Top Star ระบบปั้นเธอให้เป็นดาว - บทที่ 127 สงสัยจะคืนดีกัน
บทที่ 127 สงสัยจะคืนดีกัน
บทที่ 127 สงสัยจะคืนดีกัน
เหอมี่มี่แสดงออกด้วยความเศร้าโศก “หากไม่ใช่เพราะว่าข่าวเรื่องนอกใจจนต้องหย่าของซูโย่วอี๋ถูกเผยแพร่ลงในอินเทอร์เน็ต ฉันก็คงยังไม่รู้เรื่องนี้เลย หลายวันมานี้ฉันกินไม่ได้ นอนไม่หลับ ฉันเสียใจอย่างสุดซึ้งกับความผิดพลาดที่ฉันได้ทำลงไป”
[แสดง แสดงต่อไป ถ้าเธอเสียใจขนาดนั้นทำไมไม่ไปหาซูโย่วอี๋เพื่อขอโทษล่ะ? เอาแต่ขอความเห็นอกเห็นใจจากผู้คนอยู่ได้]
[แล้วเธอยังคบอยู่กับผู้ชายเลว ๆ คนนั้นอยู่อีกเหรอ]
[เลิกโง่ได้แล้ว ผู้ชายขยะจะไม่มีวันหันหลังกลับมา อย่าได้คิดจะเปลี่ยนผู้ชายเลว ๆ เลย ออกมาจากเขาเถอะ]
[ทุกคนทุกคำพูดมีผลต่อใจคนนะ ดูเหมือนว่าเธอจะไม่รู้จริง ๆ]
น้ำตาของเหอมี่มี่ไหลลงมาอย่างไม่หยุด เธอค่อย ๆ หยิบแหวนออกมาจากกระเป๋าเสื้อ “และตอนนี้ฉันถูกลงโทษแล้ว คืนนี้เฉินเฉินมาหาฉัน เขาโยนแหวนหมั้นของพวกเราทิ้งอย่างไม่ไยดี และตอนนี้เขาก็ย้ายออกจากบ้านไปแล้ว”
“เขาขอเลิกกับฉัน”
ชาวเน็ตไม่คิดว่าเรื่องราวจะพัฒนามาถึงขั้นนี้ได้
เหอมี่มี่อดไม่ได้ที่จะปิดหน้าและร้องไห้อย่างขมขื่น น้ำตาไหลออกมาผ่านนิ้วมือไม่หยุด ไหล่บางนั้นสั่นไหวราวกับกำลังรองรับความเจ็บปวดทรมาน
“หากว่าจะเลิกกัน ฉันยอมรับได้ อย่างไรเสียการสร้างความสุขให้ตัวเองบนความทุกข์ของคนอื่น ฉันย่อมไม่มีทางมีความสุขได้หรอก แต่ฉันแค่ไม่คิดว่า เฉินเฉินจะทำร้ายฉัน เขาผลักฉันล้มลงกับพื้นและตบฉันอย่างรุนแรง”
“เขาบอกว่าฉันเป็นเพียงตัวแทนของซูโย่วอี๋ ไม่คู่ควรที่จะเปรียบเทียบกับเธอเลย ตอนนี้ซูโย่วอี๋กลับมาแล้ว เขาเลยไม่ต้องการฉันอีกแล้ว”
[กลับมาแล้ว? หมายความว่ายังไง?]
[หรือว่าซูโย่วอี๋ยังหลงผู้ชายเลว ๆ ที่ชื่อเฉินนั่นอยู่?]
[ไม่มีทาง แม้ว่าเหอมี่มี่จะเคยทำลายชีวิตรักของซูโย่วอี๋ แต่ถ้าตอนนี้ซูโย่วอี๋กลับเข้ามาอีกก็เท่ากับว่าเป็นมือที่สามไม่ใช่เหรอ?]
[คุณพูดให้ชัดเจนที อะไรคือกลับมา? อย่ามาคิดมั่วซั่วต่อหน้าสาธารณชนแบบนี้]
[เหอมี่มี่น่าสงสารจัง นี่เท่ากับว่าเธอถูกหลอกให้แต่งงานไม่ใช่เหรอ? ความไร้เดียงสาหายไป ผู้ชายหายไป เงินของเธอและบ้านยังอยู่ไหม?]
[ในฐานะผู้ชาย ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตาหรือพื้นเพครอบครัวของเหอมี่มี่ก็ดีมากพอสำหรับเฉินเฉินแล้ว เฉินเฉินปล่อยเหอมี่มี่ไปก็เพราะว่ามีตัวเลือกที่ดีกว่าปรากฏตัวขึ้น ไม่งั้นคงไม่มีทางใจร้ายกับเหอมี่มี่ขนาดนี้หรอก ความรู้สึกผิดสักนิดก็ไม่มี นี่เป็นความคิดส่วนตัว]
[ดังนั้นซูโย่วอี๋เป็นมือที่สามจริง ๆ แล้ว?]
[พวกคุณไม่ควรอยู่ฟังคำพูดโกหกของผู้หญิงคนนี้ โย่วโย่วของฉันไม่ใช่คนแบบนั้น ให้พูดอีกอย่างถ้าใครดูดี ๆ จะรู้ว่าความสัมพันธ์ของโย่วโย่วและประธานลู่ไม่ธรรมดา ถ้าเลือกได้ทำไมโย่วโย่วจะไม่เลือกประธานลู่ล่ะ?]
[ไม่พูดไม่ได้เลยนะว่า การคัดกรองข่าวของแฟนคลับของซูโย่วอี๋นี้แข็งแกร่งมาก แน่นอนว่าซูโย่วอี๋จะต้องอยากเลือกประธานลู่ แต่เธอเป็นผู้หญิงที่เคยหย่ามาก่อนประธานลู่จะสนใจเธอเหรอ? อย่าเอาการกระทำต่อหน้ากล้องมาคิดจริงจังนักเลย? ทั้งหมดล้วนเป็นแค่การแสดง]
เหอมี่มี่ดูกระวนกระวายใจมากที่เห็นความคิดเห็นแบบนั้น “ฉันเองก็ไม่รู้คำว่ากลับมาแล้วหมายความว่าอย่างไร แค่เฉินเฉินพูดกับฉันมาแบบนี้ หรืออาจจะเป็นซูโย่วอี๋ที่ไปหาเขาแล้วพูดอะไรบางอย่าง”
“ฉันไม่รู้จริง ๆ ฉันแค่คาดเดาเฉย ๆ”
เธอดูสับสนและทำอะไรไม่ถูก ทำให้ชาวเน็ตจำนวนไม่น้อยเห็นอกเห็นใจเธอ
“คำที่ฉันอยากจะพูด ฉันก็พูดมันออกมาหมดแล้ว ในที่สุดฉันก็จะสามารถนอนหลับสบายมากขึ้น ขอโทษที่รบกวนเวลาพักผ่อนของทุกคน”
จากนั้น การถ่ายทอดสดก็จบลงในทันที เมื่อไม่มีกล้องเหอมี่มี่ก็รีบเอาผ้าขนหนูมาเช็ดตา เพราะก่อนหน้านี้เพื่อให้ตัวเองสามารถร้องไห้ออกมาได้ ในมือของเธอก็ถูกับพริกน้ำส้มอยู่ เช่นนี้ตาของเธอจึงรู้สึกแสบมาก ๆ
เมื่อวางผ้าขนหนูไว้บนตาความร้อนค่อย ๆ หายไป เหอมี่มี่หัวเราะออกมาอย่างเย็นชา คอยดูเถอะเฉินเฉิน นี่มันแค่เริ่มต้น
เช้าวันรุ่งขึ้น
ซูโย่วอี๋ที่เพิ่งตื่นขึ้นมาก็พบว่า ตัวเองอยู่ในการค้นหายอดนิยมอีกครั้ง
หัวข้อเรื่อง ‘สงสัยว่าซูโย่วอี๋จะกลับไปคืนดีกับอดีตสามีอย่างเฉินเฉิน!’
เรื่องนี้สร้างความเดือดดาลให้กับชาวเน็ตที่ไม่รู้ความจริง และพวกเขาก็รวมตัวกันเพื่อเรียกร้องความยุติธรรม พอหันกลับมาตัวเอกก็ตกไปอยู่ในอ้อมแขนของผู้ชายเลว ๆ?
การเคารพตัวเอง?
การรักตัวเอง?
ศักดิ์ศรี?
การมองโลก การมองชีวิต และค่านิยม?
ตอนนี้เฉินเฉินมีภรรยาอยู่แล้ว!
ดังนั้นชาวเน็ตที่เคยสนับสนุนซูโย่วอี๋มาแต่เดิมก็เริ่มหันไปทางอื่น เริ่มด่าว่าเธอไร้ยางอายและสมควรที่ถูกนอกใจ
[ผู้ชายทั้งโลกตายกันไปหมดแล้วเหรอ? ถึงต้องไปคุ้ยผู้ชายมาจากขยะ]
[ซูโย่วอี๋ฉันนี่ยอมใจเธอจริง ๆ]
[ศีลธรรมของคุณไม่คู่ควรกับการเป็นศิลปิน]
[ในเมื่อเธออยากกระโดดเข้ากองไฟ พวกเราก็จะไม่ขัดขวาง แต่แค่ต่อไปอย่ามาร้องไห้หน้ากล้องแล้วบอกว่าตัวเองถูกทิ้งอีกก็พอ]
[ฉันนอนหลับเพิ่งตื่น นี่มันอะไรกัน เกิดเรื่องอะไรขึ้น?]
[เน็ต 2G ของฉัน]
ซูโย่วอี๋ก็สับสนเหมือนกัน เธอทำอะไร ทำไมบนอินเทอร์เน็ตถึงมีแต่ข่าวว่าเธอกับเฉินเฉินคืนดีกันเต็มไปหมด?
เมื่อกดเข้าไปดูถึงได้พบว่าเมื่อคืนนี้เหอมี่มี่มาถ่ายทอดสด และพูดถึงเรื่องงานแต่งที่ล่มลงของเธอกับเฉินเฉินด้วยตัวเอง และยังบอกเป็นนัย ๆ อีกว่าเฉินเฉินและซูโย่วอี๋นั้นยังตัดกันไม่ขาด
แต่ครั้งนี้เหอมี่มี่ฉลาดมาก ตลอดเวลาที่ถ่ายทอดสด เธอไม่ได้พูดจาใส่ร้ายหรือตำหนิอะไรเลย เอาแต่พูดจาคลุมเครือทิ้งไว้ให้ชาวเน็ตไปเดากันเอาเอง
ประโยคที่ว่า ‘กลับมาแล้ว’ พิสูจน์อะไรได้บ้าง?
มันพิสูจน์อะไรไม่ได้เลย
แต่ประกอบกับเรื่องที่เหอมี่มี่ถูกเฉินเฉินทอดทิ้ง ชาวเน็ตก็สามารถสร้างและขยายความต่อไปได้
มีแม้กระทั่งกระทู้วิเคราะห์ตั้งแต่ทฤษฎีการแก้แค้น ทฤษฎีความรักและแนวทางต่าง ๆ มาให้วิเคราะห์ถึงสาเหตุที่ซูโย่วอี๋กลับไปหาเฉินเฉิน!
แต่ก็ยังมีเสียงสะท้อนจากชาวเน็ตมากมายที่คิดว่าพวกเขาเริ่มเข้าใกล้ความจริงมากขึ้นแล้ว!
ซูโย่วอี๋มองความคิดเห็นที่ถูกเบี่ยงเบน ก็ทำได้เพียงถอนหายใจในความเก่งกาจของเหอมี่มี่ที่สามารถหันเหความคิดของผู้คนได้
ด้านสุนัขจิ้งจอกถูกทำให้โกรธแต่เช้า [ทำไมถึงมีคนที่ไร้ยางอายขนาดนี้อยู่อีก]
หลังจากนั้นมันก็หลับตาลง และใช้ฟังก์ชันการย้อนกลับ เพื่อดูว่าเมื่อสองวันมานี้เหอมี่มี่ได้ใช้ประสบการณ์จากการดูหนังมา
[ซู่จู่ ฉันสามารถนำเรื่องต่าง ๆ ที่คุณทำไปเมื่อไม่กี่วันนี้ หรือสถานที่ที่คุณไปทั้งหมด มาทำเป็นวิดีโอได้ ถ้าคุณเอาไปโพสต์ลงในอินเทอร์เน็ตก็จะพิสูจน์ได้ว่า คุณไม่เคยกลับไปหาเฉินเฉินเลย]
ซูโย่วอี๋ครุ่นคิด “ช่างเถอะ มันจะดูไม่สมจริง”
สุนัขจิ้งจอกกระโดดขึ้นอย่างร้อนรน [ไม่สมจริงยังไง แค่พริบตาเดียวเหอมี่มี่ก็ใส่ไฟให้คุณอีก ตอนนี้ชาวเน็ตพูดถึงคุณมั่วไปหมด ผู้หญิงไม่แน่นอน ขาดผู้ชายไม่ได้ ล้มเหลว เห็นได้ชัดว่าคุณไม่ได้ทำเรื่องอะไรพวกนั้นเลย]
“ถ้าต้องการพิสูจน์ว่าฉันไม่เคยพบเฉินเฉิน ก็จะต้องเปิดเผยสิ่งที่ฉันทำทั้งหมดตลอด 24 ชั่วโมงออกมา ถ้ามีอะไรแบบนั้นชาวเน็ตก็จะต้องสงสัย จะมีใครที่สามารถอยู่ภายใต้กล้องวงจรปิดได้ตลอดเวลากัน?”
“นี่ยิ่งจะทำให้คนสงสัยมากกว่าเดิม”
สุนัขจิ้งจอกเหมือนอยากจะพูดอะไรอีก แต่ก็ถูกซูโย่วอี๋ขัดเอาไว้ “นายไม่ต้องห่วง ฉันจะติดต่อกับบริษัทไปก่อนเพื่อฟังความคิดเห็นของพวกเขา”
พูดถึง สุ่ยเวยก็โทรศัพท์มาพอดี [ดูการค้นหายอดนิยมหรือยัง?]
[ดูแล้ว]
[คุณมีความคิดยังไง?]
ซูโย่วอี๋นิ่งไปสักพัก [ฉันไม่ได้ทำ]
แต่เธอเองก็ไม่มีวิธีแก้ตัวที่ดีกว่านี้เลย
อีกด้าน น้ำเสียงของสุ่ยเวยจริงจัง [เรื่องทั้งหมดนี้ปล่อยให้บริษัทจัดการ ตั้งแต่ตอนนี้ไปก็หลีกเลี่ยงการพบเจอกับเฉินเฉินในทุกรูปแบบ เพื่อไม่ให้มีใครสงสัย]
[และก็อย่าตอบกลับอะไรในอินเทอร์เน็ต]
สุ่ยเวยกลัวว่าเธอจะพูดอะไรที่ไร้เหตุผลออกไป