Undefeated God of War ยอดยุทธไร้เทียมทาน - ตอนที่ 659 ซุ่มโจมตี
หน้าของอิงเยี่ยนแดงด้วยความตื่นเต้น รังสีบนกำแพงของป้อมเป่าจื้อกวงกำลังสั่นไหวความสำเร็จรออยู่ข้างหน้าของเขา
ในฐานะหนึ่งในโจรสลัดของทวีปกวงหมิงที่ทำงานในภูมิภาคใต้ ไม่มีความสงสัยสำหรับความสำเร็จของอิงเยี่ยน เมื่อทวีปฝานซิงโจวส่งกองทัพของพวกเขาเข้าสู้กับทวีปซางโจวอย่างต่อเนื่อง เขามองเห็นโอกาสทันที สำหรับเขาแล้วทวีปฝานซิงโจวทำข้อผิดพลาดทางทหารอย่างร้ายแรง และนั่นก็คือการกระจายหน่วยของเขา
สำหรับเขาแล้วทวีปฝานซิงโจวควรจะรวมกำลังกองทัพของพวกเขาทั้งหมดและย่ำยีทวีปซางโจวในรวดเดียวจึงจะป้องกันอันตรายต่อๆ ไปได้ แต่ทวีปฝานซิงโจวระมัดระวังมากเกินไปหรือไม่ก็ประมาทศัตรูของพวกเขาพวกเขามักส่งกองกำลังที่ไม่เพียงพอไปทำลายศัตรู แต่กลับปล่อยให้ศัตรูพลิกสถานการณ์โต้ตอบได้
ชัยชนะครั้งแล้วครั้งเล่าทำให้พวกเขาได้แต่เต้นวนอยู่รอบศัตรูของพวกเขา ยิ่งพวกเขาสู้มาก พวกเขาก็จะแข็งแกร่งขึ้น ยิ่งพวกเขารบมาก พวกเขาก็จะกล้าหาญมากขึ้น แต่นี่ทำให้ทวีปฝานซิงโจวกลายเป็นล้มเหลวพ่ายแพ้
อิงเยี่ยนได้ที่การค้นคว้าวิจัยทวีปใหญ่ๆในภูมิภาคใต้และรู้สถานการณ์ปัจจุบันของพวกเขาทุกอย่างและภัยคุกคามที่เป็นไปได้ สถานการณ์รอบๆ ทวีปฝานซิงโจวไม่ปลอดภัยเลยแม้แต่น้อย แต่ก็ยังถือครองความมั่งคั่งมากมาย ตราบใดที่ทวีปฝานซิงโจวมีช่องว่างจุดอ่อน ทวีปโดยรอบจะกระโดดเข้าขย้ำแน่นอน
เวลานั้นอิงเยี่ยนไม่รู้ว่าทวีปซางโจวจะชนะหรือไม่ แต่เขายังคงเดิมพัน เขานำโจรสลัดของเขาเองและใช้ความพยายามมากมายวนอ้อมเป็นวงกว้างและในที่สุดก็มาถึงจุดซุ่มโจมตีใกล้กับสะพานลอยทะเลแสง ทวีปฝานซิงโจวไม่มีเวลาดูแลกองทหารเล็กรอบสะพานลอยหรือมีกำลังสำรองเพื่อลาดตระเวน ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถเข้ามาใกล้ได้โดยไม่มีใครรู้
สิ่งที่มีค่ามากที่สุดของทวีปฝานซิงโจวคืออะไร? ก็คือสะพานลอยทะเลแสงนั่นเอง!
เมื่อทวีปฝานซิงโจวตกต่ำเสื่อมโทรม เรื่องทุกข์ใจเรื่องแรกก็คือการเสียสะพานลอยแน่นอน ทวีปกวงหมิงมีรายงานละเอียดเกี่ยวกับป้อมกวงจื้อเป่า หลังจากค้นคว้าอย่างระมัดระวังแล้ว อิงเยี่ยนจึงวางเป้าหมายไว้ที่ป้อมกวงจื้อเป่า
โดยการปกป้องป้อม พวกเขาสามารถโจมตีและป้องกันได้ตามต้องการ
สำหรับโจรสลัดป้อมที่มั่นนั่นไม่มีความหมายอะไร แต่อิงเยี่ยนได้ประเมินไว้ด้วยตัวเองแล้ว ถ้าทวีปฝานซิงโจวสูญเสียการครอบครองสะพานลอยแสง อย่างนั้นป้อมกวงจื้อเป่าก็จะกลายเป็นเป้าหมายของทวีปต่างๆ และจากนั้นก็จะกลายเป็นสมรภูมิที่วุ่นวาย
และอิงเยี่ยนผู้ฉวยโอกาสครอบครองป้อมกวงจื้อเป่าก็จะมีไพ่เอาไว้ต่อรองกับทวีปต่างๆ
เพื่อก่อกวนให้ทวีปภูมิภาคใต้อ่อนกำลังลงนั่นเป็นงานหลักของโจรสลัด
และเมื่อโจรสลัดที่ใกล้สะพานลอยทะเลแสงเริ่มเพิ่มขึ้น อิงเยี่ยนก็จะรู้ได้โดยทันทีว่าการสู้รบกำลังจะเริ่มขึ้น! อิงเยี่ยนผู้เตรียมแผนการฉุกเฉินจะนำบริวารของเขาเข้าโจมตีป้อมกวงจื้อเป่าโดยไม่ลังเล
เมื่อเขามาถึงที่ป้อมกวงจื้อเป่า เขาประหลาดใจเมื่อพบว่าป้อมกวงจื้อเป่าปิดไม่มีการป้องกันอะไร ตอนแรกเขาคิดว่าเป็นกับดัก แต่หลังจากทดสอบไม่กี่ครั้งเขาก็ตะลึงและตระหนักว่าไม่มีวิญญาณแม้แต่ดวงเดียวอยู่ข้างใน ความตกใจเปลี่ยนเป็นดีใจทันที แม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจเหตุผล แต่เขารู้ว่าเป็นสวรรค์ประทานโอกาสให้เขาแล้ว! เขาเริ่มโจมตีป้อมกวงจื้อเป่าอย่างเต็มกำลังทันที ตราบเท่าที่เขาทำลายผ่านม่านชั้นพลังงานป้องกันไปได้ป้อมสำคัญจะตกอยู่ในเงื้อมมือเขา
รังสีหอกรังสีกระบี่ รังสีดาบแพรวพราวยังคงโจมตีใส่ม่านพลังอย่างต่อเนื่องเหมือนกับต้นไม้เหี่ยวเฉา ม่านพลังงานเริ่มสะเทือนไหวราวกับว่าสามารถทำลายได้ตลอดเวลา
หน้าของอิงเยี่ยนแดงด้วยความตื่นเต้น แต่ใจของเขาคิดอย่างรวดเร็ว และเขาเริ่มสงบใจไตร่ตรองพิจารณาถึงก้าวต่อไป
เมื่อมีป้อมเป่าจื้อกวงอยู่ในมือของเขา เขาจะสามารถเรียกสหายและสร้างสัมพันธ์กับโจรสลัด เขามั่นใจในมิตรสหายของตัวเอง
แผนการของโจรสลัดแห่งทวีปกวงหมิงได้กำหนดไว้เป็นเวลานานแล้วและโจรสลัดแต่ละคนได้รับการคัดเลือดอย่างเข้มงวดหลายครั้ง หลังจากผ่านการฝึกอย่างหนักหน่วงรุนแรง หัวหน้าโจรสลัดเหล่านี้ทุกคนซึ่งได้ผ่านการฝึกอบรมทางทหารมาหมดแล้วมีคุณสมบัติกลายเป็นผู้บัญชาการทหารของทวีปเล็กๆได้ หัวหน้าโจรสลัดที่โดดเด่นเหล่านี้จะก่อตั้งกลุ่มโจรสลัดด้วยพลังที่เข้มแข็งมากกว่าโจรสลัดธรรมดา ถ้าไม่ใช่เพราะดึงดูดความสนใจทวีปของภูมิภาคใต้ โจรสลัดเหล่านี้จะกลายเป็นน่ากลัวยิ่งขึ้น
สำหรับแผนกภายในของทวีปกวงหมิง โจรสลัดเหล่านี้ที่พวกเขาสร้างขึ้นมาด้วยความระมัดระวังอย่างสูงถูกยกย่องว่าเป็นโจรสลัดสีขาว สีขาวหมายถึงเกียรติยศและแสงสว่างของพวกเขา
กับโจรสลัดเพิ่มมาไม่กี่คน อิงเยี่ยนมีความมั่นใจว่าต่อสู้กับทวีปอื่นๆได้ และสามารถกลืนทวีปฝานซิงโจวที่น่าโอชะได้ ขณะนั้นไม่ว่าจะใช้เป็นจุดเพ่งความสนใจเพื่อยึดครองภูมิภาคใต้หรือใช้เพื่อเปลี่ยนเป็นทวีปอื่น เขาจะเลือกได้ตามใจในตอนถือครองอำนาจเริ่มแรก
ม่านพลังแสงสั่นสะเทือน อิงเยี่ยนรั้งความคิดกลับมา ฐานที่มั่นกำลังถูกบ่อนทำลายทำให้เขาตื่นเต้นยิ่งขึ้น “ทุกคน ทุ่มเทให้สุดกำลัง ป้อมปราการกำลังจะแตกแล้ว!”
ปัง!
ม่านพลังแสงของป้อมที่มั่นพลังทลายได้ในที่สุดรังสีแตกกระจายเต็มท้องฟ้า
กำลังใจของพวกโจรสลัดสูงมากขึ้น และพวกเขาส่งเสียงโห่ร้องขณะที่พวกเขาแหวกว่ายตรงไปที่ป้อมกวงจื้อเป่า
อิงเยี่ยนส่ายศีรษะขณะหัวเราะ พวกเขาทุกคนฝึกฝนมาได้ดี มันเป็นฝูงคนแล้วจะมีรูปกระบวนได้ยังไง? สำหรับอิงเยี่ยนขุนพลที่ได้ฝึกกลยุทธ์ทางทหารมาด้วย ภาพดังกล่าวนับเป็นหายนะอย่างแท้จริง แต่ในชัยชนะ แม้ว่าผลงานจะยังไม่ดีนัก แต่ก็ไม่ถึงกับแย่เกินไป
บริวารของเขาทุกคนยังคงเป็นโจรสลัด ต้องการจะฝึกพวกเขาให้มีมาตรฐานทหารเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ โจรสลัดเป็นผู้ทำงานร่อนเร่พวกเขาทุกคนไม่ค่อยเชื่อฟังและมักก่อกบฏ ตราบใดที่พวกเขามีกฎมากเกินไป พวกเขาจะต่อต้านอย่างสุดกำลัง แม้ว่าอิงเยี่ยนจะใช้ความพยายามกับพวกเขามาก แต่วันเวลาปกติของพวกเขาก็แทบไม่น่าพอใจ ในความสุขที่น่ายินดีนั้นทุกคนทุ่มเททุกอย่างที่พวกเขาได้เรียนรู้
‘ดูเหมือนว่าหลังจากศึกนี้ ข้าคงจำเป็นต้องฝึกพวกเขาอีกครั้งเช่นกัน’ อิงเยี่ยนลอบตัดสินใจ
******************
ปิงตื่นเต้นวิ่งตรงไปที่ป้อมกวงจื้อเป่าอย่างไม่สบายใจ
ปิงมองคลื่นแสงของม่านพลัง เขาประเมินได้ทันทีว่าการยึดป้อมค่ายป้องกันสายเกินไปแล้ว
งานทั้งหมดที่เขาได้ทำตลอดการเดินทางโดยไม่ได้หลับนอนใช้ประโยชน์ได้อย่างมาก หลังจากถามคำถามเฮสกีอย่างต่อเนื่อง ปิงรู้จักภูมิประเทศโครงสร้างของป้อมกวงจื้อเป่าเหมือนกับหลังมือและวางแผนการต่อสู้ของพวกเขาทันที
เราจำเป็นต้องต้อนศัตรูเข้าไปในป้อมปราการ เซี่ยอวี่อัน! ตำแหน่งของเจ้าคือกลางทางเดินงานของเจ้าคือต้านทานพวกเขาไว้“ ปิงพูดโดยเร็ว ”สือเซิน พาคนของเจ้าไปรอซุ่มโจมตีที่ท้ายประตูและอย่าแสดงตัวเอง เมื่อศัตรูถูกขัดขวางงานของเจ้าก็คือฟันระดับเอว จำเอาไว้ เปิดประตูและวิ่งเข้าไป อายะ,หน่วยกะโหลกต้องหมอบซุ่มที่อาคารทั้งสองด้าน และโจมตีที่นั่นหลิงซิ่วและอาเฮ่องานของเจ้าคือเรือโจมตีเรือเร็วและเรือรบของศัตรู พื้นที่ภายในถูกจำกัด ถ้าพวกเขาต้องการเข้ามาเราจะไม่สามารถสนับสนุนม่านพลังป้องกัน อาเฮ่อร่วมมือกับอายะ, เป้าหมายของพวกเจ้าคือเรือโจมตีเร็ว ทำลายให้ได้ หลิงซิ่วร่วมมือกับเซี่ยอวี่อัน เป้าหมายของเจ้าคือเรือรบ จัดการ เรือรบซะ!”
ทุกคนรีบประจำตำแหน่งของตนเอง และก่อนที่พวกเขาจะตั้งกระบวน ปัง แสงของม่านพลังก็แตกกระตาย
ศัตรูที่อยู่นอกป้อมโห่ร้องยินดีทันที
ทุกคนเงียบลง พวกเขามีประสบการณ์ทุกคน แม้อยู่ในช่วงสถานการณ์ที่น่ากังวลที่สุด แต่พวกเขาก็สามารถสงบมั่นคงอยู่ได้ ไม่ตื่นเต้นหรือตึงเครียด กลุ่มคนที่กังวลก็คือศิษย์จากตระกูลใหญ่ที่นำโดยหลิงซิ่วและอาเฮ่อ พวกเขาไม่เคยผ่านการสู้รบขนาดใหญ่มาก่อน
หลิงซิ่วชำเลืองมองดูมือใหม่แล้วเมื่อเห็นท่าทีที่ตึงเครียด เขาโมโห ‘มือใหม่จริงๆ!’
เขาแค่นเสียง “ใครก็ตามกล้าเป็นตัวถ่วงเรา ข้าจะจิ้มให้ตาย!”
อาเฮ่อกลับนุ่มนวลมากกว่า “อย่าตื่นเต้น ทุกคนเตรียมตัว เมื่อข้าให้สัญญาณชี้นิ้วไปตรงไหน พวกเจ้าทุกคนยังจำธนูอัศดงค์ได้ไหม?”
อาเฮ่อได้อ่านหนังสือมรดกของกลุ่มดาวคนธนูทั้งหมดมาเมื่อสมัยอายุยังน้อยหมดแล้ว แต่เขาไม่ยินดีจะเรียนรู้เพราะความเกลียด ขณะนั้นเมื่อต้องนำกลุ่มมือใหม่ของกลุ่มดาวคนธนู เขาไม่มีทางเลือกได้แต่หยิบธนูและลูกศรที่ไม่คุ้นเคยออกมา
ทุกคนพยักหน้า
ในช่วงเวลาสั้นๆอาเฮ่อสามารถสอนพวกเขาได้แต่เพียงการใช้วิชาพลังวิญญาณที่ทรงพลังของกลุ่มดาวคนธนูอย่างง่ายๆก่อน ธนูอัศดงค์คือวิชาจิตวิญญาณของกลุ่มดาวคนธนู แต่ต้องใช้ปราณแท้ในระดับสูง แต่ศิษย์ตระกูลประจำกลุ่มดาวคนธนูนี้เป็นเซียนกันทุกคนและพลังงานเป็นสิ่งที่พวกเขามีกันมากที่สุด แต่ในขณะนั้น นอกจากทุกคนจะสามารถยิงธนูอัศดงค์ได้ทีละห้าดอกแล้วการใช้พลังของมันยังน่าทึ่งอีกด้วย
แต่เนื่องจากพวกเขาไม่มีสนามพลังวิญญาณแต่ควบคุมพลังงานได้โดยตรง อาเฮ่อทำการเปลี่ยนวิชาจิตวิญญาณสองสามอย่างเพื่อให้พวกเขาสามารถเรียนได้
เสียงตะโกนภายนอกป้อมดังใกล้เข้ามา
ประตูใหญ่ไม่มีแสงม่านพลังเพราะพลังปกป้องแตกสลายไปแล้ว เรือรบขนาดเล็กแล่นเข้าไปด้วยพลังเต็มที่ ด้านหลังเป็นเรือเร็ว และมีโจรสลัดหลายคนที่เหาะตามเรือรบและเรือเร็ว เสียงตะโกนร่าเริงและเสียงฮือฮาดังก้องอยู่ในป้อม
เรือรบที่อยู่ข้างหน้าเป็นเหมือนม้าป่าที่ควบคุมไม่อยู่ ในอึดใจก็แล่นเข้าไปยังสุดป้อมอีกฝั่งหนึ่ง
“อะไรกันนั่น?”
ทันใดนั้นผู้คนที่อยู่ในเรือรบแตกตื่น ข้างหน้าพวกเขาเป็นกองทัพที่ตั้งกระบวนแน่น!
“แย่แล้ว!
“เป็นการซุ่มโจมตี!”
สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปทันที
โดยไม่รอให้พวกเขาตอบสนอง เสียงหนึ่งคำรามดังลั่นทันทีเหมือนฟ้าผ่า รังสีเจิดจ้ามาจากทางด้านหลังพวกเขา
หน้าของสือเซินไม่เปลี่ยนแม้แต่น้อย บริวารรุ่นเก่ายังคงสงบอยู่ได้เช่นกัน เทียบกับพวกเขาแล้วหัวชิงและกองกำลังปีศาจรุ่นใหม่ยังคงแสดงความตื่นเต้นให้เห็น ทุกคนดีใจที่จะได้สู้
ดาบทะเลหิมะยามเย็นถูกชักออกจากฝัก ปลายดาบชี้ตรงไปที่ศัตรู
กองกำลังปีศาจทวีปโยวโจวเริ่มเคลื่อนเข้าโจมตีอย่างเงียบงัน พวกเขาทำได้อย่างรวดเร็วมากแต่ไม่มีเสียงดังออกมา ไม่มีจนกระทั่งทันทีเมื่อพวกเขาไปปรากฏอยู่ต่อหน้าศัตรูตอนนั้นโจรสลัดจึงค่อยรู้ตัว
“ฆ่า!”
ดาบทะเลหิมะยามเย็นฟันใส่อากาศในขณะที่ดาบสีดำด้านหลังฟันลงพร้อมกัน
ระดับความถี่ในการผสานที่น่าอัศจรรย์ทำให้รังสีดาบทั้งหมดรวมกันเป็นหนึ่งเดียวคลื่นรังสีดาบเดียวไร้เทียมทานตัดใส่ทะเลโจรสลัด
ปัง!
พวกโจรสลัดที่ไม่มีเวลาตั้งแนวป้องกันตนเองถูกบดขยี้จนพ่ายแพ้ทันที สมาชิกทุกคนโลหิตฉีดพุ่งกระจายชิ้นส่วนร่างกายปลิวกระจายทุกที่ รังสีดาบกวาดผ่านไปจนสุดด้านหลังทำให้แผ่นไม้ปลิวหลุดลอย จากนั้นแสงแพรวพราวเปล่งออกมาจากเรือโจมตีเร็วด้านหลัง มันคือหินพลังงานเข้มข้นคุณภาพสูง แสงแพรวพราวพองตัวขึ้นเหมือนกับลูกโป่งขยายกลืนเรือไปทั้งลำ
ปัง!
ระเบิดรุนแรงและเปลวไฟสีแดงเจิดจ้ากลืนโจรสลัดรอบๆทันที
“อัสดงค์!”
เสียงคนผู้หนึ่งดังชัดกึกก้องตามมาด้วยเสียงสายธนูดังขึ้น
รังสีธนูจากธนูอัศดงค์มีความแตกต่างอย่างชัดเจนกับรังสีธนูอื่นรังสีธนูธรรมดาจะมีรูปลักษณ์ของลูกศรแสง แต่มีความหนาแน่นเล็กน้อย รูปร่างจะยาวและสว่าง แต่รูปร่างของธนูอัสดงค์จะกลมคล้ายกลับดวงอาทิตย์เจิดจ้าหลายดวง
ฝนดวงอาทิตย์เผาไหม้ไปทั่วท้องฟ้า