Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา - บทที่ 252 ความเกลียดชัง
ลูเซียนเปิดใช้งานแว่นตาข้างเดียวของเขา แต่ก่อนที่เขาจะได้ติดต่อกับแกสตันอีกครั้ง เขาก็พลันรู้สึกถึงพลังเวทมนตร์อันยิ่งใหญ่ และ ‘ดวงดาวมาสเกลีน’ ก็ถูกร่ายออกมาจากจิตใต้สำนึก ลูกบอลคริสตัลที่ลูเซียนเพิ่งหยิบขึ้นมาจากพื้นก็ลอยขึ้นสู่อากาศ และเหนือศีรษะของเขาก็ล้อมรอบด้วยบอลแสงทั้งสิบสองลูกอีกครั้ง
ชาร์ลี ช้ากว่าลูเซียนนิดหน่อย แล้ว ‘หัตถ์ยักษา’ ก็ถูกสร้างขึ้นมาครอบคลุมเขาอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ซูซานไม่เข้าใจสถานการณ์ดีนัก หากไม่มีการป้องกันของซานดร้า หล่อนก็ไม่รู้ว่าควรจะทำอะไร แต่มีเพียงแค่ประกายไฟที่อยู่บนหน้าอกของซานดร้าเท่านั้นที่กำลังต่อสู้กับกลุ่มควันอยู่ ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก และควันสีดำก็ถูกไล่ออกไปจากซานดร้า
ทันทีที่ควันสีดำออกจากร่างกายของซานดร้า ชิ้นส่วนโลหะหลายชิ้นบนพื้นด้านหน้าของหล่อนก็เปลี่ยนเป็นสีดำ
“มันยังอยู่ใกล้ๆ นี่” เสียงของซานดร้าชัดเจนด้วยความหวาดกลัว “ข้าเกือบถูกมันควบคุมแล้ว!”
ปลอกคอเสื้อคลุมเวทมนตร์ของหล่อนระเบิดออกมาด้วยพลังมหาศาลบางอย่าง และเครื่องรางที่มีรูปร่างบิดเบี้ยวที่ซานดร้าสวมใส่ไว้ก็หล่นลงบนพื้น
เหล่านักเวทฆ่าปีศาจไปแล้วถึงสองครั้ง และพวกเขาก็เปิดเผยเวทมนตร์ที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเขาออกไปแล้ว แต่ปีศาจยังอยู่ใกล้ๆ นี่แม้ว่าซานดร้าจะมีประสบการณ์ แต่แผ่นหลังของหล่อนก็ยังมีเหงื่อซึมออกมา
ชาร์ลี ร่าย ‘เวทเชื่อมโยงจิต’ เพื่อเชื่อมต่อพวกเขาทั้งสี่คนเข้าด้วยกัน
“เราต้องออกไปจากที่นี่” ซูซานเริ่มสติแตกอีกครั้ง “มันไม่เคยตาย”
ลูเซียนยังคงสงบนิ่ง และทำการวิเคราะห์อย่างรวดเร็ว “เราคิดว่าปีศาจที่ ‘เบอร์ทเรินด์’ อัญเชิญออกมาต้องการให้มีเตาเป็นสื่อกลางในการกลับมาอีกครั้ง และตอนนี้พวกเรารู้แล้วว่ามันไม่จริง ‘เบอร์ทเรินด์’ มีความรู้เกี่ยวกับอาร์คานาศาสตร์ และเป็นไปไม่ได้เลยที่จอมเวทจะทำพิธีกรรมที่ไร้สาระแบบนี้ จะต้องเป็นคนอื่นที่อัญเชิญปีศาจออกมา”
“บิลล์…” ชาร์ลีตอบกลับอย่างรวดเร็วแม้ว่าเขาจะรู้สึกเหนื่อยมากก็ตาม “เขาเป็นคนเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่ในปราสาทแห่งนี้”
“เป็นไปไม่ได้” ซานดร้ากล่าว “ข้าตรวจสอบเขาด้วย ‘เวทลวงใจคน’ เดี๋ยวก่อน… เว้นแต่ว่า…”
“อะไร” ชาร์ลีถาม
“เว้นแต่ว่าปีศาจจะช่วยบิลล์ โดยการลบความทรงจำบางส่วนของเขาออก” ซานดร้าพูดพึมพำ
หลังจากที่ได้ยินดังนั้นซูซานก็หยุดร้องไห้ หล่อนตกใจมาก
“ซูซาน พูดว่า ‘บิลล์’ ถูกรังแกจากนักเวทฝึกหัดคนอื่นๆ และจิตใจของเขาอาจจะเต็มไปด้วยความโกรธและความเกลียดชัง เขาคงต้องการแก้แค้น แต่เขาก็ไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับอาร์คานาศาสตร์ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจลองทำพิธีกรรมที่ร้ายกาจไม่ว่ามันจะไร้สาระแค่ไหนในสายตาของนักเวทฝึกหัดก็ตาม” ลูเซียนพยักหน้า จากนั้นเขาก็หันกลับไปหาซูซาน และถามเธอผ่านทางการเชื่อมโยงทางจิตว่า “บิลล์ เคยอ่าน ‘นิทานแห่งความโศก’ ไหม”
ซูซานขมวดคิ้ว หล่อนพยายามค้นหาคำตอบจากความทรงจำแล้วทันใดนั้นดวงตาของหล่อนก็เบิกกว้าง “ใช่! บิลล์… บิลล์เคยบอกกับข้าว่าการอ่าน ‘นิทานแห่งความโศก’ ทำให้เขาตั้งใจเรียนอาร์คานาศาสตร์มากขึ้น!”
“ไปกันเถอะ” ลูเซียนกล่าวอย่างเด็ดขาด ครั้งนี้พวกเขาจะต้องฆ่าปีศาจให้เรียบร้อยก่อนที่มันจะฟื้นพลังขึ้นมา
บิลล์เพิ่งโกหก เขาหลอกพวกเขาไปที่ห้องอัญเชิญเพื่อถ่วงเวลาให้กับปีศาจ!
นักเวททั้งสามคน มุ่งหน้าไปที่ห้องประชุมนักเวทฝึกหัด ซูซานใช้ความกล้าทั้งหมดของหล่อนติดตามซานดร้าไป
เป็นปกติที่ลูเซียนจะรู้สึกสงสัย เขาสงสัยว่าทำไมเมื่อพวกเขาเข้าไปในห้องอัญเชิญ พวกเขาจึงเห็นปีศาจออกมาจากเตา แต่อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ไม่มีเวลาที่จะมาสนใจในตอนนี้
เพื่อไม่ให้ปีศาจได้มีเวลาตั้งตัว พวกเขาจึงเคลื่อนที่เร็วมาก ในระหว่างทางกลับนั้นก็ไม่ปรากฏแขนสีซีดที่น่ากลัว หรือน่าขยะแขยง ลิ้นเลือด หรือใดใดก็ตาม ซึ่งหมายความว่าปีศาจยังคงฟื้นตัวอยู่
ถ้าพวกเขากลับมาที่ห้อง พวกเขาก็เห็นดวงตาของรูปปั้นทองแดงบวมขึ้น มีดวงตามากมายที่มีนัยน์ตาสีดำ แต่มีรูม่านตาสีขาว อยู่ใกล้กับประตูและผนัง
เมื่อมองดู ‘กำแพงนัยน์ตาปีศาจ’ ยังไม่ปรากฏขึ้นอย่างสมบูรณ์แบบ นักเวททั้งสามคนก็รู้สึกโล่งใจเล็กน้อยเมื่อพวกเขารู้ตัวว่ากลับมาทันเวลาในตอนที่ปีศาจกำลังอ่อนแออย่างมาก
นี่เป็นโอกาสที่ดีมาก!
พวกเขาแลกเปลี่ยนความคิดผ่านทางกระแสจิตของพวกเขา และคิดกลยุทธ์การต่อสู้ภายในไม่กี่วินาที จากนั้นลูเซียนก็ขว้างลูกไฟทรงพลังไปที่ประตูห้อง
ก่อนหน้านี้ไม่นานนัก ชาร์ลีได้ร่ายเวท ‘เนตรพิฆาต’ ลงตรงหน้า ‘กำแพงนัยน์ตาปีศาจ’ ในทันทีที่พวกดวงตาได้เห็นตัวมันเองในกระจก กำแพงดวงตาที่หน้าขยะแขยง ก็พังทลายลงพร้อมกันกับภาพสะท้อนในกระจก
จากนั้น ‘บอลไฟยักษ์ของลูเซียน’ ก็พุ่งเข้าไปที่ประตูห้องโดยตรง
วงแหวนเวทมนตร์ป้องกันของห้องก็ถูกทำลายด้วยการระเบิดครั้งใหญ่ แบบประตูหินก็ระเบิดออกเป็นชิ้นๆ หลังจากนั้นไม้กายสิทธิ์สีม่วงของซานดร้าก็สว่างขึ้นทั่วห้องด้วย ‘แสงแห่งอาร์คานา’
ท่ามกลางแสงไฟ บิลล์ที่กำลังคุกเข่าข้างหนึ่งบนพื้นห้องที่มีฝุ่น และควันปกคลุมไปทั่วทุกพื้นที่
สายตาของบิลล์กำลังมองไปที่นักเวทด้วยความเกลียดชังและความโกรธ ใบหน้าที่บิดเบี้ยวของเขาปรากฏรอยยิ้มที่น่าขนลุกออกมา กล้ามเนื้อและผิวของเขาบวมขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับที่ชุดเครื่องแบบนักเวทฝึกหัดของเขาก็เริ่มฉีกขาด ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อที่ปูดออกมา เลือด และแม้กระทั่งเส้นเลือดก็สามารถมองเห็นได้ชัดเจน ท่ามกลางกล้ามเนื้อ และเส้นเลือดของเขามีตัวหนอนสีขาวกำลังคลานอยู่ บางตัวคลานออกมาจากปาก จมูก ตา และหูของเขา
“บิลล์ เจ้า…” ซูซานตกใจมาก หล่อนคิดว่าบิลล์คือคนที่เรียกปีศาจออกมา แต่ตอนนี้เมื่อเห็นอย่างนี้แล้วหล่อนก็รู้ว่าปีศาจก็คือตัวของบิลล์นั้นเอง
กำแพงโปร่งใสที่มีสัญลักษณ์เวทมนตร์สีดำประหลาดนับไม่ถ้วนลอยอยู่ปรากฏขึ้นตรงหน้าของบิลล์ เขาหัวเราะออกมา “พวกเขาตบหน้าข้า! พวกเขาล้อเลียนข้า! แต่เมื่อข้าเห็นว่าพวกเขาหวาดกลัว และสิ้นหวังเมื่อข้าฆ่าพวกเขา ข้าก็ตระหนักว่าพวกเขาเป็นแค่หนูขี้ขลาด! ดูสิมีเพียงความแข็งแกร่งเท่านั้นที่สามารถทำให้เจ้ามีอำนาจได้ และพลังนั้นก็มาจากความเจ็บปวด! ความเจ็บปวดทำให้ข้าตื่นขึ้นมา!”
คำพูดของเขาชัดเจนมาก
แสงสีขาวสองเส้นพุ่งเข้าชนผนังโปร่งใสโดยตรง และสัญลักษณ์เวทมนตร์ก็เริ่มหายไป เพราะเขาไม่เสียเวลาคุยกับคนใจเสาะอย่างบิลล์ แต่กลับใช้เวทมนตร์ ‘สนามแรง’ ระดับสาม ‘ลบล้างเวทมนตร์’ ซึ่งมีโอกาสที่จะกำจัดอุปกรณ์เพิ่มพลังหรือสนามพลังป้องกันของเป้าหมายได้
ในเวลาเดียวกัน ‘ดวงดาวมาสเกลีน’ สามดวงที่อยู่เหนือศีรษะของลูเซียนก็ชนเข้ากับอีกสามดวง และเปล่งแสงเป็นประกายออกมาเพื่อเพิ่มค่าความโชคดีของชาร์ลี และซานดร้าขึ้นเพื่อเพิ่มพลังของเวท ‘ลบล้างเวทมนตร์’
“นี่ไม่ใช่พลัง! นี่คือความชั่วร้าย!” ซูซานร้องไห้
บิลล์หัวเราะ “ไม่ นี่ไม่ใช่ความชั่วร้าย นี่คือตัวเราเอง! ความเกลียดชัง อิจฉา ความโลภ ความโกรธ… พวกเราทุกคนมีมันอยู่กับตัว!”
ขณะที่เขาหัวเราะริมฝีปากของเขาก็ร่วงลงเผยให้เห็นฟัน และดวงตาของเขาที่กลายเป็นสีแดงก่ำ
กำแพงโปร่งใสถูกทำลายลงแล้ว เห็นได้ชัดว่าพลังของมันยังไม่กลับมาเลยแม้แต่น้อย
ทันทีที่กำแพงหายไปทั้งชาร์ลี และซานดร้าก็เปิดใช้อุปกรณ์เวทมนตร์ของพวกเขา และร่ายเวท ‘ลบล้างเวทมนตร์’ อีกครั้ง!
ม่านควันดำที่อยู่บนตัวบิลล์หายไปด้วยฝีมือของชาร์ลี และจากนั้นกลุ่มควันก็เริ่มปรากฏออกมาทันทีหลังจากที่เวทมนตร์ของซานดร้าโจมตีเขา
มือขวาของลูเซียนถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีม่วงราวกับว่าเขากำลังถือดวงอาทิตย์สีม่วงขนาดเล็กอยู่ แสงไฟสีทอง สีเงิน สีดำ สีขาว สีม่วง และอื่นๆปรากฏขึ้นรอบตัวของบิลล์ในทันที และพวกมันก็เริ่มหมุนรอบตัวเขาด้วยความเร็วสูงเหมือนกับพายุที่บ้าคลั่ง จากนั้นมันก็ฉีกร่างของบิลล์ออกจากกัน!
สัตว์ประหลาดอาจเป็นวิญญาณที่บริสุทธิ์ แต่บิลล์ไม่ใช่ เขายังคงถูกสร้างขึ้นมาจากธาตุทั้งหลาย
นี่เป็นโอกาสสุดท้ายแล้ว
พายุหมุนใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และสว่างขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน ทำให้สถานที่ทั้งหมดนั้นเต็มไปด้วยแสงแพรวพราว
ลูเซียนรู้สึกว่าหัวใจและศีรษะของเขาเจ็บปวดเป็นอย่างมาก วิญญาณของเขาอ่อนแอลงมากและพลังวิญญาณของเขาก็เกือบแห้งเช่นกัน เขาไม่แม้แต่จะสามารถอ้าปากพูดได้ ทําได้เพียงแค่ยืนพิงชั้นหนังสือเอาไว้
ซานดร้าจ้องไปที่บิลล์ด้วยความตั้งใจที่จะปกป้องลูเซียน และชาร์ลี
เมื่อพายุหมุนช้าลง ห้องก็ถูกทำลายไปหมดแล้ว พวกเขาสามารถมองเห็นห้องโถงที่อยู่ชั้นล่างผ่านรูขนาดใหญ่หลายแห่งบนพื้น
ส่วนบิลล์นั้นไม่มีอะไรเหลืออยู่เลย ยกเว้นรอยไหม้ที่อยู่บนพื้น
“เรา… ฆ่ามันได้แล้วหรือ” ซานดร้าลังเลนิดหน่อย เมื่อหล่อนมองออกไปนอกหน้าต่างมองก็หายไปหมดแล้วและพระอาทิตย์ก็กำลังตกพอดี
“ไม่แน่ใจ แต่ตอนนี้หมอกหายไปแล้ว เราควรติดต่อท่านแกสตัน” ลูเซียนกล่าว เขารู้สึกดีขึ้นมากหลังจากดื่มยา ถึงแม้ว่าเขาจะยังคงรู้สึกเจ็บปวดในจิตใจของเขา และพยายามอย่างเต็มที่ที่จะเปิดใช้งานข้อความแม่เหล็กไฟฟ้า
‘ลำนำน้ำ’ เป็นน้ำยาฟื้นฟูที่เหมาะสำหรับนักเวทระดับกลาง ตอนนี้ลูเซียนสามารถเปิดใช้งานอุปกรณ์เวทมนตร์ได้เท่านั้น แต่ไม่สามารถร่ายเวทมนตร์ได้
“ท่านแกสตัน”
หลังจากผ่านไปหลายวินาทีเสียงของผู้สูงวัยแกสตันก็มาถึงพวกเขาผ่านแว่นตาข้างเดียว “ลูเซียนมีปัญหาอะไรไหม”
“ใช่ ปีศาจ” ลูเซียนบอกแกสตันคร่าวๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี้ ในระหว่างนั้นเขาก็ผ่อนคลายเล็กน้อย
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งแกสตันก็พูดว่า “พวกเจ้าทั้งสี่คนไปหาห้องที่ปลอดภัย เข้าไปในนั้นและร่ายเวทมนตร์ป้องกันรอบๆ ห้องเอาไว้ และอยู่แต่ในห้อง เพื่อรอนักเวทระดับสูงที่อยู่ใกล้เคียงมาถึง”
เมื่อพบความได้ยินดังนั้นก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาอีกเล็กน้อย พวกเขาเริ่มมุ่งหน้าไปที่ห้องพลังผ่านเส้นทางอื่นๆ ของหอประชุมนักเวทฝึกหัด เพื่อไปรอที่นั่น
“ท่านอีวานส์?” เมื่อเห็นลูเซียนหน้านิ่ว ชาร์ลีก็ถามว่า “มีอะไรผิดปกติอีกไหม”
ลูเซียนพยักหน้า “ใช่ บางอย่าง… ข้าแค่คิดว่าทำไมสิ่งที่โจมตีซานดร้าถึงเตือนเราก่อนที่มันจะหายดี”
…………………….