The Strongest Hokage - ตอนที่ 354
อย่างไรก็ตามเมื่อเป็นแบบนี้ คาถาต่าง ๆ ที่เหนือกว่า ขีดจำกัดสายเลือด อื่น ๆ ก็ไม่สามารถเอาชนะ ไนโตะ ได้ อันที่จริงเขาแค่ขยี้มันด้วยมือเปล่าด้วยซ้ำ!
เรื่องแบบนี้มันเป็นไปได้ยังไงกัน?”
โอโนกิ เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ไนโตะ คว้าลูกบาศก์ของเขาและบดขยี้ด้วย พลังสั่นสะเทือน ของ ไนโตะ เขาเข้าใจแนวคิดของพลังนั้นแล้วจากการต่อสู้ครั้งก่อนใน มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 2
อย่างไรก็ตามในตอนนั้น ไนโตะ แทบจะไม่สามารถป้องกัน คาถาธุลี ของเขาได้ แต่ตอนนี้พลังแบบเดียวกันนั้นกลับไม่มีประโยชน์เมื่ออยู่ต่อหน้า ไนโตะ!
เมื่อมองไปที่ ไนโตะ ที่เดินเข้ามาหาเขาทีละก้าว โอโนกิ รู้สึกได้ถึงความหนาวสั่นที่กระดูกสันหลังของเขา
“ความเคารพเป็นสิ่งสำคัญ เราต้องให้ความเคารพกับแก่และรักเด็ก”
ไนโตะ เดินมาอยู่หน้า โอโนกิ ในขณะที่ โอโนกิ มองอย่างตกตะลึง จากนั้น ไนโตะ ก็พูดว่า “ในที่นี่ท่านอายุมากที่สุดและท่านก็น่าจะรู้ข้อนี้ดีที่สุด…ไม่ใช่เหรอ?”
ทันทีที่เสียงของ ไนโตะ ลดลง โอโนกิ ก็รู้สึกอยากจะถอยหนี แต่เขาจะทำอย่างไร ด้วยความเร็วแบบนั้นเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยืนอยู่ตรงนั้นโดยไม่มีการขัดขืน
พั้ว!!
เกือบจะในทันที โอโนกิ ก็ถูกเตะโดย ไนโตะ จากนั้นเขาก็กระเด็นขึ้นไปอย่างแรงราวกับปืนใหญ่
ไม่ว่าจะใช้ คาถาธุลี หรือ คาถาดิน ก็ไม่สามารถช่วยเขาในสถานการณ์แบบนี้ ไม่มีอะไรจะหยุดการโจมตีของ ไนโตะ ได้ ในท้ายที่สุดก็ไม่มีการป้องกันใด ๆ จะช่วยได้
ตู้ม! ตู้ม!! ตู้ม!!!
โอโนกิ กระเด็นทะลุแพดานหอคอยทั้งหลังทีละชั้น ๆ จนในที่สุดเขาก็ทะลุขึ้นไปจนถึงด่านฟ้าและกระเด็นลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า
เมื่อมองไปที่ภาพนี้ ไรคาเงะ ก็แสดงความสยดสยองออกมาบนใบหน้าของเขา เขานั่งอยู่ที่นั่นโดยไม่พูดอะไรสักคำในขณะที่ ซารุโทบิ โฮคาเงะ รุ่น 3 นั่งอยู่ที่นั่นด้วยความกลัวตาย
เอื๊อก (เสียงกลืนน้ำลาย)
คนเดียวที่ยังไม่เคยเห็นความแข็งแกร่งของ ไนโตะ ก็คือ มิซึคาเงะ รุ่น 4 เมื่อเขาเห็นเขาก็อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายและมองไปที่ ไนโตะ ด้วยความกลัว
นี่คือพลังของ เทพเจ้าแห่งนินจา ไม่มีใครสามารถเอาชนะเขาได้ มันช่างเหลือเชื่อจริง ๆ!
“ฉันหวังว่าเราจะเคลียร์ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสถานะกันได้แล้วนะ!”
ไนโตะ หันกลับมาและมองไปที่ คาเงะ ทุกคน ไม่มีใครพูดอะไรออกมาแม้แต่ ซารุโทบิ
ทุกคนเงียบกริบ
“ดีมาก ถ้าอย่างงั้นเชิญพวกท่านประชุมกันต่อได้เลย โอโนกิ คงจะบินกลับมาในเร็ว ๆ นี้…แต่ถ้าใครต้องการพูดคุยเรื่องสถานะของตัวเองอีกละก็ ฉันจะรออยู่คุยด้วยก่อนก็ได้”
เมื่อพูดจบ ไนโตะ ก็หันไปหา ซึนาเดะ แล้วพยักหน้าให้เธอ จากนั้นก็ยิ้มให้กับ โคนัน ที่ยืนอยู่ข้างหลังของ ซึนาเดะ และเดินออกไปจากห้องทันที
แม้ว่าหลังจากที่เขาเดินออกจากห้องไปแล้ว ในห้องก็ยังคงมีเพียงเสียงหายใจของคนในห้องเท่านั้น
ด้านนอกประตู มิฟุเนะ ตกใจกับภาพที่ โอโนกิ ลอยขึ้นไปบนฟ้า เห็นได้ชัดว่า ไนโตะ เป็นคนทำร้าย โอโนกิ ดังนั้นเมื่อเห็น ไนโตะ ออกมาจากห้อง เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวาดกลัว เขาก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัวและไม่กล้าขวางทาง ไนโตะ สำหรับความเสียหายที่เกิดจากตัวอาคาร เขาไม่มีความคิดที่จะพูดคุยกับ ไนโตะ เลยด้วยซ้ำ
หลังจากเดินออกจากหอคอย ไนโตะ ก็มองไปบนฟ้าและเห็น โอโนกิ ลอยอยู่ แต่ โอโนกิ ยังไม่กล้าลงมาเขาส่ายหัวจากนั้นเขาก็เตะพื้นและพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า
เมื่อเห็น ไนโตะ พุ่งขึ้นจากพื้นสู่ท้องฟ้า ทันใดนั้น โอโนกิ ก็รู้สึกหวาดกลัวและอยากจะหนี แต่เมื่อเผชิญกับความเร็วของ ไนโตะ เขาก็ไม่มีโอกาสเลย
“ขออภัยด้วย ดูเหมือนว่าเสียงของท่านจะไม่สามารถดังไปจนถึงคนที่อยู่ข้างล่างได้ และพูดตามตรงบนท้องฟ้านี้ไม่ใช่ที่ของท่าน ดังนั้นเชิญท่านลงไปเดี๋ยวนี้”
ทันใดนั้น ไนโตะ ก็ปรากฏตัวต่อหน้า โอโนกิ และแตะไหล่ของเขา
ฟิ้ว!!!
ทันใดนั้น โอโนกิ ก็พุ่งลงไปยังหอคอยด้านล่างและถึงแม้ว่าเขาจะใช้ คาถาดิน : ลดน้ำหนักหิน เขาก็ไม่สามารถหยุดการตกนี้ได้
เมื่อเขาเห็นว่าเขากำลังจะลงไปชนกับหอคอย โอโนกิ ก็ดูหวาดกลัว จากนั้นเขาก็กระแทกลงไปอีกครั้งจนกระทั่งเขาไปถึงห้องประชุม 5 คาเงะ
เมื่อเขาไปถึงห้องนั้นในที่สุด แรงสั่นสะเทือนก็ค่อย ๆ อ่อนลงและในที่สุด คาถาลดน้ำหนักหิน ของเขาจึงออกผลและทำให้เขาไม่กระแทกพื้นกับพื้น
จากนั้น โอโนกิ ซึจิคาเงะ รุ่น 3 ก็บินกลับไปที่เก้าอี้และนั่งที่นั่นภายใต้ความน่ากลัวของ คาเงะ คนอื่น ๆ แต่สีหน้าของเขาดูไม่ผ่อนคลาย แต่เขาดูลำบากใจมาก
ความสยดสยองปรากฏชัดบนใบหน้าของเขา หลังจากการเผชิญหน้ากับ ไนโตะ ในช่วงเวลาสั้น ๆ โอโนกิ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ไนโตะ เติบโตขึ้นมากเพียงใด หลังจากการต่อสู้ใน มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 2
นี่มันเรื่องบ้า!
ความเงียบยังคงอยู่ในห้องนี้ และเมื่อ โอโนกิ นั่งลงบนเก้าอี้ของเขาในที่สุด ซึนาเดะ ก็ทำลายความเงียบและพูดว่า “งั้นเรามาคุยกันต่อดีไหมคะ?”
…….
หลังจากออกจากหอคอย ไนโตะ ก็ออกจาก แคว้นแห่งเหล็ก ทันที
แคว้นแห่งเหล็ก นี้เต็มไปด้วยหิมะ แม้ว่าหิมะจะไม่ได้ตกตลอด แต่สีขาวปกคลุมอยู่ทั่วแคว้น
ถ้าอากาศหนาวกว่านี้อีกหน่อย แคว้นแห่งฝน ก็อาจกลายเป็นแคว้นที่เต็มไปด้วยหิมะเช่นเดียวกับ แคว้นแห่งเหล็ก
หลังจากที่ ไนโตะ จากไป เขาก็ตรงไปยังจุดหมายปลายทางที่แท้จริงของเขา นั้นก็คือ เมืองโรรัน
เมืองโรรัน ตั้งอยู่ในทะเลทรายแต่ไม่ใช่ แคว้นแห่งลม
ในความเป็นจริง เมืองโรรัน ไม่มีแคว้น แต่มันเป็นเหมือนหมู่บ้านเล็ก ๆ มากกว่า ทั้งดินแดนไม่ได้ใหญ่เท่า โคโนฮะ นับประสาอะไรกับ แคว้นแห่งไฟ
พื้นที่ทั้งหมดมีขนาดใกล้เคียงกับ หมู่บ้านอาเมะ
จากข้อมูลที่ได้มาจาก โคนัน ไนโตะ ยังคงพุ่งทะยานขึ้นฟ้าไปยังเป้าหมายของเขา ดินแดนด้านล่างของเขานั้นเป็นทะเลทรายและหลังจากบินไปได้สักพักเขาก็มาถึงมันในที่สุด
ที่นี่คือ เมืองโรรัน
สถาปัตยกรรมของดินแดนแห่งนี้มีความพิเศษคล้ายกับ แคว้นแห่งสายฝน แม้ว่าพื้นที่จะไม่ใหญ่นัก แต่อาคารทั้งหมดก็สูงมากอย่างไม่น่าเชื่อ
เหตุผลเดียวที่ทำให้หมู่บ้านนี้ตั้งอยู่ในทะเลทรายได้ก็คือพลังงานที่ได้จาก สายแร่มังกร ที่อยู่ใต้ดินของเมือง