Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา - บทที่ 58 นี่คือโชคชะตา
นี่เป็นครั้งแรกที่ลูเซียนผู้ขี้อายและค่อนข้างเก็บที่จะตัวแสดงอารมณ์ของเขาผ่านดนตรีออกมาได้สมบูรณ์แบบ ความมุ่งมั่นและความเชื่อมั่นของลูเซียนได้แสดงผลอย่างเต็มรูปแบบผ่านการเล่นของเขา
แม้ว่าลูเซียนจะยังไม่ชำนาญมากนัก แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อผู้ชมในห้อง ทั้งเฟลิเซีย ล็อตต์ เฮโรโดตัส ไรน์ และแน่นอน วิกเตอร์ก็ด้วย ทุกคนรู้สึกว่าลูเซียนต้องการที่จะบอกอะไรกับพวกเขาแม้ว่าพวกเขาจะเข้าใจต่างกันก็ตาม
เฟลิเซียซึ่งเป็นผู้หญิงคนเดียวที่กำลังจับมือและบิดนิ้วมือของตัวเอง เพราะพ่อของเธอไม่ได้สืบทอดตำแหน่งต่อจากครอบครัวดังนั้นเธอจึงเกือบจะทิ้งความฝันทางดนตรีและแต่งงานกับขุนนางซักคน เธอมักสงสัยในตัวเองและถามกับตัวเองว่าเธอสามารถทำให้ความฝันของเธอเป็นจริงได้หรือไม่ถ้าเธอเลือกได้ถูกต้อง
เมื่อได้ยินการเล่นของลูเซียนที่ทุ่มเทอย่างเต็มที่ความกังวลทั้งหมดก็อยู่ภายในใจของเธอ
“ข้าสามารถเอาชนะความยากลำบากทั้งหมดและกลายเป็นนักดนตรีหญิงได้หรือไม่?”
“ข้าจะได้รับการเคารพจากการประสบความสำเร็จด้วยตัวเองและสามารถเลือกความรักของตัวเองได้หรือไม่”
เธอไม่รู้ เพลงทำให้เธอตื่นเต้น
ล็อตต์และเฮโรโดตัสก็มีแรงกดดันจากภายในครอบครัวเช่นกัน และชะตากรรมของพวกเขาก็ถูกกำหนดให้พวกเขาไม่สามารถสืบทอดตำแหน่งจากครอบครัวได้ พวกเขาควรจะดื่มด่ำกับไวน์และผู้หญิงอย่างไร้ความหวังหรือทำอะไรที่ยิ่งใหญ่กว่าเช่นกลายเป็นนักดนตรีที่ยอดเยี่ยม
มือของล็อตสั่น เพลงนี้ทำให้เขานึกถึงลูกพี่ลูกน้องของเขาเม็กเคนซี
เฮโรโดตัสถอยออกมาไม่กี่ก้าว เขาอ่อนแอเสมอในครอบครัว
แม้แต่ไรน์ก็รู้สึกอะไรบางอย่าง ใบหน้าที่เคยสงบนิ่งของเขาตอนนี้เปล่งปลั่งด้วยความตื่นเต้น เขารู้สึกกระตือรือร้นหลังจากที่ไม่มีเพลงใดทำได้มานานมันเป็นความรู้สึกที่หายไปนานมาก
วิกเตอร์เป็นคนที่รู้สึกตื่นเต้นที่สุดในบรรดาพวกเขาทั้งหมด มือของเขากำแน่นหน้าของเขาบิดเบี้ยวเล็กน้อยและร่างกายของเขาก็สั่น เพลงนี้ทำให้เขานึกถึงหลายสิ่งหลายอย่างในอดีตของเขา ทั้งการแสดงครั้งแรกของเขาที่ล้มเหลว กำลังใจจากภรรยาของเขา การทำงานอย่างหนักของเขาและการแสดงที่ประสบความสำเร็จของเขาในครั้งที่สอง เขาคิดถึงความเศร้าโศกที่ยิ่งใหญ่ของเขาเมื่อภรรยาของเขาจากไปและช่วงเวลาที่ยากลำบากของเขาที่วูล์ฟและโอเทลโล่มอบให้เขา …
โน้ตเพลงเป็นเหมือนลูกศรที่คมกริบแทงทะลุเขาสู่หัวใจของเขา
วิกเตอร์รับรู้ถึงความเพียรและความแข็งแกร่งในนั้น
“ข้าล้มเหลวหลายครั้งและข้ากลับมายื่นขึ้นเหมือนเดิมอีกครั้ง”
“แล้วทำไมครั้งนี้ถึงยอมแพ้”
“วินนี่ เจ้ากำลังให้กำลังใจข้าหรือเปล่า”
ลูเซียนเริ่มเหนื่อย เขารู้ว่าเป็นเพราะอาการบาดเจ็บที่เขาได้รับ แต่เขาไม่สามารถหยุดเล่นได้ ในฐานะนักดนตรีหรือเป็นเพียงแค่ลูกศิษย์ในตอนนี้มันเป็นความรับผิดชอบของเขาที่จะเล่นให้จบ
“ข้าจะทำให้ท่านวิกเตอร์รู้สึก!” เขาคิดกับตัวเอง
ผู้ชมของเขาสามารถบอกได้ว่าเขากำลังหมดแรงและค่อนข้างกังวล การเล่นของลูเซียนนั้นเหมือนกับการเดินไต่เชือก แต่มันก็หยุดไม่ได้
ลูเซียนอาศัยโอกาสที่จะได้พักผ่านจังหวะที่ค่อนข้างนุ่มนวลและช้าในตอนท้ายของช่วงแรก และจากนั้นจังหวะที่รุนแรงก็กลับมาอีกครั้งซึ่งก็เหมือนกับการต่อสู้อันยาวนาน
การเล่นช่วงที่สองนั้นผ่อนคลายมากขึ้นเหมือนแสงอาทิตย์ที่ขับไล่เมฆอันมืดมิด เหมือนคลื่นที่โหมกระหน่ำในมหาสมุทรได้สงบลง เหมือนทหารที่จะกลับไปที่ค่ายของพวกเขาเพื่อพักผ่อน
การเล่นช่วงที่สามและสี่เป็นการผสมผสานซึ่งกันและกัน และเพลงก็เริ่มกดดันและครอบงำอีกครั้ง
แสงอาทิตย์หายไปและเมฆดำกลับมาอีกครั้ง มหาสมุทรที่เงียบสงบเหมือนจะสร้างคลื่นที่ใหญ่กว่าอย่างเงียบงัน ทหารหยิบอาวุธขึ้นมาและมุ่งหน้าไปยังสนามรบ
การต่อสู้ครั้งสุดท้ายอันยิ่งใหญ่ที่สุดกำลังจะเกิดขึ้น
ความรู้สึกวิตกกังวล ความกังวลและความกลัวค่อยๆ เพิ่มขึ้นไปพร้อมกับห่วงทำนองของดนตรี
ในที่สุดพายุก็สาดซัดเหนือเรือประมงเหนือคลื่นที่โหมกระหน่ำและในวินาทีต่อมาก็ตกลงมาอย่างรุนแรง เมื่อต้องเผชิญกับพลังแห่งธรรมชาติเรือลำเล็กก็ดูไร้หนทางและอ่อนแอ ในสนามรบรอบสุดท้ายกำลังจะตัดสินชะตากรรมของทหารไม่ว่าจะต่อสู้หรือถูกฆ่าแต่พวกเขายังคงกล้าหาญ
เรือประมงไม่ได้ยอมจำนนกับคลื่นที่รุนแรงและทหารกำลังขับไล่ศัตรู
ในช่วงสุดท้ายของเพลงเริ่มอ่อนโยน นุ่มนวลอีกครั้งและฟังดูเศร้าเล็กน้อยราวกับว่าทหารกำลังคร่ำครวญถึงสหายที่เสียชีวิตในสนามรบราวกับว่าลูกเรือได้หายไปกับกระแสคลื่น
ชั่วโมงที่มืดมนที่สุดก่อนรุ่งสางกำลังจะมา ผู้ชมรู้สึกตื่นเต้นอีกครั้ง
พวกเขากำลังรออะไรอยู่? ความล้มเหลวหรือชัยชนะ
พวกเขาจะเอาชนะความยากลำบากหรือจะเอาชนะพวกเขาได้อย่างสมบูรณ์
ในที่สุดพวกเขาก็คว้าคอของโชคชะตาใช่หรือไม่?
หรือพวกเขายอมจำนนต่อโชคชะตา?
ทันใดนั้นห่วงทำนองที่น่าตื่นเต้นและยอดเยี่ยมที่สุดก็มาถึงและดึงดูดหัวใจผู้ชมก็จู่โจมโดยตรง นั่นคือห่วงทำนองแห่งชัยชนะอันยิ่งใหญ่!
วิกเตอร์ไม่สามารถหยุดยั้งตัวเองจากการยกแขนขึ้นได้ เขาต้องการที่จะให้กำลังใจดวงอาทิตย์ให้ขับไล่เมฆที่มืดมิดออกไป เขาต้องการที่จะให้กำลังใจชาวประมงที่รอดชีวิตบนเรือประมง เขาต้องการที่จะให้กำลังใจเหล่าทหารให้ปกป้องดินแดนของพวกเขาได้สำเร็จ!
ผู้ชมที่เหลือรู้สึกดีใจและตื่นเต้นราวกับว่าพวกเขามีศรัทธา มีความมั่นใจและพลังในการต่อสู้กับความเจ็บปวดของตัวเอง
ไรน์ที่ดูสงบนิ่งกว่าคนอื่นๆ ก็ยิ้มเช่นกัน
ลูเซียนขยับมือของเขาออกจากแป้นคีย์และต้องการที่จะยืนขึ้น แต่เขาอ่อนแอมากเกินไป การเล่นเพลงใช้พลังและเรี่ยวแรงทั้งหมดของเขา
“นี่คือ…” วิกเตอร์พึมพำราวกับว่าเขากำลังถามลูเซียนหรือตัวเอง
ไรน์ ล็อตต์ เฟลิเซียและเฮโรโดตัสทุกคนมองลูเซียนเพื่อรอคำตอบของเขา
“นี่คือชะตากรรม” ลูเซียนพยายามอย่างหนักเพื่อยืนขึ้นและตอบออกมา
ไรน์เป็นคนแรกที่ปรบมือจากนั้นตามด้วยลูกศิษย์คนอื่นๆ วิกเตอร์ยังร่วมปรบมือกับพวกเขาอย่างหนัก
“นี่คือดนตรี ดนตรีที่แท้จริง!” วิกเตอร์เดินเข้ามาใกล้ลูเซียนและแสดงความคิดเห็น
ลูเซียนยิ้มและเขาพูดอย่างจริงใจว่า “ขอบคุณท่านวิกเตอร์ ตอนนี้ท่านชอบองค์ประกอบของมัน ข้าสงสัยว่าข้าจะได้รับเกียรติจากการที่ท่านจะช่วยแก้ไขให้ดีขึ้น เราสามารถบอกท่านโอเทลโล่และฝ่าบาทของเขาว่าเราต้องการเปลี่ยนรายชื่อเพลง ข้าแน่ใจว่าพวกเขาจะเห็นด้วยและท่านจะพบว่ามันเป็นผลงานที่ดีสำหรับการแสดงของท่านวิกเตอร์”
ความตั้งใจของลูเซียนเป็นที่ชัดเจนกับทุกคนในห้องนี้ว่าเขาต้องการมอบผลงานนี้ให้กับวิกเตอร์และเขาก็ยินดีที่จะให้เกียรติและชื่อเสียงที่เขาสมควรจะได้รับ พวกเขาหันไปมองวิกเตอร์อย่างตื่นเต้นและรอคอยการตอบสนองของเขา
บนใบหน้าของวิกเตอร์เป็นส่วนผสมของอารมณ์ความปิติยินดี การปลดปล่อย ความตื่นเต้น ความโลภและความลังเลแผ่ขยายไปทั่วใบหน้าของเขา พลันเกิดการต่อสู้ภายในจิตใจเขา
“ท่านสามารถใส่ชื่อของข้าในรายชื่อที่สองถ้าท่านต้องการ ข้าไม่สามารถขัดเกลามันได้สมบูรณ์แบบและงานของท่านจะเป็นสิ่งสำคัญมาก” ลูเซียนพยายามทำให้อาจารย์รู้สึกผิดน้อยลงกับการเอาผลงานของลูกศิษย์
หลังจากนั้นไม่นานวิกเตอร์ก็ถอนหายใจยาวและรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา และเขาก็หันไปหาลูเซียน “ไม่ ข้าจะไม่ทำ มันเป็นของเจ้า นี่คือผลงานชิ้นเอกของเจ้า ข้าจะเห็นชื่อของเจ้าถูกบันทึกลงในประวัติศาสตร์ทางดนตรี แล้วนอกเหนือจากพระเจ้าและวินนี่ผู้ซึ่งสนับสนุนข้า ข้าก็มีจริยธรรมของข้า นั่นคือสิ่งที่วินนี่ชื่นชอบมากที่สุด”
นี่คือวิกเตอร์อาจารย์สอนดนตรีของเขา ลูเซียนรู้สึกได้ถึงน้ำตาในดวงตาของเขา
……………………………………….