The Strongest Hokage - ตอนที่ 194
ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ ไนโตะ เขาจะไม่รู้เลยว่านี่เป็น ม้วนคัมภีร์ลับ ของปลอม แต่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือ ไนโตะ รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับ ม้วนคัมภีร์ลับ
“ซารุโทบิ ท่านกำลังเล่นอะไรกับผม?”
หลังจากที่เขาส่ายหัว ไนโตะ ก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เขาไม่ได้สนใจ คาถาสัมภเวสีคืนชีพ หรือ คาถาสะกดปิดผนึกซากอสูร
เขาต้องการแค่เพียงวิชา เทพอัสนีเวหา เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม วิชานี้ก็ไม่ได้ฝึกกันได้ง่าย ๆ ไม่เช่นนั้น มินาโตะ และ โทบิรามะ ก็คงจะไม่ใช่เพียง 2 คนที่ใช้วิชานี้ได้
ไนโตะ อ่าน ม้วนคัมภีร์ลับ ต่อไปเรื่อย ๆ
“คาถาเงาแยกร่าง , กระบวนท่าเปิดประตูด่านพลังทั้ง 8 , ระเบิดหมัดพลังช้างสาร…”
ไนโตะ อ่านไปพูดกับตัวเองไปถึงวิชาที่เขาเชี่ยวชาญอยู่แล้ว และวิชาอื่น ๆ ก็ไม่ได้น่าสนใจขนาดนั้น
อันที่จริงแล้วใน ม้วนคัมภีร์ลับ ยังมีวิชาต้องห้ามอีกมาก ทั้ง คาถาดิน และ คาถาน้ำ หรือ คาถาลวงตา แต่ก็ไม่มีอะไรที่เหมาะกับรูปแบบการต่อสู้ของ ไนโตะ เลย
ล้อเล่นกันใช้ไหม!
การแสดงออกบนใบหน้าของ ไนโตะ นั้นเจ็บปวดมาก ดูเหมือนว่า ซารุโทบิ ได้ใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อทำให้มันดูเหมือนจริงที่สุด
เขาจ้องมอง ม้วนคัมภีร์ลับ ด้วยสายตาที่เย็นชา
“ถ้าเป็นแบบนี้ ท่านก็โทษผมไม่ได้นะ ถ้าผมจะไปเอาของจริงมาด้วยตัวเอง”
ในขณะที่เขากำลังคิดแผนที่จะไปเอา ม้วนคัมภีร์ลับ ของจริง ไนโตะ ก็เปิดม้วนคัมภีร์ออกเรื่อย ๆ แต่ทันใดนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป
เขาแค่คิดที่จะเปิดมันให้จบ ๆ ไป แต่เขาก็ไม่คิดเลยว่าจะเจอวิชาที่น่าสนใจแบบนี้
คาถาแปลงวิญญาณ!
มันคือวิชาต้องห้ามที่ คาโต้ ดัน เคยใช้ในการ์ตูน วิชานี้จะทำให้ผู้ใช้วิชาสามารถถอดดวงวิญญาณออกจากร่างและส่งดวงวิญญาณไปที่ไหนก็ได้ วิชานี้ช่วยให้ ดัน สามารถฆ่าศัตรูได้มากมาย เพราะผู้ใช้วิชาจะสามารถควบคุมร่างกายศัตรูได้โดยที่ผู้ใช้วิชาจะไม่ได้รับบาดเจ็บในขณะที่เขาอยู่ในโลกแห่งวิญญาณ!
วิชานี้คล้ายกับ คาถาจิตย้ายร่าง แต่ก็ยังมีข้อแตกต่างกันอยู่มาก
“มันเป็นหนึ่งในวิชาควบคุมจิต แต่มันไม่เหมือนกับวิชาควบคุมจิตอื่น ๆ…จริง ๆ แล้วมันเหมือนกับวิชาควบคุมวิญญาณมากกว่า”
วิชานินจาถูกแบ่งออกเป็น 3 ประเภทคือ คาถานินจา , วิชากระบวนท่า และ คาถาลวงตา
มันเหมือนกับ คาถาสัมภเวสีคืนชีพ ที่ถูกจัดอยู่ในทั้ง 3 ประเภท
อย่างไรก็ตามในมุมมองของ ไนโตะ แล้ว คาถาแปลงวิญญาณ มันไม่ควรอยู่ในทั้ง 3 ประเภทนี้ มันควรจะแยกออกไปเป็นวิชานินจาประเภท วิชาควบคุมวิญญาณ
ก็เหมือนกับ คาถาสะกด ปิดผนึกซากอสูร ที่ไม่ถูกจัดอยู่ในประเภทใด ๆ เลย
ดูเหมือนว่า คาถาแปลงวิญญาณ จะเป็นพื้นฐานของ คาถาสัมภเวสีคืนชีพ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังต้องค้นคว้าอีกมากกว่าจะบรรลุความลับของมัน
แม้แต่วิชาของ โอโรจิมารุ ที่ทำให้เขาสามารถย้ายจิตใจไปในร่างของคนอื่นได้ ก็ยังมีความเกี่ยวข้องกับวิชานี้
“คงเป็นเพราะเขาคิดว่าวิชานี้ธรรมดาเกินไป”
ไนโตะ รู้สึกแปลก ๆ ที่คิดว่า ซารุโทบิ ไม่สนใจเรื่องนี้
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ซารุโทบิ คิดว่า ไนโตะ จะไม่สนใจวิชานี้ เพราะแค่พลังของเขาก็เพียงพอแล้วที่จะสามารถฆ่าใครก็ได้ตามที่เขาต้องการ โดยที่ไม่ต้องอาศัย คาถาแปลงวิญญาณ
ซารุโทบิ ประมาทเกินกว่าที่จะเห็นประโยชน์ของวิชานี้!
โฮคาเงะ รุ่นที่ 2 มีวิชาที่แข็งแกร่งมากมาย
“ชายผู้นี้เป็นอัจฉริยะจริง ๆ ไม่มีใครเทียบเขาได้ เราไม่รู้ว่าเขาศึกษามานานแค่ไหนกว่าจะได้วิชาที่ทรงพลังทั้งหลายเหล่านี้มา”
ไนโตะ ศึกษา คาถาแปลงวิญญาณ ตั้งแต่เริ่มต้นอยู่หลายต่อหลายครั้ง จนกระทั่งเขาเข้าใจทั้งหมด จากนั้นเขาก็ปิด ม้วนคัมภีร์
ไนโตะ ต้องการเรียนรู้วิชานี้
พลังสั่นสะเทือน ของเขา ทำให้เขารอดพ้นจากทั้ง คาถานินจา และ คาถาลวงตา สิ่งเดียวที่เป็นภัยคุกคามต่อเขาก็คือ วิชาที่ควบคุมไปถึงระดับวิญญาณ
ไม่ว่าคุณจะเป็นศพ หรือแม้แต่เทพเจ้า วิชาแขนงนี้ก็จะเป็นภัยคุกคามเสมอ
หากเขาสามารถเข้าใจและเชี่ยวชาญ วิชาควบคุมวิญญาณ เขาก็อาจมีภูมิคุ้มกันต่อทุกสิ่งอย่างแท้จริง และเขาจะสมบูรณ์แบบ!
ยิ่งไปกว่านั้น ด้วย วิชากระบวนท่าเปิดประตูด่านพลังทั้ง 8 แบบย้อนกลับ ทำให้ ไนโตะ รู้สึกว่าอาจจะได้ประโยชน์อื่น ๆ จากการฝึกวิชานี้ เพราะการไหลของจักระของเขานั้นตรงข้ามกับคนปกติ
มันอาจเกี่ยวข้องกับจิตวิญญาณและสิ่งที่เหนือการควบคุม
……
3 วันต่อมา
ใน ห้องทำงานโฮคาเงะ
ไนโตะ ส่งคืน ม้วนคัมภีร์ลับ ให้กับ โฮคาเงะ รุ่นที่ 3 เขารู้สึกเหมือนโดนตบหน้าเมื่อ โฮคาเงะ รุ่นที่ 3 บอกเขาว่าถ้าต้องการอะไรอีกก็บอก
แต่ ไนโตะ ก็ขี้เกียจเกินกว่าจะหาเรื่อง เพราะเขามีความสุขที่ได้รับ คาถาแปลงวิญญาณ เขาต้องไปฝึกฝนมันมากขึ้นและศึกษาความลับของมัน
แต่มันก็ทำให้เขามีความรู้เกี่ยวกับ วิชาควบคุมวิญญาณ
“ด้วยความแข็งแกร่งของผมในตอนนี้ แม้แต่วิชาต้องห้ามก็ไม่ค่อยจะมีประโยชน์สำหรับผมเท่าไร ผมคิดว่าผมควรมุ่งไปที่ขีดจำกัดสายเลือดของผมมากกว่า”
ไนโตะ พูดกับ ซารุโทบิ
เมื่อฟังคำพูดของ ไนโตะ ดวงตาของ ซารุโทบิ ก็กระพริบเล็กน้อย แต่ใบหน้าของเขากลับแสดงถึงนัยแห่งความเวทนาและน่าสงสาร แล้วเขาก็พูดว่า “น่าเสียดาย ถ้ามีวิชาต้องห้ามที่เหมาะกับเธอ เธอก็น่าจะแข็งแกร่งขึ้นอีกมาก บางทีอาจจะมากกว่าฉันอีก”
เมื่อ ไนโตะ ได้ยินคำพูดเหล่านี้ เขาก็กัดฟันแน่นและต้องการจะโยน ม้วนคัมภีร์ลับ ลงตรงหน้าของ ซารุโทบิ ในทันที
อย่างไรก็ตาม เพราะ ไนโตะ ได้รู้ถึงวิชา คาถาแปลงวิญญาณ เขาจึงไม่สนใจคำพูดของ ซารุโทบิ
เมื่อคิดถึงสิ่งที่ ซารุโทบิ พูด การที่ ไนโตะ มีสัมผัสพิเศษ ทำให้เขาสามารถรับรู้ได้ถึงความแข็งแกร่งของผู้อื่น และในครั้งนี้ ไนโตะ ก็รู้สึกได้ว่าเขาแข็งแกร่งกว่า ซารุโทบิ