Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา - บทที่ 699 ความร่วมมือ
พายุทอร์นาโดพัดผ่านจุดทุกอย่างที่ขวางทางให้เป็นจุล แต่อนิจจาสถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยไฟ แม็กม่า และไม่มีสิ่งใดที่ยังไม่ติดไฟ
เพราะการเปลี่ยนแปลงทางอากาศที่เกิดจากอุณหภูมิ และสถานที่ที่แตกต่างกัน ทำให้แสงแดดที่ไม่มีที่มากระจัดกระจายไปตามทิศทางที่แตกต่างกัน ส่งผลให้เกิดภาพลวงตากลางอากาศ
เจ้าแห่งเพลิงบรรพกาลที่สถิตอยู่ใจกลางทะเลเดือด กำลังเดินกลับไปกลับมาด้วยความกังวล จากความต้องการที่จะทำลายล้าง สังหารและแผดเผา เขาปรารถนาให้ศัตรูปรากฏตัวขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการและทำให้เขาพึงพอใจ
จ้าวแห่งไฟ จิตวิญญาณแห่งไฟระดับสูง และธาตุไฟขนาดยักษ์อยู่ห่างออกไปจากเขา เพราะเกรงว่าพวกเขาอาจถูกฆ่าโดยไม่เจตนา!
เทพธิดาหิมะอยู่ที่นี่เพื่อระงับความโกรธของเขา หากเป็นช่วงเวลาอื่น เจ้าแห่งเพลิงบรรพกาล ผู้เลือดร้อนราวกับเปลวเพลิงก็คงจะอัญเชิญกองทัพปีศาจของเขาออกมา และเริ่มการโจมตีตามความต้องการของเขา
เทพธิดาหิมะเป็นเจ้าผู้ครองที่ราบสูงออโรร่าชั้นที่ 328 ของอเวจี และ ‘จ้าวแห่งปีศาจ’ อีก 3 ขั้น เนื่องจากความขัดแย้งระหว่างพลังของพวกเขาทั้งคู่ นางจึงเป็นตัวซวยของเจ้าแห่งเพลิงบรรพกาล พวกเขาทั้งสองคนทำสงครามกันเองบ่อยครั้งเพื่อหวังจะกำจัดอีกฝ่าย ในห้วงอเวจี ยกเว้น ‘จักรวาลวายป่วง’ และพื้นที่พิเศษเพียงไม่กี่ชั้นที่ซ่อนอยู่ นอกนั้นชั้นอื่น ๆ ก็เชื่อมต่อถึงกัน ทำให้ไม่จำเป็นที่จะต้องผ่านพื้นที่ระหว่างนั้น
“ถ้ากอนไฮล์มไม่ขอให้ข้าอยู่ที่นี่เพื่อหยุดนักเวทบ้าๆ นั่น ข้าก็จะทำลายสัตว์ประหลาดที่เย็นชืดพวกนั้นไปแล้ว!” เจ้าแห่งเพลิงบรรพกาลถือดาบยาวที่ทำจากไฟไว้ในมือ ทุกครั้งที่เขาโบกมือจะเกิดคลื่นลาวา และไฟที่น่ากลัวขึ้น
เขารู้สึกหมดความอดทนแม้ว่าเขาจะไม่มีความอดทนเลยตั้งแต่ต้น ดังนั้นเขาจึงมองไปที่จ้าวแห่งไฟที่ซ่อนตัวอยู่ไม่ไกล “ทำไมเจ้าถึงอยู่ไกลนัก”
“เพราะเราทั้งกลัว และเคารพท่าน!” จ้าวแห่งไฟทั้งสิบสามตนที่รู้สึกไม่ดีตอบในเวลาเดียวกัน
เจ้าแห่งเพลิงบรรพกาลพอใจกับคำตอบมาก แต่แล้วเขาก็กลับมาอาละวาดอีกครั้ง “เจ้าตอบจากที่ไกล ๆ เพราะเจ้ากลัวข้า เกลียดข้า และอยากหักหลังข้า!”
จ้าวแห่งไฟตกใจกลัวมากจนเปลวไฟที่อยู่บนนั้นริบหรี่ นี้ต้องเป็นโศกนาฏกรรมอย่างแท้จริงสำหรับพวกเขาที่ต้องมาเจอกับท่าเจ้าที่ไร้เหตุผล และเจ้าอารมณ์ แต่แน่นอนว่าท่านเจ้าคนนี้ส่วนใหญ่มักจะอยู่ในอเวจี อสูรเช่นเดโมกอร์กอนแห่งความมืด และเจ้าแห่งความตาย (เจ้าแห่งเจตภูติ) พี่ไม่สั่งหารผู้ใต้บังคับบัญชาสุ่มสี่สุ่มห้านั้นหายากมาก
ทันใดนั้น สายลมที่หนาวจัดก็พัดผ่าน และจิตวิญญาณแห่งไฟบนท้องฟ้าก็ถูกแช่แข็งเป็นก้อนน้ำแข็งสีแดงและตกลงไปที่แม็กม่า
พื้นผิวของทะเลเดือดที่เดือดปุด ๆ นั้น ดูเหมือนจะรวมตัวกันเป็นภาพที่ละเอียดอ่อน แม้แต่ฟองสบู่ที่แตกกว่าครึ่งก็น่าหลงใหลมาก
พายุหิมะที่น่ากลัวที่สุดพุ่งขึ้นที่ทางเข้าของอเวจี พายุทอร์นาโดเยือกแข็งพัดออกไป และหิมะแปลก ๆ ที่ผสมกับน้ำแข็งก็ตกลงมาไม่หยุด จากพายุหิมะนี้อาจทำให้เห็นใบหน้าของผู้หญิงได้อย่างไม่ชัดเจนนัก อวัยวะบนใบหน้าของนางมีความลึก และละเอียดอ่อน แต่ไม่มีร่องรอยแห่งชีวิตอยู่เลย มันเหมือนรูปปั้นที่สร้างจากศิลปินที่เป็นมนุษย์ผู้งดงาม แต่ตายไปแล้ว
“ฮึก! เจ้าจะต้องตาย!” จ้าวแห่งไฟทั้งโกรธ และตื่นเต้นกับผู้มาเยือน หลังจากที่เขาพยายามยับยั้งความต้องการที่จะโจมตี ในที่สุดนางก็กล้าพอที่จะโจมตีทะเลเดือด! ด้วยวิธีนี้จะทำให้เขามีที่ที่ระบายความโกรธออกมา!
ผู้เชี่ยวชาญที่สร้างพายุหิมะขึ้นมาคือเทพธิดาหิมะ เจ้าผู้ครองที่ราบสูงออโรร่า!
เจ้าแห่งเพลิงบรรพกาลยกดาบยาวอันร้อนแรงของเขาขึ้น เขาพ่นควันออกจากจมูก และกางปีกอันเป็นประกายของเขาขึ้น
ตูม!
มหาสมุทรแม็กม่าทั้งหมดเดือดจนราวกับว่าภูเขาไฟที่ก้นมหาสมุทรกำลังปะทุขึ้นมามากเกินไป มีกระแสน้ำเกิดขึ้น และทีเสาเพลิงพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าทำให้อุณหภูมิสูงขึ้น และเริ่มละลายหิมะ พายุหิมะทั้งหมดได้ถูกปนเปื้อนไปด้วยสีของไฟ
การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเพียงพอที่จะทำให้นักเวท และอัศวินที่อยู่ต่ำกว่าระดับตำนานระเหยกลายเป็นไอ
ในขณะที่เสาเพลิงกำลัง ‘ต้อนรับ’ แขกผู้มาเยือนอยู่นั้น เจ้าแห่งเพลิงบรรพกาลก็พุ่งเข้าหาเทพธิดาหิมะ และฟันดาบของเขาลงมา
ด้วยอุณหภูมิที่สามารถเผาผลาญทุกสิ่ง และความรุนแรงที่ไม่อาจจินตนาการได้ ดาบยาวขนาดมหึมาได้ทำลายหมอกที่เกิดจากอุณหภูมิที่ต่ำรวมทั้งเกล็ดหิมะ และน้ำแข็งที่แผ่กระจายออกมา
ในขณะนี้เอง นางก็อ้าปากเปล่งเสียงออกมาและร่ายเวทวุ่นวายของปีศาจออกมา รังสีสีฟ้าถูกยิงออกไป และไปกระแทกกับดาบยาวอย่างแม่นยำ
เปลวไฟบนดาบกลายเป็นสีน้ำเงินและสลายลง
พายุหิมะแผ่กระจายปกคลุมออกไปอีกครั้ง ปีศาจจากที่ราบสูงออโรร่า เช่นจ้าวน้ำแข็งยักษ์น้ำแข็ง และเอลฟ์หิมะ (ซึ่งไม่ใช่เอลฟ์อย่างแน่นอน) ก็เข้าร่วมในการต่อสู้กับปีศาจท้องถิ่น
ภายในป้อมปราการเยือกแข็ง กอนไฮล์มที่กำลังเฝ้ามองมหาสมุทรทะเลเดือดได้ใช้นิ้วชี้ข้างขวาแตะลงบนบัลลังก์ของเขา “ข้าคิดว่าจะหลีกเลี่ยงการต่อสู้ได้ ถ้าข้ายับยั้งเจ้าแห่งเพลิง เพื่อที่เขาจะได้มีสมาธิไปขัดขวาง ลูเซียน อีวานส์ แต่ข้าไม่รู้ว่าเทพธิดาหิมะจะโจมตีหนักหน่วงเช่นนี้ … ใครเป็นคนยุยงนาง?”
หลายปีที่ผ่านมา การต่อสู้ระหว่างหิมะ และไฟส่วนใหญ่ได้รับการดูแลจากเจ้าแห่งเพลิงบรรพกาล เนื่องจากมีผลกระทบของพลังที่มีต่อบุคลิกภาพของพวกเขา เทพธิดาหิมะจึงแทบไม่ถูกโจมตีในทันที ดังนั้นเดโมกอร์กอนแห่งความมืดจึงไม่ได้คาดการณ์ถึงสิ่งนี้ แม้ว่าเขาจะทำได้ แต่ก็ไม่มีอะไรที่เขาสามารถทำได้เพราะเทพธิดาหิมะก็เป็นศัตรูที่ไม่ยอมเชื่อฟังเหมือนกับเขาที่อยู่ใน ‘ปราการเยือกแข็ง’
แม้ว่ากอนไฮล์มจะกลายเป็นระดับตำนานชั้นนำหลังจากเปลี่ยนเป็นเจ้าชายปีศาจ แต่เขาก็ไม่มีข้อได้เปรียบมากมายนัก เมื่อต้องเผชิญหน้ากับอสูรระดับตำนานขั้นสาม มีเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้นที่เต็มใจที่จะฟังคำสั่งเขา และพวกเขาจะทรยศเมื่อใดก็ได้ ส่วนเจ้าแห่งปีศาจ พวกเขาสามารถปกป้องตัวเองได้ด้วยความสามารถที่ใกล้เคียงกับระดับตำนาน
“ลูเซียน อีวานส์หรือเปล่า? เขาเลื่อนการเดินทางเพราะกำลังอยู่ในช่วงเตรียมตัวหรอ?” กอนไฮล์มได้กลิ่นของแผนการบางอย่าง เขาตัดสินใจที่จะปกครองจ้าวปีศาจทั้งหมดด้วยสติปัญญา และความแข็งแกร่งอย่างเร็วที่สุด ด้วยการทำเช่นนั้นเขาจะสามารถเข้าถึงความลับของมนุษย์กึ่งเทพได้
มหาสมุทรทะเลเดือดที่ตอนนี้กลายเป็นน้ำแข็ง และลุกเป็นเปลวไฟไปแล้ว จากการต่อสู้ที่รุนแรงของทั้งคู่ พวกเขาค่อยๆ ถูกครอบงำโดยเจ้าแห่งเพลิงบรรพกาล ในท้ายที่สุดนี่ก็คือสนามเหย้าของเขา!
ในขณะนี้เองพายุหิมะที่ตกหนักได้กระจายลมหนาวที่เงียบสงบออกไป และได้พัดไปที่เจ้าแห่งเพลิงบรรพกาล
ลมหนาวมีอากาศแห่งความตายที่ยากจะจินตนาการได้ในความเยือกเย็น เปลวไฟที่อยู่ระหว่างทางต่างพากันดับหมด แม้แต่เจ้าแห่งเพลิงบรรพกาล วิญญาณที่เกิดจากธรรมชาติก็อดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้านราวกับว่าลมหนาวพัดมาจากส่วนที่ลึกที่สุดของจิตวิญญาณของเขา!
ดังนั้นการเขาจึงเคลื่อนไหวช้าลง และมหาสมุทรทะเลเดือดก็ตกอยู่ในความเงียบตลอดกาล!
“ไม่ใช่ลูเซียน อีวานส์แต่เป็นดยุกแห่งน้ำแข็ง นี่คือนรกเงียบงัน!” นิ้วของเดโมกอร์กอนหยุดเคลื่อนไหว เขาเหล่ตามอง “เขาจะได้อะไรจากการเข้าไปยุ่งในเรื่องนี้”
ความเงียบและความเยือกเย็นชั่วนิรันดร์ทำให้เขางงงวย เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าดยุกแห่งน้ำแข็งจะเข้าร่วม แม้ว่าปีศาจตนนั้นจะเป็นเพียงระดับตำนานขั้นสอง แต่เทพธิดาหิมะก็สามารถพัฒนาพลังของนางได้หลังจากหลอมรวมพลังของนรกเงียบงัน ตอนนี้นางน่ากลัวมาก
เจ้าแห่งเพลิงบรรพกาลคำรามไฟสีฟ้าขาวออกมา ไฟสีฟ้าขาวที่อยู่รอบ ๆ เปลี่ยนเป็นสีส้มเหมือนตะเกียงในเมืองมนุษย์อันอบอุ่น แต่ไม่ร้อนมากนัก!
ไฟอันอบอุ่นได้ขับไล่ความหนาวเย็น และความเงียบตลอดจนความรู้สึกแห่งความตายให้ออกไปอย่างรวดเร็ว!
ทันใดนั้น ภายในพายุหิมะท่านหญิงอยู่ก็กลายเป็นเอลฟ์หิมะจำนวนนับไม่ถ้วนก็กำลังอ้าปาก และร้องเพลงทำลายความเงียบ และปิดผนึกพื้นที่ด้วยเสียง!
“ไม่ ไม่ดี ไม่ดีแล้ว! นี้ไม่ใช่ดยุกแห่งน้ำแข็งแต่เป็นลูเซียน อีวานส์!” เดโมกอร์กอนลุกขึ้นยืน ถ้าเขาไม่สงสัยในตอนแรกเขาก็จะไม่สังเกตเห็นความผิดปกติเลย
เห็นได้ชัดว่าเสียงเบาๆ นั้นถูกลูเซียน อีวานส์ทำขั้น!
เสาเพลิงโปร่งแสงถูกยิงออกมาจากพายุหิมะ ลำแสงนี้บอบบางมาก และดูเหมือนจะสามารถเปลี่ยนทุกอย่างที่ขวางหน้าให้กลายเป็นรูปแบบพลังงานที่คล้ายกันได้
เจ้าแห่งเพลิงบรรพกาลเพิ่งขับไล่ความหนาวเย็นที่ร้ายกาจออกไปด้วยไฟอันอบอุ่น เขาไม่มีเวลาที่จะทำให้อุณหภูมิรอบกายสูงขึ้นอีกครั้งเมื่อเขาโดนเสาเพลิงโจมตี
“เวทที่ลูเซียน อีวานส์ร่ายคือ…” กอนไฮล์ม เดโมกอร์กอนแห่งความมืดได้ระบุเวทที่ลูเซียนเพิ่งใช้อย่างระมัดระวัง
ทันใดนั้น รูม่านตาของเขาก็หดตัวอย่างรุนแรง
“ความเมตตาของเทพธิดาหิมะ?”