Undefeated God of War ยอดยุทธไร้เทียมทาน - ตอนที่ 602 ศูนย์กลางทหารรับจ้าง
ศัตรูแข็งแกร่งมากกว่าที่เขาคิดไว้มาก
แต่เรื่องดีก็คือพวกเขาพบเป้าหมายของพวกเขาแล้ว แต่ศัตรูยังไม่รู้ความคงอยู่ของพวกเขา นั่นทำให้พวกเขาได้เปรียบอย่างแน่นอน และนอกจากขาดแคลนเรื่องเวลา ถังเทียนรู้สึกว่าพวกเขามีโอกาสชนะมาก
ความมั่นใจของเขาไม่ได้โผล่มาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ตลอดการเดินทางของเขา พวกเขาเอาชนะคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่าพวกเขามาก ถังเทียนไม่เคยกลัวคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งมากกว่าเขา
ริชาร์ดพบถังเทียนเพื่อเอาเงินเสร็จแล้วเขาก็ออกมา
ถังเทียนอยู่ในโรงแรมไม่นานนัก
“นายท่านนี่คือศูนย์กลางทหารรับจ้างที่ใหญ่ที่สุดของเมืองทรายขาวทหารรับจ้างที่มาที่นี่ก็เพื่อแสวงหาชีวิตที่ดีเมืองทรายขาวมีบริษัทการค้ามากมายซึ่งก่อตั้งเพื่อเดินทางและเป็นคาราวานการค้า ดังนั้นบ่อยครั้งจึงต้องเสริมกำลังด้วยคนของพวกเขา นอกจากนี้ยังมีจ้าวศักดินาผู้ร่ำรวยประจำท้องถิ่นมาเยี่ยมเยือนที่มีชื่อเสียงแห่งนี้” น้ำเสียงของฮั่นเซินเต็มไปด้วยคำเยินยอ “ถ้ามีกลุ่มใดที่เตะตาของนายท่าน อย่างนั้นพวกเขาจะมีความสุขอย่างแท้จริงด้วยโชคลาภใหญ่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเขา”
หน้าของสือเซินแสดงออกถึงความรังเกียจเขาเกลียดท่าทางของฮั่นเซิน ดูเหมือนคนที่ไม่ซื่อสัตย์
สิ่งที่ทำให้เขาไม่พอใจมากก็คือทั้งสองคนมีชื่อเหมือนกันคือ“เซิน” และเจ้านายเรียกเขาว่าต้าเซิน (เซินหนึ่ง) และเรียกฮั่นเซินว่า เอ้อเซิน(เซินสอง)
ถูกจัดให้เป็นพวกเดียวกับเจ้าคนไม่มีกระดูกสันหลังนี่นับเป็นความอัปยศจริงๆ
แต่เมื่อก้าวเข้าไปในศูนย์กลางทหารรับจ้างสีหน้าของเขาเคร่งเครียด
“พวกท่านกำลังมองหาอะไรอยู่หรือคะ?”สุภาพสตรีคนหนึ่งยิ้มต้อนรับพวกเขา
สือเซินถาม “เจ้ามีกองกำลังปีศาจทวีปโยวโจวบ้างไหม?”
“กองกำลังปีศาจทวีปโยวโจว?” สุภาพสตรีที่เข้ามาต้อนรับพวกเขาพยักหน้าเมื่อได้ยิน“มีค่ะ ในพื้นที่ 4 เชิญตามข้ามา”
ขณะเดินตามหลังกลุ่มของเขาก็มาถึงพื้นที่ 4 ซึ่งเต็มไปด้วยทหารรับจ้างรอถูกเลือกไปทำงานพวกเขาส่วนใหญ่มาจากแผ่นดินที่ยากจนและแห้งแล้ง และไม่มีพรสวรรค์อย่างอื่นนอกจากฆ่า ไม่มีทักษะดำรงชีวิตอย่างอื่น พวกเขาทำได้แต่เพียงรออยู่ในพื้นที่ของเขาตลอดทั้งวัน รอโอกาสได้รับเลือก
การแข่งขันภายในรุนแรงเสมอ
“นายท่านผู้นี้ต้องการรับสมัครกองกำลังปีศาจทวีปโยวโจวโปรดรักษากฎเกณฑ์และตามมารับการสัมภาษณ์” สุภาพสตรีนั้นพูดเสียงดัง
กลุ่มคนกลุ่มหนึ่งกระโดดหัวเราะทันที
“กองกำลังปีศาจทวีปโยวโจวเหรอ? ฮ่าๆ นั่นมือสมัครเล่น!”
“ดีสำหรับเราแล้วที่มือสมัครเล่นคนหนึ่งอยู่ที่นี่ พวกเขาหลอกง่ายจะตายไป! บางทีเราอาจได้รับโอกาสในวันนี้ก็ได้
“ดูเพียงแว่บเดียว ข้าก็บอกได้เลยว่าเป็นเจ้าโง่ที่พกเงินมามาก ข้าจะไปเอง”
“ข้าด้วย!”
……
ถังเทียนมอบงานให้สือเซินทำการคัดเลือกกองกำลังปีศาจทวีปโยวโจว ถังเทียนสงสัยว่าสือเซินจะใช้วิธีใดเลือกกองกำลังปีศาจทวีปโยวโจวที่แท้จริงออกมาจากกลุ่มคนพวกนั้นได้ตอนแรกสือเซินตั้งใจจะรับสมัครพวกเขาโดยตรงจากทวีปโยวโจว แต่เนื่องจากพวกเขาขาดแคลนกำลังคน เขาจึงเสนอให้เสี่ยงโชคดูจากศูนย์กลางทหารรับจ้างประจำท้องถิ่น
หน้าของสือเซินยังคงใจเย็นแค่ดวงตาของเขาก็เย็นชาแล้ว ยิ่งทำให้เขาดูเยือกเย็นมากยิ่งขึ้น
คนกลุ่มใหญ่หัวเราะและยืนขึ้น ขณะที่คนอื่นๆ ต้องการสนุกกับฉากภาพที่ตื่นเต้นในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ชื่อเสียงของกองกำลังปีศาจทวีปโยวโจวกลายเป็นอื้อฉาวและมีแต่พวกมือสมัครเล่นที่มาถามหาพวกเขา
“ยังมีที่ต้องการมาเพิ่มอีกไหม?” สือเซินถามอย่างเฉื่อยชา
“ไม่มี!” คนข้างล่างตะโกน และบางคนก็หัวเราะคิกคัก
“ดี” หน้าของสือเซินยังคงสงบ “ถ้าพวกเจ้าสามารถยืนอยู่ได้หลังจากผ่านไป 30วินาที อย่างนั้นพวกเจ้าก็มีคุณสมบัติพอ”
พูดแค่นั้นเขาก้าวเท้าออกมาและคนที่อยู่ด้านหลังสิบคนทุกเดินมาข้างหน้าพร้อมกับถือดาบในมือ พวกเขาแค่เพียงก้าวออกมา แสงรังสีของพวกเขาประสานกันเป็นหนึ่ง
ปัง!
รังสีถูกปลดปล่อยออกมาอย่างน่าประหลาดใจโดยไม่มีคำเตือน คลื่นรังสีอำมหิตที่เกิดฉับพลันทำให้อุณหภูมิห้องลดลงฮวบฮาบ โดยไม่มีอะไรป้องกันเซียนส่วนใหญ่รู้สึกเจ็บปวดเหมือนถูกฟาดที่หน้าอกจนต้องถอยออกไปเจ็ดแปดก้าว ก่อนที่จะหยุดลงได้ขณะที่ความตื่นตะลึงครอบงำใจของพวกเขา
มีอยู่เพียง 20คนที่ทนอยู่ได้โดยไม่ขยับ
สือเซินยังคงตะโกนบอกเวลาโดยไม่เปลี่ยนแปลง “เจ็ด แปด เก้า…”
มือขวาของเขายังคงกำด้ามดาบทะเลหิมะยามค่ำรังสีของเขาเพิ่มระดับขึ้นทันที
อีกหกคนไม่สามารถจะยืนอยู่ได้และถอยหลังออกไป และมีสามคนรู้สึกว่าแข้งขาอ่อนและร่วงลงกับพื้นในขณะนั้นไม่มีใครเยาะเย้ยพวกเขา ทุกคนมองสือเซินด้วยความกลัว
รังสีของทั้งสิบเอ็ดคนรวมเป็นหนึ่งเดียวไม่มีข้อบกพร่องเหมือนเป็นคลื่นรุนแรง คลื่นลูกแล้วลูกเล่าแต่ละลูกสูงมากกว่าแต่ก่อน
คนที่เหลือสิบสี่คนกำลังฝืนยืนหยัดอยู่ พวกเขาขบฟันแน่น เส้นเลือดปูดโปนทั้งร่างและกระตุ้นพลังงานสุดกำลังปลดปล่อยรัศมีครอบคลุมร่างกายพวกเขา
ตรงกันข้ามแสงรัศมีรอบตัวสือเซินและกลุ่มของเขานุ่มนวลมาก
แต่รัศมีนั้นรวมเป็นหนึ่งเดียว
ทุกคนตะลึงอยู่กับที่ระดับความเข้ากันได้ของพวกเขา 80%และยิ่งทำให้พวกเขารู้สึกกลัวมากขึ้น พวกเขายังไม่ได้ชักดาบด้วยซ้ำ!
“สิบแปด สิบเก้า….”
ปากของสือเซินเม้มโค้งแต่นั่นคือรอยยิ้ม ซึ่งไม่มีความอบอุ่นแต่อย่างใดมีแต่ความเย็นยะเยือกเหมือนน้ำแข็ง หลังจากถูกคนเยาะเย้ยก่อนนั้น นั่นทำให้ไฟในตัวของเขาลุกโชน
กองกำลังปีศาจทวีปโยวโจว พวกเจ้าทุกคนเคยเห็นกองกำลังปีศาจทวีปโยวโจวที่แท้จริงหรือไม่?
นัยน์ตาที่เยือกเย็นของเขายิ่งเยือกเย็นมากขึ้นและดาบทะเลหิมะค่ำชูสูงขึ้น
รัศมีที่ถูกปล่อยออกมาก็น่าประหลาดพลังงานในห้องมีมากขึ้น มากขึ้นทุกที หลายๆ คนตระหนักได้ว่าพวกเขาค่อยๆสูญเสียการควบคุมพลังงานในร่างของพวกเขา
กองกำลังปีศาจที่อยู่ด้านหลังของสือเซินยกดาบวายุทมิฬช้าๆทั้งที่ยังอยู่ในฝัก
บึ้ม!
พลังงานรอบตัวสือเซินและกลุ่มของเขากวาดไปทั่วอย่างบ้าคลั่ง แสงแพรวพราวลูกแล้วลูกเล่ากลายเป็นพายุหมุนเร่งระดับความเร็วมากขึ้น
ปัง ปัง!
ร่างพวกเขาทีละคนปลิวไปกระทบกับผนังอย่างดุดัน มีสองคนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเลือดไหลออกจากปาก หน้าของทุกคนเต็มไปด้วยอาการตกใจ
ในพริบตาในพื้นที่เหลือคนอยู่สามคน
และในขณะเดียวกันดาบทะเลหิมะค่ำซึ่งอยู่ในมือของสือเซินถูกชูจนสูงสุด รัศมีของเขาเพิ่มขึ้นในระดับสูงสุด เหมือนอ่างเก็บน้ำที่ถูกเติมเต็มในระดับสูงสุดและน้ำกำลังรั่วออกมา
ทุกคนกลั้นลมหายใจโดยไม่รู้ตัวพวกเขามีอาการแปลกๆ การโจมตีที่ตามมาจะเป็นราวโลกถล่มทลายสามคนที่เหลือใช้พลังของตนทั้งหมดเตรียมพร้อมรับการโจมตีที่ตามมา
เวลาผ่านไปแล้วยี่สิบหกวินาที!
ปากของสือเซินมีแววเยาะเย้ยทันทีรวมทั้งบริวารทั้งสิบของเขาได้
โดยไม่มีคำเตือนพลังงานที่พุ่งขึ้นจนถึงขีดใกล้จะปะทุพลันหายไปไม่เหลือร่องรอย
ราวกับว่าความรู้สึกและภาพลักษณ์ของพลังงานเป็นเพียงภาพลวงตาทั้งหมด
บุรุษทั้งสามที่ยืนอยู่กระอักโลหิตพร้อมกันและล้มลงกับพื้น
“ยี่สิบเก้า, สามสิบ”
รังเกียจขณะที่เขาพูดเย้ยหยัน “สวะทั้งกลุ่ม”
เสียงของเขาไม่ดัง แต่ในสภาพแวดล้อมที่เงียบกริบทั้งพื้นที่สามารถได้ยินเขา
ทุกคนมองมาที่กลุ่มของสือเซินเหมือนกับว่าพวกเขาเห็นผีฉากภาพที่พลังงานจู่ๆ ก็หายไปลวงความรู้สึกของพวกเขาโดยสิ้นเชิง หนึ่งหมัดที่เต็มไปด้วยพลังและเตรียมเข้าโจมตี อยู่ๆ ก็ถอยอย่างกะทันหันได้ยังไง?
การถอนพลังครั้งสุดท้ายคือการละเล่นเปลี่ยนแปลงพลังโจมตีซึ่งเกินขีดจำกัดที่ทุกคนคาดไว้มากอย่างแท้จริง
สามคนที่ทนได้จนถึงที่สุดยังได้รับบาดเจ็บกันทุกคนเพราะพลังโจมตีที่ไร้ลักษณ์
กลุ่มสวะ คำเหล่านี้ฟังแล้วรู้สึกเจ็บปวดเมื่อเข้าหูของทุกคน แต่ท่าทีรุนแรงเหล่านี้ถือเป็นการตบหน้าทุกคนและพวกเขาได้แต่ยืนอยู่กับที่มองดูอย่างว่างเปล่า
เทียบกับกลุ่มแล้ว พวกเขาเป็นกลุ่มสวะอย่างแท้จริง
แม้แต่สามคนที่ยืนหยัดจนถึงที่สุดได้ก็เต็มไปด้วยความอับอาย
แปะๆๆๆ
เสียงปรบมือดังขึ้นมาจากด้านหลังเป็นบุรุษผมสั้นคนหนึ่งที่เริ่มยกย่องสรรเสริญ “ข้าไม่เคยคาดเลยว่าจะได้พบกับกองกำลังปีศาจทวีปโยวโจวของแท้ตามคาดพวกเจ้าทุกคนมีคุณภาพจริง แต่น่าเสียดาย พวกท่านทุกคนแก่แล้วและไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเรา ไม่มีทางที่จะได้เห็นกองกำลังปีศาจทวีปโยวโจวซึ่งมีฝีมือสุดยอดได้ มิฉะนั้นอย่างน้อยพวกเขาคงจะมีคุณสมบัติได้ซ้อมมือกับเรากองกำลังอิสระทวีปชิง”
บุรุษผมสั้นล้อมรอบไปด้วยเหล่าสหายที่คล่องแคล่วดุร้ายและน่ากลัว ทุกคนมีท่าทางน่ากลัว
“กองกำลังอิสระทวีปชิง?” สือเซินหยีตา
กองกำลังจากทวีปชิงเป็นกองทหารสุดยอดที่มีชื่อเสียงล่าสุดและในทุกศึกช่วงสองปีที่ผ่านมาจะต้องมีร่องรอยพวกเขา พวกเขาเป็นกลุ่มที่เต็มไปด้วยพลังคุกคามและห้าวหาญและยังกวาดเอาอดีตที่ผิดพลาดของกองกำลังปีศาจไปด้วยกองกำลังอิสระทวีปชิงมีความเข้มงวดมาก ตราบใดที่พวกเขาพบกลุ่มที่แอบอ้างปลอมตัว พวกเขาจะฆ่าพวกนั้นให้หมด
กองกำลังอิสระทวีปชิงมีชื่อเสียงในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์มาก และเป็นหนึ่งในสิบกองทหารสุดยอดที่รู้จักกันในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์
“ดาบที่ดี!” บุรุษผมสั้นสังเกตดาบทะเลหิมะยามค่ำในมือสือเซิน และกล่าว“ถ้าเราพบกันในการต่อสู้ครั้งต่อไป เราจะไม่ปราณีเพราะพวกท่านแก่หรอกนะ ไปเถอะ ลุง, เราขอตัวก่อน”
เขาร้องเรียกสหายด้านหลังเขาและหันหน้าจากไป
แต่ก่อนที่พวกเขาจะเดินจากไป สองสามคนของกองกำลังอิสระทวีปชิงแสดงท่าทีเป็นปรปักษ์ต่อสือเซิน
กลุ่มคนที่เดินออกมาจากศูนย์กลางทหารรับจ้างมีคนหนึ่งเอ่ยขึ้น “อาซัง,ทำไมเราไม่ลงมือ? ดาบนั่นทรงพลังอย่างแท้จริง ขนาดยังไม่ชักออกจากฝัก แต่ข้าก็รู้ได้ถึงพลังของมัน!”
“ใช่แล้ว ใช่แล้ว! นั่นคือดาบที่ดีเลยทีเดียว ดาบอยู่ในมือตาแก่เสียของจริงๆ! ทำไมไม่ให้เรา และให้เราแสดงพลังทั้งหมดของมัน”
“ฮื่ม.. สำหรับเราเมื่อได้เห็นดาบของเขานับได้ว่าเป็นโชคลาภของพวกเขาแล้ว กลุ่มตาแก่นั่นในไม่ช้าจะไม่สามารถเดินได้ พวกมันไม่มีคุณสมบัติได้ถือดาบดีๆ แบบนั้น!”
กลุ่มของพวกเขาพูดคุยกันอย่างมีชีวิตชีวา ทุกคนไม่เข้าใจ อาซังไม่ใช่คนที่พูดด้วยดีๆ
สีหน้าของอาซังเคร่งขรึมเขาพูดขณะเดิน “พวกเจ้าไม่สังเกตเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่หลังกลุ่มตาแก่หรือ เขาอันตรายมาก”
“อันตรายมาก?” คนในกลุ่มรู้สึกเหลือเชื่อ อาซังเป็นคนที่ห้าวหาญดุร้ายเกินใครๆในกลุ่มและเขาไม่เคยกลัวสวรรค์หรือใครๆแต่กลับรู้สึกกลัวได้เพราะใครบางคนด้วยหรือ?
เขายังเป็นอาซังคนเดียวกับที่เรารู้จักไหม?
ทุกคนไม่เชื่อหูพวกเขาเอง
“ใช่แล้ว”ตาของอาซังยังมีร่องรอยกลัว “เมื่อข้าสังเกตดาบในมือของตาแก่เด็กหนุ่มนั่นก็มองข้าทันที เพียงเท่านี้ผมขนในตัวข้าก็ลุกชัน! ทั้งที่เขาแค่มองข้าเท่านั้น”
ทุกคนมองหน้ากันเอง พวกเขาไม่สงสัยความรู้สึกของอาซัง
สัญชาตญาณของอาซังแข็งแกร่งที่สุดในหมู่พวกเขาและอาศัยตรงนั้น เขาได้ช่วยพวกเขามาหลายศึกแล้ว พวกเขาไม่สงสัยสัญชาตญาณที่แข็งแกร่งของเขา
“เขาเป็นใคร?”
“ข้าไม่รู้จักเขา แต่เป็นเรื่องธรรมดา คุณหนูฉินอวี่หรันก็อยู่ที่นี่ ดังนั้นจะมีคนมาดูนางมากมายเท่าไหร่? ข้าคาดว่าเขาก็คือคนที่ตามมาดูนางเช่นกัน!”
“เป็นไปได้!”
“ทุกคน, อย่าทำตัวโดดเด่นสักช่วงระยะหนึ่งอาจมียอดฝีมือหลายคนในช่วงไม่กี่วันนี้ ดังนั้นอย่าก่อเรื่องยุ่งยากอะไรขึ้น”
เมื่อได้ยินคำพูดของทุกคนอาซังนึกย้อนกลับไปที่ฉากนั้น เขาไม่เข้าใจ ทำไมเด็กหนุ่มที่ดูเหมือนธรรมดาถึงได้ให้ความรู้สึกอันตรายที่รุนแรงได้
เขาเป็นใครกันแน่?