของ ครูไนโตะ คืออะไร?”
ในมุมมองของ โคนัน ตอนนี้ ไนโตะ ก็แข็งแกร่งพออยู่แล้วและไม่มีใครสามารถต่อสู้กับเขาได้
ไนโตะ แข็งแกร่งมากแล้ว
แต่ ไนโตะ ก็จะไม่อยู่ที่ แคว้นแห่งฝนนี้ แล้วเขายังคงออกเดินทางเพื่อทำสิ่งอื่น ๆ อยู่เสมอ
ไนโตะ รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยกับสิ่งที่ โคนัน ถามเขา
“ที่จริงแล้ว มันไม่สำคัญว่าใครจะคิดยังไง”
หลังจากนั้นไม่นาน ไนโตะ ก็มองไปที่ โคนัน และให้คำตอบกัยเธอ แต่มันก็ทำให้เธอประหลาดใจและทำให้เธอสับสนมากยิ่งขึ้น
เมื่อมองดูปฏิกิริยาของ โคนัน แล้ว ไนโตะ ก็ยิ้มและพูดว่า “ยาฮิโกะ ต้องการจะเป็นพระเจ้าเพราะเขาคิดว่ามันจะแก้ปัญหาได้ แต่โลกนี้เคยมีพระเจ้ามาแล้ว”
“ตอนที่พระเจ้าองค์นั้นยังมีชีวิตอยู่ ถึงแม้ว่าโลกนี้จะไม่มีสงคราม แต่ทุกคนก็ต้องอยู่อย่างหวาดกลัวและยังคงมีความเกลียดชังอยู่ จนในที่สุดก็เป็นเหตุนำไปสู่สงคราม”
“สงครามจะไม่มีวันหยุด ครั้งหนึ่ง เกิดสงครามขึ้น และมันก็ใหญ่มากถึงพวกเขาจะไม่ต้องการสงคราม แต่อย่างที่เธอเห็น มันไม่มีทางหยุด”
“บางคนคิดว่า ถ้าทุกคนเข้าใจกันก็จะไม่มีความเกลียดชัง แต่มันจะเป็นไปได้เหรอ ที่เธอจะบอกว่าเธอไม่เกลียดคนที่ฆ่าพ่อแม่ของเธอ โคนัน?”
ไนโตะ พูดคำพูดเหล่านี้ออกมา จากนั้นเขาก็มองตรงไปที่ดวงตาของ โคนัน
โคนัน แสดงสีหน้าเศร้าโศกอย่างชัดเจน เธอเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นเธอส่ายหัวแล้วพูดว่า “เรื่องนั้นไม่มีทาง”
“ใช่แล้ว”
ไนโตะ พยักหน้าเบา ๆ แล้วพูดว่า “มันเป็นเรื่องยากเกินไปที่จะเปลี่ยนแปลงโลกได้ ดังนั้น สิ่งที่ฉันคิดก็คือ ฉันจะต้องพยายามเปลี่ยนตัวเองไปเรื่อย ๆ นี่แหละความคิดของฉัน”
“ไม่ว่าโลกจะมีสงครามแบบไหน ความหวังจะไม่มีวันถูกทำลาย ความหวังจะคงอยู่กับคนรุ่นใหม่เสมอ และตาบใดที่ยังมีพวกเขาเหล่านั้นอยู่ ความหวังจะคงอยู่เสมอ”
“ตราบใดที่ยังคงมีสงคราม ความตาย ความหวาดกลัว และความเกลียดชัง จะยังมีอยู่ในโลกนี้เสมอ”
“ดังนั้นก่อนที่ใครคิดจะเปลี่ยนโลก เขาจะต้องเปลี่ยนตัวเองให้แข็งแกร่งก่อน แข็งแกร่งพอที่จะไม่ทำให้สงครามเปลี่ยนแปลงตัวเขาได้ และแข็งแกร่งพอที่จะปกป้องคนที่เชื่อมันในตัวเขาได้ ถ้าเธอทำได้แบบนั้น เธอก็จะหยุดสงครามได้”