Undefeated God of War ยอดยุทธไร้เทียมทาน - ตอนที่ 646 มุ่งหน้าสู่เกาะใต้
เกาะใต้
ริชาร์ดอยู่ข้างๆตัวถังเทียนรายงานรายละเอียดจากการสืบค้นของเขาทั้งหมดอย่างระมัดระวัง เขารู้ว่าเจ้านายให้น้ำหนักกับเรื่องนี้มาก นอกจากนี้เขายังสนใจประวัติศาสตร์ทั้งหมดที่ถูกฝุ่นธุลีปกคลุม และใช้ความพยายามทั้งหมดสืบค้นจนในที่สุดก็ได้เบาะแสหลายอย่าง เบาะแสทั้งหมดเหล่านี้อาจไม่เป็นที่เข้าใจของคนทั่วไป แต่ริชาร์ดรู้สึกว่าสิ่งที่อยู่เบื้องหลังเบาะแสเหล่านี้คือความลับที่ยิ่งใหญ่
ริชาร์ดคาดว่าเจ้านายจะต้องรู้เกี่ยวกับความลับแน่นอน แต่เขาไม่กล้าถามเรื่องนี้ เบื้องหลังของห้าตระกูลเกาะใต้,เงื้อมมือของทวีปหมิงกวง สามารถวินิจฉัยได้อย่างเลือนราง ขณะที่ทวีปกวงหมิงเผด็จการที่แข็งแกร่งที่สุดในปัจจุบันได้ควบคุมภูมิภาคตะวันตกไว้ทั้งหมดแล้ว
“ห้าตระกูลเกาะใต้นั้นเมื่อสองร้อยปีที่แล้ว พวกเขาอพยพมาที่นี่อาจกล่าวได้ว่าในเวลานั้นอพยพมาสิบสามตระกูล แต่เนื่องจากความเห็นที่แตกต่างกัน อีกเจ็ดตระกูลเลือกจะอพยพไปทางตะวันออก อีกหนึ่งตระกูลเดินทางขึ้นภูมิภาคเหนือ และคงอยู่เพียงห้าตระกูล เนื่องจากพวกเขาไม่ต้องการย้ายไปไกล พวกเขาเลือกภูมิภาคใต้”
เมื่อเห็นว่าถังเทียนตั้งใจฟังเป็นอยางดี ริชาร์ดเริ่มตื่นเต้นมาก
“ตั้งแต่ห้าตระกูลอพยพไปที่เกาะใต้พวกเขาไม่เผยตัวและตัดขาดจากโลกภายนอก เกาะใต้มีสภาพแวดล้อมที่น่ากลัวมาก อาศัยอยู่ในธรรมชาติที่ไม่เอื้ออำนวย ผืนดินที่มีสัตว์ป่าดุร้าย และมีหมอกไอพิษปกคลุมไปทั่ว กล่าวกันว่าเมื่อเจ้าครองทวีปถามห้าตระกูลว่าต้องการรางวัลอะไร ตอนแรกพวกเขาบอกว่าต้องการแผ่นดินที่น่ากลัวทางตอนใต้ และปฏิเสธพื้นที่อุดมสมบูรณ์ เมื่อเห็นว่าห้าตระกูลยืนกรานเช่นนั้น เจ้าครองทวีปจึงมอบเกาะใต้ให้ห้าตระกูล เนื่องจากแต่ก่อนนี้ยังไม่มีใครเป็นเจ้าของที่ดิน ห้าตระกูลจึงใช้กำลังคนและความพยายามมากมาย หลังจากผ่านไปสามชั่วคน พวกเขาจึงเริ่มเห็นผล คนภายนอกที่บังเอิญพลัดเข้าไปในเกาะใต้จะตายเป็นส่วนใหญ่ สภาพแวดล้อมที่อันตรายกลายเป็นปราการธรรมชาติให้ห้าตระกูล ดังนั้นเกาะใต้จึงได้รับขนานนามว่าเป็นดินแดนลับสุดยอดของทวีปทรายขาว แต่ทุกๆ สิบปีห้าตระกูลจะส่งศิษย์ของพวกเขามายังจวนเจ้าครองทวีป และมอบสมบัติที่หายากให้ แม้แต่เจ้าครองทวีปก็ยังควบคุมห้าตระกูลได้ลำบาก ดังนั้นเกาะใต้จึงมีระบบเป็นของตนเองและคนภายนอกรู้เรื่องของพวกเขาน้อยมาก”
ริชาร์ดมองดูถังเทียนที่ฟังอย่างระมัดระวังและมีความสุข แต่ริชาร์ดกังวล เพราะครั้งนี้พวกเขาไม่ได้ไปสู้ พวกเขาไม่ได้นำกองทัพไป และมีเพียงหน่วยเล็กๆสองหน่วยของสือเซิน
ห้าตระกูลเกาะใต้เกลียดคนแปลกหน้า และไม่มีใครเคยได้ยินว่าเกาะใต้ต้อนรับอาคันตุกะ เจ้าครองทวีปก็พยายามขอเข้าเยี่ยมเกาะใต้เพื่อเที่ยวชม แต่ห้าตระกูลปฏิเสธคำขออย่างไม่มีเยื่อใย เวลานั้นเจ้าครองทวีปไม่สามารถทำอะไรได้ จึงได้แต่จากไปในลักษณะนั้น
แม้ว่าพวกเขาจะทำให้เจ้าครองทวีปอับอาย แต่เจ้าครองทวีปทรายขาวไม่เคยคิดจะโจมตีห้าตระกูล
เป็นเวลาสองร้อยปีแล้วที่เกาะใต้ถูกห้าตระกูลปกป้องอย่างเข้มงวดแน่นหนา นอกจากปราการธรรมชาติของพวกเขาแล้ว กองทัพระดับเงินก็ไม่สามารถเข้าไปได้ นักรบของห้าตระกูลเหี้ยมหาญและแข็งแกร่งกันทุกคน สามารถสู้กับโจรสลัดได้ในครั้งนั้นส่วนใหญ่เป็นความสามารถของพวกเขาทั้งนั้น
หลังจากผ่านสภาพแวดล้อมที่โหดร้ายแล้ว นักรบของห้าตระกูลในปัจจุบันไม่ใช่พวกที่ทวีปทรายขาวจะกล้าเข้าไปตอแย โชคดีที่ศิษย์ของพวกเขาไม่ค่อยเสี่ยงและสู้กับคนอื่นๆ
“ห้าตระกูลมีอะไรบ้าง?” ถังเทียนถามทันที
“ห้าตระกูลประกอบด้วยเย่, หลี่, เว่ย, หวีและจาง ตราประจำของพวกเขาน่าสนใจมากคือตราประจำตระกูลเย่คือตราชั่ง ตราประจำตระกูลหลี่คือ ปู ตราประจำตระกูลเว่ยก็คือธนู ตราประจำตระกูลหวีก็คือแกะขาว ขณะที่ตราประจำตระกูลจางก็คือแจกัน”
รายงานของริชาร์ดเจาะรายละเอียดได้ลึก เขาใช้เวลาและความพยายามมากในการหาข้อมูลนั้น
ถังเทียนหัวเราะ
กลุ่มดาวคันชั่ง, กลุ่มดาวกรกฏ, กลุ่มดาวคนธนูกลุ่มดาวแกะและกลุ่มดาวกุมภ์
‘พวกเขาคือสิบสองตำหนักระนาบสุริยุปราคา’
‘นอกจากนี้, อาเฮ่อและกลุ่มดาวคนธนูมีความเกี่ยวพันที่ลึกซึ้ง ขณะที่หลิงซิ่วได้รับมรดกของกลุ่มดาวแกะ’
‘น่าสนใจ’
ถังเทียนไม่ได้ส่งอาเฮ่อหรือหลิงซิ่วมาทันที แต่ตัดสินใจดูว่าเป็นเช่นไรก่อน
“เราจะติดต่อกับพวกเขาได้ยังไง?” ถังเทียนถาม
ริชาร์ดเกาหัว “เรื่องนั้นข้าเองก็ยังไม่รู้…”
“บางทีข้ามีความคิดอย่างหนึ่ง” ในที่สุดหลิงเซี่ยก็ถือโอกาสพูด ครั้งนี้ นางเป็นคนเริ่มขอเป็นคนนำทางถังเทียนและต้องการหลีกเลี่ยงการกวาดล้างของทวีปทรายขาว แต่นั่นไม่ได้หมายความว่างานของนางจะผ่อนเบา ก่อนที่นางจะออกจากเมืองทรายขาว เจ้าครองทวีปและท่านซัวปี่เรียกนางมาคุยเป็นพิเศษบอกให้นางดูแลและช่วยเหลือท่านเหมิ่งหนานให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้ ถึงขนาดที่บิดานางมากำชับกับนางเป็นพิเศษเอง
ตามเส้นทาง นางไม่ได้พบโอกาสอะไร การสืบค้นของริชาร์ดกระชับและได้รายละเอียดมากไม่มีช่องว่างใดๆและเขาเป็นนักวิชาการที่มีความรู้ด้วยเช่นกัน ทั้งหมดกลายเป็นเรื่องธรรมดาไม่สามารถหลีกพ้นจากความเข้าใจของเขาได้ เขาสามารถค้นหาจุดเชื่อมโยงได้เสมอ
หลิงเซี่ยนับถือเขาอย่างลึกๆแม้ว่าจะเป็นคนนอก แต่เมื่อฟังริชาร์ดแล้ว ตื่นเต้นมากจริงๆ
สายตาของถังเทียนมองดูหลิงเซี่ย
หลิงเซี่ยรู้สึกว่าแรงกดดันไร้ลักษณ์ถาโถมกดดันลงที่นางทันที ใจของนางสะท้าน ‘ราศีของท่านเหมิ่งหนานกล้าแข็งขึ้นมากจริงๆ!’ ในอดีต นางและเหมิ่งหนานเป็นสหายเสมอกัน แต่ตอนนี้ เมื่อยืนต่อหน้าเขา นางรู้สึกเหมือนกับยืนอยู่ต่อหน้านายท่านซัวปี่
“ราวๆห้าปีที่แล้วซึ่งเป็นวันครบรอบสิบปี ศิษย์จากห้าตระกูลได้มาคารวะเจ้าครองทวีป เพราะมีสุภาพสตรีมาด้วยคนหนึ่ง หลิงเซี่ยจึงรับหน้าที่ดูแลนาง หลังจากได้รู้จักคบหานางอยู่สองสามเดือน ความสัมพันธ์ของเรานับว่าไม่เลวและก่อนที่นางจะจากไปนางให้ของที่ระลึกหลิงเซี่ย และบอกข้าว่าถ้าข้าไปเกาะใต้ข้าสามารถไปเยี่ยมบ้านนางในฐานะอาคันตุกะได้ ข้าแน่ใจว่าเราสามารถขอพบนางได้”
หลิงเซี่ยมองดูถังเทียนรอให้เขาตัดสินใจ
ถังเทียนพยักหน้า “เราว่ากันตามนั้น”
เรือรบชะลอความเร็ว ทุกคนรู้ว่าพวกเขามาถึงเกาะใต้แล้ว
พอบินออกจากเรือรบเกาะใต้ในตำนานรอต้อนรับเขาอยู่ แต่สีหน้าของพวกเขาไม่ค่อยดีนัก
ทะเลหมอกสีเขียวเข้มปกคลุมทั่วสถานที่ไม่มีสิ้นสุด
“นี่คือทะเลหมอกเขียว” หลิงเซี่ยอธิบาย “พิษในหมอกนี้ร้ายแรงและสามารถกัดกร่อนพลังงาน เราต้องระวังให้ดี”
กรรรร!
ทันใดนั้น สัตว์ร้ายตัวหนึ่งคำรามดังมาจากที่ลึกในทะเลหมอก พลังงานปั่นป่วนรุนแรงก่อตัวเหมือนกับเป็นพายุหมุน ทะเลหมอกเขียวปั่นป่วนทันที
สีหน้าของทุกคนเปลี่ยน พลังงานปั่นป่วนทรงพลังมากเหมือนกับว่ามีเซียนเงินสองคนกำลังสู้กัน
แรงปั่นของหมอกเขียวยังคงปั่นกวาดเอาทุกสิ่งทุกอย่าง
สิ่งมีชีวิตซึ่งมีหนามดำบนร่างกาย ตัวยาว 600เมตรกำลังกวนทะเลหมอกเขียวทำให้หัวใจทุกคนเต้นแรง ตราบใดที่สัมผัสกับสิ่งมีชีวิตนี้ มันจะม้วนตัวและรัดไว้อย่างรวดเร็วหนามยาวดำจะแทงตัวผู้บุกรุก
ยังมีสิ่งมีชีวิตรูปแบบอื่นมีขนาดเท่ากำปั้นมันมีตาสีแดงและฟันขาวน่ากลัวคล้ายกับฟันเลื่อย ตัวของมันจะหลั่งสารสีดำที่เมื่อหยดเข้าไปในหมอกจะเปลี่ยนสภาพเป็นหมอกดำ สิ่งมีชีวิตนี้จะเที่ยวไปเป็นกลุ่ม แต่เว้นห่างกันในระยะกว้าง พวกมันแยกเขี้ยวใส่ถังเทียนและกลุ่ม พวกมันจะรวมกันสร้างหมอกสีดำแน่น แต่พวกมันไม่สามารถออกมาจากหมอกเขียวได้ทำให้ทุกคนคลายใจ
มักจะมีกระดูกถูกปั่นออกมาจากกลุ่มหมอกให้เห็นทำให้ทุกคนตื่นตัว
ในที่สุดถังเทียนก็เข้าใจสาเหตุที่ไม่มีใครตั้งใจจะโจมตีเกาะใต้ ทะเลหมอกเขียวคือปราการป้องกันตามธรรมชาติ การบุกรุกเข้ามาโดยไม่มีผู้นำนอกจากจะเอาชีวิตมาทิ้งแล้ว ไม่มีผู้ใดสามารถบรรลุสิ่งใดได้
แต่ในเวลาที่รวดเร็วถังเทียนดูเหมือนจะมีความคิดบางอย่าง เขามีห้องวิจัยพลังสายเลือดอยู่ในความดูแล และเขารู้เรื่องพิษหลายอย่าง
“ในอดีตทะเลหมอกพิษแห่งเกาะใต้ค่อนข้างมีชื่อเสียง แต่ก็ไม่ใหญ่มากนัก คนพูดกันว่าห้าตระกูลตั้งใจจะใช้มัน ไม่ยอมให้คนนอกเข้ามา”
คำพูดของหลิงเซี่ยยืนยันการคาดการณ์ของถังเทียน ทะเลหมอกเขียวหลายชั่วคนได้พยายามอย่างหนักจึงทำให้มีอย่างมากมาย
“เจ้าจะติดต่อกับสหายของเจ้าได้ยังไง?” จู่ๆ ถังเทียนก็ถามด้วยความสงสัย ทะเลหมอกเขียวปกคลุมไปทั่วเกาะใต้
“นางบอกว่ามีศาลาอยู่บนหน้าผาและมีลำธารอยู่ข้างผาสายหนึ่ง ตราบใดที่ข้าโยนของที่ได้มาลงไป นางก็จะได้รับ” หลิงเซี่ยตอบ
ถังเทียนหาศาลาพบได้โดยเร็ว และระหว่างยอดเขาทั้งสองจะมีหน้าผาโล่งเตียนและมีศาลาทรุดโทรมราวกับว่าสามารถพังสลายไปตามกาลเวลา นอกจากศาลาแล้วยังมีลำธารขนาดเล็กไหลผ่าน
แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาประหลาดใจก็คือการไหลของลำธารน้อย มันไหลเป็นสายจากภายในทะเลหมอก ขึ้นไปตามหน้าผาและยังคงไหลต่อไปยังยอดเขาอีกลูกหนึ่งซึ่งครอบคลุมไปด้วยทะเลหมอกเขียว
ของในมือของหลิงเซี่ยเป็นป้ายไม้ที่ทำจากไผ่หยกและแกะสลักรูปแจกันไว้บนนั้น
กลุ่มดาวกุมภ์!
ในสวรรค์วิถีกลุ่มดาวกุมภ์คือกลุ่มดาวที่ทรงอิทธิพลและร่ำรวย กลุ่มดาวกุมภ์อาจจะไม่มีนักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุด แต่พวกเขามีความมั่งคั่งที่สุดแน่นอน
‘ข้าสงสัยว่าตระกูลแจกันนี้ที่อยู่ในทะเลหมอกเขียวจะต้องร่ำรวยแน่นอน’
ถังเทียนลืมชื่อสกุลของกลุ่มดาวกุมภ์ไปแล้ว ดังนั้นเขาจึงเรียกพวกเขาว่าตระกูลแจกัน ถังเทียนต้องการตามหาพวกเขา เนื่องจากสิบสองตำหนักระนาบสุริยุปราคาคือผู้ทรงอิทธิพลของสวรรค์วิถี ทุกตระกูลมีประวัติศาสตร์ยาวนาน ดังนั้นเขาสงสัยว่าตระกูลของพวกเขาจะเหมือนอะไร
เมื่อโยนป้ายไม้ไผ่ลงในกระแสธาร พวกเขามองดูมันหายไปในทะเลหมอกเขียว
หลังจากนั้นยี่สิบนาทีมีร่างหนึ่งบินออกมาจากยอดเขาที่มีทะเลหมอกเขียวปกคลุม และเหินเลียดลงมาตามยอดเขา
“พี่หลิง!”
สุภาพสตรีสาวอยู่ในชุดสีเขียวมองลงมาอย่างตื่นเต้น แต่เมื่อเห็นถังเทียนและคนที่อยู่ข้างหลิงเซี่ยสีหน้านางระมัดระวังทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนางเห็นเรือรบธนูดำของถังเทียนสีหน้าของนางเปลี่ยนไป
“ติงติง!” หลิงเซี่ยเห็นนางก็ส่งยิ้มทันทีขณะที่นางลอบถอนใจ
“พี่หลิงท่านพาพวกเขามาโจมตีตระกูลข้าหรือ?” สีหน้าของติงติงกลายเป็นเย็นชา
หลิงเซี่ยตกใจ จากนั้นรีบส่ายหน้า “ไม่ใช่แน่นอน!”
เมื่อเห็นสีหน้าติงติงค่อยๆ อ่อนโยนลง หลิงเซี่ยรีบอธิบายทันที “ผู้นี้คือท่านเหมิ่งหนาน ข้าร่วมเดินทางมากับเขาที่นี่ในวันนี้ ท่านเหมิ่งหนานเป็นอาคันตุกะผู้ทรงเกียรติของเจ้าครองทวีป เขาหวังจะได้เข้าพบกับห้าตระกูล”
ติงติงส่ายศีรษะ “ถ้าพี่หลิงมาที่นี่ในฐานะอาคันตุกะ ผู้น้องคงยินดีต้อนรับท่านแน่นอน แต่เพราะมีคนอื่นมาด้วย ข้าเสียใจจริงๆ ท่านทุกคนไม่ได้รับการต้อนรับที่นี่”
หลิงเซี่ยพูดไม่ออก นางคาดไม่ถึงว่าผลจะออกมาเป็นแบบนั้น
“ข้าเป็นศัตรูของทวีปกวงหมิง”
เสียงและคำพูดที่ดังขึ้นกะทันหันทำให้ติงติงเงยหน้ามองแววตาของนางเย็นชา ทวีปกวงหมิง! ‘คนผู้นี้รู้ว่าทวีปกวงหมิงคือศัตรูใหญ่ของห้าตระกูลของเราได้ยังไง?’
ถังเทียนยังคงเฉยเมย และล้วงเอาของสองสามชิ้นออกมา
“ข้าคงต้องรบกวนเจ้าให้นำของเหล่านี้ไปให้ประมุขตระกูลต่างๆของพวกเจ้า ไม่ว่าพวกเจ้าจะต้องการพบหรือไม่ ข้าเชื่อว่าประมุขตระกูลต่างๆ จะมีความคิดเอง ข้าจะรออยู่ตรงนี้”
ติงติงรับของมาโดยไม่รู้ตัว
แต่พอเห็นของเท่านั้น นางตะลึงทันที