Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา - บทที่ 515 คำขออภัยจากซาร์ด
บทที่ 515 คำขออภัยจากซาร์ด
ณ ห้องนั่งเล่นบนชั้นสองของคฤหาสน์ บารอนออสตินกำลังตั้งใจฟังเสียงหวานๆ ของท่านหญิงไนติงเกลอยู่ในชุดนอน
เนื่องจากช่วงพิธีศพที่เป็นรัฐพิธีเช่นนี้ไม่ใช่เวลาเหมาะสมที่จะแอบไปหาภรรยาลับ เขาจึงทำได้เพียงฆ่าเวลาด้วยการฟังรายการวิทยุ ‘เสียงแห่งอาร์คานา’ นอกจากนี้ เขาก็พบกับหลายรายงานในคลื่นวิทยุที่น่าสนใจมากๆ ถึงขนาดว่าบางครั้งน่าสนใจยิ่งกว่าการใช้เวลาอยู่กับภรรยาลับเสียอีก
ในราชอาณาจักรโฮล์ม ยกเว้นเพียงขุนนางและผู้ศรัทธานิยมขวาจัดเท่านั้น การฟังเสียงเพลงต้องห้ามจากสถานีวิทยุกำลังเป็นกระแสนิยม เนื้อหาในรายการเป็นหัวข้อสนทนาในหลายๆ กลุ่มของฝ่ายเสรีนิยม ใครที่ไม่ได้ฟังรายการวิทยุจะถูกมองเป็นหัวโบราณและถูกตัดออกจากกลุ่ม
“… นับจากวันนี้เป็นต้นไป รายการของเราจะมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยนะคะ ต่อไปทุกท่านจะได้ฟังรายการ ‘ยามเฝ้าโฮล์ม’ รายการของเราจะนำเสนอข้อมูลงานสำคัญๆ ในราชอาณาจักร”
“… ข้าเชื่อว่าผู้ฟังที่รักของเราได้ทราบกันแล้วว่า เจ้าชายแพทริกที่รักและเคารพทรงติดตามไปรับใช้กษัตริย์เฟลติสด้วยความตรอมพระทัย หลังจากกษัตริย์เสด็จสวรรคต อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้มีกระบวนการและรายละเอียดอย่างไร? รายการของเราจะมานำเสนอความจริงเบื้องหลังคดีนี้”
ออสตินนอนเอนพิงเก้าอี้ยาวอย่างสบายใจ แต่เขาลุกขึ้นนั่งตัวตรงและมีสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นหลังจากได้ฟังการเกริ่นนำ
การสำรวจคดีนี้ของรายการ ‘ยามเฝ้าโฮล์ม’ ยังเป็นเพียงการสันนิษฐานที่ยังไม่มีการพิสูจน์ โดยมีการสัมภาษณ์พยานหลายปากเพื่อพิสูจน์ว่าเจ้าชายแพทริกมีสุขภาพพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรงในช่วงไม่กี่วันก่อน และไม่น่าจะล้มลงกะทันหันแบบนี้
แม้ว่าไนติงเกลไม่ได้พูดเปิดเผยออกมาตรงๆ นางก็ระบุเป็นนัยอย่างชัดเจนว่าศาสนจักรไม่พอใจในตัวเจ้าชายที่ฝักใฝ่เรื่องเวทมนตร์และการเล่นแร่แปรธาตุ แต่ใครๆ ก็พอจะสรุปได้จากคำพูดของนางว่าศาสนจักรลอบสังหารเจ้าชาย
ออสตินอ้าปากค้างอยู่นาน เขานึกถึงคำที่พวกเสรีนิยมในรัฐสภาแห่งขุนนางพูดไว้ ยิ่งคิด เขาก็ยิ่งสงสัย เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าชายเพิ่งจัดงานรวมตัวของกลุ่มเสรีนิยม สภาพร่างกายของเขาก็แข็งแรงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน และเขาก็มีความสัมพันธ์ที่ไม่ลงรอยกับกษัตริย์อย่างรุนแรง แล้วเขาจะมาตายเพราะตรอมใจได้อย่างไร?
“ศาสนจักรโอหังพอที่จะสังหารเจ้ามงกุฎราชกุมาร…” ออสตินวางถ้วยไวน์ลงบนโต๊ะและเริ่มเดินไปเดินมา
ขณะเขาหันหลังให้หน้าต่าง เงาสองร่างก็พุ่งเข้าใส่และโจมตีคนที่อยู่ในระดับอัศวินธรรมดาอย่างเขาได้อย่างสบายมือ
“เจ้าเป็นใคร? กล้าดียังไงมาทำร้ายขุนนาง… ผู้พิทักษ์ราตรี?” ออสตินเห็นถุงมือสีดำที่ชายทั้งสองคนสวม “เจ้าบังอาจมาจับตัวขุนนางเองเชียวหรือ? เจ้ากำลังละเมิดข้อตกลงระหว่างศาสนจักรกับขุนนาง!”
จูเลียน่าลอยเข้ามาทางหน้าต่างและมองออสตินอย่างเลือดเย็น “ศาสนจักรอ่อนแอเกินไป มีเพียงเราที่สามารถปกป้องพระสิริแห่งพระเจ้า”
“เจ้าอยากให้ขุนนางแตกหักกับศาสนจักร ศาสนจักรอ่อนแอลง และพระสิริของพระเจ้าไม่มีทางแผ่อิทธิพลอย่างนั้นหรือ?” ออสตินไม่ใช่คนโง่ เขารู้ตัวดีว่ากำลังเผชิญหน้ากับผู้พิทักษ์ราตรีแนวคิดสุดโต่งที่ทำเกินหน้าที่ ดังนั้น เขาจึงแนะนำออกไปตรงๆ ว่าสิ่งที่ทำจะให้ผลตรงข้ามกับวัตถุประสงค์ของพวกเขา
“พระเจ้าทรงมีอำนาจสูงสุด พระองค์ทรงไม่หยุดเจ้า เพราะนี่เป็นบททดสอบของเรา หากการล้างบาปขุนนางที่ฝักใฝ่นักเวทเช่นเจ้าก่อกระแสคัดค้านในกลุ่มขุนนางโฮล์ม ก็หมายความว่าคนพวกนั้นล้วนมีมลทินและหมดทางเยียวยา ราชสำนักต้องคุกเข่าต่อหน้าพระเจ้า” จูเลียน่าเกลียดนักเวทจากก้นบึ้งของหัวใจ นางยื่นมือออกไปอย่างเลือดเย็นและกดมืดลงบนหน้าผ้าของออสติน “ลงไปสำนึกผิดในนรก!”
“เจ้ากล้าดี…” แสงศักดิ์สิทธิ์เปล่งแสงออกมา และศีรษะของออสตินก็ทะลุเป็นรู เลือดระเหยกลายเป็นไอจนหมด แม้แต่พรมก็ไม่เปื้อนอะไรเลย
จูเลียน่าวางมือซ้ายทับมือขวาและพูดขึ้น “บันทึกสาเหตุที่เราต้องล้างบาปเขา และความผิดที่เขาก่อ ยื่นให้คณะไต่สวน และส่งต่อไปยังรัฐสภาแห่งขุนนาง”
“เราจะลงโทษคนบาปทั้งหลายในฐานะตัวแทนเจตจำนงของพระเจ้า เราไม่มีอะไรต้องปิดบัง”
“รับทราบขอรับ!” ผู้พิทักษ์ราตรีคนอื่นๆ ขานรับพร้อมกัน
….
ภายในหอคอยเวทมนตร์ราชสำนักโฮล์ม ลูเซียนเตือนนาตาชาก่อนจบการสนทนา “ระวังซาร์ดไว้ให้ดี ไม่มีทางรู้เลยว่าเขากำลังจะทำอะไร”
“หากเขาถูกอิทธิพลของโลกแห่งวิญญาณครอบงำจริงๆ เหมือนกับสันตะปาปาและนักบุญของศาสนจักรฝ่ายเหนือ เขาอาจมีเป้าหมายที่จะแยกสังฆมณฑลห้าแห่งที่นี่ออกจากศาสนจักร และตั้งตัวเองเป็นสันตะปาปา…” เนื่องจากนางยังไม่รู้จุดยืนของเขา นางจึงไม่มั่นใจว่าผลจะออกมาดีหรือร้าย
ลูเซียนส่ายศีรษะ “อย่าหลับหูหลับตาเชื่อประวัติศาสตร์ ซาร์ดเล่ห์เหลี่ยมจัดกว่านั้น ศาสนจักรฝ่ายใต้ไม่อาจยอมให้มีการแบ่งแยกอีกต่อไป แล้วเขาก็เพิ่งอยู่ในตำแหน่งนี้เพียงสองเดือน ข้าเกรงว่าเขายังไม่ชนะใจพระคาร์ดินัลในเขตโฮล์มเลย แล้วเขาจะแบ่งแยกการปกครองอย่างไรล่ะ? นี่ยังไม่พูดถึงสังฆมณฑลอื่นที่มีพระคาร์ดินัลชั้นนักบุญคุ้มครอง อย่าหลงกลกับพฤติกรรมที่ผ่านมาของเขา”
นาตาชาพูดเสียงอ่อนโยน “สรุปแล้ว เขาจะสืบหาเป้าหมายของเขา เจ้าเองก็ระวังตัวด้วยเหมือนกัน เพราะเจ้าเป็นคนที่จัดการง่ายที่สุดในกลุ่มผู้เชี่ยวชาญระดับสูงในบัญชีกวาดล้าง”
“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นเลย ข้ามีแหวนคอนกัสอยู่ในมือ” ลูเซียนก้มลงมองแหวนเหล็กในมือซ้าย
เพราะมือซ้ายของเขาไม่อาจใช้พลังเหนือธรรมชาติ ลูเซียนจึงย้ายแหวนมงกุฎแห่งโฮล์มไปใส่มือขวา และใส่สวมแหวนชั้นตำนานที่ไม่ได้ผลกระทบจากพลังของอัลเทอร์นาไว้ที่มือซ้าย
“ใช่สิ ใครๆ ก็รู้ว่าเจ้ามีของดีชั้นตำนานติดตัว!” นาตาชาแกล้งทำเป็นอิจฉา “หลังจากข้าจบปัญหาในใจและพัฒนาขึ้นเป็นระดับแปอดแล้ว ข้าก็จะมีเหมือนกันแหละ! ข้าจะเอาโล่แห่งสัจธรรมมาด้วย ถึงตอนั้น ข้าจะมีทั้งพลังป้องกันและโจมตีแข็งแรงที่สุด ฮ่าๆ!”
นางไม่อยากให้ลูเซียนจบการสนทนาอย่างไม่เป็นสุข นางจึงหยอกล้อเขาเล่น
…
เมื่อถึงเวลารุ่งสาง ดยุกเร็กซ์ ประธานรัฐสภาแห่งขุนนาง ก็บินไปยังคริสตจักรอาภาด้วยสีหน้าไม่สู้ดี
“ท่านนักบุญซาร์ด ข้าต้องการคำอธิบาย ทำไมผู้พิทักษ์ราตรีถึงกำจัดบารอนและอัศวินข้าหลวงโดยไม่มีพระราชาอนุญาตจากฝ่าบาทและการอนุมัติจากรัฐสภาขุนนาง?” เร็กซ์พูดกับซาร์ดในห้องสมุดด้วยความเกรี้ยวกราด “อยากทำให้ขุนนางผิดหวังอย่างนั้นหรือ แล้วพวกเขาจะไว้ใจและช่วยเหลือศาสนจักรต่อไปได้อย่างไร?”
ซาร์ดตอบด้วยท่าทีสงบ “ข้าก็เพิ่งรู้เรื่องนี้ ข้าจะให้คณะไต่สวนจัดการกับผู้พิทักษ์ราตรีไม่กี่คนนั้นเอง เรื่องนี้จะมีคำอธิบาย เร็กซ์ ท่านคงรู้ดีว่ามีกลุ่มหัวรุนแรงอยู่ในกองผู้พิทักษ์ราตรี ท่านคงไม่ปล่อยให้มิตรภาพระหว่างขุนนางและศาสนจักรพังทลายเพราะหมาบ้าเพียงไม่กี่ตัวหรอกใช่ไหม?”
เร็กซ์พอใจกับท่าทีของซาร์ด “ถ้าเป็นการลงมือส่วนตัวของผู้พิทักษ์ราตรีไม่กี่คน และพวกเขาถูกลงโทษอย่างสาสม ข้ามั่นใจว่าจะทำให้ขุนนางที่ศรัทธาในศาสนจักรสงบลงได้ แต่ยากที่จะบอกท่าทีของขุนนางที่ฝักใฝ่สภาเวทมนตร์ได้ แล้วองค์ราชินีก็จะปฏิเสธศาสนจักรกับเรา หากพระองค์ต้องมาเจอปัญหาแบบนี้ตอนที่เพิ่งขึ้นครองบัลลังก์ ข้าหวังว่าท่านนักบุญซาร์ดจะดูแลให้ศาสนจักรจัดการกับพวกหัวรุนแรงคนอื่นๆ ได้เป็นอย่างดี”
“ข้าจะทำให้สังฆมณฑลโฮล์มอยู่ในกำมือภายในสองปี ระหว่างนี้ ข้าหวังว่าพวกขุนนางจะเอาใจใส่ในสิ่งที่พูดและทำ และแจ้งข้าทันทีหากถูกพวกหัวรุนแรงของศาสนจักรตามรังควาน” ซาร์ดตอบอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย “เอาล่ะ เขียนรายงานปฏิกิริยาของขุนนางต่อเรื่องนี้มา ข้าจะส่งรายงานถึงพระสันตะปาปา ถึงอยางนั้น พวกหัวรุนแรงก็เป็นผู้พิทักษ์ราตรีที่มีเคร่งศาสนา และพระองค์ต้องมีพระบัญชาอนุญาตก่อนที่พวกเขาจะถูกลงโทษ”
เร็กซ์พยักหน้า “เอาล่ะ ข้าจะให้คนเขียนรายงานให้ ตอนนี้ ข้าต้องไปที่ปราสาทเนคโซและอธิบายเรื่องนี้กับองค์ราชินีต่อหน้าพระพักตร์ ฝ่าบาทเองก็กริ้วกับเรื่องนี้มาก”
ขณะมองดูเร็กซ์จากไป ซาร์ดก็หยิบกระดาษบนโต๊ะขึ้นมา ซึ่งเป็นรายชื่อผู้พิทักษ์ราตรีนิสัยอันธพาลสองสามคน
เขาอ่านรายชื่อเหล่านั้นด้วยรอยยิ้ม ซาร์ดใช้นิ้วหัวแม่มือลูบไปบนรายชื่อ แล้วชื่อของจูเลียน่าก็หายไปในทันที แล้วเขาก็หยิบปากกาขนนกขึ้นมาเขียน “… เนื่องจากการกดขี่อันยาวนานของสภาเวทมนตร์และคดีแสงศักดิ์สิทธิ์ที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง กลุ่มหัวรุนแรงหลายคนจึงปรากฏตัวในคณะบาทหลวงและผู้พิทักษ์ราตรีในสังฆมณฑลโฮล์ม บางคนเชื่อว่าต้องกำจัดผู้ลบหลู่ศาสนาภายในเขตของเราเพื่อร่วมมือกันต่อต้านสภาเวทมนตร์ บางคนก็มีแนวคิดคล้ายๆ กัน พวกเขาเชื่อว่าศาสนจักรอ่อนแอนเกินไป และพวกขุนนางก็โอหังเกินไป มีเพียงวิธีการรุนแรงเท่านั้นที่พวกเขาจะสามารถปลุกผู้ที่เฉยชาอยู่ได้”
“ขณะที่คนอื่นๆ สงสัยถึงความจำเป็นในการต่อต้านสภาเวทมนตร์ และเชื่อว่าสามารถอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขได้ หากเราหาทางประนีประนอมกัน”
“เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดจากน้ำมือของกลุ่มที่ต้องการใช้ความรุนแรง ข้ายอมรับว่าการปกครองสังฆมณฑทลของข้ายังไม่ดีพอ ข้าใคร่ขอให้สมเด็จพระสันตะปาปาส่งอดีตผู้ช่วยของข้า วีล่า อะเมลตัน และคนอื่นๆ มาจากสังฆมณฑลไวโอเล็ต เพื่อช่วยกระหม่อม เพื่อให้กระหม่อมสามารถแก้ปัญหาและควบคุมกลุ่มหัวรุนแรง และป้องกันไม่ให้ขนุนางถูกผลักให้ไปเข้ากับสภาเวทมนตร์อีกต่อไป”
“สำหรับบทลงโทษ ข้าเชื่อว่าอ็อกเทฟ พระคาร์ดินัลผู้รับผิดชอบคณะไต่สวนของสังฆมณฑล ต้องรับผิดชอบเรื่องทั้งหมด พระคาร์ดินัลอะเมลตันจะรับตำแหน่งแทนเขา อย่างไรก็ตาม สืบเนื่องจากความซับซ้อนในสังฆมณฑลนี้ เขาจะยังมีตำแหน่งที่นี่…”
…
เมื่ออ่านรายงานของผู้พิทักษ์ราตรีและฟังข้อแก้ต่างของเร็กซ์ นาตาชาก็ไร้ความรู้สึก
จนกระทั่งเขาพูดถึงการตัดสินใจของศาสนจักรที่นาตาชาพยักหน้าและพูดขึ้น “พวกบ้าหัวรุนแรงมีอยู่ทุกที่ พวกเขาไม่อาจทำลายความสัมพันธ์ระหว่างขุนนางกับศาสนจักรลงได้ ข้าเชื่อว่าขุนนางส่วนใหญ่จะยอมรับได้ ตราบใดที่ศาสนจักรแสดงความจริงใจออกมา”
เร็กซ์โล่งอก เป็นไปตามคาดจริงๆ ที่ราชินีจากเมืองแห่งเพลงสวดย่อมเอนเอียงเข้าข้างศาสนจักร “ทรงพระปรีชามาก พะยะค่ะ”
ขณะเข้ากำลังจะออกไป จู่ๆ นาตาชาก็ถามขึ้น “จากรายงานของผู้พิทักษ์ราตรี บารอนออสตินกำลังฟังรายการ ‘เสียงแห่งอาร์คานา’ อยู่ขณะโดนจับกุมและประหารชีวิต และสถานีวิทยุก็กำลังเล่นเนื้อหาที่บอกเป็นนัยว่าท่านดยุกเร็กซ์ลอบสังหารท่านลุงแพทริก ท่านคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้?”
“ไม่ต้องสงสัยเลยพะยะค่ะว่านั่นเป็นคำใส่ร้ายของสภาเวทมนตร์ที่พยายามทำให้ฝ่าบาทกับศาสนจักรบาดหมางกัน! พวกนั้นไม่มีหลักฐานด้วยซ้ำ รายการนั่นก็พูดไปเรื่อย” เร็กซ์แก้ต่างให้ตัวเองด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
นาตาชาเลิกคิ้วขึ้น “เจ้าฟังรายการนั้นด้วยรึ?”
“เจ้าหน้าที่ข่าวกรองฟังและรายงานเนื้อหาให้กระหม่อมพะยะค่ะ” เร็กซ์อธิบาย
นาตาชาพยักหน้าและไม่ได้กดกันถามต่อ “คราวหน้าส่งข่าวกรองให้ข้าเร็วกว่านี้”
หลังจากเร็กซ์รู้ตัวว่าพูดผิดไป เขาจึงรีบแก้ตัว “เพราะฝ่าบาทมีภารกิจมากายเต็มไปหมดในช่วงนี้พะยะค่ะ กระหม่อมจึงตรวจสอบข่าวกรองก่อนและถวายเฉพาะข้อมูลที่สำคัญ ตั้งแต่นี้ไป ข่าวกรองจะถวายต่อฝ่าบาทโดยตรงพะยะค่ะ”
“เอาล่ะ ข้าใจความปรารถนาดีของเจ้า เจ้าออกไปได้แล้ว” นาตาชาขอให้เร็กซ์ออกไปด้วยท่าทางสบายๆ เหมือนก่อนหน้านี้
จนกระทั่งเร็กซ์ออกจากนอกเขตปราสาท นาตาชาจึงมีสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมาทันที
ลูเซียนขึ้นลิฟต์มาถึงชั้นที่สามสิบสามของหอคอยเวทมนตร์อัลลิน และเข้าไปยัง ‘นรกสายฟ้า’ มิติพิเศษของเฟอร์นันโด ผ่านประตูมิติไปยังมิติดินแดนใหม่ในห้องสมุด
ผมของเฟอร์นันโดยุ่งเหยิงเล็กน้อย ดูเหมือนการศึกษาวิศวกรรมผันกลับของฟิวชันและฟิชชันจะยากกว่าที่ลูเซียนคิดไว้ เมื่อยังขาดความรู้และการค้นพบอีกหลายเรื่อง
“มาได้เวลาพอดี อธิบายความรู้สึกตอนเจ้าใช้ ‘เปลวไฟนิรันดร์’ อีกทีสิ” เฟอร์นันโดใช้ดวงตาสีแดงก่ำจ้องลูเซียน แล้วหน้าของเขาก็ดูค่อนข้างสับสน “เจ้ามีบทความใหม่อีกแล้วรึ?”
ลูเซียนถือกองเอกสารอยู่เต็มมือ