Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา - บทที่ 685 ศรธนูแห่งธรรมชาต
โลกสีขาวดำสลายไป แต่ท้องฟ้ายังคงมืดสนิท ปีศาจที่ถูกดวงตาเจ้าชายปีศาจมองต่างเกิดอาการวิกลจริตอย่างควบคุมไม่ได้ พวกมันเห่าหอนราวกับสัตว์ร้ายป่าเถื่อน
ผืนดินสีแดงสดยังคงถล่ม เลือดพวยพุ่งออกมากเป็นสายน้ำใต้ดินที่ไหลเชี่ยว หนวดปลาหมึกจากความมืดที่นำพาความเสื่อมโทรมและความน่าเปื่อยกลับมามีชีวิต ยืดตัวมาทางลูเซียน มัลฟิวเรียน และแท่นบูชาจากทุกทิศทาง
มือยักษ์ยักษ์ที่มีเกล็ดสีดำและขนน่าขยะแขยงคว้าเอารูปปั้นอันเลือนลางของเฟอร์รากอนด์ที่อยู่ภายในของเหลวกัดกร่อนที่บิดเบี้ยวไปมา
ทุกอย่างฟื้นตัวจากสภาวะหยุดเวลาที่เกิดจาก ‘เวทหยุดเวลาขั้นสูง’
“คทาอวกาศ!”
เสี้ยววินาทีที่มือยักษ์ของเจ้าชายปีศาจกำลังจะคว้ารูปปั้น ลูเซียนก็ร่ายเวทด้วยเสียงที่ไม่อาจสื่อความหมายใดๆ คลื่นแสงรวมกันกลายเป็นคทาเรืองแสง
คทาถูกชี้ออกไป คลื่นเลือนลางก็พุ่งขึ้นมากั้นกลางระหว่างมือยักษ์กับรูปปั้นสีดำนั้น เพียงชั่วอึดใจ แสงนั้นก็รวมตัวกันเข้ากับมิติโลกจำนวนนับไม่ถ้วน…
หลังจากลูเซียนขึ้นสู่ชั้นตำนานระดับสาม พลังของ ‘คทาอวกาศ’ ก็เพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุด ความแปรผันของกาลและอวกาศไม่ใช่เพียงการเร่งและชะลอเวลา และการรวมอวกาศเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการใช้เวทที่มีความซับซ้อนอย่างยิ่ง เหมือนกับพลังที่ลอกเลียน ‘พลังพระเจ้าคุ้มครอง’ แน่นอนว่าพลังการแยกโลกยังขาดความรู้สึกเหนือธรรมชาติที่จับต้องไม่ได้ ซึ่งมีอยู่ในพลังพระเจ้าคุ้มครองและโล่แห่งสัจธรรม
มือยักษ์ของเจ้าชายปีศาจห่างจากรูปปั้นสีดำเพียงหนึ่งเมตร แต่มันไปต่ออีกไม่ได้ คลื่นพลังนั้นสร้างอวกาศที่ทับซ้อนกันมากมาย จึงเป็นไปไม่ได้ที่มือนั้นจะเข้าถึงเป้าหมายโดยไม่ผ่านโลกต่างๆ ที่กั้นอยู่ระหว่างกลาง!
เมื่อเห็นสถานการณ์เปลี่ยนไป นาตาชาก็พยายามลงดาบทำลายรูปปั้นสีดำตามที่ตั้งใจไว้แต่แรก ช่องว่างมิติที่น่าขนลุกดูเหมือนจะตัดทุกอย่าง ทำลายและกำราบมวลอากาศสีดำที่ผุดขึ้นจากสุญญากาศไม่หยุด
หัวบาบูนบนท้องฟ้าอ้าปากแสดงความเกรี้ยวกราด ภายในปากของมัน มีเขี้ยวสี่เขี้ยวสะท้อนแสงอยู่
“หู้วววว!”
จู่ๆ เจ้าชายปีศาจก็ร้องออกมาราวกับสัตว์ป่า!
คำที่ที่เขาร้องออกมาดูไร้ความหมาย แต่อากาศแสนชั่วร้ายและโกลาหลกำลังเดือดปุดๆ ในความมืดและห้วงอากาศต่างๆ ภายในสุญญากาศที่มองเห็นได้ชัด ทั้งมิติทะเลเดือด ดินแดนโครงกระดูก ปราสาทแห่งความหลอกลวง บึงวิญญาณ ท้องอเวจี ป่าทมิฬ และมิติพิเศษปีศาขออื่นๆ ก็ปรากฏขึ้นมา
ภาษาถิ่นแห่งความมืด? ลูเซียนแทบไม่มีเวลาคิด หัวสมองของเขากำลังว้าวุ่นราวกับวิญาณและกะโหลกของเขาถูกทุบด้วยค้อนขนาดใหญ่อย่างรุนแรง ความรู้สึกลบและความกระหายเลือดของเขาทะลักออกมา พลังเวทที่เขาร่ายใส่ตัวเอง อย่าง ‘เวทปราการเวทมนตร์’ แตกสลายทีละบทๆ กำแพงอวกาศที่สร้างขึ้นจากคทาอวกาศก็ถูกความมืดเข้าครอบงำ
“เวทมนตร์พลิกผัน!”
ในจังหวะที่พลังเวทมนตร์หน่วงเวลาเสียงเห่าหอนของเจ้าชายแห่งปีศาจ ลูเซียนคว้าโอกาสนี้ร่ายเวทมนตร์ กระจกใสลักษณะโบราณเป็นปริศนารวมตัวกัน มันไม่ได้พร่ามัวเหมือนกระจกแห่งชะตา แต่ดูเหมือนจะเชื่อมโลกที่ต่างกัน เพล้ง เพล้ง เพล้ง กระจกสะท้อนที่เวทมนตร์พลิกผันสร้างขึ้นแตกละเอียดน่าขนลุก เนื่องจากภาษาถิ่นแห่งความมืดไม่ใช่เวทที่จ้องเล่นงานตัวบุคคล มันไม่ได้ปัดป้อง เพียงแต่ทำให้อ่อนกำลังลง ช่วยให้ลูเซียนไม่ตกอยู่ในภาวะวิกฤต
ภาษาถิ่นแห่งความมืดไม่ใช่ภาษาแห่งอเวจีหรือนรก แต่เป็นเวทชั้นตำนานที่สะท้อนสภาวะของอเวจีหรือนรก มีเพียงเจตจำนงแห่งอเวจี เจ้าแห่งนรก เจ้าชายปีศาจ และเจ้าแห่งนรกระดับหนึ่งเท่านั้นที่สามารถใช้ได้ ‘เวทกีดกันชีวิต’ ของเจ้าแห่งนรกเป็นเวทที่ปรับเปลี่ยนมาจากภาษาถิ่นแห่งความมืด
“หู้วววว!”
เมื่อเจ้าชายปีศาจร่ายเวท ‘ภาษาถิ่นแห่งความมืด’ แสงสีเงินที่เชื่อมโยงนาตาชากับดาบแห่งสัจธรรมก็ขุ่นมัวและมอดลง ขณะที่นางเองก็กำลังหวาดกลัว แล้วคลื่นพลังก็แผ่กระจายออกช้าๆ อำนาจจิตของนางแข็งแกร่งพอที่นางจะใช้โล่แห่งสัจธรรม!
โลกระหว่างมือยักษ์และรูปปั้นหยุดนิ่ง ไม่มีสุญญากาศและคาดเดาไม่ได้อีกต่อไป!
มัลฟิวเรียนกำลังจะใช้พลังแปลงกายของดรูอิด และแปลงเป็นยักษ์ศิลาที่น่าเกรงขาม หวังทำงานแท่นบูชา แต่เขาก็ต้องตกตะลึงกับ ‘เวทภาษาถิ่นแห่งความมืด’ ดังนั้น พลังธรรมชาติของเขาจึงชะงัก และเกิดอาการมึนหัว เขาทำได้เพียงดึงคทาสีเขียวที่ขังราชันย์โลหิตไว้กลับมาป้องกันตัว
กิ่งก้านและใบไม้บนเนื้อตัวของมันสลายไป เจ้าหัวสุนัขและเจ้าหัวแพะหน้าคนต่างเห่าหอนอย่างเกรี้ยวกราดและกึกก้องไปพร้อมกับเจ้าชายปีศาจ
ขนบนมือยักษ์ของเจ้าชายปีศาจตั้งตรง ปลดปล่อยอากาศอันชั่วร้ายและโกลาหลออกมาจากของเหลวสีดำที่มีฤทธิ์กัดกร่อน ทันใดนั้นมันก็กุมโลกมายาก่อนที่มันจะแข็งตัวเป็นอำพัน
เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ รอยแตกเกิดขึ้นบนโลกมายา กระจายไปทั่ว และร่วงลงเป็นชิ้นๆ
มือยักษ์พุ่งทะลุมิติโลกเข้ามาและคว้าเอารูปปั้นเฟอร์รากอนด์!
ภายในอเวจี เจ้าชายปีศาจจะแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ถ้าอยู่ในมิติพิเศษของตัวเอง จะแข็งแกร่งเทียบเท่ากับมนุษย์ครึ่งเทพ เหมือนกับสันตะปาปาของศาสนจักรฝ่ายเหนือ หลังจากใช้พลัง ‘พระเจ้าคุ้มครอง’
อย่างไรก็ตาม ลูเซียนไม่ได้วิตกหรือพรั่นพรึง เพราะเจ้าชายแห่งปีศาจดูเหมือนจะสนใจเฉพาะรูปปั้น และปลุกพิธีกรรมบนแท่นบูชา มันไม่ได้ปกป้องอวกาศหรือสนใจเขา นาตาชา และมัลฟิวเรียนมากนัก ถ้าพวกเขาคิดหนี ก็หนีได้ทันที แม้ถ้าเจ้าชายปีศาจจะโจมตีพวกเขาด้วยกำลังทั้งหมด เขาก็ยังมั่นใจว่าจะสามารถหนีรอดได้ เมื่ออยู่ในเนินสูงสการ์เล็ต
จากความมืด หางยาวเหยียดโผล่พรวดขึ้นพุ่งใส่ลูเซียน ปลายแหลมของมันเต็มไปด้วยมวลอากาศลบสีดำ ดูเหมือนมพวกมันสามารถทำให้ศัตรูอ่อนกำลังลงเหมือนรังสีบ่อนทำลายหรือดาบแห่งความมืด
มันเป็นรูปแบบการโจมตีหลักๆ ของเจ้าชายปีศาจ!
เปรี๊ยะ หลังจากเสียงแตกหัก หางที่ห่อหุ้มด้วยเกล็ดสีดำก็พุ่งทะลุกระจกอาคมสะท้อนกลับตรงหน้าลูเซียน กระจกแตกไม่เหลือชิ้นดี แต่หางถูกซัดกลับไปที่หัวบาบูนบนท้องฟ้า
“ธรรมชาติพิโรธ!” มัลฟิวเรียนเผชิญหน้ากับราชันย์โลหิตที่กระโจนใส่เขา
ตอนนั้นเอง มือยักษ์ของเจ้าชายปีศาจก็เอื้อมถึงรูปปั้นเฟอร์รากอนด์
“สร้างสุญญากาศด้วย ‘ปราการวายุ’ ก่อน แล้วค่อยทำลายรูปปั้น รวมถึงร่างของเจ้าชายปีศาจด้วย ‘ปืนใหญ่โพซิตรอน’…” ลูเซียนคิดอย่างสุขุม เตรียมตัวโจมตีเจ้าชายปีศาจอย่างเหี้ยมเกรียม ก่อนที่มันจะหันมาสนใจเขากับนาตาชา แม้การโจมตีครั้งนี้ไม่อาจสังหารศัตรู แต่ศัตรูก็ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้
ทันใดนั้น หัวใจธรรมชาติบนแท่นบูชาก็เปล่งแสงทรงอำนาจยิ่งขึ้น ทำให้อวกาศโดยรอบพร่ามัวและแสดงให้เห็นโลกธรรมชาติอันสอดคล้องกัน ซึ่งมีแสดงถึงการเกิด การเจริญเติบโต ความอุดมสมบูรณ์ ความเสื่อมโทรม การตาย และการเกิดใหม่
แล้วโลกก็หลอมรวมเข้าไปในอากาศของหัวใจธรรมชาติ กลายเป็นสายฟ้าสีเขียวสว่างไสวซึ่งพุ่งทะลวงไปยังแท่นบูชาเหมือนกับศรธนู
แท่นบูชาเหี่ยวแห้งลงและล้มลง ราวกับพลังชีวิตของมันสลายไป
ศรธนูแสงที่สร้างจาก ‘หัวใจธรรมชาติ’ พุ่งออกมาช้าแต่ถึงเป้าหมายในพริบตา มันพุ่งใส่รูปปั้นสีดำและมือยักษ์ของเจ้าชายปีศาจในเสี้ยววินาที
รูปปั้นดำทะมึนแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ใบหน้ามายาของเอลฟ์ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ชั่วร้าย หลอมรวมเข้ากับแสงสีเขียวสว่างไหวและพุ่งทะลุมือยักษ์!
“อ๊ากกกกก!”
เจ้าชายปีศาจร้องอย่างทรมาน และฝนก็ตกกระหน่ำ ย่อยสลายและทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง
พุ่มไม้สีเชียวชอุ่มและมีชีวิตชีวางอกออกมาจากฝ่ามือ และต้นกล้าก็ขยายกิ่งก้านออกมาจากแขน หัวบาบูน และดวงตาของมันที่กำลังเปลี่ยนสี
ดังนั้น มันไม่อาจควบคุมจากระยะไกลได้อีกต่อไป และร่างมหึมาของมันก็ปรากฏบนท้องฟ้า
ร่างของมันยาวเรียวเหมือนกับงู แต่น่าเกลียดน่ากลัวราวกับร่างผสมผสานกับบาบูนและกอริลล่า รูปแบบปีศาจสร้างมาจากเกล็ดและขนที่เต็มไปด้วยความชั่วร้ายและความโสมม ผู้ที่ไม่มีพลังชั้นตำนานจะถูกความบ้าคลั่งที่ไม่มีวันเยียวยาเข้าเล่นงานเมื่อมองไปยังร่างนั้น!
เมื่อเผชิญการสถานการณ์ที่กลับตาลปัตร มัลฟิวเรียนรีบหรี่ตาลง
“องค์ราชินี?”
ทันใดนั้นเขาตระหนักได้ว่าสถานการณ์ซับซ้อนเกินกว่าที่เขาคิด!
นาตาชาสะพรึงกลัวจากฤทธิ์ของเวทภาษาถิ่นแห่งความมืด และแทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้ แม้แต่อำนาจจิตสู้ของนางถูกแทนที่ด้วยความคิดชั่วร้ายและความทารุณ โชคดีที่นางเป็นอัศวินที่หนักแน่นและผู้มีพลังที่มีพลังในระดับอำนาจจิตของนาง นางควบคุมร่างและต่อต้านไม่ให้โล่แห่งสัจธรรมเสียหาย
แล้วนางก็มองเจ้าชายปีศาจที่บาดเจ็บสาหัสจากหัวใจธรรมชาติจนไม่อาจขยับตัวได้
ด้วยเพลิงแผดเผาในหัวใจ อำนาจจิตต่อสู้และสัญชาตญาณของนางหลอมรวมเข้ากับดาบแห่งสัจธรรมอีกครั้ง ดาบเงินหมุนคว้างกลางอากาศและฟาดลงบนร่างของเจ้าชายปีศาจไม่ยั้ง
“อ๊ากกกกกกกกก!”
หลังจากแสงวาบของดาบ รอยแตกมายาแสนน่ากลัวก็ปรากฏ และเจ้าชายปีศาจก็ร้องครวญครางอย่างเจ็บปวดอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม เมื่อถูกหัวใจธรรมชาติเล่นงาน มันตอบโต้ได้เพียงใช้ของเหลวดำคล้ำที่ออกมาจากร่าง และไม่อาจใช้เวทภาษาถิ่นแห่งความมืด
แม้ว่านาตาชาจะมีแรงปรารถนาจะต่อสู้เต็มกำลัง นางก็ไม่ใช่นักรบที่ชะล่าใจ หลังจากลงดาบใส่เป้าหมาย นางก็ลอยลงยืนบนหัวของราชันย์โลหิต คำนวณระยะ ก่อนที่จะเล็งไปที่หัวทั้งสองและบั่นคอมันด้วยดาบ!
ชั้นตำนานระดับสูงสุดอย่างเจ้าชายปีศาจต้องตอบโต้อย่างสิ้นหวัง!
หลังจากลงดาบแล้ว นาตาชาไม่ได้มองผลดูลัพธ์ แต่กลับยกดาบแห่งสัจธรรมขึ้น
ทันใดนั้น ร่างของเจ้าชายปีศาจที่ยาวนับพันเมตรพาดบนท้องฟ้า แต่ถูกกักขังด้วยหัวใจธรรมชาติและอยู่เป็นเป้านิ่ง
“ท่านี้เหมาะมาก ข้าทนไม่ไหวแล้ว…” ลูเซียนไม่ปล่อยโอกาสหลุดมือไป หลังจากดาบของนาตาชาปะทะเป้าหมาย นางยื่นมือซ้ายออกไปและเล็งไปที่เจ้าชายปีศาจ
แล้วแว่นตาข้างเดียวของเขาก็ส่องประกาย ขณะที่เขาเล็งไปที่แผลที่ถูกดาบแห่งสัจธรรมฟาดฟันบริเวณส่วนท้องของเจ้าชายปีศาจ และร่ายเวทออกมาดังสนั่น
“เปลวไฟนิรันดร์!”
ลูเซียนตั้งใจะใช้ ‘ปืนใหญ่โปซิตรอน’ ในตอนแรก แต่ท่าทางไม่ปกติของราชินีเอลฟ์ทำให้เขาเปลี่ยนใจ
ลำแสงทรงอานุภาพระเบิดออกมา