The Strongest Hokage - ตอนที่ 230
คาเงยาม่า ลุกขึ้นจากเก้าอีกโดยไม่รู้ตัวและถ้วยชาในมือของเขาก็ตกลงบนโต๊ะทันที
เก๊ง!
ถ้วยชากลิ้งไป 2 – 3 ครั้ง จากนั้นมันก็หยุด น้ำชาไหลกระจายไปทั่วโต๊ะและไหลหยดลงบนพื้น ในขณะที่ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ
ฟูกาคุ ที่ยืนอยู่หน้าโต๊ะก็ลุกขึ้นเช่นกัน มีชากระเด็นมาโดนรองเท้าของเขาแต่เขาก็ตกใจจนไม่ทันสังเกต
“ผู้บังคับการ! ผมได้ส่งคนไปตรวจสอบเรื่องนี้แล้วครับ ยกโทษให้ไม่ได้ พวกมันไม่ได้แค่ฆ่า ริน แต่มันยังชิงดวงตาของเขาไปด้วย!”
นินจาคนที่มารายงานข่าว เขาดูโกรธมาก
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าภารกิจลอบสังหารในครั้งนี้ มีเพียงแค่ ฟูกาคุ , ริน และ คาเงยาม่า เท่านั้นที่รู้
นินจาที่รายงานเรื่องนี้ ไม่ทราบว่าดวงตาที่ถูกชิงไปนั้นไม่ใช่ดวงตาที่เป็น เนตรวงแหวน ธรรมดา แต่มันเป็นดวงตาที่ได้ปลุก เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา!
หลังจาก คาเงยาม่า ได้ฟังสิ่งที่นินจาคนนั้นรายงาน เขาก็ไม่ได้พูดออกไรกลับไปและเงียบอยู่สักพัก
คาเงยาม่า ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรอยู่เป็นเวลานาน จากนั้นเขาก็พูดด้วยน้ำเสียงที่อึดอัดใจเล็กน้อย
“แล้ว ไนโตะ ล่ะ?”
“ไนโตะ?!”
นินจาดูสับสนมากเมื่อได้ยิน คาเงยาม่า พูดถึง ไนโตะ จากนั้นเขาพูดว่า “ท่านหมายถึงว่า ไนโตะ อยู่เบื้องหลังการสังหาร ริน และชิงเนตรของเขาไปงั้นเหรอครับ?! มันกล้าดียังไง…”
“ใช่แล้ว!”
หลังจากหายใจเข้าลึก ๆ คาเงยาม่า ก็พูดขัดจังหวะนินจาคนนั้น ขณะที่สีหน้าของ คาเงยาม่า ไม่สามารถอธิบายได้เป็นคำพูดได้
“สั่งคำสั่งไปที่ผู้สอบสวน เราไม่จำเป็นต้องตรวจสอบในเรื่องนี้”
คาเงยาม่า ยืนและออกคำสั่งนี้ด้วยน้ำเสียงจริงจัง
เมื่อได้รับคำสั่งจาก คาเงยาม่า นินจาคนนั้นก็ถึงกลับต้องมองหน้า คาเงยาม่า และงงอยู่สักพัก
ท่านล้อเล่นใช่ไหม?!
“เร็วเข้าสิ ทำตามคำสั่งของผู้บังคับการส่ะ”
ในที่สุด ฟูกาคุ ก็ดึงสตินินจาคนนั้นกลับมาด้วยคำพูดของเขา
แม้ว่านินจาคนนั้นจะยังดูสับสนอยู่ แต่เขาก็พยักหน้าและออกจากห้องไปทันที
ทันทีที่นินจาคนนั้นออกไปและปิดประตู การแสดงออกบนใบหน้าขแง ฟูกาคุ และ คาเงยาม่า ก็เปลี่ยนไปและกลายเป็นความเกลียดชังในทันที
………….
ดวงอาทิตย์ขึ้นสาดแสงสะท้อนโดนหน้าผาหินที่มีใบหน้าของ โฮคาเงะ ทั้ง 3 สลักอยู่ จนดูเหมือนว่าพวกเขาทั้งหมดยังมีชีวิตอยู่
หากมองข้ามหน้าผา โฮคาเงะ ไปทางด้านหลังหมู่บ้าน คุณก็จะพบภูเขาที่มีชาวบ้านบางคนกำลังเดินเล่นอยู่ และก็มีนินจาบางคนไปฝึกอยู่ที่นั้นด้วย
แม้ว่าโลกจะเข้าสู่ช่วงเวลาสงบสุขหลังจากจบ มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 2 นินจาบางคนก็ยังไม่ลืมที่จะฝึกฝนอยู่ทุกวัน
นอกจากนี้ยังมีนินจาหนุ่มสาวอีกหลายคนที่เพิ่งจบการศึกษาจากโรงเรียนนินจา และจิตใจของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความหวังและความทะเยอทะยาน
ไนโตะ ก็อยู่ที่นั่นเช่นกัน แต่ที่นั่นก็เต็มไปด้วย นินจาโคโนฮะ ที่ฝึกอยู่ และ ไนโตะ ก็ไม่ต้องการไปรบกวนพวกเขา
โชคดีที่วันนี้ ไนโตะ ไม่ได้ไปที่นั่นเพื่อฝึก แต่เขาไปที่นั่นเพื่อพยายามปรับตัวให้เข้ากับความแข็งแกร่งใหม่
ในที่สุด ไนโตะ ก็เปิดมันได้สำเร็จ…ประตูด่านพลังบานที่ 5 ของ กระบวนท่าเปิดประตูด่านพลังทั้ง 8 แบบย้อนกลับ!
เขาใช้ความพยายามเกือบ 4 ปี ในการเปิดประตูนี้
ในวันนี้ เป็นวันที่ ไนโตะ ก้าวข้ามอายุ 15 ปี และเขาก็อายุ 16 ปีแล้ว
ความพยายามในการเปิดประตูด่านพลังบานที่ 5 นั้น เกินกว่าจินตนาการของเขา เขาจำเป็นต้องควบคุม อาภรณ์สายฟ้าขั้นที่ 3 และเรียนรู้คุณสมบัติจักระใหม่ทั้งหมด เพื่อฝึกฝน วิชาเพิ่มน้ำหนักหิน…
ด้วยวิชาลับมากมายที่จะช่วยเขาในการฝึก รวมกับการฝึกอย่างหนักตลอดหลายปีที่ผ่านมา ในที่สุด ไนโตะ ก็สามารถเปิดประตูด่านพลังบานที่ 5 ได้สำเร็จ
ในการ์ตูนตอนท้ายเรื่อง นารูโตะ แข็งแกร่งมาก ในตอนแรก เขาเรียนรู้พลังธรรมาชาติและสามารถเข้าสู่โหมดเซียนได้ จากนั้นเขาก็เรียนรู้วิธีควบคุมจักระของ 9 หาง ต่อมาในช่วงมหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 4 นารูโตะ ก็รู้ว่า 9 หาง มีชื่อว่า คุรามะ แล้วจักระและจิตใจของทั้งคู่ก็ประสานกันจนทำให้ นารูโตะ สามารถเข้าสู่ โหมดสัตว์หาง ได้อย่างสมบูรณ์
แต่นี่ก็ยังไม่ใช่ทั้งหมด ในตอนท้ายสุด ฮาโกโรโมะ ก็ได้ให้พลังแก่ นารูโตะ ทำให้เขาสามารถใช้ โหมดเซียน 6 วิถี ได้! ในขณะที่ นารูโตะ อายุแค่ 17 ปีเท่านั้น!
ด้วยอัตราการพัฒนาของ ไนโตะ เมื่อเขาอายุได้ 17 ปี การเติบโตของเขาจะเร็วพอที่จะทำให้เขาเป็นอัจฉริยะอย่างเช่น อุจิฮะ อิทาจิ ได้ หรือแม้กระทั่งเป็นแบบเดียวกับ มาดาระ และ ฮาชิรามะ ได้
แต่เขาจะไม่เป็นเหมือน นารูโตะ
ดังนั้น ไนโตะ จึงต้องเปิดประตูด่านพลังบานที่ 5 เพื่อให้เขาสามารถตาม นารูโตะ ได้ทัน เขารู้สึกตื่นเต้นมากที่เปิดประตูด่านพลังบานที่ 5 ได้ แต่เขาก็ยังรู้สึกไม่พอใจเท่าไร
“ร่างกายเกือบจะปรับสมดุลได้แล้ว และจักระก็เกือบจะเข้าที่แล้ว”
ทันใดนั้น ไนโตะ ก็ลืมตาขึ้นและกำหมัด มันเป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้ แต่เขาก็รู้สึกได้ถึงพลังที่หลั่งไหลอยู่ภายในตัวเขา
ไนโตะ รู้สึกได้ในขณะนั้นว่าเขาสามารถทุบทั้งหมู่บ้านได้ด้วยหมัดเดียว!
“ด้วยพลังขนาดนี้ ข่ายเทพพิชิตฟ้า ก็ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันอีกต่อไป!”
ไนโตะ ยืนขึ้นและหัวเราะออกมาเล็กน้อย
หากใช้ เนตรสีขาว มอง ไนโตะ ก็จะเห็นได้ถึงระบบการไหลเวียนจักระของ ไนโตะ และเห็นจุดแสงเหมือนดวงดาว 5 ดวง เชื่อมต่อกันอยู่!
นี่คือ 5 ใน 8 ของ ประตูด่านพลัง ในระบบการไหลจักระ
ในปัจจุบันจำนวนจักระของ ไนโตะ เติบโตจนถึงระดับ คาเงะ หรือมากกว่านั้น!
เพราะ ระบบการไหลจักระ ของ ไนโตะ ทำให้การฟื้นจักระของเขาทำได้เร็วมากและการเปิดประตูด่านพลังบานที่ 5 ก็ยิ่งทำให้มันเร็วขึ้นไปอีก
หากเขาสามารถเปิดประตูด่านพลังบานที่ 6 ได้ จักระของเขาก็อาจจะเท่ากับ 1 หาง เลยก็เป็นได้!
มนุษย์ที่มีจำนวนจักระมากกว่า สัตว์หาง!
ตั้งแต่ยุคแรกเริ่ม 2 คนที่สามารถไปถึงระดับนั้นได้ก็คือ มาดาระ และ ฮาชิรามะ
แม้แต่ ไรคาเงะ รุ่นที่ 3 ก็ยังไม่ถึงระดับนั้น
ท้ายที่สุดแล้ว ทั้ง อุจิฮะ มาดาระ และ เซนจู ฮาชิรามะ ก็เป็นผู้สืบทอดของ อินดรา และ อาชูร่า
แน่นอนว่าการเพิ่มขึ้นของจักระของ ไนโตะ ไม่ใช่แค่สิ่งเดียวที่เขาได้มาจากการฝึกฝนอย่างหนักทั้งร่างกายและจักระในตลอดเวลาที่ผ่านมา
การพัฒนาที่แท้จริงก็คือ พลังสั่นสะเทือน ของเขามาถึงขั้นที่ 5 แล้ว!
พลังสั่นสะเทือน ของเขาแข็งแกร่งกว่าเดิมมาก ถ้าเขาได้เผชิญหน้ากับ ไรคาเงะ รุ่นที่ 3 อีกครั้ง ไนโตะ มันใจว่าเขาจะไม่ต้องใช้พลังหมัดสูงสุดอีกต่อไป เขาจะฆ่า ไรคาเงะ ได้ด้วยการต่อยแบบธรรมดา ๆ เท่านั้น!
ติดตามข่าวสารจากเพจ Facebook : Chan’s Translation นิยายแปลไทย@TranslatedByMild