The Strongest Hokage - ตอนที่ 218
การฝึกวิชา อาภรณ์สายฟ้าขั้นที่ 3 ไม่สามารถฝึกให้สำเร็จอย่างสมบูรณ์
พูดง่าย ๆ ว่า มันไม่มีขีดจำกัด ยิ่งคุณฝึกฝนมากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นมากเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ระดับของการเพิ่มประสิทธิภาพนั้นสูงที่สุดในตอนต้น แต่เมื่อร่างกายแข็งแรงขึ้นและเริ่มปรับเข้ากับคุณสมบัติจักระสายฟ้าได้ ความเร็วของการเพิ่มประสิทธิภาพก็จะลดลง
เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังความแข็งแกร่งของ A ก็คือเนื่องจากเขาฝึกวิชานี้มาเป็นเวลานานแล้ว แม้แต่ตอนที่เขาได้เป็น ไรคาเงะ แล้ว เขาก็ยังหาเวลาในการฝึกอยู่เสมอ
3 เดือนที่เขาฝึกวิชานี้ ทำให้ร่างกายของ ไนโตะ แข็งแกร่งขึ้นมาก ดังนั้นเขาจึงเข้าใกล้ระดับที่จะสามารถเปิดประตูด่านพลังบานที่ 5 ของ กระบวนท่าเปิดประตูด่านพลังทั้ง 8 แบบย้อนกลับ ได้มากยิ่งขึ้น
และมันก็ผ่านไปไม่นานนักนับตั้งแต่ที่เขาสามารถเปิดประตูด่านพลังบานที่ 4 ได้!
ระยะเวลาในครั้งนี้สั้นกว่ามาก ทั้งที่จริงแล้วมันควรจะใช้เวลามากขึ้นเพราะมันจะยากขึ้นเรื่อย ๆ
สิ่งเดียวที่ไม่ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็คือมันทำให้ประตูด่านพลังบานที่ 3 มีประสิทธิภาพน้อยลง
ด้วยการพัฒนาที่ช้าลงแบบนี้ จะทำให้ ไนโตะ ไปถึงระดับ ไรคาเงะ ได้ในอีก 10 ปี
ถึงแม้ว่า ไนโตะ พร้อมที่จะฝึกวิชานี้นานกว่านี้ แต่เมื่อความเร็วของการพัฒนาช้าลงมาก มันก็ไม่มีประโยชน์ที่เขาจะอยู่ที่นี่อีกต่อไป
“ได้เวลากลับแล้วสินะ…”
หลังจากที่ ไนโตะ มองไปรอบ ๆ ในที่สุดเขาก็ยุติการฝึกนี้
หลังจากนั้น ไนโตะ ก็ยืนขึ้นและบิดขี้เกียจ
ในตอนนี้ ไนโตะ ไม่ได้ใส่เสื้อผ้าอะไรเลย สายฟ้าฉีกเสื้อผ้าของเขาออกเป็นชิ้น ๆ และเนื่องจากเขาอยู่คนเดียวบนภูเขาแห่งนี้ เขาจึงไม่สนใจเรื่องนี้
สิ่งเดียวที่ดูแปลกสำหรับ ไนโตะ ก็คือผิวของเขาไม่ได้กลายเป็นสีบรอนซ์เข้มเหมือน ไรคาเงะ รุ่นที่ 4
มันแตกต่างจากตอนที่เขาฝึก อาภรณ์สายฟ้าขั้นที่ 2 ในครั้งนี้เมื่อ ไนโตะ เริ่มฝึกขั้นที่ 3 ผิวของเขาก็ค่อย ๆ บริสุทธิ์ขึ้นเรื่อย ๆ ราวกับว่าเขาเกิดใหม่
ตรงข้ามกับ ไรคาเงะ ผิวของ ไนโตะ ดูขาวและอ่อนโยนราวกับว่าเขาเป็นเด็กแรกเกิด นี่อาจเป็นเพราะ กระบวนท่าเปิดประตูด่านพลังทั้ง 8 แบบย้อนกลับ และวิธีที่มันสูบฉีดเลือดเข้าไปในร่างกายของเขา เพื่อสร้างเซลล์ผิวใหม่ทำให้ผิวหนังของเขาไม่เกิดการไหม้จนเป็นสีบรอนซ์
“โอ้ ดีจัง”
ไนโตะ ยิ้มออกมา แม้ว่าร่างของ ไรคาเงะ จะดูน่าเกรงขาม แต่ ไนโตะ ก็ไม่ต้องการที่จะดูเหมือนเขา แต่ ไนโตะ ต้องการที่จะแข็งแกร่งเท่าเขา
ร่างกายของ ไนโตะ ไม่ได้ดูมีกล้ามเนื้อมากขึ้น และเขาก็ยังผอมเหมือนเคย เขาไม่สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในร่างกายของเขาเลย
อย่างไรก็ตาม หากเขาต้องการทำให้ศัตรูหวาดกลัว เขาก็แค่ปล่อยแรงกดดันจักระและจิตสังหาร เท่านี้ศัตรูของเขาก็จะตกอยู่ในความกลัวในทันที
“ก่อนอื่น เราต้องหาเสื้อผ้าก่อน”
หลังจากตรวจสอบร่างกายของเขาแล้ว ไนโตะ ก็มองไปที่เศษเสื้อผ้าที่ฉีกขาดจนไม่เหลือชิ้นดีแล้วเขาก็ส่ายหัว และเขาก็คิดที่จะไปหาเสื้อผ้าก่อนแล้วค่อยเดินทางกลับ โคโนฮะ
แต่ทันใดนั้นเขาก็หยุดและยิ้ม
“พอดีเลย”
…….
ด้านล่างของภูเขา
นินจาคุโมะ ทีมเล็ก ๆ กำลังวิ่งเข้ามาหาภูเขาลูกนี้
“มีข้อมูลรายงานมาว่าสภาพอากาศรอบ ๆ ภูเขาลูกนี้ดูแปลกมาก มีฟ้าร้องและฟ้าผ่าลงมาตลอดเวลา”
“มันอาจเป็นแค่ปรากฏการณ์ธรรมดา ๆ ก็ได้ แต่ชาวบ้านพากันเอะอะไปเอง”
นินจาคุโมะ พูดคุยกันขณะที่พวกเขากำลังวิ่งเข้ามา
ความขัดแย้งระหว่าง อิวะ และ คุโมะ ได้ถูกหยุดไว้ก่อน เพราะในขณะที่ คุโมะ สูญเสีย ไรคาเงะ ไป แต่ อิวะ เองก็ถูกทำลายอย่างหนักโดย โคโนฮะ เช่นกัน และสถานการณ์ของพวกเขาก็ไม่สู้ดีนัก
ดังนั้นในช่วงพักรบในครั้งนี้ หมู่บ้านทั้ง 2 จึงพยายามไม่ให้เกิดความขัดแย้งระหว่างกัน
ทั้ง 2 หมู่บ้านจึงได้เจรจาและพิจารณายุติความขัดแย้งระหว่างกัน แต่ก็ไม่มีฝ่ายไหนที่จะยอมเสียสละหมู่บ้านตัวเองเพื่อหมู่บ้านอื่น ในทางกลับกัน ดันโซ และ ตระกูลอื่น ๆ ก็พยายามอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้สงครามสิ้นสุดลง
กลับมาที่ นินจาคุโมะ ที่กำลังมุ่งหน้าไปยังภูเขาลูกใหญ่
“ก็ใช่ แต่นายเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นบนยอดเขาเมื่อกี้ใช่ไหม?!”
นินจาอีกครมองขึ้นไปบนยอดเขาอย่างไม่สบายใจ
“ถึงจะยังไงมันก็เป็นงานของเรา เราต้องไปดูให้แน่ใจเพื่อให้ชาวบ้านไม่ต้องอยู่อย่างหวาดกลัว”
หัวหน้าทีมพูดด้วยความสงบ
นินจา 4 คน ยังคงเดินหน้าต่อไปยังยอดเขา
เมื่อพวกเขาขึ้นมาถึงยอดเขา พวกเขาก็เดินไปสักพักหนึ่งและหนึ่งในนั้นก็พูดขึ้นมาว่า “สภาพอากาศเป็นเหมือนที่ชาวบ้านรายงานมาจริง ๆ ด้วย ดูเหมือนว่ามันจะเป็นผลมาจากการฝึกวิชา อาภรณ์สายฟ้า เหมือนตอนที่ ท่านไรคาเงะ ฝึก”
“เป็นไปไม่ได้ ท่านไรคาเงะ ได้ตายไปแล้ว มันจะเป็นบบนั้นได้ยังไง!”
หนึ่งในนั้นแย้งขึ้นมาในทันที
เมื่อเห็นว่าเพื่อนของขาไม่เชื่อ เขาก็ได้แต่ส่ายหัว
“เฮ้ย หรือว่านายคิดว่า ผู้ประกอบพิธีกรรมสีเลือดแห่งโคโนฮะ แข็งแกร่งกว่า ไรคาเงะ รุ่นที่ 3 งั้นเหรอ?”
“หุบปากส่ะ! เราไม่ควรพูดถึง ไรคาเงะ ผู้ล่วงลับแบบนี้ เขาไม่ได้ถูกฆ่าโดยศัตรู แต่เขาตายเพราะถูกภูเขาถล่มทับไปพร้อมกับศัตรูคนนั้น”
เมื่อได้ยินว่านินจาพูดคุยเกี่ยวกับ ไรคาเงะ แบบนั้น หัวหน้าทีมก็พูดออกมาด้วยความโกรธในทันที
นินจาทั้งหมดหยุดพูดในทันที จากนั้นพวกเขาก็มองไปข้างหน้า
ในขณะนั้นการแสดงออกของพวกเขาก็เปลี่ยนไปทันที
“นั่นมัน…”
ทันใดนั้นก็มีเงาดำงาหนึ่งใต้ก้อนเมฆปรากฏขึ้นเบื้องหน้าของพวกเขา จากนั้นมันก็เริ่มชัดเจนขึ้นจนกระทั่งในที่สุดมันก็กลายเป็นร่างของใครบางคน
“ระวัง มีคนอยู่ตรงนั้น!”
หัวหน้าทีมเตือนเพื่อนร่วมทีมคนอื่นทันที
เมื่อร่างเริ่มใกล้เข้ามา ทั้ง 4 คนก็ตกตะลึงราวกับว่าพวกเขาเป็นผี
“แก…แกคือ…”
“เป็นไปไม่ได้!!!”
เหงื่อจำนวนมากปรากฏขึ้นบนหน้าผากของนินจาทุกคนรวมทั้งหัวหน้าทีมของพวกเขาก็ด้วยเช่นกัน และพวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากเกิดความกลัวขึ้นมาในทันที
นั่นคือเขา! เป็นเขานั่นเอง แต่มันจะเป็นไปได้ยังไง!!!
แน่นอนว่าคนที่ออกมาไม่ได้สวมเสื้อผ้าเลยแม้แต่ชิ้นเดียว แต่นั้นก็ไม่ใช่ประเด็น เพราะเรื่องที่สำคัญก็คือคนคนนี้ไม่ควรอยู่ที่นี่ เขาควรตายไปแล้วพร้อมกับ ไรคาเงะ ของพวกเขา!!!
นี่คือฝันร้าย!
“ขอบคุณน่ะ ที่เอาเสื้อผ้ามาให้ฉัน และเพื่อเป็นการตอบแทน ฉันจะทำให้จบเร็วที่สุดแล้วกัน”
ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของ ไนโตะ เขาก็เดินเข้าหา นินจาคุโมะ ทีละก้าว ๆ จากนั้นเขาก็หายตัวไป
นินจาคุโมะ ไม่ได้มีเวลาตอบสนองต่อความเร็วของ ไนโตะ พวกเขายังคงตะลึงอยู่กับการที่ได้เห็นว่า ไนโตะ ยังมีชิวิตอยู่!
ตาเปล่าไม่สามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวของ ไนโตะ ได้ เขาพุ่งเข้าหา นินจาคุโมะ ในเวลาเพียงแค่เสี้ยววินาที!
พวกเขาทั้ง 4 คน ไม่ทันได้สังเกตเห็น พวกเขายังคงคิดอยู่เพียงสิ่งเดียวว่า
ผู้ประกอบพิธีกรรมสีเลือดแห่งโคโนฮะ…ยังมีชีวิตอยู่จริง ๆ!!
ตุ๊บ! ตุ๊บ! ตุ๊บ!ตุ๊บ!
นินจาคุโมะ ทั้ง 4 คน ล้มลงกับพื้นพร้อม ๆ กัน แม้แต่หัวหน้าทีมก็ไม่สามารถโต้ตอบได้!
พวกเขาไม่เห็นอะไรเลย!
จนถึงวินาทีสุดท้ายก่อนที่พวกเขาทั้ง 4 จะตาย แต่พวกเขาก็ยังไม่รู้ตัว
ติดตามข่าวสารจากเพจ Facebook : Chan’s Translation นิยายแปลไทย@TranslatedByMild