Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา - บทที่ 500 โล่งอก
บทที่ 500 โล่งอก
“ไม่จำเป็นต้องใช้เหยื่อ เขาออกมาแล้ว” นาตาชากำลังยิ้มอยู่ในกระแสจิต ตั้งใจล้อลูเซียนเรื่อง ‘คำทำนาย’
แอลยังคงสวมมงกุฎใบมะกอกและเสื้อคลุมสีขาว แต่เขาดูมีความศักดิ์สิทธิ์และเงียบสงบยิ่งขึ้น แสงศักดิ์สิทธิ์บางๆ ส่องแสงเรืองรองออกมาจากผิว และทั้งเจ็ดชั้นของหุบเขาวิมานก็สะท้อนอยู่ในตาของเขา ยิ่งทำให้เขาดูศักดิ์สิทธิ์และเคร่งขรึมมากยิ่งขึ้น
เขาถือดาบยาวที่ดำไม่ต่างจากน้ำหมึก และพุ่งทางดาบใส่ทั้งสองคน ของเหลวโสโครกลิ่นเน่าเหม็นหยดจากดาบของเขา แต่ก็ถูกพลังปริศนาในกระแสไหลเวียนดูดซับกลับไปอีกครั้ง
“เขากำลังไล่ตามดูดซับพลังเทวภาพในขอบเขตพลังความตายและดวงจันทร์ เป็นไปได้ว่าเขาก็ถูกดึงดูดจากเศษพลังของสิ่งมีชีวิตปริศนาในโลกวิญญาณ เลยมาตรวจสอบดู เทพเจ้าเทียมเท็จพวกนี้อ่อนไหวต่อแรงดึงดูดของนักบวชและพลังเทวภาพ จนถึงจุดที่อาจเสียสติ” แม้ว่าลูเซียนจะพูดอย่างนั้น เขาก็ยังรู้สึกแปลกๆ แอลเกือบถูกเขาสังหารในครั้งก่อนและแทบจะไม่สามารถต้านทานอะไรเขาได้เลย แล้วทำไมเขาถึงพุ่งเข้าใส่ลูเซียนด้วยความมั่นใจขนาดนี้ เมื่อเจอกันครั้งนี้?
ลูเซียนรีบร่ายเวทมนตร์ต่างๆ เช่น ‘เวทแรงกระทิง’ และ ‘เวทหมีอึด’ ใส่นาตาชา
ตอนนั้นเอง แอลก็เข้ามาอยู่ในระยะ นาตาชาเหวี่ยงดาบและพุ่งเข้ามาหาเขา และลูเซียนก็เพียงร่าย ‘เวทลบล้างเวทมนตร์ขั้นสูง’
แอลที่กำลังจะใช้เวทคำสั่งก็เห็นว่าแสงศักดิ์สิทธิ์บนตัวของเขาเริ่มจางลงเหมือนกับดอกไม้ไฟที่กำลังระเบิด อาคมสองบทที่เขาร่ายใส่ตัวเองมาล่วงหน้าก็สลายลงในทันที ในขณะเดียวกัน นาตาชาก็ลอยมาอยู่ตรงหน้าเขา ดาบยุติธรรมจืดจางตะบันลงมา สร้างเป็นภาพมายาพลังดาบที่สามารถตัดได้ทุกอย่าง
แอลรีบยกดาบขึ้นป้องกันดาบยุติธรรมจืดจางจนถูกนาตาชาซัดกระเด็นเสียการทรงตัวออกไปไกล เขาเพลี่ยงพล้ำจากการโจมตีรุนแรงครั้งนี้เกินกว่าจะใช้อาคมเทพ
ในทางกลับกัน ลูเซียนเปิดใช้รูปแบบเวทมนตร์อย่างช้าๆ ขณะที่ดวงตาสีเขียวของเขาส่องประกาย แอลก็รู้สึกว่าพลังป้องกันเวทมนตร์ของเขาตกฮวบ ดังนั้น ทั้งเจ็ดชั้นของหุบเขาวิมานในดวงตาของเขาก็แตกสลายออกในทันที ราวกับมาถึงโลกจริง เมื่อถูกอาบด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์ แอลก็แข็งแกร่งขึ้นซึ่งทำให้บรรยากาศเปลี่ยนแปลง ความมืดเสื่อมถอย และแสงสว่างกลับคืนมาอีกครั้ง ความศักดิ์สิทธิ์และความขลังแผ่พลังออกไป และกดทับพลังชั่วร้ายไว้
“พรมแดนอำนาจจิตกึ่งภาพมายา? แอลพัฒนาขึ้นเป็นอัศวินทองคำแล้วหรือ?” ลูเซียนและนาตาชาอุทานพร้อมกระแสจิตพร้อมกัน
หลังจากปะทะกันสามครั้งติด นาตาชาก็เป็นฝ่ายต้องล่าถอยกลางอากาศ แล้วแอลก็มองไปยังลูเซียนด้วยสายตาอันศักดิ์สิทธิ์และบริสุทธิ์ “ข้าขอสั่งให้เจ้าตาย…”
ก่อนที่เขาจะร่ายอาคมจบ แอลสลายไปในความว่างเปล่า เนื่องจากลูเซียนยกมือขวาขึ้น ซึ่งคว้าคทาที่มีอัญมณีเม็ดใหญ่ฝังอยู่
พรมแดนอำนาจจิตที่สว่างไสวและศักดิ์สิทธิ์รอบๆ ก็สลายไป ความมืดเข้าครอบงำทุกอย่างอีกครั้ง
“เขาแข็งแกร่งกว่าแต่ก่อน แต่เขายังไม่ถึงระดับอัศวินทองคำ ข้าต้านไว้อยู่” นาตาชารีบบอกกับลูเซียนถึงสิ่งที่นางรู้
ลูเซียนพยักหน้าเบาๆ “เขาน่าจะสามารถยืมพลังจากขอบเขตพลังเทพในระยะหนึ่งได้ ไม่น่าแปลกใจที่เขากล้าพอจะออกมาแบบนี้ แต่การใช้ขอบเขตพลังเทพที่เกินกว่าขอบเขตพลังเทพของตัวเองได้ทำให้รู้ว่าความสามารถของแอลใกล้กับอัศวินทองคำ ดูเหมือนเขาได้รับ ‘พลังศรัทธา’ มาเต็มเปี่ยมหลังจากดูดพลังจากเทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์ พระแม่แห่งปฐพี และคริสตจักรอื่นๆ”
ขณะกำลังพูด ลูเซียนก็วางกับดักเวทในตำแหน่งต่างๆ ตามเขาวงกต ตอนนั้นเอง เงาอีกเงาหนึ่งก็ลอยออกมาจากหุบเขามรณะพร้อมกับปีกหกปีกบนหลัง ตัวเขารายล้อมด้วยสายฟ้า เขามาเพื่อช่วยเหลือ ‘เทพแอลผู้ยิ่งใหญ่’
“เทพเจ้าแห่งฟ้าร้องและสายฟ้า ตอนนี้เป็นทูตสวรรค์แห่งฟ้าร้องและสายฟ้า?” เมื่อระยะห่างระหว่างทั้งสองสั้นลง ลูเซียนก็จำชายร่างกำยำหัวล้านคนนี้ได้
ทูตสวรรค์แห่งฟ้าร้องและสายฟ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์โบกปีกและพยายามหยุดความพยายามของลูเซียน เขาก็หายเข้ากลีบเมฆไปอย่างเหลือเชื่อ
ขณะเฝ้าดูลูเซียนร่ายเวทเขาวงกตอย่างต่อเนื่อง นาตาชาก็แสดงความเห็นด้วยความประหลาดใจ “เวทมนตร์นี่น่ามหัศจรรย์จริงๆ! เจ้าก็ไม่ต้องกลัวอีกฝ่ายที่คนเยอะกว่าเลยสินะ”
หลังจากวางกับดักเวทมนตร์เสร็จ ลูเซียนก็ไม่รอให้เขาวงกตปริศนาทำงานเอง แต่ยกคทาแห่งตะวันขึ้นเพื่อปลดปล่อยแอล
แอลดูเหมือนจะเลิกคิดที่จะทลายเขาวงกตออกมา เขากำลังตั้งสมาธิอยู่กับการเพิ่มพลังให้ตัวเองด้วยอาคมเทพ แต่นอกเหนือความคาดหมาย ลูเซียนยกเลิกเวทขาวงกต หลังจากติดตั้งกับดักเวทเพียงกับดักเดียว แล้วเขาก็รู้สึกสับสนอยู่สักพัก
จู่ๆ เทนทาเคิลสีดำที่รูปร่างเหมือนหนวดปลาหมึกยักษ์ก็ผุดขึ้นมาจากพื้นขึ้นไปบนฟ้าและพันตัวแอล เวทมนตร์ธาตุมีที่มาจากธรรมชาติและไม่ถูกกดทับจากพรมแดนอำนาจจิตเทพของแอล นอกจากนี้ เทนทาเคิลดูเหมือนก็ต้านทานต่อความเสียหายหลากหลายรูปแบบ
ในขณะเดียวกัน นาตาชาพุ่งทะยานเข้าไปหยุดแอลซึ่งกำลังถูกจองจำไว้ ไม่ปล่อยให้เขามีโอกาสได้ตอบโต้
ดวงตาสีดำของลูเซียนเริ่มเลือนลาง และแอลก็ถูกกักอยู่ในจุดที่เขาอยู่ ในจังหวะต่อมา ลูเซียนก้าวออกมาข้างหน้า และแสงแห่งปัญญาในดวงตาของแอลก็อ่อนแรงลงถึงระดับต่ำสุด เขาเหมือนกับสัตว์ร้ายที่สูญเสียความสามารถในการคิด
เนื่องจากแหวนคอนกัสและการพิสูจน์โลกแห่งปัญญาของเขา ลูเซียนก็ใช้เวลาร่ายเวทมนตร์น้อยลงอีก เมื่อเขาร่ายเวทมนตร์ต่ำกว่าระดับหก เกือบเหมือนตอนที่เขาสวมเสื้อคลุมเดวีย์ปลอม
“มันใช้จัดการกับเทพเจ้าเทียมเท็จที่มีแนวโน้มจะได้รับพลังเทวภาพผ่านการป่วนจิตและอุปสรรค” ลูเซียนลอยตัวขึ้นไปตรงหน้าแอลซึ่งถูกนาตาชาควบคุมไว้ ดวงตาของเขาดูลึกและดำมืด เมื่อมองใกล้เข้าไป ก็จะสังเกตเห็นดาวหมุนในร่องรอยที่ซับซ้อนและชวนมอง
แอลพ่นลมออกทางจมูก และดวงตาของเขาค่อยๆ ดูกระจ่างขึ้น อย่างไรก็ตาม เขาดูน่าเกรงขามยิ่งกว่าเดิม เขาพูดด้วยเสียงแผ่วเบา “ยินดีรับใช้นายท่าน”
“ดีมาก” ลูเซียนพยักหน้าและออก ‘คำสั่ง’
“ข้ารู้สึกว่าเทพเจ้าเทียมเท็จจัดการไม่ยาก ถ้าเป็นอัศวินอาภาระดับแปดที่มีพรมแดนอำนาจจิตกึ่งภาพมายา การเสียสมาธิและอุปสรรคจะผ่านไปได้ด้วยอำนาจจิต” นาตาชาทั้งรู้สึกสับสนและสนุกไปด้วย
ลูเซียนพยักหน้าและตอบ “เทพเจ้าเทียมเท็จจะน่าเกรงขามในบางมุม แต่จุดอ่อนสำคัญมาก สมมติข้าจัดการแอลด้วยเวทมนตร์ศาสตร์มืด ธาตุดิน และการสะกดจิตไม่ได้ ลักษณะพวกนั้นเป็นเป้าหมายของนักบวชของเขา พลังส่วนใหญ่ก็จะลดลง ถ้าไม่ได้หายไปเลย นอกจากนี้ เนื่องจากสนามรบเป็นหุบเขามรณะ เวทภาพมายาก็จะถูกกดด้วยอาคมเทพ และคงไม่ง่ายที่จะทำให้เวทมนตร์ส่งผล”
หลังจากหยุดนิ่งไปชั่วขณะ ลูเซียนกระซิบกับนาตาชาผ่านกระแสจิต “มันน่าแปลกที่เราล้มเขาลงได้โดยไม่มีอันตรายเลย โดยเฉพาะเมื่อเราคิดว่าแอลต้องมีบางอย่างผิดปกติมาก่อนแล้ว”
“ไม่ได้เป็นเพราะขอบเขตพลังเทพที่จำลองหุบเขาวิมานมาหรอกหรือ? บางที โหราศาสตร์ของเจ้ามีแนวโน้มไปทางพระเจ้า เจ้าจึงไม่พบอะไร?” นาตาชาเสนอความเห็น แต่นางก็ไม่แน่ใจ เพราะลูเซียนเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้
ลูเซียนตัดสินใจลองดูอีกครั้ง เขาหยิบลูกแก้วคริสตัลออกมาแล้วร่ายเวทโหราศาสตร์อีกครั้ง ครั้งนี้ เมื่อท้องฟ้าแห่งชะตาชีวิตแสดงอยู่ภายในลูกแก้วคริสตัล ดาวหลักเทวลิขิตของแอลก็ปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน
“ข้าได้ทำนายถึงพระเจ้าแห่งสัจธรรมจริงๆ หรือนี่?” ลูเซียนส่ายศีรษะอย่างสับสน เขามองแอลที่ไม่ได้แสดงอาการผิดปกติใดๆ ภายใต้การควบคุมของเขา แล้วเขาก็บอกกับนาตาชา “บางที เจ้าอาจจะพูดถูก แต่ทำไมชะตาของแอลถึงทับซ้อนกับพระเจ้าแห่งสัจธรรมภายในขอบเขตพลังเทพ?”
“มันไม่ได้ทับซ้อน แต่เบี่ยงเบนคำพยากรณ์ของเจ้า” นาตาชาไม่เห็นด้วยในทันที หากนางยอมรับการทับซ้อนดังกล่าว ก็คงไม่ต่างกับว่านางยอมรับว่าแอลเป็นพระเจ้าแห่งสัจธรรมหรือร่างอวตารของเขา? นั่นเป็นการเสียดสีอย่างเลือดเย็นและทำลายความเชื่อของนาง
ลูเซียนหยุดสงสัย “ไปที่อาณาเขตเทพและลองอีกครั้ง เราจะสามารถสังหารฟรานซิสด้วยวิธีนี้ และวางแผนวิธีจัดการกับเทพอสูรจอมเวท-ลิช
…
ภายในอาณาเขตเทพของแอล ผู้จับวิญญาณถูกสังหารได้แล้ว แต่ฟรานซิสก็หายตัวไปด้วยเหมือนกัน
“ระวังตัวแจเลย? มิน่าเขาถึงได้เป็นสายลับในศาสนจักรฝ่ายเหนือ ชื่อของเขาคงหาไม่พบทั้งในรายชื่อผู้พิทักษ์ราตรีและบัญชีกวาดล้าง” นาตาชากัดฟันกรอด แล้วนางก็พบจุดลับพร้อมกับลูเซียน ซึ่งกำลังใช้เวทโหราศาสตร์ด้านหลังแอล
“ดาวหลักแห่งเทวลิขิตของเขาเริ่มพร่ามัว มันเป็นเพราะอาณาเขตเทพอย่างนั้นหรือ?” ลูเซียนขมวดคิ้วมองจุดแสงที่ภาพมัวภายในลูกแก้วคริสตัล หลังจากนั้นเขาก็เริ่มหาวิธีจัดการกับเทพอสูรจอมเวท-ลิช “อาณาเขตเทพนี้ที่จำลองมาจากหุบเขาวิมานกดทับพลังภูตผีปีศาจไว้อย่างหนัก เทพอสูร-ลิชจะอ่อนกำลังลงมากที่นี่ และแอลก็จะมีพลังขึ้นสูงสุดถึงขั้นอัศวินทองคำ นี่เป็นสมรภูมิที่เหมาะแก่การจัดการเทพอสูร-ลิช”
“เอาล่ะ เราจะล่อเทพอสูร-ลิชมาด้านหน้า และแอลจะ ‘ซุ่มโจมตี’ จากด้านหลัง เมื่อเทพอสูร-ลิชเสียสมาธิ เจ้าจะจัดการเขาด้วยเวทมนตร์ระดับตำนาน” นาตาชาเสนอแผนคร่าวๆ
ลูเซียนพูดด้วยน้ำเสียงขึงขัง “เราต้องควบคุมเวลาอย่างแม่นยำ มิฉะนั้น ก็ไม่มีทางที่เราจะต้านทานเวทมนตร์ของเทพอสูร-ลิช ยกเว้น ‘อุปสรรคคนตาย’ ด้วยวิธีนี้ ทุกอย่างจะถูกเปิดเผย ฉะนั้น เราต้องซ้อมกันหลายๆ รอบ”
“นอกจากนี้ เทพอสูร-ลิช ก็มีเวทปลุกอาคม เวทจัดลำดับเวท และเวทมนตร์อื่นๆ ใส่ตัวเขา คงเป็นไปไม่ได้ที่จะสังหารเขาด้วยเวทมนตร์ชั้นตำนาน เราต้องวางกับดักและวงเวทขัดขวางพลังของเวทเทเลพอร์ตวายป่วง เวทเงากระโดด เวทเงาคลั่ง และเวทมนตร์อื่นๆ แล้วเราจะซ่อนเวทมนตร์พวกนี้ด้วยพลังอาณาเขตเทพ”
เนื่องจากเขาไม่รู้ว่าเทพอสูรจอมเวท-ลิชเลือกเวทมนตร์แบบไหนสำหรับการช่วยชีวิต ลูเซียนทำได้เพียงสันนิษฐานตามตำราเวทมนตร์ตามระดับของเขา ดังนั้น ลูเซียนจึงเลือกเวทมนตร์สองสามบทที่เป็นไปได้มากที่สุดตามคำพยากรณ์และประสบการณ์ของเขา
ขณะมองดูลูเซียนเตรียมกับดักเวทมนตร์อย่างใจจดใจจ่อ นาตาชาก็ถูคางไปมาและพูดขึ้น “ข้าเข้าใจที่อาจารย์เคยบอกแล้วว่า ‘อย่าคิดสู้กับนักเวทที่เตรียมตัวล่วงหน้า’”
“นี่เพียงแค่เพิ่มโอกาสขึ้นมาเล็กน้อยเท่านั้น นักเวทชั้นตำนานแข็งแกร่งเกินกว่าที่จะโค่นด้วยการเตรียมตัวล่วงหน้าอย่างเดียว นอกจากนี้ เรายังต้องล่อเข้ามายังอาณาเขตเทพโดยไม่ถูกฆ่าให้ได้” ลูเซียนถอนหายใจยาว
นาตาชาเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งด้วยความสับสน “ข้าคิดว่าเราจะรอให้เขามาที่นี่เอง”
ลูเซียนส่ายศีรษะก่อนตอบว่า “ข้าจะรู้ตัวก่อน เราจะปิดล้อมหุบเขามรณะตามเส้นทางนี้ จังหวะที่เขตพลังของเราถูกกดทับ เราจะกลับมาที่หุบเขามรณะ”
ขณะกำลังพูด ลูเซียนนั่งลงวาดแผนที่บนพื้น แสดงภาพส่วนสำคัญของตำแหน่งต่างๆ
หลังจากวาดเสร็จ ลูเซียนก็ลุกขึ้นพูดว่า “ตอนนี้ มาซ้อมกับแอลก่อน เผื่อเราจะถูกจจับได้ก่อนทันเตรียมตัว”
สายลมพัดเข้ามากวาดภาพแผนบนพื้น ลูเซียนถอนหายใจ “ข้าหวังว่าจะไม่ต้องใช้แผนพวกนี้ เพราะหมายความว่าเราไม่ได้เจอกับเทพอสูร-ลิช และซ่อนตัวสำหรับวันครึ่งสุดท้าย นี่แหละที่ข้าหวังไว้มากที่สุด”
“ข้าก็เหมือนกัน แต่ว่า เราทำได้แค่เตรียมตัวเต็มที่ เรายังต้องขอให้โชคช่วยด้วย” นาตาชาตบไหล่ลูเซียนเบาๆ พร้อมรอยยิ้ม แล้วนางก็ถามผ่านทางกระแสจิต “แล้วตอนนี้ ทำไมเจ้าไม่ควบคุมทูตสวรรค์แห่งฟ้าร้องและสายฟ้าผ่านเวทคำสั่งเลยล่ะ”
ขณะมองแสงศักดิ์สิทธิ์และฟังเสียงเพลงสรรเสริญตรงหน้า ลูเซียนก็ตอบพร้อมกับรอยยิ้ม “เผื่อมีอุบัติเหตุ”
…
หนึ่งวันต่อมา เมื่อใกล้ถึงเวลาเที่ยงคืน เสียงร้องโหยหวยในป่ามืดที่เคยมีมาตลอดก็หยุดกะทันหัน ราวกับสถานที่นี้กลายเป็นนรกแห่งความตายและความเงียบ