Top Star ระบบปั้นเธอให้เป็นดาว - บทที่ 6 ภาพฮอโลแกรม
บทที่ 6 ภาพฮอโลแกรม
บทที่ 6 ภาพฮอโลแกรม
ไซมอนเป็นเพื่อนที่ดีของซูหยินมาโดยตลอด เขาสุภาพกับซูหยินที่มีชื่อเสียงในบริษัทมาก “คุณกู่ไม่มีเหตุผลที่ต้องทำแบบนั้น อย่าโกหกดีกว่า”
เขาดูใบสมัครอย่างรวดเร็วและพูดขึ้น “มันถูกต้องแล้วเหรอที่จะเป็นศิลปินโดยการ… ”
ซูหยินขู่ฟ่อ “นี่คือลูกพี่ลูกน้องของประธานกู่ อย่าลืมล่ะ”
ต่อมา ไซมอนมองการจากไปของซูหยินอย่างสงสัย เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาและโทรหาผู้ช่วยของรองประธานกู่อวี๋เฉิง ที่บังเอิญออกจากห้องทำงานเพื่อไปห้องน้ำ และเลขาก็ส่งโทรศัพท์ให้เขาทันที
“ซูโย่วอี๋?”
กู่อวี๋เฉิงนึกถึงรูปลักษณ์ที่มีเสน่ห์ของซูหยินในเวลานั้น ขมวดคิ้วและพูดว่า “ปล่อยให้เธอเข้ามา”
เขาพูดเพียงไม่กี่คำและตัดสายโทรศัพท์อย่างเย็นชา
ไซมอนรู้สึกผิดหวังที่เขาโทรไปยืนยันอย่างไม่จำเป็น น้ำเสียงของประธานกู่เย็นชามาก ดูเหมือนว่าเขาจะไม่พอใจเล็กน้อย
ไซมอนตัดสินใจอย่างลับ ๆ ว่าในการสัมภาษณ์และคัดเลือกครั้งต่อไป เขาต้องปฏิบัติต่อซูโย่วอี๋ในฐานะบุคคลที่เกี่ยวข้องกับรองประธานกู่เพื่อชดเชยความผิดพลาดของเขา
…
ซูหยินกลับไปที่ห้องของเธอหลังจากทำงานเสร็จ และจ้องที่โทรศัพท์ของเธอด้วยแววตาที่ครุ่นคิด เห็นได้ชัดว่าเพื่อนสนิทยังมีความรู้สึกต่อผู้ชายสารเลวคนนั้น แต่เธอไม่กล้าปล่อยให้สิ่งต่าง ๆ ดำเนินไปทั้งอย่างนั้น ครั้งก่อนเธอล้มเหลวในการโน้มน้าวเพื่อนรักให้ทำตามความฝันของเธอ ครั้งนี้ เธอจะไม่ปล่อยให้โย่วอี๋ตกอยู่ในสถานการณ์แบบนั้นอีก
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น “ต้าซุย ช่วยฉันจับตาดูใครสักคนหน่อย”
เสียงของชายปลายสายตื่นเต้นขึ้น “พี่สาวหยิน เกิดอะไรขึ้น”
“พ่อหนุ่ม เรื่องนี้สำคัญมาก มีชายคนหนึ่งทำให้น้องสาวของฉันเสียใจ เดี๋ยวฉันจะส่งข้อมูลให้อีกที จับตาดูให้ดี และทำให้แน่ใจว่าได้จับหลักฐานการโกหกของเขาได้อย่างอยู่หมัด อย่าปล่อยให้เขาทำลายครอบครัวของเขา”
เขาเลิกคิ้วและพูดว่า “คุณมีน้องสาว?”
เมื่อเห็นว่าซูหยินไม่สนใจ เขาจึงตอบอย่างเคร่งขรึมว่า “ตกลง ผมเข้าใจ วางใจได้เลย”
เขตหัวซี
“อา ไม่ไหวแล้ว”
ซูโย่วอี๋กรีดร้องออกมาราวกับหมูโดนเชือด
สุนัขจิ้งจอกที่ลอยตัวสบาย ๆ ยกอุ้งเท้าหน้าขึ้นและเกาหู “หยุดบ่นได้แล้ว คุณต้องทำท่านี้เป็นเวลาสิบนาที นี่เพิ่งผ่านไปเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น”
ซูโย่วอี๋นอนอยู่บนพื้น หายใจหอบถี่ เธอเคยเห็นการออกกำลังกายเช่นนี้ทางโทรทัศน์นับครั้งไม่ถ้วน แต่เธอไม่คิดเลยว่ามันจะลำบากขนาดนี้
ท้ายที่สุดแล้ว เธอก็มีน้ำหนักถึงแปดสิบแปดกิโลกรัม
สุนัขจิ้งจอกขมวดคิ้วและครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
[ลืมมันไปซะ ยัยอ้วน]
ด้วยการกวาดหาง ฉากโดยรอบก็เปลี่ยนไป ตอนนี้กลายเป็นพื้นที่กว้างห้าสิบตารางเมตร แทนที่จะเป็นกำแพงทึบ รอบ ๆ เป็นกระจกใส ซูโย่วอี๋หันศีรษะของเธอเล็กน้อยและเห็นตัวที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อของเธออย่างชัดเจน
ในวินาทีต่อมา หญิงอ้วนน้ำหนักแปดสิบแปดกิโลกรัมค่อย ๆ จางหายไป กลายเป็นสาวงามที่ผอมเพรียว
ปากของซูโย่วอี๋อ้ากว้างพอที่จะกลืนไข่ได้หนึ่งฟอง
นี่เธอผอมขนาดนี้เลยหรือ
แต่น่าทึ่งมาก เสื้อผ้าที่ควรจะหลวมกลับกลายเป็นพอดีตัวทั้งที่ขนาดตัวของเธอเล็กลง
[ซู่จู่ นี่คือภาพฮอโลแกรม อุปกรณ์ออกกำลังกายใด ๆ ที่นี่จะปรากฏขึ้นโดยอัตโนมัติตราบเท่าที่คุณต้องการ]
สุดยอด
ซูโย่วอี๋ยืนขึ้นจากพื้นอย่างคล่องแคล่วว่องไว ภาพตรงหน้าคือหญิงสาวที่ปราศจากความอ้วน
เธอจ้องมองหญิงสาวในกระจก ใบหน้าที่อ้วนท้วนของเธอแสดงให้เห็นโครงร่างดั้งเดิม ดวงตาสีแอปริคอตสดใส จมูกเรียวเล็ก ริมฝีปากสีดอกกุหลาบของเธออิ่มเอิบ ดวงตาป็นประกาย แนวกรามที่ชัดเจนเสริมให้ใบหน้านุ่มนวล ซึ่งทำให้เธอดูเท่และกล้าหาญแต่ก็ยังคงความอ่อนหวาน
ซูโย่วอี๋ประหลาดใจ พร้อมกันนี้ความฮึกเหิมก็ปรากฎขึ้นในดวงตาของเธอ ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอควรจะเป็นมาตั้งนานแล้ว!
สุนัขจิ้งจอกไม่คิดว่าซู่จู่ที่ลดน้ำหนักจะเป็นสาวงามเพียงนี้ เขากระแอมและพูดเสียงเบา [ซู่จู่ เพื่ออำนวยความสะดวกในการฝึก พื้นที่ฮอโลแกรมจะจำลองคุณด้วยหุ่นมาตรฐาน และการเคลื่อนไหวทั้งหมดของคุณในพื้นที่นี้จะมีบทบาทที่สอดคล้องกับในร่างกายของคุณในชีวิตจริง]
ซูโย่วอี๋ พยักหน้า “งั้นเริ่มกันเลย”
พื้นที่ฮอโลแกรมรอบด้านฉายภาพการฝึกของซูโย่วอี๋ และความอ้วนจะไม่ใช่สิ่งที่ขัดขวางเธออีกต่อไป
และเมื่อไรก็ตามที่เธอรู้สึกเหนื่อยล้าจนเผลอผ่อนคลายร่างกาย แขน ขา และท้องบางจุดก็จะปวดแปลบ ๆ
[ซู่จู่ ส่วนที่เจ็บปวดคือจุดที่ต้องออกแรง คุณต้องปรับแรงที่ใช้อยู่เรื่อย ๆ]
ซูโย่วอี๋ได้แต่กัดฟันทนต่อไป
ในตอนเริ่มต้นสิบวินาที ต่อมาสิบห้าวินาที ยี่สิบวินาที และด้วยแรงกายที่อ่อนล้า เวลาจึงสั้นลงเหลือสิบวินาที
หลังจากเสร็จสิ้นการฝึกสิบนาที ใช้เวลามากกว่าครึ่งชั่วโมง
ถัดไปคือสะพานโค้ง ลุกนั่ง และวิดพื้น
ในตอนท้ายของการฝึกสองชั่วโมง ซูโย่วอี๋ล้มลงกับพื้น รู้สึกมีความสุขที่ได้หายใจอย่างเต็มปอด รูขุมขนเปิดออก เหงื่อไหลซึมตามไรผมของเธอ เธอเลียมุมริมฝีปากและรู้สึกเค็ม
“เจ้าจิ้งจอกเน่า ตอนนี้ฉันรู้สึกมีความสุขมาก”
ภาพฮอโลแกรมหายไปและห้องนั่งเล่นค่อย ๆ ปรากฏ ร่างกายของซูโย่วอี๋ กลับไปเป็นหญิงอ้วนแปดสิบแปดกิโลกรัมตามเดิม ร่างกายของเธอเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ และความเหนื่อยล้าหลังจากออกกำลังกายอย่างหนักก็เพิ่มขึ้น
[‘รางวัลภารกิจ’ ขอแสดงความยินดีกับซู่จู่ที่ออกกำลังกายครบ 2 ชั่วโมง รายการรางวัล: 3 เม็ดช็อกโกแลต]
ดวงตาของซูโย่วอี๋เป็นประกาย และเธอก็ลุกขึ้นไปตรวจสอบแถบรายการบนแผงอิเล็กทรอนิกส์ ที่มีเม็ดช็อกโกแล็ตลอยอยู่ในนั้น
มีสามเม็ด และเร็ว ๆ นี้ จะมีเก้าสิบเก้าเม็ด จากความถี่ในการออกกำลังกายสองชั่วโมงต่อวัน เธอจะสามารถแก้ปัญหาภาวะมีบุตรยากได้ในหนึ่งเดือน
สุนัขจิ้งจอกทำลายความฝันของเธออย่างไร้ความปรานี [ซู่จู่ ค่าธรรมเนียมการยืมพื้นที่ฮอโลแกรมคือ สิบเม็ดช็อกโกแลตต่อชั่วโมง และตอนนี้คุณค้างชำระสิบเจ็ดเม็ดช็อกโกแลตแล้ว]
ด้วยการโบกอุ้งเท้าหน้าของสุนัขจิ้งจอก เม็ดช็อคโกแลตที่เพิ่งอยู่ในแถบสินค้าก็ถูกสุนัขจิ้งจอกเอาออกมาไว้ในมือ จากนั้นมันก็โยนมันเข้าปาก
กร๊อบ!
ซูโย่วอี๋มองไปที่สุนัขจิ้งจอกด้วยความเกลียดชัง โชคไม่ดีที่เจอระบบแย่ ๆ แบบนี้ แต่เธอต้องใช้พื้นที่ฮอโลแกรม มิฉะนั้น การฝึกจะสำเร็จไม่ได้เลย หลังจากพักผ่อนแล้วเธอก็ไปเตรียมอาหารเย็น
ตอนนี้เธอสามารถกินวัวได้ทั้งตัว
เมื่อถึงเวลาอาหารเย็น เธอได้รับคำตอบจากซูหยินว่า ‘ได้สัมภาษณ์’ และหัวใจของเธอก็ตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม ซูโย่วอี๋ทุ่มเทให้กับการลดน้ำหนักและวางแผนที่จะไปสัมภาษณ์ครั้งแรกในชีวิตของเธอให้ดีที่สุด
…
สามวันต่อมา หญิงสาวที่แผนกต้อนรับของบริษัทออกแบบและพัฒนาของเล่นเฉินอี้ ได้รับพัสดุด่วน และระบุชื่อผู้รับคือเฉินเฉิน ประธานของบริษัท เธอจึงรีบเอาไปที่ห้องทำงานของผู้จัดการทั่วไป
ห้องทำงานเต็มไปด้วยกลิ่นบุหรี่ เฉินเฉินจ้องไปที่กรอบรูปในลิ้นชัก และมีหญิงชราคนหนึ่งนั่งอยู่บนโซฟารับแขก
สาวที่แผนกต้อนรับพูดติดตลกว่า “ช่วงนี้คุณเฉินคิดอะไรอยู่คะ”
เฉินเฉินยังไม่ตอบ แต่หญิงชราตอบอย่างไม่สบอารมณ์ “นี่คือสิ่งที่พนักงานควรถามงั้นเหรอ?”
“แม่ครับ พูดอะไรกันครับ”
หญิงสาวที่แผนกต้อนรับยิ้มเมื่อเห็นว่าบรรยากาศไม่เป็นใจ “เอ่อคุณป้าคะ นี่คือพัสดุด่วนของคุณเฉินค่ะ อย่างนั้นฉันขอตัวไปก่อนนะคะ”
หลังจากรอให้หญิงสาวออกไป เฉินเฉินก็มองไปที่แม่ของเขาอย่างหมดหนทางและพูดว่า “แม่ครับ บริษัทของผมไม่เล็กไม่ใหญ่ และมีพนักงานทั้งหมดประมาณยี่สิบคนเท่านั้น อย่าพูดอะไรใจร้ายแบบนั้นสิครับ”
เขาหยิบจดหมายขึ้นมาแล้วเปิดดู มันคือผลการตรวจร่างกายของซูโย่วอี๋