Undefeated God of War ยอดยุทธไร้เทียมทาน - ตอนที่ 665 พรจากอูหวังไห่
หลังจากเข้าไปในภูมิภาคกระแสพลังงานใต้ ถังเทียนรู้สึกว่าสายตาของเขามืดมิด
หลายคนมีกลุ่มไฟคลุมรอบตัวพวกเขาปรากฏในสายตาของเขา ทุกคนดูเหมือนมีท่าทีหวาดกลัว กลุ่มแสงดูมีเสถียรภาพมาก แต่เพราะเหตุผลบางอย่าง ถังเทียนต้องการหัวเราะ
“เมื่อพวกเจ้าแข็งแกร่งขึ้น พวกเจ้าสามารถมาฝึกที่นี่ได้”
จู่ๆถังเทียนก็พูดคำที่เกินกว่าที่ใครจะคาดหมาย
เสี่ยวเอ้อบินออกมาจากร่างถังเทียน เขามองรอบๆ ตัวเขาด้วยความสงสัย ครั้งสุดท้ายที่ถังเทียนเข้าภูมิภาคกระพลังงานใต้ เขากำลังฝึก พลังงานในภูมิภาคกระแสพลังงานใต้มีความพิเศษอย่างยิ่ง ดูไปก็คล้ายกับเพลิงดำมิติว่างแต่หลากหลายมากกว่า แต่สำหรับเขา นี่เป็นสถานที่ดีสำหรับการฝึก เขาชักกระบี่เซียนปราบสมุทรออกมา กระบี่เซียนปราบสมุทรบินอยู่ในกระแสพลังงานที่ยุ่งเหยิงเหมือนกับปลาได้น้ำบางครั้งก็ปล่อยเสียงร้องออกมา
กระบี่ดื่มเลือดเซียนก็เปล่งเสียงสั่นอยู่ในมือของจิ่งหาว เหมือนกับว่ามันดูถูกกระบี่ปราบสมุทร
ศิษย์จากสามตระกูลลืมตากว้าง พวกเขาไม่เคยได้ยินหรือได้เห็นมาก่อนกระบี่ที่ดูเหมือนจะมีจิตใจเป็นของตนเองเหมือนกับว่ามันมีชีวิต
กระบี่เซียนปราบสมุทรพอถูกเย้ยหยันก็ระเบิดเพลิงดำออกมา เพลิงดำมิติว่างสีดำสนิทเปลี่ยนสภาพเป็นมังกรเพลิงดำหลายตัวซึ่งมีความดุร้ายมากกำลังเต้นไปรอบๆอย่างคึกคะนอง
รังสีฆ่าฟันครอบคลุมทุกคนไว้ทำให้หน้าของศิษย์ประจำตระกูลเต็มไปด้วยความตกใจ
เป็นไปได้ยังไงที่กระบี่ดื่มเลือดเซียนจะยอมรับเรื่องแบบนั้นได้? โกรธเพราะถูกยั่วยุแถวตัวหนังสือสีแดงบนตัวกระบี่สีดำ “พอใจแต่เลือดเซียน” เป็นคำที่มีเสน่ห์และสว่างและในเวลาเดียวกันก็มีกลิ่นคาวเลือดเต็มไปทั่วบริเวณ เหมือนกับว่าพลังปั่นป่วนสีดำในภูมิภาคกระแสพลังใต้ถูกย้อมเต็มไปด้วยเลือด
ศิษย์ของตระกูลตกใจหน้าขาวซีดทันที พวกเขาไม่เคยเห็นกระบี่ที่ดุร้ายและรุนแรงเช่นนั้น นอกจากนี้ยังมีถึงสอง!
เสี่ยวเอ้อมองดูกระบี่ดื่มเลือดเซียนในมือของจิ่งหาว เขารู้ว่านั่นเป็นกระบี่ที่ข่มขวัญ แต่เขาไม่เคยคิดว่ามันจะสามารถข่มกระบี่เซียนปราบสมุทรได้ แม้ว่ามันจะวิวัฒนาการแล้วก็ตาม แต่ถ้ามองดูอย่างระมัดระวังแล้ว ก็จะตระหนักได้ว่าที่หน้าผากมังกรบินรอบๆกระบี่เซียนปราบสมุทรมีรอยประทับสีรุ้งจางๆซึ่งนั่นก็คือเพลิงกลืนวิญญาณนั่นเอง
กระบี่ที่โหดร้ายเล่มหนึ่งกำลังจะต่อสู้กับกระบี่เดือดเลือดเซียน
เสี่ยวเอ้อฝึกกระบี่และปกติก็ชื่นชอบกระบี่ แม้ว่ากลิ่นคาวเลือดบนกระบี่จะไม่ใช่สิ่งที่เขาชอบ แต่สำหรับกระบี่ที่มีวิวัฒนาการระดับนั้นมันมีอดีตอันรุ่งเรืองอย่างแน่นอน
แต่ลักษณะของพลังงานภายในภูมิภาคกระแสพลังงานใต้มีความคล้ายคลึงกลับเพลิงดำมิติว่างและสำหรับกระบี่เซียนปราบสมุทรมันได้รับประโยชน์มากเสี่ยวเอ้อคิดได้ทันทีว่ากระบี่เซียนปราบสมุทรอาจมีวิวัฒนาการได้เป็นครั้งที่สอง
กระบี่ทำตามความคิดของเขา มังกรดำสองสามตัวรอบกระบี่เซียนปราบสมุทรอ้าปากของมัน
ซี่…..
พลังงานที่อันตรายและทรงพลังภายในพื้นที่กระแสพลังงานใต้ทะลักเข้าไปในปากมังกร เพลิงดำมิติว่างได้รับการเสริมพลังทันทีมันมืดมนลงทันที แม้แต่ตัวกระบี่ก็ดูเหมือนจะถูกเปลวเพลิงล้อมเอาไว้
**************************
ห่างไกลออกไปในมิติของเพลิงดำมิติว่าง อูหวังไห่ลืมตาขึ้น หน้าของเขาเต็มไปด้วยอาการตกใจ
เรือนจำสมุทรดำที่อยู่ใต้ร่างของเขาถูกสร้างมาจากเพลิงดำมิติว่าง บึ้มมมม..เสาเพลิงสีดำปรากฏด้านหลังเขายิงขึ้นไปบนฟ้า หลังจากนั้นก็มีเสาเพลิงยิงออกมาจากมิติว่าง
เหมือนกับว่าเรือนจำดำกำลังตกอยู่ในความปั่นป่วน
‘ศิษย์ข้า, เพราะเจ้ามาถึงระดับนี้นี่เอง…’
อูหวังไห่รู้สึกสูญเสีย
กระบี่เซียนปราบสมุทรถูกชักออกมาจากคุกสมุทรดำที่กว้างไกลไร้ขอบเขต เมื่ออูหวังไห่ได้เป็นเซียนคนหนึ่ง เขาใช้เพลิงดำมิติว่างของคุกสมุทรดำสร้างเป็นกระบี่เล่มหนึ่งมอบวิญญาณให้มันและวิญญาณของเขาเองก็จำเป็นต้องอยู่โยงปกป้องภายในคุกสมุทรดำที่ไร้ขอบเขต เขาเรียกว่ายืนปกป้อง แต่ก็คล้ายกับการถูกจองจำ
เมื่อไม่กี่สิบปีก่อนมีใครบางคนทำลายช่องว่างและเข้ามาขอร้องเขาเพื่อหาเบาะแสการสร้างกระบี่เซียนปราบสมุทร
เขาเป็นคนที่ค่อนข้างน่าสนใจ ดังนั้นอูหวังไห่จึงตอบตกลง
อูหวังไห่รู้ว่าคนผู้นั้นไม่เพียงแต่ขอร้องเขาเพื่อปณิธานของกระบี่เท่านั้น เพราะภายในที่ซึ่งไม่เคยเห็นดวงตะวันแนวคิดกระบี่เซียนมากมายถูกผนึกไว้ เด็กหนุ่มที่เงียบสงบนั้นเป็นศิษย์ที่ดีมากได้รับความชื่นชอบจากอูหวังไห่ เขายังคงเป็นบุรุษหนุ่มที่น่าสงสารซึ่งแบกความรับผิดชอบรับภารกิจที่สำคัญ ด้วยเหตุนี้เขาจึงทุ่มเทให้คำแนะนำกับบุรุษหนุ่มนี้ บุรุษหนุ่มนี้ไม่รานความคาดหวังของเขา เขาก้าวหน้ารวดเร็วราวกับเทพยดา
มีศิษย์ที่โดดเด่นอย่างนั้นรับตกทอดมรดกวิชาของเขา พันธนาการตัวเขาเองภายในคุกสมุทรดำก็นับว่าคุ้มค่าแล้ว
แต่…
เขาเงยหน้าและมองดูเพลิงดำมิติว่างที่ลุกโพลงอยู่ในท้องฟ้า และคุกสมุทรดำที่ใต้เท้าเขาที่สูญเสียความรุนแรงลงไปบ้าง
เขามีรอยยิ้มเต็มหน้า
‘ความสำเร็จของเจ้า หรือว่าในที่สุดแล้วเจ้าก็สามารถทำลายพันธนาการของข้าภายในคุกสมุทรดำได้? ยอดเยี่ยมมาก!’
‘พันห้าร้อยปีในความมืดมิด พันห้าร้อยปีของความหม่นหมองและเบื่อหน่าย ในที่สุดทายาทรับมรดกวิชาของข้าก็อยู่ที่นี่’
‘ข้ารอมานานเหลือเกินและแทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว เจ้ามีศักยภาพไม่จำกัด และในฐานะที่เป็นอาจารย์ของเจ้าข้าปลื้มและภูมิใจ นี่คือความรู้สึกปลาบปลื้มใจของผู้เป็นอาจารย์’
‘ศิษย์รัก, ให้ข้าช่วยเจ้าระเบิดพลังเป็นครั้งสุดท้ายเอง’
อูหวังไห่กางแขนของเขา ผมของเขาพลิ้วสะบัดอยู่ในมิติว่าง คุกสมุทรดำที่ปั่นป่วนเริ่มคลุ้มคลั่งมากขึ้น ร่างของเขาเริ่มตกลงมาด้วยความเร็วเหมือนกับกระบี่พุ่ง เขาร่วงมาในคุกสมุทรดำ
คุกสมุทรดำที่ปั่นป่วนคลุ้มคลั่งพลันสงบทันที
****************************
กระบี่เซียนปราบสมุทรกลับดูดซับพลังงานสีดำอย่างคลุ้มคลั่ง มันเป็นเหมือนหลุมที่ไร้ก้นมันรับเอาพลังงานรอบๆ อย่างละโมบ เพลิงสลัวพันรอบตัวกระบี่กลับกลายเป็นหนาแน่นมากขึ้น ทันใดนั้นตาของเสี่ยวเอ้อเบิกกว้าง เขาตั้งใจมองไปที่ปลายกระบี่
เพลิงดำซ่อนตัวอยู่เงียบราวกับว่ามันกำลังก่อตัวขึ้นในอีกปลายกระบี่หนึ่ง แต่ทันใดนั้นปลายกระบี่จางนั้นก็หายไป
‘เดี๋ยว!’
‘บางอย่างผิดปกติ!’
ปลายกระบี่อำพรางยังคงอยู่ที่นั่นแต่กลายเป็นสภาพโปร่งใส โปร่งใสเหมือนกับอากาศ ดังนั้นจึงแทบจะมองไม่เห็นเมื่ออยู่ภายในพลังงานของพื้นที่กระแสพลังใต้
เส้นสายใยความคิดอวยพรส่งมาถึงเขา ทำให้ร่างของเสี่ยวเอ้อสั่น เขาคุ้นเคยกับเส้นสายใยความคิดนี้มาก ภาพหลายปีที่เขาเรียนรู้วิชากระบี่ผ่านเข้ามาในดวงตาเขา ในคืนวันที่มืดมิดและหนาวเหน็บ ไม่มีมีความยินดีมีแต่การฝึกคร่ำเคร่งกล้ำกลืน และแต่สายใยความคิดนี้เป็นความอบอุ่นเดียวที่เขามี
นั่นคือเพียงเหตุผลเดียวที่ทำให้เขาเรียนวิชากระบี่เซียนปราบสมุทรได้ดีที่สุด
เขาไม่เคยพูดถึงสายใยความคิดเขาเพียงแต่รู้สึกและฟังอยู่เงียบๆ
จากตั้งแต่แรกเริ่ม เขามักคิดว่าสายใยความคิดนี้ก็คือเคล็ดวิชากระบี่เซียนปราบสมุทร
ปากของเสี่ยวเอ้อสั่น เขาไม่พูดอะไรสักคำ และหลังจากนั้นชั่วครู่ เขาพึมพำเบาๆ “ขอบคุณ,อาจารย์”
จิ่งหาวสังเกตเห็นกระบี่เซียนปราบสมุทรที่เบาบางและแทบจะโปร่งแสงที่ยังคงสร้างรูปร่างต่อไป กระบี่ดื่มเลือดเซียนยังคงดิ้นรนต่อไปจนเผาฝ่ามือของเขา แต่เขาก็ยังยืนนิ่งไร้ความรู้สึกราวกับว่าเขาไม่รู้สึกถึงมัน ตาของเขายังคงจับจ้องดูการถือกำเนิดของกระบี่ใหม่ภายในเพลิงดำ ตาของเขาเต็มไปด้วยความชื่นชม เขาสามารถรู้สึกได้ถึงปณิธานกระบี่กำลังถูกส่งผ่าน นั่นคือเหตุผลที่ทำให้กระบี่ดื่มเลือดเซียนตื่นเต้นดิ้นรนมาก เพราะมันสามารถรู้สึกได้ว่าการปรากฏของกระบี่เล่มนี้สามารถเอาชนะมันได้
กระบี่เซียนปราบสมุทรที่วิวัฒนาการสำเร็จแล้วลอยอยู่เงียบๆในอากาศ
กระแสพลังงานที่คลุ้มคลั่งและปั่นป่วนภายในพื้นที่กระแสพลังใต้เงียบสงบลงราวกับว่าหลังจากพายุสงบลงแล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็เงียบลง
แรงกดดันบนตัวทุกคนผ่อนคลายแต่ไม่มีใครสังเกต ทุกคนจับตามองดูกระบี่เซียนปราบสมุทรที่บางและละเอียดอ่อน มันเป็นเหมือนกระบี่อำพรางที่อยู่ในใจกลางและปกป้องพื้นที่กระแสพลังใต้
ถังเทียนมองดูเสี่ยวเอ้อโดยไม่ได้พูดอะไรสักคำ
วิวัฒนาการของกระบี่เซียนปราบสมุทรทำให้มีพลังงานก้าวกระโดดขนานใหญ่ราวกับเสือติดปีก เขาสามารถรู้สึกได้ว่าเสี่ยวเอ้อมีพลังเพิ่มขึ้นมาก แต่ถังเทียนไม่รู้สึกมีความสุขแม้แต่น้อย เขากับเสี่ยวเอ้อมีจิตใจเชื่อมโยงถึงกัน และเขารู้สึกได้ถึงสายใยความคิดและรู้สึกได้ถึงอารมณ์ของเสี่ยวเอ้อ
เขาก็คิดถึงผู้เฒ่ากรงเล็บภูตพราย
เขาส่ายศีรษะและโยนความคิดโหยหาออกไปจากใจ เขากำหมัดแน่นโดยไม่รู้ตัว ‘ผู้เฒ่ากรงเล็บภูตพราย ข้าไม่ใช่เด็กอีกต่อไปแล้ว ข้าเป็นผู้ใหญ่แล้ว ข้ามีภารกิจของข้า ข้ามีความรับผิดชอบของข้า’
‘ข้าจะทำให้ทุกคนชนะ!’
‘ผู้เฒ่ากรงเล็บภูตพราย,ข้าจะต้องทำให้ดีมากกว่าที่ท่านคิดคาดหวังได้แน่นอน!’
หัวใจของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความมาดมั่นแข็งแกร่งราวกับเหล็กกล้า
ถังเทียนไม่ส่งเสียงใดๆและยังคงออกจากพื้นที่กระแสพลังใต้อย่างเงียบๆ และมองไปที่อ่าวพลังงาน
ที่นั่นการสู้รบเริ่มขึ้นแล้ว
*****************************
บึ้ม บึ้ม บึ้ม
การโจมตีระดมใส่ม่านพลังเหมือนสายฝนทำให้ป้อมสั่นสะเทือนไม่หยุด ปู้จื้อเฟยลอบยินดี ศัตรูมีเรือล้อมโจมตีเพียงหกลำ ดังนั้นความสามารถในการรุกของพวกเขามีจำกัดมาก ถ้าไม่อย่างนั้นพวกเขาคงจะตกอยู่ในความยุ่งยากแล้ว
แต่เขารู้ว่าแม้ว่าจะไม่มีเรือรบล้อมโจมตี แต่ก็เป็นเพียงเรื่องของเวลาก่อนที่ป้อมจะถูกตีฝ่าได้ เรือรบระดับเงินสามลำ เรือโจมตีเร็วระดับเงินสามลำ นี่คือกองเรือฟุ่มเฟือยที่โจรสลัดธรรมดาไม่สามารถมีได้
ปู้จื้อเฟยคาดว่าผู้บัญชาการของกองเรือจะเป็นคนที่เขารู้จัก
แต่เขาก็ตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่าความสามารถในการสู้รบของกองกำลังรักษาการณ์หมู่บ้านเป่ากวงแข็งแกร่งเกินกว่าที่เขาคาดไว้มากนัก หลังจากผ่านการสู้รบป้องกันอย่างยากลำบากสองครั้งในป้อมไพรกระบี่ พลังของพวกเขาก้าวหน้าอย่างมากมาย
ไม่ใช่แค่ความถี่ของการผสานพลังของพวกเขาเท่านั้น แต่สภาวะจิตใจของพวกเขาด้วย ปู้จื้อเฟยรู้ว่าปัจจัยที่มองไม่เห็นเหล่านี้ที่เกี่ยวข้องกับการสู้รบของพวกเขามีความสำคัญเป็นอย่างมาก การระดมยิงปืนใหญ่จากศัตรูไม่ได้ทำให้พวกเขาแตกตื่น แต่ยังผ่อนคลายหัวเราะหยอกล้อกันได้
ท่านปิงวางแผนทางยุทธวิธีที่ตื้นสำหรับพวกเขา และภายใต้การผสานพลังที่น่าประหลาดใจพลังที่สร้างขึ้นมานั้นโดดเด่น
ปู้จื้อเฟยรู้สึกจริงๆว่ากองกำลังรักษาการณ์หมู่บ้านเป่ากวงก้าวหน้าสามารถคุกคามศัตรูได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผสานพลังของพวกเขาอยู่ในระดับที่สูงมาก ซึ่งก็หมายความว่าถ้าพวกเขาสามารถรวมทหารมากขึ้น ก็จะมีพลังโจมตีได้รุนแรงทรงพลังแน่นอน
เมื่อตระหนักถึงจุดนี้คุณสมบัติแม่ทัพระดับเงินของปู้จื้อเฟยก็ฉายแววออกมาทันที
ประการแรกเขาขอให้บุรุษห้าสิบคนร่วมกันโจมตี การโจมตีระดับนี้จะมีผลคุกคามเรือโจมตี แต่ไม่มีผลต่อเรือรบหลัง เรือโจมตีจะไม่มีทางเลือกจำต้องล่าถอยออกไป แต่ช่วงแถวของการโจมตีของเรือโจมตีเร็วจะยังไม่ทรงพลังเท่ากับเรือรบหลัก ซึ่งก็หมายความว่าการโจมตีของพวกเขาเบาลง และการคุกคามของศัตรูก็จะผ่อนลงไปด้วย
แม่ทัพของฝ่ายตรงขามไม่สบายใจอย่างเห็นได้ชัดและรีบโต้ตอบทันที เรือรบสามลำเข้ามาเป็นโล่กำบังให้เรือโจมตีเร็วทั้งหกลำทันที
เมื่อเห็นแรงกดดันเกิดขึ้นกับศัตรู ปู้จื้อเฟยแค่นเสียง
เพื่อให้เรือโจมตีเร็วสามารถเข้ามาถึงป้อมปราการได้ พวกเขาถึงกับแล่นเรือเข้ามาใกล้ป้อม
ภายใต้การโจมตีที่รุนแรง ม่านพลังงานป้องกันที่ป้อมตกอยู่ในอันตราย และการโจมตีตอบโต้ของป้อมเริ่มอ่อนกำลังลง
“คนของพวกเขาควรจะวิ่งไปรวมม่านพลังป้องกัน ถ้าเราระดมโจมตีเต็มที่ พวกเขาจะทนอยู่ได้เพียงสามนาที” ผู้ช่วยแม่ทัพรายงาน
“นี่ช่างง่ายดายจริงๆ” ฝูตงคูหัวเราะ เขาสบายใจขึ้นมาก ชัยชนะรออยู่ข้างหน้าเขา ตราบใดที่ทำลายม่านพลังงาน ก็จะเป็นการเปิดประตูเข้าไปยังฐานที่มั่น
ทันใดนั้นเสียงรอยแตกดังออกมาจาก ม่านพลังงานของป้อมแตกสลาย
ฝูตงคูสีหน้าชะงักค้างหน้าเขาเปลี่ยนทันที “แย่แล้ว!”
ปู้จื้อเฟยมองดูเวลา22 นาที แต่เขาไม่สนใจอีกต่อไปแล้ว
แววตาความมุ่งมั่นฉายอยู่ในดวงตาของเขา เมื่อเห็นการผสานพลังได้สำเร็จและลำแสงครอบคลุมตัวพวกเขาแล้ว เขาตะโกน “เตรียมพร้อม!”
แครก! ม่านพลังแตกสลาย!
“ฆ่า!”