Top Star ระบบปั้นเธอให้เป็นดาว - บทที่ 160 ถ้าเธอทิ้งให้ฉันอยู่ตัวคนเดียว แล้วฉันจะทำยังไงล่ะ
- Home
- Top Star ระบบปั้นเธอให้เป็นดาว
- บทที่ 160 ถ้าเธอทิ้งให้ฉันอยู่ตัวคนเดียว แล้วฉันจะทำยังไงล่ะ
บทที่ 160 ถ้าเธอทิ้งให้ฉันอยู่ตัวคนเดียว แล้วฉันจะทำยังไงล่ะ?
บทที่ 160 ถ้าเธอทิ้งให้ฉันอยู่ตัวคนเดียว แล้วฉันจะทำยังไงล่ะ?
‘ผู้หญิงแบบฉันที่คุณอยากได้ไม่มีแล้วเหรอ? ทำไมต้องมาเสียเวลากับฉันด้วย’
‘ผมต้องการแค่คุณ’
จากน้ำเสียงจริงจังของฮัวจิง ซูหยินไม่เข้าใจเลยสักนิด ความหมายของประโยคเมื่อกี้คือเขาชอบเธองั้นเหรอ
แต่เขาไม่ได้ขอคบเธออย่างเปิดเผย เพียงแต่ให้เธอเป็นคู่นอนกับเขาอย่างลับ ๆ
‘เพราะอะไร?’
สายตาของฮัวจิงดูลึกซึ้ง ‘ไม่จำเป็นต้องบอกว่าเพราะอะไร แค่ผมชอบก็พอแล้ว’
คืนนั้นซูหยินไม่ได้ตอบตกลงที่จะเป็นคู่นอนตามคำขอของเขา เธอคิดว่าเรื่องระหว่างเราจบลงแล้ว คาดไม่ถึงว่าหลังจากนั้นยังจะต้องมาข้องเกี่ยวกันอีก
เรื่องทั้งหมดล้วนเป็นพรหมลิขิต
วันที่ซูหยินถ่ายภาพยนตร์ที่ได้เป็นนางเอกเรื่องแรกจบ ในงานเลี้ยงปิดกล้อง ผู้กำกับและนักลงทุนชวนเธอดื่มเหล้าไม่หยุด ซูหยินปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่าแต่ก็ดื่มไปไม่น้อย
ฮัวจิงพูดคุยกับผู้คนเสร็จแล้ว พอเห็นว่าเธอถูกบังคับให้ดื่มก็เลยเดินเข้ามาโอบเอวของเธอและจ้องไปยังคนเหล่านั้น “เธอเมาแล้ว ผมไปส่งเธอกลับบ้านเอง พวกคุณสนุกกันต่อเถอะ”
ซูหยินถูกฮัวจิงเอาตัวไปแล้วท่ามกลางสายตาตกใจของบรรดาผู้กำกับ นักลงทุน และนักแสดงคนอื่น ๆ
ซูหยินไม่ได้เมา แต่เธอได้กลิ่นหอมมาจากร่างกายของฮัวจิง จึงได้หันหน้าไปมองผู้ชายที่สง่างามคนนั้น
เหมือนว่าเธอจะเมาแล้ว
‘ต่อให้ฉันกระโดดลงไปในแม่น้ำฮวงโหก็คงไม่ได้ดูบริสุทธิ์ขึ้น พวกเขาจะต้องคิดว่าฉันกับคุณมีความสัมพันธ์อะไรกันแน่ ๆ’
มุมปากของฮัวจิงโค้งขึ้นด้วยรอยยิ้ม ‘งั้นก็ดีเลย คุณลองคิดทบทวนเรื่องที่ผมพูดไปครั้งที่แล้วดูดีไหม?’
‘เป็นคู่นอนน่ะเหรอ?’
เพราะอะไร…ทำไมถึงไม่ขอเธอเป็นแฟน?
ซูหยินไม่ได้ถามออกไป หลังจากนั้นทั้งสองคนก็จูบกันด้วยความมึนงง
ซูหยินรู้สึกเวียนหัว จำได้เพียงแค่ว่าตอบรับข้อตกลงของฮัวจิงไป
เธอตอบตกลงเพราะฮัวจิงโสด ในใจของซูหยินเองก็ยังตั้งตารอคอยอยู่เสมอ แม้ว่าตัวเองจะอยู่ในฐานะคู่นอนที่อยู่ข้าง ๆ เขา แต่ก็อาจจะมีสักวันที่เธอจะสามารถยืนอยู่เคียงข้างเขาได้อย่างเปิดเผยหรือเปล่านะ?
เวลาห้าปีที่ผ่านมา ซูหยินกลายเป็นคู่นอนของฮัวจิง ทั้งสองคนเข้ากันได้ดีราวกับคู่รัก ฮัวจิงไม่ได้บังคับให้เธอทำในสิ่งที่เธอไม่ชอบ ในทางกลับกัน เขาคอยดูแลซูหยินเรื่องการงานต่าง ๆอยู่เสมอ
แม้ว่าซูหยินจะเป็นมือใหม่แต่ก็โด่งดังขึ้นมาก ทั้งการเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของแบรนด์ต่าง ๆ หรืองานโฆษณา ภาพยนตร์ และละครโทรทัศน์ล้วนขึ้นอยู่กับว่าเธอเต็มใจรับหรือไม่
ฮัวจิงก็เป็นคนใจกว้างในเรื่องเงินเสมอ เขามักจะมีของขวัญให้เธอในวันครบรอบ แต่ถ้างานยุ่งมาก ๆ เขาก็จะให้ผู้ช่วยส่งของขวัญให้ซูหยินเองกับมือ เขาจำได้แม้กระทั่งวันที่เธอเป็นประจำเดือนและมักจะสั่งให้เธอพักผ่อนไม่ให้ทำงานหนัก
ยากมากที่จะไม่หลงรักคนแบบนี้
รูปร่างหน้าตาหล่อเหลาแถมยังเอาใจใส่ เรื่องรายละเอียดต่าง ๆ ก็คิดไว้ให้ครบหมด
แม้แต่แฟนจริง ๆ ก็ไม่น่าจะทำได้ดีเท่าอย่างที่เขาทำ
ซูโย่วอี๋มองเห็นรอยยิ้มบนในหน้าของหยินหยิน พวกเขาคงมีช่วงเวลาดี ๆ มากมาย
“หลังจากนั้นล่ะ?”
“หลังจากนั้น เขาก็แต่งงาน เขาไม่ได้พูดอะไรกับฉันเลยสักนิด ฉันรู้เรื่องนี้ตอนข่าวออก เธอรู้มั้ยว่าตอนนั้นฉันรู้สึกอย่างไร?”
ฮัวจิงเป็นเหมือนผู้สนับสนุนทางการเงินของเธอ แต่เธอมอบหัวใจให้เขาไปจนหมด งานแต่งงานแห่งศตวรรษระหว่างฮัวจิงและภรรยาเป็นเสมือนมือตบใส่หน้าเธออย่างแรง
คนวงในต่างพากันมองเธอด้วยความขบขันราวกับกำลังดูหนังตลก ไม่รู้ว่ามีกี่คนที่ด่าเธอว่าหน้าด้านอยู่ลับหลัง
“มันยากมากที่คนอื่นจะเห็นคุณค่าของเรา”
“แต่กลับไม่มีใครพูดถึงเขา ชีวิตผู้อำนวยการฮัวยังคงสดใสเหมือนเดิม เผลอแวบเดียวเขาก็แต่งงานกับผู้หญิงจากตระกูลสูงส่งเสียแล้ว”
“ฉันเอาแต่คิดว่าฉันถูกทิ้งแล้วเหรอ”
“แต่ก็คงใช่ ตั้งแต่เขาไปหาผู้หญิงคนนั้น ความสัมพันธ์ของเราก็ซับซ้อนไปหมด”
“ผู้ชายพอได้แล้วก็จากไป แต่ผู้หญิงก็เหมือนกับรองเท้าที่พังไปแล้ว”
หัวใจของซูหยินรู้สึกละอายและเจ็บปวดอย่างมาก แต่กลับติดต่อฮัวจิงไม่ได้เลย
เธอรอถึงหนึ่งเดือนเต็ม จนผู้ชายที่เป็นสามีของหญิงอื่นคนนั้นกลับมา
สีหน้าของฮัวจิงดูเหนื่อยล้า “ช่วงนี้ผมยุ่ง ๆ เลยไม่มีเวลามาเจอคุณ”
ความเสียใจของซูหยินปะทุขึ้นในทันที “ยุ่งเรื่องแต่งงานเหรอ? ผู้อำนวยการฮัว เรื่องใหญ่ถึงขั้นแต่งงานทำไมคุณถึงไม่บอกฉัน ฉันจะได้ไปร่วมยินดีด้วย”
ฮัวจิงจ้องมองเธอนิ่ง ๆ อยู่หลายวินาที ก่อนที่จะดึงเธอเข้าไปในอ้อมแขน “พอเถอะ”
“ระหว่างพวกเราไม่มีอะไรเปลี่ยนไป”
พูดเหมือนง่าย!
ซูหยินพูดกับตัวเองด้วยความสมเพช “คุณก็เลยจะให้ฉันเป็นเมียน้อยของคุณเหรอ?”
“ในสายตาของคุณ ผมไร้ค่ามากเลยหรือไง?”
ทั้งสองคนทะเลาะกัน
ความสัมพันธ์คลุมเครือและไม่ชัดเจนอยู่แบบนี้ไปหลายเดือน จนภรรยาของฮัวจิงตั้งท้อง
ซูหยินไม่สามารถแบกรับความสัมพันธ์นี้ได้อีกต่อไป จึงขอเลิกกับฮัวจิง แต่คิดไม่ถึงว่าฝ่ายชายจะเริ่มแก้แค้นเธออย่างบ้าคลั่งแบบนี้
จนกระทั่งเธอไม่มีงานใด ๆ และความกดดันในการทำงาน
เขาพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงเฉยเมยราวกับว่าเธอเป็นเพียงสัตว์เลี้ยงของเขา ที่พอเรียกให้มาก็ต้องมา พอไล่ให้ไปก็ต้องไปตามที่เขาต้องการ
ถูกบังคับให้ต้องทนกับความต้องการของเขา
ซูหยินจึงสงสัยในตัวเอง หรือว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ฮัวจิงแค่เสแสร้งไปงั้น ๆ ?
เสแสร้งว่าเป็นคนอ่อนโยนและใส่ใจ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่เปลี่ยนไปมากขนาดนี้ในเวลาสั้น ๆ
ซูหยินไม่รับรู้ถึงความรักจากเขาแม้แต่น้อย
หรือตลอดเวลาที่ผ่านมา ฮัวจิงเห็นเธอเป็นเพียงสินค้า แต่เป็นเธอเสียงเอที่หมกมุ่นอยู่กับความรักเพ้อฝันที่สร้างขึ้นมาเอง
ห้าปีมานี้เป็นเพียงเรื่องตลกน่าอับอาย
เล่าเรื่องจบซูหยินก็เงียบไปนาน
ซูโย่วอี๋เห็นว่าอารมณ์ของเธอเริ่มสงบลงแล้วจึงได้ถามขึ้น “ฉันเปิดผ้าม่านได้ไหม?”
ซูหยินพยักหน้า
ซูโย่วอี๋ลุกขึ้นยืนเปิดผ้าม่านให้แสงแดดส่องเข้ามา ในที่สุดเธอก็เห็นสภาพในห้องและซูหยินอย่างชัดเจน
ผ้าปูที่นอนยับยู่ยี่ คอของซูหยินช่วงอกเขียวซ้ำ ริมฝีปากแตกเล็กน้อย
มองแวบเดียวก็รู้ว่าเป็นร่องรอยจากการโดนทำร้ายร่างกาย
“เมื่อวานเขามาหาเธอเหรอ?”
ซูหยินพยักหน้าอย่างมึนงง
ซูโย่วอี๋ไม่รู้ว่าควรจะปลอบเธออย่างไรดี “ที่นี่ไม่ปลอดภัยแล้ว เธอย้ายไปอยู่กับฉัน ตกลงไหม?”
ห้อง ๆ นี้เป็นห้องที่ฮัวจิงซื้อเอาไว้ในชื่อของซูหยิน
ซูหยินส่ายหัว “ฉันอยากขายห้องนี้”
“แต่ฉันไม่อยู่กับเธอ ฉันจะซื้อห้องใหม่ให้อยู่ใกล้ ๆ เธอ”
ซูโย่วอี๋รู้ว่าซูหยินเป็นห่วงว่าลู่เฉินจะไม่เห็นด้วย “ไม่เป็นไร ฉันคิดมานานมากแล้วว่าพวกเราสองคนจะต้องได้อยู่ห้องเดียวกัน เหมือนตอนเด็ก ๆ ที่อยู่ที่บ้านเด็กกำพร้า ทันทีที่ตื่นฉันก็จะเจอเธอ ฉันจะบอกอรุณสวัสดิ์และบอกฝันดีให้เธอได้ยินทุกวันเลย”
ซูหยินเองก็นึกถึงเรื่องราวในวันก่อน ๆ มือทั้งสองที่กอดตัวเองเอาไว้ก็เริ่มคลายออก
ซูโย่วอี๋พบรอยขีดข่วนมากมายบนข้อมือของเธอ หนึ่งในนั้นมีรอยหนึ่งที่ลึกมากจนสามารถมองเห็นเนื้อและเลือดสีแดงสดได้ลาง ๆ
ซูโย่วอี๋รู้สึกตกใจ “หยินหยิน นี่เธอทำอะไร?”
ซูหยินมองตามสายตาของเพื่อนไปยังข้อมือและยิ้มอย่างน่าสงสาร “เธอไม่ต้องเป็นห่วง ฉันไม่ฆ่าตัวตายหรอก”
เธอเคยมีความคิดที่จะฆ่าตัวตาย แต่เมื่อเห็นหยดเลือดที่ค่อย ๆ ซึมออกมา ซูหยินก็คิดถึง ซูโย่วอี๋ขึ้นมา
ถ้าหากว่าเธอไม่อยู่แล้ว โย่วอี๋ของเธอจะทำอย่างไรล่ะ?
เธอจะทนปล่อยให้ให้โย่วอี๋อยู่คนเดียวบนโลกนี้ได้อย่างไร?
คิดไปคิดมาเธอก็ห้ามเลือดเอาไว้
ซูโย่วอี๋กอดซูหยินและร้องไห้ออกมาอย่างหนัก “ทำไมเธอถึงทำแบบนี้? ถ้าเธอทิ้งฉันไปจริง ๆ ฉันคนเดียวจะทำอย่างไรล่ะ?”