The Strongest Hokage - ตอนที่ 291
โคโนฮะ
สำนักงานโฮคาเงะ
หน่วยลับสวมหน้ากากคนหนึ่งปรากฏออกมาจากควันแล้วคุกเข่าลงตรงหน้า ซารุโทบิ จากนั้นเขาก็รายงานข้อมูล “รายงานจากแนวหน้า หมู่บ้านอิวะ สามารถทำลายแนวป้องกันของเรามาได้แล้ว และ พลังสถิตร่าง ของ 5 หาง ก็ข้ามพรมแดนของเราเข้ามาแล้วครับ”
เมื่อ ซารุโทบิ ได้ยินรายงาน เขาก็อดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมา
“บ้าเอ้ย!”
แผนการโจมตี โคโนฮะ ของ 4 หมู่บ้านใหญ่ก็คือ พา พลังสถิตร่าง พร้อมกับนินจากลุ่มเล็ก ๆ ไปยังแนวหน้า จากนั้นพวกเขาก็จะปลดผนึกออกเล็กน้อยเพื่อให้จักระของ สัตว์หาง รั่วไหลออกมาและทำให้ พลังสถิตร่าง อยู่ใน สภาพร่างอาภรณ์ปีศาจ เพื่อทำลายแนวป้องกันของ โคโนฮะ และหลังจากแนวป้องกันของ โคโนฮะ อ่อนแอลง พวกเขาก็จะปิดผนึก พลังสถิตร่าง กลับไปเหมือนเดิม และรุกคืบหน้าเข้าใกล้ โคโนฮะ ไปเรื่อย ๆ และเมื่อไรที่เจอแนวป้องกันของ โคโนฮะ พวกเขาก็จะทำแบบเดิม
นี่จะเป็นการลดการสูญเสียของพวกเขา
ในทางกลับกัน โคโนฮะ กลับต้องเสียสละนินจาหลายร้อยคนในทุกครั้งที่ 4 หมู่บ้านใหญ่ใช่กลยุทธ์แบบนั้น นั้นทำให้ ซารุโทบิ หัวเสียและสับสนเป็นอย่างมาก!
สงครามเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น แต่จำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตกลับมากกว่า มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 2 อยู่หลายเท่า!
การที่ โคโนฮะ ไม่มีอาวุธที่คล้ายกันในคลังอาวุธ ให้พวกเขาเสียเปรียบเป็นอย่างมาก!
ถ้า คุชินะ ยังอยู่ที่นี่ แม้ว่าเธอจะไม่สามารถควบคุมพลังของ 9 หางได้ แต่อย่างน้อยพวกเขาก็มีทางเลือกที่จะใช้วิธีการเดียวกันเพื่อต่อสู้กลับ
“ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป…โคโนฮะ ต้องล่มสลายอย่างแน่นอน แผนการของ ดันโซ ก็ไม่สำเร็จ…หมู่บ้านใหญ่ทั้ง 4 คงจะทุ่มกำลังทั้งหมดมาที่เราจนกว่าเราจะถูกทำลาย”
ซารุโทบิ ดูเป็นกังวลอย่างมาก และเขาก็คิดไม่ออกเลยว่าจะทำอย่างไรกับสถานการณ์แบบนี้ดี
โคโนฮะ ไม่ได้ใช้ 9 หาง ใน มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 2 เพราะการใช้พลังของ พลังสถิตร่าง นั้นอันตรายเกินไป พลังนั้นไม่ได้หมายถึงชัยชนะ แต่มันคือดาบ 2 คม อย่างไรก็ตามในตอนนี้ โคโนฮะ ก็ไม่มีมันแล้ว หมู่บ้านอื่น ๆ จึงคิดว่านี่มีเหตุผลพอที่จะใช้พลังนั้นเพราะจะไม่มีใครใน โคโนฮะ ที่จะสามารถต้านทานมันได้!
ในเวลานั้นภาพเดียวที่ ซารุโทบิ เห็นในหัวของเขาก็คือ ภาพตอนที่ ไนโตะ หยุด กระสุนสัตว์หาง ของ 9 หาง ได้ด้วยมือเปล่า
ถ้า ไนโตะ อยู่ที่นี่เรื่องแบบนี้จะไม่ใช่เรื่องใหญ่อีกต่อไป
แต่ถึงอย่างนั้น…
การแสดงออกของ ซารุโทบิ เต็มไปด้วยความขมขื่น
ในวินาทีต่อมา ดันโซ ก็เดินเข้ามาในห้องทำงานของ ซารุโทบิ ด้วยใบหน้าที่อึมครึมแล้วพูดว่า “หมู่บ้านอิวะ กับ หมู่บ้านซึนะ แตกคอกันแล้ว แต่พวกมันก็ยังไม่ได้เรียก พลังสถิตร่าง ที่แนวหน้ากลับไป”
ด้วยความพยายามอย่างมาก ดันโซ ก็สามารถรื้อฟื้นความเกลียดชังระหว่างหมู่บ้านทั้ง 2 ได้ พวกเขาจึงต่อสู้กันเอง แต่นั้นก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ โคโนฮะ พ้นจากสถานการณ์วิกฤตไปได้
“ไม่มีประโยชน์…”
ซารุโทบิ ส่ายหัวแล้วถอนหายใจ และในที่สุดเขาก็พูดออกมาว่า “ มีเพียงวิธีเดียวที่จะจบเรื่องนี้ได้”
“ไม่!”
ดันโซ รู้ทันทีว่า ซารุโทบิ จะพูดอะไรต่อไป และเขาก็อดไม่ได้ที่จะกัดฟันและตะโกนออกมา
อย่างไรก็ตามมันก็ไม่สามารถหยุด ซารุโทบิ ไม่ให้พูดต่อได้ เขาพูดด้วยสีหน้าที่จริงจังว่า “ท่านมีทางออกที่ดีกว่างั้นเหรอ?!”
ดันโซ เงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “เราสามารถใช้วิธีการสร้างความขัดแย้งให้ระหว่างทั้ง 4 หมู่บ้านใหญ่ กับ หมู่บ้านอาเมะ”
“ท่านพูดอะไรออกมา?! ท่านจะทำลายเขาแทนที่จะขอความช่วยเหลือจากเขางั้นเหรอ?!”
ดันโซ นิ่งเงียบก่อนที่จะตะโกนออกมาว่า “ฉันไม่สน เขาไม่ใช่พวกเราอีกต่อไป ฉันไม่สนใจว่าเขาเลือกที่จะจากไปหรือไม่ แต่ที่สำคัญคือเขาเอา พลังสถิตร่าง ของเราไปด้วย! เราไม่สามารถให้อภัยการกระทำแบบนั้นได้!”
“ถ้าท่านส่ง พลังสถิตร่าง ให้ฉันตั้งแต่แรก เรื่องแบบบนี้มันจะไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน เราจะสามารถควบคุม ไนโตะ ได้ เพราะเราก็ต่างรู้กันดีว่าเขาสนใจใน พลังสถิตร่าง ของ 9 หาง คนนั้นมากแค่ไหน”
ดันโซ ไม่เพียงแต่พูดด้วยความโมโหเท่านั้น แต่เขายังปล่อยแรงกดดันจักระของเขาออกมาระหว่างที่โต้เถียงกับ ซารุโทบิ อีกด้วย ทำให้ทั้งอาคารสำนักงานเกิดการสั่นไหว หน่วยลับบางคนก็รู้สึกได้ถึงมัน แต่พวกเขาก็หายใจลึก ๆ และก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไป
หลังจากนั้นไม่นาน คน 2 คน ก็เดินเข้ามาในห้องทำงานของ ซารุโทบิ และคนทั้ง 2 ที่เข้ามาขัดจังหวะ ดันโซ และ ซารุโทบิ ก็คือ มิโตคาโดะ โฮมุระ และ อุทาทาเนะ โคฮารุ
“นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาทะเลาะกันเองนะ เราต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ตอนนี้ไปด้วยกัน!” มิโตคาโดะ พูดขณะที่มองไปที่ทั้ง ดันโซ และ ซารุโทบิ
ทั้ง ซารุโทบิ และ ดันโซ ตั้งสติได้และพยักหน้าให้กัน
มิโตคาโดะ มองไปที่ อุทาทาเนะ , ซารุโทบิ และ ดันโซ แล้วพูดว่า “เรารู้แล้วว่าการปล่อยให้ ไนโตะ ออกจากหมู่บ้านไปนั้นเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ เมื่อเทียบกับการที่ต้องปล่อยให้ โคโนฮะ ถูกทำลายแล้ว การยอมให้ ไนโตะ เป็น โฮคาเงะ ย่อมเป็นทางเลือกที่ดีกว่า”
ทันทีที่เขาได้ยินประโยคนี้ ดันโซ ก็กัดฟันแน่น ดูเหมือนว่าเขาต้องการจะพูดอะไรบางอย่างกลับไป แต่เขาก็พูดไม่ออก
อุทาทาเนะ มองไปที่ ดันโซ จากนั้นเธอก็พูดว่า “ทางรอดเดียวของเราก็คือการขอความช่วยเหลือจาก ไนโตะ แต่การตัดสินใจก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเราอีกต่อไป มันขึ้นอยู่กับเขาว่าเขาจะยอมเต็มใจกลับมาหรือเปล่า”
“เราไม่ต้องการเขา! เขาเป็นคนทรยศ เขาชิง พลังสถิตร่าง ของเราไป นั้นเป็นสาเหตุที่ทำให้เราต้องตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ควรกลับมาช่วยเรา แต่ไม่มีทางที่เราจะยก โคโนฮะ ให้เขาเด็ดขาด!” ดันโซ ยังคงยืนยันว่าเขาจะไม่ยอมยก โคโนฮะ ให้ ไนโตะ เด็ดขาด
เพราะเมื่อ ไนโตะ กลับมาแผนการของ ดันโซ ทั้งหมดจะไร้ประโยชน์
“แค่ท่านเห็นด้วยกับการขอความช่วยเหลือจากเขานั้นก็ดีมากพอแล้ว แต่ปัญหาก็คือ…เราจะทำให้เขายอมช่วยเราได้ยังไง?”
มิโตคาโดะ มองไปที่ทุกคนและครุ่งคิด
ซารุโทบิ ที่เงียบไปนาน ในที่สุดเขาก็พูดขึ้นมาว่า “เราสามารถส่ง ซึนาเดะ ไปต่อรองได้ ตราบใดที่เธอเป็นคนที่ไปคุยกับเขา เขาจะยอมคุยแน่นอน แต่ปัญหาคือ…”
“ไม่มีปัญหา” มิโตคาโดะ พูดขัด ซารุโทบิ ขึ้นมา แล้วพูดต่อว่า “เราจะส่ง ซึนาเดะ ไปทันที!”
ใบหน้าของ ซารุโทบิ เต็มไปด้วยความขมขื่น ที่จริงแล้ว ซึนาเดะ รู้สึกผิดหวังกับ โคโนฮะ เป็นอย่างมาก และเห็นได้ชัดว่าเธอไม่เคารพ ซารุโทบิ เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว
เธอมักจะคัดค้านวิธีที่ โคโนฮะ ปฏิบัติต่อ ไนโตะ อยู่เสมอ และการจากไปของเขาก็ทำให้เธอยินดีกับเขามาก
ในสงคราม มันเป็นเรื่องธรรมดาที่ ซารุโทบิ จะพยายามใช้ประโยชน์จากความแข็งแกร่งของบรรดาตระกูลต่าง ๆ ในหมู่บ้าน
แต่ตระกูลใหญ่อย่าง ฮิวงะ และ อุจิฮะ พวกเขาไม่จำเป็นต้องทุ่มกำลังทั้งหมด เพราะพวกเขาคิดว่า โคโนฮะ เป็นเพียงหมู่บ้าน และต่อให้ โคโนฮะ ถูกทำลาย พวกเขาก็ยังสามารถสืบทอดเจตจำนงแห่งไฟต่อไปได้
แต่ไม่ใช่สำหรับ เซนจู
โคโนฮะ ถูกก่อตั้งขึ้นมาจากความแข็งแกร่งของ เซนจู และแน่นอนว่าเจตจำนงของพวกเขาก็คือการรักษา โคโนฮะ เอาไว้ และพวกเขาก็ไม่สนใจว่าต้องแลกชีวิตเพื่อปกป้อง โคโนฮะ หรือไม่
ใน มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 2 กำลังของ ตระกูลเซนจู ลดลงเป็นอย่างมาก เพราะเหตุผลที่ต้องปกป้อง โคโนฮะ ตระกูลเซนจู จึงล้มตายกันเป็นจำนวนมาก
โคโนฮะ ไม่ได้สนใจว่าจะต้องใช้คนของ ตระกูลเซนจู มากเท่าไร แต่พวกเขาสนใจแค่ความแข็งแกร่งของกองทัพเท่านั้น ความคิดของพวก ไดเมียว ที่สนใจแต่การครองอาณาเขตโดยไม่สนใจว่าต้องสูญเสียอะไร ทำให้ ซึนาเดะ ผิดหวังเป็นอย่างมาก
ซึนาเดะ ไม่พอใจกับวิธีที่ โคโนฮะ ใช้ในการจัดการกับเรื่องนี้ ตระกูลเซนจู ต้องทนทุกข์ทรมานเป็นอย่างมาก ทำให้ความไม่พอใจพัฒนาเป็นความเกลียดชังในระดับของตระกูล
หลังจากทั้งหมด ซารุโทบิ ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องเสี่ยงดวงและหวังว่า ซึนาเดะ จะยอมช่วยเหลือหมู่บ้าน