Top Star ระบบปั้นเธอให้เป็นดาว - บทที่ 238 ฉันภาวนาให้คุณตาย
บทที่ 238 ฉันภาวนาให้คุณตาย
บทที่ 238 ฉันภาวนาให้คุณตาย
แม้เธอเคยเจอเขาแค่ไม่กี่ครั้ง แต่ซูโย่วอี๋รู้ดีว่าผู้ชายอย่างฮัวจิงห่วงภาพลักษณ์ของตัวเองมากแค่ไหน ดังนั้นเขาคงไม่ทำอะไรที่ไม่สมควรในที่แบบนี้
เมื่อเธอมองไปตรงนั้นอีกครั้ง ก็พบว่าไม่มีใครยืนอยู่แล้ว
“ความรักเป็นเรื่องบังเอิญ บังเอิญว่าวันนี้อากาศดี บังเอิญว่าคุณสวมชุดลายดอก บังเอิญว่าผมอยากดื่มกาแฟ ถ้ามันเกิดขึ้นเร็วกว่านี้หลายปี เธอเองก็อาจจะยังมองไม่เห็นผม แต่ถ้าช้ากว่านี้หลายปี เธออาจจะแต่งงานไปแล้วก็ได้ ดังนั้นสิ่งที่ผมควรโฟกัสคือปัจจุบัน”
“ไม่ใช่อดีตหรืออนาคต”
“การที่ได้คบกับเธอ ผมยินดีน้อมรับคำติเตียนของใครต่อใคร ความโชคร้าย ความเจ็บปวดต่าง ๆ ผมพร้อมที่จะต่อสู้เพื่ออยู่เคียงข้างเธอ”
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือกู่อวี๋เฉิงรู้เรื่องซูหยินกับฮัวจิง แต่เขายอมรับมัน
นักข่าวรู้สึกว่ามันหวานเกินจนทนไม่ได้
“รองประธานกู่ นี่ไม่ใช่พิธีแต่งงานนะคะ”
ทำไมถึงกล่าวคำสาบานงานแต่งงานของคุณซะแล้วล่ะ
ชาวเน็ตต่างพากันเขินจนพากันถล่มความคิดเห็น
[ช่วงนี้ความนิยมของซูหยินลดลงมาก ฉันก็คิดว่าเธอถูกดองงาน ที่ไหนได้ เธอกำลังปลูกต้นรัก]
[ความสัมพันธ์ที่ดีทำให้คนดูสดใสขึ้นจริง ๆ ฉันไม่เคยเห็นใบหน้าที่สดใสและมั่นใจแบบนั้นของซูหยินเลย ความมั่นใจแบบนี้มาจากภายในสู่ภายนอก รองประธานกู่ได้มอบมันให้กับเธอหลังจากผ่านมา 5 ปี – คำพูดของแฟนเก่า]
[รองประธานกู่เป็นลูกผู้ชาย เขายอมรับความสัมพันธ์อย่างเปิดเผย ไม่สนใจเรื่องอื้อฉาวในอดีต]
[สาว ๆ ต้องการความมั่นคงแบบนี้ใช่ไหม คนในวงการบันเทิงหลายคนพยายามปกปิดเรื่องความรักหรือการมีครอบครัวแล้วโดยเอาเรื่องผลกระทบเรื่องอาชีพการงานมาอ้าง]
[ในฐานะแฟนคลับของรองประธานกู่และซูหยิน ฉันไม่เคยติดใจอะไรในความสัมพันธ์ของพวกเขามาก่อนเลย]
[เมื่อก่อนฉันไม่ชอบซูหยิน บุคลิกของเธออวดเก่งเกินไป แต่เพราะรองประธานกู่ ฉันก็เลยชอบซูหยิน]
[เรื่องนี้แต่งมาจากนิยายหรือเปล่า? แต่ฉันก็คงทำได้แค่อวยพรให้กู่อวี๋เฉิงมีความสุข]
ซูหยินไม่รู้ว่าเธอกินอะไรเป็นอาหารเช้า จู่ ๆ เธอก็ปวดท้อง เลยดึงกู่อวี๋เฉิงเข้ามาใกล้ “ฉันไปก่อนนะ ฉันปวดท้อง”
“โอเค เดี๋ยวผมก็ปิดงานทางนี้แล้ว”
ระบบรักษาความปลอดภัยของโรงแรมดีมาก ชั้นนี้ไม่มีใครอยู่นอกจากพนักงาน
ซูหยินจึงไปห้องน้ำโดยไม่ทันระวังตัว เมื่อเธอออกมา เธอก็เติมเครื่องสำอางที่หน้ากระจก
หญิงสาวในกระจกมีดวงตาแวววาว ริมฝีปากสีแดงอวบอิ่มน่าดึงดูด
เมื่อนึกถึงคำพูดของกู่อวี๋เฉิง เธออดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
ตาทึ่มเอ้ย
และสุดท้ายเธอก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
แต่แล้วก็มีร่างหนึ่งสะท้อนอยู่ในกระจก
ฮัวจิง!
ซูหยินหันกลับมาด้วยความตกใจ สายตาของเธอระแวดระวัง “นี่ห้องน้ำหญิง คุณผู้ชาย คุณมาผิดแล้ว”
“คุณผู้ชาย?”
คำสองคำนี้วนเวียนอยู่ในปากของฮัวจิง เขาก้มหน้าลงจนเธอไม่สามารถมองเห็นสีหน้าของเขาได้อย่างชัดเจน
คำพูดสองสามคำออกมาจากลำคอของอีกฝ่าย “ซูหยิน ใครอนุญาตให้คุณมีแฟน”
เขาเดินไปหาซูหยินทีละก้าวและหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ เขามองผู้หญิงตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า
ซูหยินตอบสนองโดยการถอยหลังไปสองก้าวจนเธอค้ำอยู่บนอ่างล้างหน้าและไม่สามารถถอยหนีได้อีก
ฮัวจิงขวางทางเธอเอาไว้ ทำให้เธอไม่มีโอกาสแม้แต่จะหลบหนี
“คุณดูมีความสุขดีนี่”
ด้วยระยะห่างที่ใกล้มาก ฮัวจิงลดศีรษะลงเล็กน้อย และลมหายใจของเขาก็เป่ารดแก้มของซูหยิน
เธอเอียงศีรษะอย่างอึดอัด “ฮัวจิง ให้เกียรติกันด้วย ฉันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับคุณอีกแล้ว”
“ใครบอก?”
ฮัวจิงจับใบหน้าของเธอ แต่เธอก็ได้สะบัดมือของเขาออกไป
“คุณต้องการอะไร ฉันมีแฟนแล้วนะ!”
มันไม่ง่ายเลยที่เธอจะได้เจอคนดี ๆ ในชีวิต และมันก็ไม่ง่ายเลยที่เธอจะได้กลับมาสู่ชีวิตปกติ เธอหวังว่าฮัวจิงจะไม่เข้ามาในชีวิตของเธออีก
ฮัวจิงตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เขาเห็นความรังเกียจในดวงตาของซูหยินอย่างชัดเจน!
ความเกลียดชัง
ซูหยินก้มหน้าลงและต้องการหลุดพ้นจากอ้อมแขนของเขา แต่ฮัวจิงกลับล็อคเธอไว้แน่น เขาจับมือของเธอด้วยมือข้างเดียว และสัมผัสเธอจากชายเสื้อด้วยอีกมือหนึ่งอย่างคุ้นเคย จากนั้นเลื่อนขึ้นมาบริเวณเอวของเธออย่างหยาบคาย
ซูหยินรู้สึกรังเกียจคนตรงหน้า
เธอเริ่มดิ้นรน แต่ทำยังไงก็ไม่สามารถหลุดพ้นได้
น้ำตาแห่งความอัปยศไหลออกมา เธอกล่าวออกมาอย่างแผ่วเบา “ฮัวจิง ฉันไม่ใช่ผู้หญิงของคุณแล้ว ทำไมคุณถึงคิดว่าฉันจะปล่อยให้คุณได้ทุกอย่างที่คุณต้องการ”
ฮัวจิงรู้สึกพอใจและกระซิบข้างหูของเธอว่า “คุณหนีผมไม่พ้นหรอก ยอมรับเถอะ คุณต้องอยู่กับผมไปตลอดชีวิต”
ซูหยินกัดคอของเขาอย่างแรง “ฝันไปเถอะ ฮัวจิง ฉันภาวนาให้คุณตายไปให้พ้น ๆ!”
ฮัวจิงอดทนต่อความเจ็บปวดและเหยียดนิ้วขึ้น
หลังจากที่เขาสัมผัสเธอ เขาก็รู้สึกได้ว่าร่างกายของซูหยินไม่ตอบสนองต่อเขาอีกแล้ว
ซูหยินมองเขาอย่างเหยียดหยาม “คุณทำให้ฉันเกลียดคุณตั้งแต่โคนผมจนถึงปลายเล็บเท้า คุณคงไม่คิดว่าฉันจะยังชอบคุณใช่ไหม”
จู่ ๆ ฮัวจิงก็ปล่อยมือของซูหยิน นี่เป็นครั้งแรกที่เผชิญหน้ากับหญิงสาวที่เคยสนิทสนมด้วยดวงตาสีเข้มคนนี้ “คุณเปลี่ยนไป”
แม้ว่าซูหยินจะเคยคบกับเขาเพื่อผลประโยชน์ แต่เธอปิดมันได้มิดขนาดนั้นเชียวเหรอ ฮัวจิงมองไม่เห็นความความพิศวาสในดวงตาของซูหยินเลยสักนิด
แต่ตอนนี้มันไม่เหลืออะไรแล้ว
ฮัวจิงที่ยังยืนอยู่ที่เดิมรู้สึกเสียศูนย์เล็กน้อย
เขาอยากจะขอร้องให้ซูหยินกลับมาหาตน
ซูหยินเช็ดน้ำตา เธอแต่งหน้าอีกครั้ง และไม่หยุดเติมหน้า จนกว่าจะปกปิดร่องรอยแห่งการร้องไห้ได้
ฮัวจิงยืนอยู่ตรงนั้น ดูการกระทำของเธอทั้งหมด ก่อนจะดึงมือเธอไว้ตอนที่เธอกำลังจะจากไป
“ถ้าผมไม่แต่งงาน คุณจะยังเต็มใจอยู่เคียงข้างผมไหม”
ซูหยินเย้ยหยัน “น่าเสียดายนะคะ แต่โลกนี้ไม่มีคำว่าถ้า”
ทันทีที่พูดจบ ก็มีชายปริศนาคนหนึ่งพุ่งเข้ามาและชกฮัวจิงลงกับพื้น
ในขณะที่ฮัวจิงยังคงงุนงง เขาก็ต่อยฮัวจิงซ้ำไปหนึ่งที “ไอ้สารเลว!”
ดวงตาของซูหยินเจ็บปวด “หยุดทำเขา พอแล้ว”
ใบหน้าของกู่อวี๋เฉิงเคร่งขรึมและโกรธเกรี้ยว แตกต่างจากท่าทางเย็นชาและสง่างามที่เขาชอบแสดงออกมาทุกครั้งอย่างสิ้นเชิง
และนี่คือภาพที่ซูหยินไม่อยากเห็นมากที่สุด
เธอไม่ต้องการให้กู่อวี๋เฉิงเปลี่ยนไปเพราะเธอ
ฮัวจิงไม่มีความคิดที่จะต่อสู้กลับ ดังนั้นเขาจึงทรุดตัวลงบนพื้นและปล่อยให้กู่อวี๋เฉิงเอาชนะ
หลังจากพูดจบ เขาก็เปิดปากพูด “รองประธานกู่ คุณชอบนกน้อยที่ผมเลี้ยงก็ดีแล้ว”
เพียงประโยคเดียวก็ทำให้สติของกู่อวี๋เฉิงขาดผึง
แต่ซูหยินเอาแขนโอบเอวของเขาไว้ “เราไปจากที่นี่กันเถอะ”
กู่อวี๋เฉิงมองที่สายตาอ้อนวอนของเธอ เขาอดทนต่อความโกรธที่แล่นไปทั่วร่างกายและพาซูหยินออกไป
ฮัวจิงหัวเราะจนน้ำตาเล็ดออกมา เลือดสีแดงสดที่ไหลออกมายังติดอยู่ในมุมปาก
ในขณะนั้นโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น คนขับรถของเขาโทรมา
ฮัวจิงชำเลือง แต่เขาไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะหยิบขึ้นมา แต่ก็กลัวว่าภรรยาของเขาอาจมีธุระ เขาจึงหยิบมันขึ้นมา
ทั้งสองคนมาที่โรงแรมในวันนี้เพื่อจองห้องสำหรับงานเลี้ยงวันเกิดของลูก พวกเขาไม่จำเป็นต้องจัดการเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ แต่ภรรยาของเขารักลูกมากและอารมณ์ของเธอก็ไม่คงที่เนื่องจากใกล้จะคลอดแล้ว
ดังนั้นฮัวจิงจึงทำตามใจเธอและตั้งใจทำงานเป็นพิเศษเพื่อพาภรรยาไปที่โรงแรมและเลือกห้องจัดงานเลี้ยง
แต่คิดไม่ถึงว่าโรงแรมที่ภรรยาเลือกจะเป็นโรงแรมที่ซูหยินจัดงานแถลงข่าว!