The Strongest Hokage - ตอนที่ 227
“นี่…นี่มัน…”
“ใช่แล้ว”
คาเงยาม่า นั่งลงบนเก้าอี้ของเขาแล้วหยิบถ้วยชาบนโต๊ะขึ้นมาจิบ แล้วพูดว่า “หนึ่งในมรดกไม่กี่ชิ้นของตระกูลเรา ดังนั้นอย่าทำให้ฉันผิดหวัง”
“รับทราบครับ!”
อุจิฮะ ริน พยักหน้าด้วยความตื่นเต้น เขาโค้งคำนับ คาเงยาม่า ด้วยความเคารพนับถือ จากนั้นเขาก็เดินเลี้ยวออกจากห้องไป
คาเงยาม่า เฝ้าดูเขาเดินออกไป แล้ววางถ้วยชาลงบนโต๊ะ จากนั้นเขาก็มองขึ้นไปบนเพดาน
“ถึงแม้ว่ามันจะเป็นมรดกตกทอด แต่พวกเราก็ต้องแลกมันมาด้วยเลือดเนื้อจนนับไม่ถ้วน…ริน การมีชีวิตอยู่ของเธอหลังจากนี้ จะส่งผลต่อคุณสมบัติของ ฟูกาคุ (พ่อของ อิทาจิ และ ซาสึเกะ) ในการเป็นหัวหน้าตระกูลต่อไป”
“อย่างไรก็ตาม หากเธอสังหาร ไนโตะ ได้ เธอก็จะกลายเป็นวีรบุรุษของ ตระกูลอุจิฮะ ไปตลอดชีวิต”
เมื่อพูดจบ คาเงยาม่า ก็ยืนขึ้นและยิ้มออกมาอย่างสบายใจ
นี่เป็นความรู้สึกของผู้ที่มองเห็นความรุ่งโรจน์ของตระกูล!
……..
อีกวันที่สงบ
โคโนฮะ เต็มไปด้วยชีวิตชีวาอยู่เสมอ และถนนก็เต็มไปด้วยผู้คนมากมายที่ส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าว เมื่อเวลาผ่านไป ก็มีนินจากระโดดผ่านหลังคาบ้านไปบ้างเป็นครั้งคราว
แต่ผู้คนก็เคยชินกับสิ่งนี้
หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จ ไนโตะ ก็เดินออกจากบ้านไป
“อย่าลืมกลับมากินข้าวกลางวันละ! ไม่งั้น ฉันจะไปหานายเอง!”
คุชินะ ยืนอยู่ที่หน้าประตูบ้าน และโบกมือให้ ไนโตะ ขณะที่ ไนโตะ กำลังเดินไป หลังจากนั้นเขาก็หันกลับมาพยักหน้าให้เธอ และเขาก็แวบหายตัวไป
อีกครั้งที่ ไนโตะ มาที่เนินเขาด้านหลัง หมู่บ้านโคโนฮะ โดยปกติที่นี่จะเป็นพื้นที่ว่างเปล่า ไม่มีใครคิดจะมาที่นี่ และแม้ว่าจะมีใครมาที่นี่แต่เมื่อพวกเขาเห็น ไนโตะ ฝึกอยู่ พวกเขาก็จะออกไปทันที
ผู้คนให้ความเคารพต่อคนที่ขยันอย่างเช่น ไนโตะ
ตอนนี้ ไนโตะ แข็งแกร่งมากแล้ว แต่เขาก็ไม่เคยเกียจคร้าน เขายังคนฝึกฝนอย่างหนักเหมือนเมื่อก่อน
แน่นอนว่าพวกเขาไม่รู้เหตุผลที่ ไนโตะ ยังคงฝึกฝนอย่างหนักอยู่แบบนี้
มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 3 จะไม่ก่อให้เกิดความวุ่นวายใด ๆ แก่โลก แต่ มาดาระ จะดำเนินแผนการของเขาในช่วง มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 3 นี้
แม้ว่า มาดาระ จะยังไม่มีพลังมากเหมือนในการ์ตูน แต่ ไนโตะ ก็ไม่สามารถเพิกเฉยต่อการมีอยู่ของเขาได้
ตู้ม! ตู้ม!!
พื้นที่ใต้ผ่าเท้าของ ไนโตะ มีรอยแตกเต็มไปหมด และตัวของเขาก็ชุ่มไปด้วยเหงื่อราวกับว่าเขากำลังยืนอยู่กลางสายฝน กล้ามเนื้อของเขาสั่นและทุกเซลล์ในร่างกายของเขาก็ดูเหมือนจะถูกดึงดูดโดยแรงโน้มถ่วงที่มหาศาล ซึ่งนั่นก็หมายความว่าร่างกายของเขากำลังแข็งแกร่งขึ้น
“อ้า!!!”
ในที่สุด ไนโตะ ก็คลาย วิชา เพิ่มน้ำหนักหิน และเขาก็มองกูท้องฟ้า
เวลาล่วงเลยมาถึงเที่ยงวันโดยที่เขาไม่รู้ตัว
“ได้เวลากลับบ้านไปกินข้าวแล้วสินะ”
ทันใดนั้น ไนโตะ ก็เห็น คุชินะ กำลังเดินมาหาเขาด้วยท่าทางโกรธ และในมือของเธอก็ถือกล่องข้าวมาด้วย
เมื่อเขาเห็นเธอ ไนโตะ กูรู้สึกแปลก ๆ
แววตาของเขาแสดงออกถึงความสับสนอย่างชัดเจน
ทันทีที่เธอเดินมาถึงเขา เขาก็ทำท่าเหมือนจะคว้ามือเธอไว้ แต่ทันใดนั้น เขาก็ปลดผนึกดาบของเขาออกมา และเขาก็ฟันไปที่ร่างของเธอ
คุชินะ ยิ้มออกมาเมื่อเลือดของเธอสาดไปทั่วพื้น แล้วทันใดนั้นร่างของเธอก็กลายเป็นเงาและหายไปต่อหน้าต่อตาเขา
เมื่อเห็นแบบนั้น ไนโตะ ก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขาไม่สามารถสัมผัสถึง คุชินะ ได้ด้วยสัมผัสพิเศษของเขา!
เขาสามารถมองเห็นเธอได้ด้วยตา แต่เขาไม่สามารถสัมผัสถึงเธอได้…นี้คือคาถาลวงตางั้นเหรอ?!
ใครกำลังใช้มันอยู่?!
ไนโตะ ขมวดคิ้ว มันแปลกมากจริง ๆ ที่มีคนสามารถขังเขาไว้ใน คาถาลวงตา ได้โดยที่เขาไม่รู้ตัว
ไนโตะ มองไปรอบ ๆ ตัวเขา จากนั้นเขาก็เริ่มใช้ พลังสั่นสะเทือน กับร่างกายของเขาเพื่อคลาย คาถาลวงตา
เมื่อเห็นว่าวิธีนี้ใช้ไม่ได้ผลกับ ไนโตะ คนคนหนึ่งก็เดินออกมาอยู่ด้านหน้าของ ไนโตะ
“ผู้ประกอบพิธีกรรมสีเลือดแห่งโคโนฮะ เป็นเรื่องจริงสินะ ที่คาถาลวงตาใช้ไม่ได้กับคุณ…”
อุจิฮะ ริน มองไปที่ ไนโตะ ด้วยความสงบ ดวงตาของเขาก็เป็นสีดำเพราะเขายังไม่ได้ใช้เนตรวงแหวน
ไนโตะ ขมวดคิ้วทันทีที่เห็นเขา
แม้ว่าเขาจะขมวดคิ้ว แต่ ไนโตะ ก็ไม่รู้สึกกลัวเลยแม้แต่น้อย จากนั้นเขาก็ถาม ริน ด้วยน้ำเสียงที่จริงจังว่า “คุณเป็นใคร คุณต้องการอะไรกันแน่?”
สมาชิกของกองกำลังตำรวจโคโนฮะ ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไร แต่ ไนโตะ ก็สามารถจำเขาได้เพราะเขาเป็นหนึ่งในหัวหน้าทีมของกองกำลังตำรวจโคโนฮะ ซึ่งเป็นคนของ ตระกูลอุจิฮะ และนั่นทำให้ ไนโตะ รู้สึกโกรธมาก
ที่จริงแล้ว ไนโตะ ไม่สนใจ ตระกูลอุจิฮะ เลย เขาขี้เกียจเกินกว่าจะใส่ใจเรื่องของพวกเขา
“มันจำเป็นจริง ๆ ที่ฉันต้องสอนบทเรียนให้กับคุณ เพื่อคุณจะได้ไม่มารบกวนฉันอีกต่อไป” ไนโตะ พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา
หัวใจของรินกำลังสั่นคลอนจากความกลัว แต่สีหน้าของเขาก็ยังคงสงบนิ่งและมองไปที่ ไนโตะ อย่างไม่แยแส จากนั้นเขาก็พูดว่า “ฉันคือ อุจิฮะ ริน และฉันมาที่นี่เพื่อฆ่าคุณ”
“ฆ่าฉันงั้นเหรอ?”
หลังจากถอนหายใจเล็กน้อย ไนโตะ ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
นี้ฉันกำลังฝันอยู่หรือเปล่า?!
น่าหัวเราะ!!
ทันใดนั้น ไนโตะ ก็ตวัดดาบในมือของเขา และ ริน ที่ยืนอยู่ด้านหน้าของเขาก็ถูกฟันจนขาดครึ่งทันที
อย่างไรก็ตาม ร่างกายทั้ง 2 ส่วนของ ริน ที่ถูกตัดออก ก็เปลี่ยนรูปร่างและกลายเป็นร่างของริน 2 ร่าง
ร่างที่เหมือนกันทั้ง 2 มองไปที่ ไนโตะ พร้อมกับรอยยิ้มเยาะเย้ยและสายตาที่ดูถูกเหยียดหยาม ราวกับว่าพวกเขาเหนือกว่า ไนโตะ และทั้ง 2 ร่างก็พูดออกมาพร้อมกัน
“แปลกใจหรือเปล่า? สงสัยไหม? คุณคงคิดว่าคุณไม่ได้ตกอยู่ใน คาถาลวงตา สินะ? แต่ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ละ?”
“แปลกใจหรือเปล่า? สงสัยไหม? คุณคงคิดว่าคุณไม่ได้ตกอยู่ใน คาถาลวงตา สินะ? แต่ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ละ?”
ทั้ง 2 ร่างมองหน้ากันและกัน จากนั้นก็ต้องมองไปที่ ไนโตะ ด้วยใบหน้าที่เย็นชา
“คุณเด็กเกินกว่าที่จะมองเห็นความยิ่งใหญ่ของ ตระกูลอุจิฮะ ได้ แม้แต่คุณในตอนนี้ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับ ตระกูลอุจิฮะ คุณก็เป็นเพียงแค่มดเท่านั้น”
“คุณเด็กเกินกว่าที่จะมองเห็นความยิ่งใหญ่ของ ตระกูลอุจิฮะ ได้ แม้แต่คุณในตอนนี้ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับ ตระกูลอุจิฮะ คุณก็เป็นเพียงแค่มดเท่านั้น”
ไนโตะ มองไปที่ทั้ง 2 ร่างที่ยืนอยู่หน้าเขาด้วยความสงบ ในขณะที่เขาพยามาหาคำอธิบายเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้
เห็นได้ชัดว่าเขามีภูมิคุ้มกันต่อ คาถาลวงตา แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็มั่นใจว่า ชายจากอุจิฮะ คนนี้ ไม่ได้ใช้คาถาเงาแยกร่าง
ยิ่งไปกว่านั้น ก่อนหน้านี้ที่เขาเห็น คุชินะ เขาสามารถมองเห็นเธอได้ด้วยตาเปล่า แต่สุดท้ายแล้ว เขาก็ไม่สามารถสัมผัสถึงเธอได้จากสัมผัสพิเศษของเขา
ฟึ๊บ!!
ทันใดนั้น ริน ทั้ง 2 ร่าง ก็วิ่งเข้าหา ไนโตะ อย่างรวดเร็ว และทั้ง 2 ร่าง ก็ดึงดาบออกมาแล้วฟันไปที่ ไนโตะ พร้อมกัน
ไนโตะ ยังคงยืนนิ่งอยู่และปล่อยให้ดาบทั้ง 2 เล่มกระทบร่างกายของเขา แต่เมื่อดาบทั้ง 2 เล่มโดนตัวเขา เขากลับไม่มีบาดแผลใด ๆ ราวกับว่าเขาไม่ได้ถูกโจมตีตั้งแต่แรก เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเป็นเพียงเงาเท่านั้น
“คุณคิดว่านี้เป็นแค่ภาพลวงตาสินะ…แต่มันไม่ใช่แค่นั้นหรอก…”
“คุณคิดว่านี้เป็นแค่ภาพลวงตาสินะ…แต่มันไม่ใช่แค่นั้นหรอก…”
ในเวลาเดียวกันร่างทั้ง 2 ก็หันมามองที่ ไนโตะ และดาบของพวกเขาก็หันไปหา ไนโตะ อีกครั้ง
คราวนี้มันแตกต่างจากการโจมตีแรกโดยสิ้นเชิง คราวนี้พวกเขาเปิดเผยจิตสังหารออกมาอย่างชัดเจน!
ติดตามข่าวสารจากเพจ Facebook : Chan’s Translation นิยายแปลไทย@TranslatedByMild