Top Star ระบบปั้นเธอให้เป็นดาว - บทที่ 36 เขาในเวอร์ชันผู้หญิงที่สมบูรณ์ที่สุด!
บทที่ 36 เขาในเวอร์ชันผู้หญิงที่สมบูรณ์ที่สุด!
บทที่ 36 เขาในเวอร์ชันผู้หญิงที่สมบูรณ์ที่สุด!
ทุกคนมาพร้อมกันหมดแล้ว
“ว้าว ฉันเห็นทุกความพยายามของทุกคนในช่วงเวลาการฝึกซ้อมอันยาวนาน วันนี้พวกคุณพร้อมสำหรับการประเมินครั้งแรกหรือไม่”
ฮันเอินจีเดินเข้ามาอย่างสง่างาม เธอสวมชุดเดรสคอวียาวสีเงินที่รัดรูปเข้ากับสัดส่วนของเธออย่างพอดี แม้แต่ซือเฉินก็อดไม่ได้ที่จะชมเธอ “อาจารย์ฮัน วันนี้คุณสวยมาก”
ฮันเอินจี หยิบการ์ดสคริปต์ขึ้นมาแล้วปิดปากยิ้มอย่างแผ่วเบา สายตาของเธอกวาดไปที่ลู่เฉิน ซึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ อย่างไม่ได้ตั้งใจ
เธอใช้เวลานานมากในการแต่งตัวครั้งนี้
“เวลาผ่านไปเร็วจริง ๆ เราทุกคนรู้ว่าพวกคุณฝึกซ้อมกันอย่างหนัก ฉูรั่วฮวนและอวี๋ชิงจ้าวฝึกซ้อมจนถึงตีหนึ่งตีสองทุกวัน”
“โคโค่จากคลาส C ก็ไม่ได้นอนเลยเมื่อคืนนี้”
“หัวหน้าคลาส D แม้ขาจะเคล็ดแต่ก็ยังยืนกรานที่จะฝึกซ้อม”
“แม้แต่คลาส E ก็ไม่ยอมแพ้ พวกเขาใช้เวลาทุกวินาที ทุกโอกาส พยายามพัฒนาความสามารถในเวลาอันสั้นให้ได้มากที่สุด”
“บางคนเหงื่อท่วมตัวราวกับตากฝน บางคนร้องไห้อย่างขมขื่นในกลางดึก”
“ในตอนนี้ พวกคุณคือวัยรุ่นท้าฝัน”
“ตอนนี้ ถึงเวลาที่คุณจะต้องแสดงความสามารถของคุณและเฉิดฉายบนเวที”
คำพูดของเธอทำให้ผู้เข้าแข่งขันทั้งห้าสิบคนฮึกเหิม
แต่ชาวเน็ตกลับรู้สึกขบขันกับคำพูดของฮันเอินจี
[อะไรนะ? ไม่ได้นอนทั้งคืน?]
[ถ้าฉันโดนเหยียดหยามแบบนี้ ฉันคงหลับไม่ลงแน่]
[น่าขำเป็นบ้า เธอไม่รู้หรือไงว่าโคโค่กำลังเตรียมพร้อมสำหรับสงครามครั้งใหญ่]
[คุณมันใจร้ายเกินไป เมื่อไหร่จะแสดงสักที ฉันอยากดูแล้ว!]
[อนิจจา มันน่าสมเพชที่จะคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้!]
[ทีมงานตั้งใจพูดอย่างนั้น? พวกเขาไม่ได้ดูการถ่ายทอดสดเหรอ? ฉันไม่เชื่อหรอก!]
“การสอบวันนี้เริ่มจากคลาส A และคนแรกคือฉูรั่วฮวน”
[อะไร?]
[น้องสาวจ้าวผู้คู่ควรกับที่หนึ่งไม่ใช่คนแรกที่ขึ้นมาบนเวที]
[ไม่ได้เรียงอันดับตามความสามารถเหรอ ทำไมเธอถึงเป็นคนแรก?]
[มาแล้ว ฮวนฮวน!]
ฉูรั่วฮวนดูสง่างามบนเวที เธอร้องเพลง เต้นและร้องแรปได้อย่างดีเยี่ยม ไม่มีอะไรน่าทึ่งเป็นพิเศษ แต่ถึงอย่างนั้นการแสดงของเธอก็ดีมาก
หลังจากพูดคุยกัน เหล่าอาจารย์ก็ให้คะแนน
ด้านฮันเอินจีก็ชื่นชมฉูรั่วฮวนเป็นอย่างมาก “ทุกคน โปรดดูเธอเป็นตัวอย่าง คนต่อไปอวี๋ชิงจ้าว”
อวี๋ชิวจ้าวค่อย ๆ ก้าวขึ้นไปบนเวที
หลังจากการแสดงจบ อาจารย์ก็แสดงออกแตกต่างกันไป ความสามารถโดยรวมของอวี๋ชิงจ้าวนั้นสูงกว่าของฉูรั่วฮวนอย่างเห็นได้ชัด และคะแนนของเธอก็เป็นไปตามคาด
[ใช่ น้องสาวจ้าวสุดยอด ฉันแค่อยากจะบอกว่าการแสดงของฉูรั่วฮวนนั้นน่าเบื่อ]
[ฉันเห็นด้วยกับคุณ แต่การแสดงของฉูรั่วฮวนก็ไม่เลวเลย]
[ฉันคิดว่าเธอเกินคลาส A ไปแล้ว!]
[ถึงกับต้องยกนิ้วให้เลยเหรอ]
[ฉันเกลียดแฟน ๆ ของอวี๋ชิงจ้าวมาก พวกเขาหยาบคายมาก!]
[แค่ทักษะของฉูรั่วฮวนไม่ดีเท่าของอวี๋ชิงจ้าว ยากที่จะยอมรับเหรอ?]
ถัดไปเป็นการประเมินของสามคนที่เหลือในคลาส A ซึ่งมีสองคนที่ตกลงจากคลาส A เนื่องจากปัญหาด้านการแรปซึ่งหมายความว่าที่นั่งในคลาส A จะว่างสองที่นั่ง!
ส่วนในคลาส B หลินเจี้ยนเป็นคนแรกที่ได้แสดง การร้องแรปและการร้องเพลงของเธอไม่ค่อยดีนัก และท่าเต้นของเธอก็ยุ่งเหยิงเล็กน้อย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความกังวลใจหรือปัญหาอื่น ๆ ทำให้เธอตกไปอยู่ในคลาส C
ส่วนทักษะการร้องแรปและร้องเพลงของเฉินซีซีก็คงที่ ทำให้อยู่คลาส B ไม่ขยับเขยื้อน
ส่วนคนที่เหลือในคลาส B ล้วนทำคะแนนได้คงที่ โดยอันดับของพวกเขาไม่เพิ่มขึ้นหรือลดลง
เมื่อเห็นสิ่งนี้ แจ็คก็ได้แต่ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ มีเด็กฝึกไม่กี่คนในกลุ่มนี้ที่สามารถร้องแรปได้
แน่นอนว่าการร้องแรปเป็นเรื่องยาก
ซูโย่วอี๋ถูกจัดให้เป็นคนสุดท้ายที่ทำการแสดง
เมื่อเธอกำลังจะขึ้นแสดง โคโค่ก็ยืนขึ้นและพูดว่า “ฉันทำข้อตกลงกับเธอไว้”
เมื่อได้ยินอย่างนั้นเหล่าผู้เข้าแข่งขันต่างซุบซิบกัน
แจ็คไม่ได้วางแผนที่จะเผยแพร่สู่สาธารณะ ท้ายที่สุดหากประกาศเรื่องการแข่งขันต่อสาธารณะ ก็จะไม่มีวันหันหลังกลับได้
เขามองซูโย่วอี๋อย่างเป็นห่วง
แต่ซูโย่วอี๋กลับมีท่าทีที่สบายดีและยังขยิบตาให้เขาอย่างซุกซน
[อา น่ารักมาก!]
[คิดว่าเธอลดน้ำหนักได้เยอะไหม]
[ไม่เห็นห้องสตรีมสดของเธอเหรอ เธอกำลังไดเอ็ตทุกวัน น้ำหนักเธอน่าจะลดลงมาบ้าง]
[ดูดีขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย]
[เธอกำลังทำให้โคโค่เหมือนตัวตลก]
[ปิดปากโคโค่ให้ได้ รู้ไหมว่าเธอกำลังจะเจออะไร?]
[โย่วโย่วที่รักสอนวิธีปฏิบัติตนให้เธอหน่อย]
ในเมื่อโคโค่พูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ซูโย่วอี๋จึงอธิบายการแข่งขันของพวกเธอให้ทุกคนได้รู้
ในฐานะผู้ดำเนินการ ฮันเอินจีย่อมต้องควบคุมสถานการณ์ เธอมองไปที่ลู่เฉินโดยหวังว่าเขาจะพูดอะไร แต่ลู่เฉินกลับนั่งอยู่เฉย ๆ ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ ฮันเอินจีจึงได้แต่ปล่อยให้พวกเธอสู้กันเอง
“งั้นเริ่มกันเลย”
ซูโย่วอี๋กระแอมในลำคอและพูดเบา ๆ
“ไม่มีเสียงดนตรีคลอ”
“ไม่มีแสงไฟบนเวที”
“ไม่มีเสื้อผ้าแฟนซี”
“ด้านหน้าของ ‘วัยรุ่นท้าฝัน’ มีเพียงเสียงที่อ่อนโยนและขับกล่อม”
[กรี๊ดดดดด]
[เลิศค่าาาา!]
[เพลงนี้เข้าถึงจิตวิญญาณเลย]
[ฉันอยากคุกเข่าให้เธอ!]
[ฉันลืมว่าฉันจะทำอะไร!]
ซูโย่วอี๋ร้องเพลงต่อไป!
ด้วยเสียงที่ไพเราะที่สุด!
ส่วนกลางของเพลงมีชีวิตชีวาและสนุกสนาน แม้แต่จังหวะก็มีความสนุก
[มันน่าทึ่งมากที่เธอเต้นถูกทั้งหมด!]
[และมันก็ไม่ติดขัดแม้แต่น้อย!]
[ใช่ พอดูแล้วมันลื่นไหลมาก]
[นั่นเป็นเพราะเธอซ้อมหนักมาก!]
จุดไคลแมกซ์เต็มไปด้วยจังหวะขึ้นและลง และอารมณ์ของเพลงก็พุ่งสูง ในตอนที่อารมณ์ถึงจุดสูงสุด ซูโย่วอี๋กระโดดแยกขาลงพื้นในคราวเดียว
[ว้าว!]
[เจ๋งมาก!]
[ฉันเป็นแค่ผู้ชายตัวบาง ๆ แต่ทำแบบเธอไม่ได้!]
[คนอ้วนก็ยืดหยุ่นและมีพลังได้เช่นกัน!]
[ในตอนนี้ ฉันคิดว่าเธอคือภาพลักษณ์ของไอดอล ไอดอลที่มีความสามารถระดับมืออาชีพและมีความพยายามในการพัฒนาตัวเอง]
[และเธอกำลังลดน้ำหนัก ฉันพนันได้เลยว่าเธอต้องสวยกว่านี้แน่ ๆ]
[น้องอ้วนน่ารักมาก!]
จู่ ๆ เพลงก็หยุดกะทันหันและถูกขัดจังหวะด้วยบทสนทนา
ในเวลานี้หญิงสาวที่ควรจะยืนขึ้นยังคงนั่งฉีกขาอยู่ เพราะเธอขยับไม่ได้จริง ๆ
บัดซบ เอาอีกแล้ว
เธอทำเป็นปั้นหน้านิ่งและมองกล้องอย่างเย็นชา
ชาวเน็ตถึงกับคลั่ง
[กรี๊ดดดดดด!]
[แรงมาก เธอแรปได้อย่างสบาย ๆ]
[ขาของฉันสั่นอย่างควบคุมไม่ได้!]
[ฉันไม่ควรนั่งที่นี่ ฉันควรจะเข้าทำงานได้แล้ว]
[เมื่อก่อนฉันคิดว่าการแรปยากมาก แต่ตอนนี้ฉันอยากเรียนแรปแล้ว!]
[สไตล์เดียวกับแจ็คเลย?]
คนที่ตกใจที่สุดคือแจ็ค เขาไม่สามารถควบคุมการแสดงออกของเขาได้
เกิดอะไรขึ้น
เธอเคยบอกว่าไม่เคยร้องแรปมาก่อน แถมเขาก็ยังไม่ได้สอนเธอสักนิด?
นอกจากนี้ ทำไมเขาตอนที่เขามองไปที่เธอราวกับว่าเขาเห็นตัวเอง?
เนื่องจากอิทธิพลของสภาพแวดล้อมที่เติบโตของเขา สไตล์การร้องของแจ็คมักถูกมองว่าเป็นขบถ ใต้ดิน ซึ่งถูกใจชาวโลกมาก ไม่ว่าเขาจะร้องแรปแนวไหนก็จะร้องได้ดีกว่าคนอื่น ๆ
เขาเคยสงสัยว่าคนเหล่านั้นมองเขาเป็นคนแบบไหน
ตอนนี้เขารู้แล้วว่าไม่มีคำใดจะอธิบายการร้องเพลงของเธอได้ดีไปกว่าสองคำนี้
หากคนอื่นลังเลว่าสไตล์ของทั้งสองคล้ายกัน แจ็ครู้ดีกว่าใครว่าซูโย่วอี๋เป็นเขาในเวอร์ชันผู้หญิงที่สมบูรณ์ที่สุด!