Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา - บทที่ 212 การประเมินใหม่
“ข้าเชื่อว่าไม่มีอะไรในโลกนี้มีรูปแบบสัมพันธ์กันโดยไม่มีเหตุผล ทําไมดาวถึงโคจรเส้นทางเดิมตลอดเวลา? เหตุผลคือแรงโน้มถ่วง แล้วนั่นเป็นคำตอบสำหรับธาตุด้วยหรือไม่?”
น้ำเสียงลุ่มลึกและจริงจังของลูเซียนยังดังก้องอยู่ในห้องโถง คำถามของเขาแทงใจดำจอมเวททุกคน ‘ใช่’ การตามหาความจริงที่ไม่สิ้นสุดและการตั้งคำถามยังไม่มีจุดจบ คือแรงขับดันสำคัญของการพัฒนาอาร์คานาศาสตร์!
ลูเซียนไม่ได้อธิบายหัวข้อของเขาลงลึกเกินไป ก่อนที่จอมเวทต่างๆ จะตอบโต้คำถามของเขา ลูเซียนยิ้มอย่างสุภาพและถ่อมตน “แน่นอน ในฐานะผู้เริ่มต้นศึกษาอาร์คานาศาสตร์และระบบเวทมนตร์ร่วมสมัย ในกรณีส่วนใหญ่ ข้าทำได้เพียงแค่ตั้งคำถาม เพราะไม่มีความรู้มากพอที่จะไขปริศนา ข้าหวังว่าคำถามของข้าจะเป็นประโยชน์ต่อท่านจอมเวททั้งหลายที่อุทิศตนมุ่งหน้าสู่หนทางสายนี้”
การเปลี่ยนความรู้และความเข้าใจต่อโลกของใครสักคนควรจะเป็นไปทีละขั้นทีละตอน สิ่งสุดท้ายที่ลูเซียนอยากจะเห็นในตอนนี้ก็คือสมาชิกของกลุ่มเจตจำนงแห่งธาตุใช้ความคิดจนหัวระเบิดต่อหน้าเขาในที่ประชุม เพียงเพราะสุนทรพจน์ของเขาสร้างความตกตะลึงเกินกว่าที่พวกเขาจะรับได้
ลูเซียนนึกขำกับความคิดที่ว่าเขาอาจสามารถจัดการศัตรูในอนาคตได้ด้วยการกล่าวสุนทรพจน์ให้ฟัง
ราเวนติเริ่มปรบมือเป็นคนแรก แม้ปกติจะเป็นคนอารมณ์ฉุนเฉียว แต่ครั้งนี้เขาพูดกับลูเซียนด้วยน้ำเสียงใจดี “หาได้ยากมาก ข้าได้ฟังคำถามที่ดูไม่โง่เลย อีวานส์ แม้สุนทรพจน์ของเจ้าจะไม่ยาวนัก แต่นับว่ามีคุณค่าที่สุดในการประชุมวันนี้ และอาจกลายเป็นทิศทางการวิจัยรูปแบบใหม่ในสำนักเวทธาตุ”
หลังจากราเวนติปรบมือ จอมเวททั้งหลายที่เข้าร่วมประชุมก็พากันปรบมือด้วยความตื่นเต้น เนื่องจากการประชุมใหญ่ครั้งนี้สร้างความตกตะลึงแก่พวกเขาทุกคน
“เอาล่ะ อีวานส์ ข้าต้องไปก่อน ข้าต้องไปตรวจดูแร่ที่เก็บไว้ แล้วหวังว่าข้าจะสามารถสนับสนุนตารางธาตุของเจ้าได้มากกว่านี้” ราเวนติพูดกับลูเซียน แล้วเขาก็เก็บห้องทดลองเล่นแร่แปรธาตุลงกระเป๋าและรีบออกจากห้องโถงไป
ภายในห้านาที หลังจากราเวนติกลับไป แกสตัน โอเวรี ทิโมธี และแลร์รี่ จอมเวทเกือบทุกคนก็กลับออกจากห้องโถงเพื่อเริ่มการทดลองของตัวเอง ไม่มีใครอยากพลาดโอกาสทองที่จะได้รับการจารึกชื่อในประวัติศาสตร์
ลาซาร์เดินมาหาลูเซียนและพูดอย่างเข้าอกเข้าใจ “เหตุผลหลักที่มหาจอมเวททุกคนประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ก็เพราะความปรารถนาและความทุ่มเทที่มีต่ออาร์คานาและเวทมนตร์”
ลูเซียนยิ้มและพยักหน้ารับ “คนเราไม่จำเป็นต้องฉลาดเป็นกรด แต่ต้องขยันหมั่นเพียร”
นักเวทชั้นต้นบางคน รวมถึงรีเบกกา ยังคงอยู่ที่ในประชุม และจ้องมองลูเซียนอยู่ไกลๆ ด้วยความสงสัยและความชื่นชม อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่กล้าพอที่จะเข้ามาคุยกับลูเซียน
“ขอแสดงความยินดีด้วย สหายข้า” ลาซาร์สวมกอดลูเซียนอย่างจริงใจ “ข้าเห็นอนาคตเจ้าของรางวัล ‘มงกุฎแห่งโฮล์ม’ ยืนอยู่ตรงหน้าข้าแล้ว”
ลูเซียนตบบ่าลาซาร์เบาๆ เพื่อให้กำลังใจ ก่อนจะถามเขา “นี่ ลาซาร์ เจ้ารู้ไหมว่าที่นี่มีห้องทดลองบ้างไหม?”
“เจ้าหมายความว่าอะไร…?” ลาซาร์ถามด้วยความสับสน
“ข้ากำลังมองหาห้องทดลองเพื่อทำการศึกษาต่อ ข้าซื้อยแร่เวทธาตุมานิดหน่อย” ลูเซียนลูบคางของเขา
“อะไรกันเนี่ย… เจ้าเองก็ไม่ต่างจากมหาจอมเวทพวกนั้นเหมือนกันนะ” ลาซาร์หมดคำจะพูด แต่เขาก็บอกลูเซียนว่ามีห้องทดลองสำรองอยู่ที่นี่
เมื่อลูเซียนเดินจากไป ลาซาร์พึมพำกับตัวเอง “ลูเซียน… ข้ากะว่าคืนนี้จะชวนฉลองสักหน่อย แต่ทำงานหนักขนาดนี้สาวๆ ไม่ชอบหรอก!”
“นี่ ลาซาร์ ช่วยเล่าเรื่องของอีวานส์ให้ฟังหน่อยได้ไหม?”
เมื่อหันกลับไป ลาซาร์ก็เห็นรีเบกกากับสาวงามอีกสองสามคนยืนอยู่ด้านหลังเขา และเฝ้ารอข้อมูลเกี่ยวกับสหายผู้หล่อเหลาและเต็มไปด้วยพรสวรรค์ของเขาด้วยสีหน้าแดงระเรื่อของพวกนาง
“ให้ตายเถอะ…” ลาซาร์หลุดคำอุทานออกมา
…
เมื่อข่าวมาถึงหูโรเจริโอ เขาถึงกับหัวเสีย “ข้ามัวทำอะไรอยู่ที่นี่?!”
เขาใช้เวลามากมายในการจับตามองลูเซียน แต่ไม่พบเบาะแสแม้แต่น้อยที่บ่งบอกถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับผู้นำระดับกลางคนสำคัญของกลุ่มเจตจำนงแห่งธาตุ แต่ตอนนี้ ลูเซียนกำลังจะได้รับการคุ้มครองจากผู้ทรงอิทธิพลระดับนั้น!
ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น เพียงแค่การเรียงไพ่ต่างๆ จอมเวทหนุ่มผู้นี้กลับสามารถเขียนบทความที่ทรงอิทธิพลขนาดนี้ออกมาได้ และโรเจริโอรู้สึกว่าการค้นพบครั้งนี้อาจนำไปสู่การพัฒนาอย่างก้าวกระโดดของกลุ่มเจตจำนงแห่งธาตุ
ณ ตอนนี้ โรเจริโอไม่สนใจแล้วว่าใครจะสงสัยว่าการวัดน้ำหนักเทอร์มิริคของเขาจะมาจากการค้นพบของลูเซียนหรือไม่
หลังจากหลับตาสงบสติอารมณ์ลงสักพัก โรเจริโอลืมตาขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับถอนหายใจ “ช่างเป็นอัจฉริยะด้านอาร์คานาศาสตร์… แต่นี่ก็ดูสมเหตุสมผล หรือเด็กหนุ่มคนนี้ไม่ได้เป็นแค่ลูกศิษย์ของศาสตราจารย์”
ว่าแล้วเขาก็หันหลังกลับไป “อะดอล เจ้าไม่ต้องตามอีวานส์อีกต่อไปแล้ว อีกไม่นานต่อจากนี้ เขาจะได้รับความสนใจจากมหาจอมเวท และถ้าพวกเขาพบเจ้า เราจะมีปัญหา เจ้ารู้ไหม แฮททาเวย์ ไม่ปลื้มกับสิ่งที่พวกเราทำอยู่”
อะดอลส่งเสียงเหมือนกำลังหัวเราะคิกคัก “ดีใจที่ได้ยินเช่นนั้น มัวแต่เฝ้าตามเด็กหนุ่มตัวกระจ้อยร่อย น่าเบื่อจะตาย”
…
ลูเซียนถึงห้องโถงหลักในวันที่สองตั้งแต่เช้าตรู่ เมื่อคืนเขาได้นอนไม่มากนัก และคงไม่ต่างกับจอมเวทหลายๆ คนที่มาถึงที่นี่แล้วในตอนนี้
“พบอะไรมาบ้าง ลูเซียน?” ทันทีที่เขาปรากฏตัวขึ้น ลาซาร์ก็รีบถามบอกมา
“ไม่เชิง…” ลูเซียนส่ายหน้า “ข้ายังไม่ถึงขั้นนั้น พลังของข้าไม่มากพอให้ทำวิจัยหลายอย่างภายในคืนเดียว”
“ข้าก็เหมือนกัน…” จอมเวทอีกคนร่วมวงสนทนา
หลังจากนั้นไม่นาน แกสตัน โอเวรี แลร์รี่ และทิโมธีก็มาถึง แล้วเหล่าจอมเวทก็หาที่นั่งเพื่อร่วมประชุม
แม้ว่าความเป็นจริงลี อันโดรไม่ได้อยากจะทำแบบนี้ แต่เขาก็เพิ่มเก้าอี้ในแถวที่สองไว้ให้ลูเซียน
หลังจากรอมาเป็นเวลานาน ที่นั่งของราเวนติและยูลิสิสก็ยังคงว่างเปล่า
จอมเวทหลายคนมองกลับไปที่ประตูห้องโถงเป็นครั้งคราวด้วยท่าทีรำคาญใจ
“ท่านราเวนติและยูลิสิสอาจทำการทดลองกันถึงดึกดื่น” แกสตันยืนขึ้นและพยายามพูดให้ทุกคนใจเย็นลง “เราน่าจะส่งใครสักคนไปตามพวกเขา…”
เห็นได้ชัดว่าไม่มีใครอยากไป ขณะที่อยู่ๆ ทั้งห้องโถงก็เงียบลงจอมเวทชั้นต้นบางคนรีบก้าวถอยหลังจนหลังชิดกำแพง เพราะเขารู้ดีว่าราเวนติจะหัวเสียขนาดไหนหากถูกรบกวน ไม่ว่าระหว่างการทดลองหรือระหว่างการนอนหลับก็ตาม
“เอาล่ะ… ถ้าอย่างนั้น อีวานส์ ทำไมไม่ลองแนะนำพวกเราถึงวิธีที่เจ้าค้นพบกฎความสัมพันธ์ระหว่างธาตุล่ะ?” แกสตันเปลี่ยนเรื่องมาที่ลูเซียน “พวกเราจะได้รอท่านราเวนติไปด้วย”
ลูเซียนพยักหน้า แต่ทันทีที่เขาเดินไปถึงแท่นปราศรัย เขาก็ได้ยินเสียงราเวนติตะโกนดังขึ้น
“อีวานส์! ข้าพบธาตุเหมือนกับซิลิคอนตามที่เจ้าทำนายไว้ในบทความ!” ราเวนติตะโกนใส่เขาอย่างสุดเสียง ตามมาด้วยยูลิสิส “น้ำหนักอะตอมและคุณลักษณะ… ตรงตามนั้นไม่ผิดเพี้ยน!”
ทันใดนั้น ราวกับมีลำแสงสว่างจ้ารุนแรงฉายลงในห้องโถงข้างห้อง จอมเวททุกคนมองเห็นอนาคตอันสดใสของตารางธาตุ
หลังจากเงียบไประยะหนึ่ง เสียงปรบมือดังกึกก้องก็พลันมาจากทั่วทุกมุมของห้องโถง จอมเวททุกคนที่เข้าร่วมการประชุมต่างปรบมือให้กับจอมเวทหนุ่ม และผลการค้นพบของเขาจะเป็นที่จดจำในโลกแห่งเวทมนตร์ไปตลอดกาล
ทุกคนต่างตื่นเต้นที่ได้เป็นพยานรับรู้ช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่และสำคัญช่วงเวลานี้ เสียงปรบมือยังดังต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งแกสตันส่งสัญญาณให้ทุกคนสงบลงเป็นครั้งที่สาม
แกสตันมองไปรอบๆ เขาตั้งใจจ้องที่ลีอันโดนานกว่าปกติ แล้วเขาก็พูดขึ้นด้วยเสียงอันดัง “ข้าเชื่อว่าไม่มีเหตุผลที่ต้องสงสัยในความถูกต้องของตารางธาตุที่ลูเซียนนำเสนออีกต่อไป! คณะกรรมการตรวจสอบอาร์คานาจะประเมินบทความของเจ้าใหม่ และความเห็นของข้าต่อบทความของลูเซียนก็พร้อมแล้ว!”
ว่าแล้วแกสตันก็มองไปที่ลูเซียนและยิ้มให้ “ว่าต่อไป… เล่าให้เราฟังถึงวิธีวิจัยของเจ้า และเรื่องราวที่เจ้าได้ตีพิมพ์บทความชิ้นนี้ ข้ามั่นใจว่าทุกคนอยากรู้”
ราเวนติพยักหน้าและรีบกลับไปยังที่นั่งของตนพร้อมกับลูกศิษย์ ยูลิสิส ขณะเดียวกัน อิกน่า บรรณาธิการของ ‘วารสารเวทธาตุ’ ก็เกิดความวิตกกังวลอย่างหนัก
ลูเซียนเกริ่นนำกับผู้ฟังของเขาถึงการทบทวนวรรณกรรม หรือตรวจสอบบทความวิจัยก่อนหน้านี้อย่างละเอียดถี่ถ้วน ตั้งคำถามและใช้ไพ่ในการจัดลำดับความคิด จนในที่สุด เขาก็มาถึงจุดที่ยากที่สุดที่จะถ่ายทอดออกมาให้กับผู้ฟัง
“หลังจากบทความของข้าผ่านการตรวจสอบ ข้าต้องการให้จอมเวททั้งหลายหันมาสนใจ ดังนั้น ข้าจึงพยายามแวะไปที่สำนักงานใหญ่ของวารสารอาร์คา แต่ข้าถูกปฏิเสธ และถูกตำหนิมาอีกว่า ไม่เข้าใจว่าบทความของข้าผ่านการตรวจสอบได้อย่างไร”
“พวกโง่!” ราเวนติหัวเสียแทน “พวกนั้นจะใช้สมองเพราะเวลากินเท่านั้น!”
บรรณาธิการบางคนจาก ‘วารสารอาร์คานา’ รู้สึกอับอายแทบแทรกแผ่นดินหนี แต่พวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้ เมื่อเผชิญหน้าอยู่กับราเวนติ ซึ่งเหลืออีกเพียงครึ่งก้าวก็จะได้ขึ้นสู่สภาสูงสุด
“จากนั้น ข้าจึงลองไปที่วารสารเวทธาตุ…” ลูเซียนเล่าต่อ
จอมเวทจาก ‘วารสารเวทธาตุ’ ทั้งหมดต่างก็วนกระวาย โดยเฉพาะอิกน่า ซึ่งถึงกับมือไม้สั่นและหน้าถอดสี
“วารสารเวทธาตุยื่นข้อเสนอว่าจะตีพิมพ์บทความของข้า แต่ในฉบับเดือนหน้า” ลูเซียนเล่า
“ก็ยังโง่อยู่ แต่ยังดีกว่าอาร์คานา” ราเวนติแสดงความเห็นเสียงเบา
นักเวทมากกว่าสิบสองคนที่เข้าร่วมการประชุมถอนหายใจยาว พวกเขาซึ่งรวมถึง ‘ราวาน่า’ บรรณาธิการใหญ่ของวารสารเวทธาตุ ซึ่งรู้สึกขอบคุณลูเซียน
“จากนั้น หลังจากถูกปฏิเสธจาก ‘การเล่นแร่แปรธาตุ’ วารสารอาร์คานาสามัญก็ยื่นข้อเสนอให้ข้าเหมือนกันว่าจะตีพิมพ์บทความในเดือนหน้า แต่ข้าไม่ตอบตกลง” ลูเซียนหยุดพักหนึ่ง แล้วเขาก็มองไปที่อิกน่าและยิ้ม “โชคดีที่ตอนนั้น สหายของข้าแนะนำให้ข้ารู้จักกับท่านอิกน่า…”
จอมเวททุกคนหันไปมองอิกน่าเป็นตาเดียวกัน เขาเหงื่อแตกพลั่กและหายใจไม่ออก ในสายตาของเขา รอยยิ้มของลูเซียนแฝงความหมายไว้มากมาย เขานึกภาพที่กำลังโดนราเวนติด่าทออย่างรุนแรงและบ้าคลั่งเอาไว้ในหัวแล้ว
“… ซึ่งมีน้ำใจบอกกับข้าว่าวารสารเวทธาตุกำลังจะตีพิมพ์ฉบับพิเศษในเดือนนี้ และยินดีตอบรับบทความของข้า”
“ฮ้า?” อิกน่ายิ่งกว่าประหลาดใจ เขาถอนหายใจยาว คงเป็นเพราะอารมณ์ที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้ว เขาแทบจะเป็นลมไปในตอนนั้น
“อิกน่า… ท่านอิกน่า…!”
“เขาตื่นเต้นเกินไป… กับคำขอบคุณของอีวานส์”
“ใช่สิ… เขาไม่ใช่คนหนุ่มแล้วนี่…”
เมื่ออิกน่าเรียกสติคืนกลับมาได้ เขาได้ยินราเวนติตะโกนก้อง “เอาบทความของอีวานส์ไว้ช่วงต้นของวารสารเวทธาตุฉบับนี้ ตามด้วยบทความที่รายงานผลการค้นพบธาตุใหม่และการแก้ไขน้ำหนักอะตอมให้ถูกต้อง!”
…
ณ เช้าวันจันทร์ เดินเข้ามาในห้องโถงของฝ่ายบริหารจัดการนักเวทอย่างอารมณ์ดี
“อรุณสวัสดิ์ ท่านอีริค นี่เป็นวารสารเวทธาตุฉบับล่าสุด” ซินดี้และโดน่าทักทายเขา
อีริคกดหมวกทรงสูงลงเล็กน้อยตามมารยาทและถามอย่างสับสน “แต่การประชุมยังเหลืออีกตั้งหลายวัน”
“เราก็ไม่รู้เช่นกันค่ะ ท่านอีริค วารสารเพิ่งมาถึง” ซินดี้ส่งวารสารเวทธาตุฉบับล่าสุดให้กับอีริค ภาพหน้าปกของวารสารฉบับนี้เป็นภาพสัญลักษณ์ธาตุต่างๆ มากกว่าหกสิบชนิด
ด้วยความสงสัย อีริคเปิดวารสารออกดูต่อหน้าสาวๆ ทันที และรอยยิ้มบนใบหน้าเขาก็หายไป
“ท่านอีริค?” ซินดี้และโดน่าเรียกเขา เมื่อสังเกตว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติจากสีหน้าของอีริค แต่ทั้งสองไม่ได้รับคำตอบจากเขา เมื่อทั้งคู่ลองดูหน้าแรกของวารสารด้วยตัวเอง ดวงตาอันงดงามของทั้งคู่ก็ต้องเบิกกว้าง
ชื่อของบทความแรกก็คือ
“ลำดับความสัมพันธ์ระหว่างธรรมชาติของธาตุและการคาดการณ์ธาตุใหม่ๆ”
“ผู้เขียน ลูเซียน อีวานส์ เอ็กซ์ จอมเวทระดับหนึ่ง นักเวทระดับหนึ่ง”
ระหว่างชื่อเรื่องและเนื้อหาของบทความชิ้นนี้ มีความเห็นยาวเหยียดแทรกอยู่
“เนื่องจากความหมายอันใหญ่หลวงของบทความชิ้นนี้ เรา ในฐานะบรรณาธิการของวารสารเวทธาตุ อาจไม่สามารถบรรยายความสำคัญนั้นไว้ได้อย่างเหมาะสม ดังนั้น เราจึงขออ้างอิงถึงความเห็นของท่านแกสตันและท่านโอเวรี สมาชิกคณะกรรมการตรวจสอบอาร์คานา ซึ่งกล่าวไว้ว่า
“นับเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของประวัติศาสตร์เวทมนตร์ บทความชิ้นนี้เปิดเผยเห็นกฎเกณฑ์อันน่าตกตะลึงที่มีอยู่ระหว่างธาตุต่างๆ จากข้อมูลอันยุ่งเหยิงและกระจัดกระจายมหาศาล และด้วยกฎเกณฑ์นี้ นับแต่นี้เป็นต้นไป จะนำทางการสำรวจโลกของเรา เราสามารถทำนายได้ว่าตารางธาตุที่นำเสนอโดยลูเซียน อีวานส์ เอ็กซ์ จะกลายเป็นรากฐานสำคัญของการศึกษาในอนาคตของสำนักเวทธาตุ และจะนำเราไปสู่โลกใหม่แห่งอาร์คานาที่กว้างใหญ่กว่าเดิม”
“บทความชิ้นนี้มีความสำคัญมหาศาล ซึ่งคุณค่าอย่างยิ่งแก่การอภิปรายและมีความหมายต่อการเติบโตทางประวัติศาสตร์ ข้าขอแสดงความเคารพต่อผู้เขียนเป็นประการแรก หลังจากการอภิปราย คณะกรรมการตัดสินใจมอบคะแนนค่าชื่อเสียง 300 คะแนน และคะแนนอาร์คานา 200 คะแนน ให้กับลูเซียน อีวานส์ เอ็กซ์”
…………………………