Undefeated God of War ยอดยุทธไร้เทียมทาน - ตอนที่ 675 ก้าวย่างใหม่
“เมื่อเลโอนเห็นสมบัติเหล่านี้เขาจะต้องตกตะลึงเป็นแน่!”
ถังเทียนมองดูสมบัติที่ลอยอยู่ต่อหน้าเขาด้วยความยินดี ทั้งหมดคือสมบัติของกลุ่มดาวราชสีห์ กลุ่มสมบัติที่หนาแน่นแพรวพราวไปด้วยรัศมีดึงดูดใจ ส่วนใหญ่เริ่มฉายรัศมีทองอ่อนๆ และสมบัติทองที่มีรัศมีสีทองแพรวพราวมีเพิ่มขึ้นถึงสิบห้าชิ้น
ไม่มีใครยุ่งเกี่ยวกับเขา
ข้างๆ เขา หลิงซิ่ว อาเฮ่อและจิ่งหาวกำลังนอนแผ่ พวกเขาเหนื่อยจัดจนไม่มีแรงกระดิกนิ้ว พวกเขาเป็นอัมพาตเพราะทะเลพลังงานและกำลังนอนอยู่ในสภาพเฉยเมย พวกเขาถูกถังเทียนฉุดลากมากันหมดและถูกบังคับให้เอาสมบัติออกมาซึ่งเป็นงานที่สิ้นเปลืองพลังงานไปมาก
ถังเทียนรู้สึกว่าเขามีความคิดที่บรรเจิดและทรงพลัง
เขาไม่มีสมบัติจากกลุ่มดาวราชสีห์มากนัก และเมื่อเขาได้กลุ่มดาวหมีใหญ่ก็ยังลอบซื้อสมบัติเหล่านั้นมาเพิ่มเขามีเพียงสองร้อยชิ้น และส่วนใหญ่จะเป็นอย่างธรรมดา กลุ่มดาวราชสีห์ไม่ได้กระจายสมบัติออกไปมากเท่าใดนัก กลุ่มบริวารนักรบผู้บ้าคลั่งของเลโอนล้วนต่อสู้เพื่อสมบัติกันทุกคน และเนื่องจากพวกเขามีกันจำนวนมากจึงมีไม่เพียงพอสำหรับตัวพวกเขาเอง
พวกเขาค่อยๆพบความสามารถพิเศษในการเสริมพลังให้สมบัติ สมบัติสองร้อยชิ้น ไม่มีชิ้นใดเป็นสมบัติระดับทอง แต่ปัจจุบันนี้ 15ชิ้นจากในนั้นกลายเป็นระดับทอง และที่เหลืออีก 180 ชิ้น ครึ่งหนึ่งเหลืออีกเพียงครึ่งก้าวจะเข้าสู่ระดับสมบัติทอง ที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งเป็นสมบัติระดับเงินชั้นสุดยอด
ถ้าสมบัติเหล่านี้ตกไปอยู่ในสวรรค์วิถี ก็จะสั่นสะเทือนไปทั่วแน่นอน สำหรับกลุ่มดาวราชสีห์นี่ถือว่าเป็นอุปกรณ์สงคราม สมบัติคือรากฐานพลังของกลุ่มดาว และแม้แต่สมบัติวิญญาณที่เซียนใช้ก็ต้องถูกปรับแต่งขัดเกลามาจากสมบัติดวงดาว สมบัติชั้นทองสิบห้าชิ้น แม่ทัพแต่ละคนสามารถมีได้หนึ่งชิ้นเพียงแค่นั้นก็สามารถเพิ่มความสามารถในการต่อสู้ให้กับกลุ่มดาวราชสีห์หนึ่งระดับ
หลังจากนั้นชั่วขณะ จิ่งหาวที่เริ่มฟื้นคืนพลังกลับมาบ้างถามอย่างสงสัย “วิธีนี้จะใช้ได้จริงๆ หรือ?”
“น่าจะได้, แต่เราจะต้องพบกับเลโอนก่อน เราจึงจะรู้” ถังเทียนลูบคาง ความจริง เขาไม่ค่อยแน่ใจเท่าใดนัก
เมื่อตอนที่ราชสีห์เลโอนอวยตัวเองว่าเป็นผู้ครองอำนาจ ถังเทียนยังไม่เกิด และตั้งแต่เด็กเขาเติบโตมาก็ได้ยินและทราบตำนานวีรบุรุษและการประสบความสำเร็จในการสู้รบของเขา ไม่เพียงแต่เขาเท่านั้น เมื่อใดก็ตามที่จิ่งหาวและพวกที่เหลือคิดถึงเรื่องราวของราชสีห์เลโอน พวกเขาจะพากันเงียบหมด
ในประวัติศาสตร์สิบสองตำหนักระนาบสุริยุปราคามีตระกูลที่ร่ำรวยและมีอำนาจทุกอย่าง แต่ในร้อยปีมานี้ กลุ่มดาวที่รุ่งเรืองที่สุดเป็นของกลุ่มดาวเลโอน
ถ้าสิบสองตำหนักระนาบสุริยุปราคาเป็นกลุ่มดาวที่เฉิดฉายที่สุดรุ่งเรืองที่สุดของสวรรค์วิถี อย่างนั้นกลุ่มดาวราชสีห์ก็นับว่าสว่างไสวดุจดวงอาทิตย์!
และคนที่ควบคุมได้ก็คือเลโอนเขาพาสหายของเขาและเอาชนะอุปสรรคทั้งปวงทะลวงเข้าไปในพื้นที่อันตรายที่สุดและเริ่มสร้างกลุ่มดาวเลโอนเป็นของตนเอง! ความรุ่งเรืองเช่นนั้นสามารถสร้างเขาให้เป็นวีรบุรุษผู้มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์ เขาได้รับขนานนามว่าพญาราชสีห์ แต่ก็มีบางคนเรียกเขาว่าเลโอนมหาราชา
ไม่มีใครแน่ใจว่าจะมีคนแข็งแกร่งอย่างนี้อยู่จริงๆ
“ไม่เห็นมีอะไรยากเลย” ถังเทียนแค่นเสียง ประกายแววตาแปลกประหลาดกระพริบอยู่ในดวงตาของเขา “ถ้าเขาไม่เห็นด้วย เราก็เก็บเอาไว้ใช้เอง! ถ้าพวกเขากล้าเล่นสกปรก เราก็แค่เอาชนะเขาเท่านั้น!”
ประโยคสุดท้ายสีหน้าถังเทียนเปลี่ยนเป็นดุร้าย
ทุกคนตกตะลึง
“เขาเพิ่งเป็นแบบนี้หรือ?” จิ่งหาวพึมพำ เมื่อออกจากสมาพันธ์ชาวยุทธ เขาเข้าใจเลโอนมาก ในขณะที่เลโอนทำกับเขาเหมือนเป็นศัตรูคนหนึ่ง
ในพวกคนระดับสูงของสมาพันธ์ชาวยุทธทุกคน ทั้งหมดกลัวราชสีห์เลโอนกันทั้งนั้น แม้ว่าเขาจะมีอายุแล้ว และเขารู้ว่ามักจะมีคำพูดที่พูดกันในผู้บริหารระดับสูงว่าเวลาดีที่สุดในการโจมตีกลุ่มดาวราชสีห์ก็คือ เมื่อตอนที่พญาราชสีห์ตาย
ในสายตาของพวกเขา แม้ว่าอังเดรและพวกที่เหลือจะเป็นนักสู้แข็งแกร่ง แต่เมื่อเทียบกับเลโอนแค่เพียงใช้มือเปล่าก็สามารถสร้างอาณาจักรที่ทรงพลังได้ พวกเขายังคงอ่อนด้อยมากมายนัก
“เลโอน! ย่ำกลุ่มดาวราชสีห์ให้ราบ!”
หลิงซิ่วเข้าสู่สภาพคลั่งอย่างไม่ลังเลใจและกระโดดผาง เขามีสีหน้าตื่นเต้น ตาของเขาเป็นประกาย ดวงตาสีแดงเพลิงโชติช่วงเหมือนมีเพลิงลุก เขาอยู่ในอาการมึนงงเพราะสมบัติของถังเทียนเขาต้องการไปสู้ที่กลุ่มดาวราชสีห์ทันที ‘ความคิดของถังเทียนน่ากลัวเกินไป, ไม่ว่าเลโอนจะเป็นใครก็ตาม แต่ให้เขาเป็นพญาราชสีห์ ตราบใดที่ข้าเอาชนะเขาได้ หึหึหึ ข้าจะกลายเป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของโลก!’
หลิงซิ่วเลือดเดือด ความตั้งใจสู้แทบทะลักออกทุกขุมขน เขายังอยู่ในสภาวะคลั่ง
“บ้าทั้งคู่” อาเฮ่อมองดูทั้งคู่ตะโกนขึ้นลงๆก็อดเอามือก่ายหน้าผากไม่ได้ “พวกเจ้าทั้งสองคนทำตัวเหมือนคนปกติไม่ได้หรือไง?พวกเจ้ากำลังจะลากให้ชื่อเสียงกลุ่มดาวหมีใหญ่และทวีปซางโจวตกต่ำลงไปอีก”
จิ่งหาวมีความรู้สึกเช่นเดียวกัน “เราจะให้เขาไปคุยกับเลโอนจริงๆ หรือ?”
“มีแต่เขาที่กลับไปได้” อาเฮ่อจนใจ “สภาพจิตของเขาไม่อาจเยียวยาได้ แต่ข้าได้ยินมาว่าเลโอนเองก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน ข้าหวังว่าพวกเขาคงจะไม่ทะเลาะกันภาพที่งดงามอย่างนั้น ข้าไม่กล้านึกถึงเลย”
คิดถึงเรื่องถังเทียนและเลโอน…
จิ่งหาวสั่นสะท้าน เขาไม่เคยรู้สึกตัวว่าจะเป็นคนที่กลัวน้อยลง แต่เมื่อเทียบกับถังห้าวแล้ว เขายังคงด้อยกว่า ‘จริงด้วยมักจะมีบางอย่างที่ด้อยกว่าเสมอเมื่อเทียบกับเจ้าเด็กบ้า’
จิ่งหาวปลอบตนเองในใจ
“ถังห้าว ทำไมเราไม่เตรียมแผนลอบโจมตีและกำจัดเลโอนเล่า!”
“ถังห้าวข้าจะซุ่มอยู่ข้างหลังเจ้า และรอให้เจ้าส่งสัญญาณ! จากนั้นข้าจะใช้หอกแทงเขาให้ตาย!”
“แทงให้ตาย! แทงให้ตาย!”
เมื่อเห็นว่าหลิงซิ่วชักจะไปกันใหญ่ ถังเทียนรู้สึกว่าเป็นเรื่องแย่ และเก็บสมบัติไว้ เผ่นออกไปทันที อาเฮ่อและจิ่งหาวเผ่นหายไปก่อนนั้นแล้ว
“ไม่ไม่ มาสู้กันก่อน, ข้าอยากสู้เว้ย.. พวกเจ้าคนไหนจะมาสู้กับข้า..เอ่… หายหัวไปไหนกันหมด..”
หลิงซิ่วตกใจอยู่ชั่วขณะ จากนั้นเขามองดูรอบๆ มองหาคนที่จะสู้ด้วย
เมื่อกลับมายังที่พักอาเฮ่อคิดถึงกลุ่มดาวคนธนู ‘ไม่ว่าจะเป็นยังไง ราชินีก็ยังเป็นท่านป้าของข้า กลุ่มดาวคนธนูอ่อนแอกว่ากลุ่มดาวราชสีห์ในสิบสองตำหนักระนาบสุริยุปราคาเล็กน้อย แม้ว่าพวกเขาจะทรงพลัง แต่ทรัพยากรและเศรษฐกิจของพวกเขายังไม่ดีพอ ท่านป้าเราดูเหมือนจะไม่สนใจเรื่องการเมืองการปกครอง’
‘แต่ไม่มีใครกล้าดูแคลนกลุ่มดาวคนธนู ราชินีดาวคนธนูผู้ไม่สนใจการเมืองนี้คือนักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุด’ อาเฮ่อรู้แผนการของถังห้าว
ถังห้าวหวังจะติดต่อกับสิบสองตำหนักระนาบสุริยุปราคาให้ร่วมสู้กับสมาพันธ์ชาวยุทธ แผนของถังห้าวได้รับการพิจารณาและไตร่ตรองโดยอาเฮ่อ และมีโอกาสสำเร็จสูงมาก เพราะในมือของถังเทียน เขาถือไพ่ต่อรองสำคัญที่มิอาจปฏิเสธได้ นั่นคือความสามารถในการเสริมพลังให้สมบัติ
ในระบบกลุ่มดาวทั่วสวรรค์วิถี ถูกสร้างขึ้นจากสมบัติดวงดาว ดังนั้นความสำคัญในเรื่องนี้จึงมากยิ่งนัก
จากนั้นเขาเริ่มเขียนจดหมายถึงท่านป้าที่เป็นราชินีและเสนอให้นางส่งสมบัติของกลุ่มดาวคนธนูไปที่เมืองสามวิญญาณและเสนอให้นางร่วมมือกับกลุ่มดาวหมีใหญ่ให้ทุกคนช่วยกันวิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย จากนั้นเขาเขียนเรื่องราวข้อมูลภายในเกี่ยวกับสมาพันธ์ชาวยุทธ
เมื่อเขียนมาถึงตรงนี้แล้ว อาเฮ่อก็ตระหนักได้ทันทีพวกเขาและทวีปกวงหมิงรวมทั้งการสู้รบระหว่างสมาพันธ์ชาวยุทธและสวรรค์วิถีเริ่มเข้าสู่ระยะใหม่แล้ว
จนกระทั่งถึงตอนนี้ทั้งสองฝ่ายไม่มีช่องว่างให้ถอนตัวหรือประนีประนอมเนื่องจากทั้งสองฝ่ายเข้าใจถึงเจตนาของศัตรูและสถานการณ์ของตัวเองอย่างสิ้นเชิง ข้อมูลที่พวกเขามาจากสวรรค์วิถีอาจเป็นไปได้ว่ามาถึงทวีปกวงหมิงแล้ว หลังจากนั้นพวกเขาคงจะส่งกำลังเข้าทำลายทวีปซางโจว และในฐานะผู้มีปากเสียงของสวรรค์วิถี สมาพันธ์ชาวยุทธก็จะใช้กองกำลังของพวกเขาบุกกลุ่มดาวหมีใหญ่ด้วยความรุนแรงอย่างคาดไม่ถึง
การสู้รบจะเข้าสู่ระดับที่ขมขื่นและสิ้นหวัง
‘ถังห้าวคิดเรื่องนี้ไว้หรือยัง?’
อาเฮ่อตื่นตัวและเขียนต่อไป
“…สมาพันธ์ชาวยุทธไม่ได้เป็นเพียงศัตรูของกลุ่มดาวหมีใหญ่เท่านั้น พวกเขาเป็นศัตรูของสวรรค์วิถีทั้งหมด ความคงอยู่ของพวกเขาก็เพื่อเปิดโอกาสให้พวกดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ยกพลเข้าสวรรค์วิถี เราได้หาข้อมูลเกี่ยวกับเวลาที่ประตูดวงดาวจะเปิดออก และในที่สุดก็ได้รับผล สิบปี อีกสิบปีประตูดวงดาวเชื่อมดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์และสวรรค์วิถีจะเปิดออก และถึงเวลานั้น สงครามระหว่างโลก (จักรวาล)ทั้งสองจะหลีกเลี่ยงไม่ได้! ความอุดมสมบูรณ์ของพลังวิญญาณของสวรรค์วิถีคือสถานที่ซึ่งพวกเขาต้องการได้…”
อาเฮ่อไม่รู้ว่าเขาจะสร้างอิทธิพลต่อป้าของเขาได้หรือไม่ แต่ยังยังคงเขียนจดหมายอย่างจริงจังจนจบ
มีชาวกลุ่มดาวคนธนูอยู่ในเมืองสามวิญญาณ และจดหมายจะถูกส่งไปให้ราชินีอย่างรวดเร็ว
หลังจากจบเนื้อความจดหมาย จากนั้นเขาเขียนจดหมายถึงผู้อาวุโสสูงสุด และบันทึกความรู้แจ้งทั้งหมดที่เขารู้เกี่ยวกับวิทยายุทธของสำนักกระเรียน
หลังจากเขาพัฒนาปรับปรุงวิทยายุทธของสำนักกระเรียนอย่างต่อเนื่อง สำนักกระเรียนเติบโตแข็งแกร่งในระดับที่น่าตื่นตระหนก สำนักกระเรียนปฏิบัติตามธรรมเนียมของสำนักโบราณ แม้ว่าวิทยายุทธของพวกเขาจะแตกต่างจากวิทยายุทธเก่าโดยสิ้นเชิง แต่ธรรมเนียมประเพณีจะไม่สาบสูญ และศิษย์จะมีรากฐานที่ลึกซึ้งมากเมื่ออาเฮ่อพบมรดกและคืนกลับไปให้สำนักกระเรียนแล้ว สำนักกระเรียนจึงได้พบความหวังและความมั่นใจอีกครั้ง สำนักกระเรียนอยู่ในความเงียบมาหลายร้อยปีแล้ว และได้รับความปรารถนาที่รุนแรงมากขึ้น
ความเข้มข้นของพลังงานในกลุ่มดาวหมีใหญ่ประกอบกับถังเทียนก็ได้เรียนรู้วิทยายุทธของสำนักกระเรียนไปบางส่วนเมื่อในอดีตและอาเฮ่อมีตำแหน่งที่สำคัญในกลุ่มดาว จึงทำให้สำนักกระเรียนสะดวกสบายมากขึ้น พวกเขาเหมือนกับฟองน้ำที่ดูดซับส่วนแบ่งอย่างกระหาย ด้วยความเข้มงวดของสำนักของพวกเขา จึงทำให้พวกเขาได้รับความเคารพ
**********************
ผู้อาวุโสสูงสุดยิ้มขณะที่เขามองลงมาที่ภูเขา
มีกลุ่มคนมากมายที่เชิงเขา
ภูเขากระเรียนฟ้าสูงชันเหมือนกระบี่ที่ด้านข้างภูเขาตามแนวกระบี่เหมือนกับแผ่นดินถูกตัดราบเรียบเหมือนกระจก มีคำว่า ‘สถาบันกระเรียนฟ้า’ ปรากฏอยูด้านบน สง่างามและเต็มไปด้วยชีวิต
วันนี้เป็นวันแรกของการเปิดสถาบันกระเรียนฟ้า
สำนักกระเรียนได้รับการดูแลจากถังเทียน และพวกเขาตัดสินใจสร้างเป็นสถาบันกระเรียนฟ้าเพื่อถ่ายทอดวิทยายุทธของสำนักกระเรียนฟ้าให้กลุ่มดาวหมีใหญ่เป็นการทั่วไป
การเปิดสถาบันกระเรียนฟ้าทำให้เกิดความรู้สึกว่าเป็นแผนกภายในของกลุ่มดาวหมีใหญ่ ในอดีตไม่มีใครรู้ว่าสำนักกระเรียนเคยตกต่ำ แต่วันเวลาปัจจุบันนี้อาเฮ่อคือหนึ่งในผู้บริหารชั้นสูงของกลุ่มดาวหมีใหญ่ พญาหมีถังเทียนรับรองด้วยตัวเองว่าได้เรียนรู้วิชาของสำนักกระเรียนมาก่อนบวกกับวิทยายุทธของสำนักกระเรียน ทำให้มั่นใจมากขึ้นและคล่องตัวมากขึ้น ผู้เยาว์ทุกคนล้วนสนใจฝึกฝน
ที่ภูเขาด้านล่างมีผู้คนฝึกอย่างกระตือรือร้น ฉากภาพที่รุ่งเรืองทำให้สำนักกระเรียนทั้งหมดปิดบังความสุขของพวกเขาไม่ได้ ไม่มีใครเคยคิดว่าจะเกิดเสียงอึกทึกเช่นนี้ในทั่วสำนักกระเรียนอีก
ร่างสีขาวนับไม่ถ้วนบินลงมาจากภูเขา ทั้งหมดดูเหมือนกระเรียนขาวที่ปราดเปรียว ทำให้เหล่าศิษย์ตื่นเต้นมากขึ้น และหัวใจของพวกเขาปลาบปลื้ม
“การฟื้นฟูสำนักกระเรียนคือชะตาของพวกเราเหล่าผู้เยาว์รุ่นหลัง
ผู้อาวุโสสูงสุดพึมพำ เขาไม่เคยคิดว่าเขาจะสามารถได้เห็นฉากแบบนี้ในชีวิต แม้ว่าเขาตายไปตอนนี้เขาก็พอใจ
รอบๆตัวเขาไม่มีผู้ใดรู้สึกเศร้า การตกต่ำและพ่ายแพ้ของสำนักกระเรียน เหมือนจะเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เอง และไม่มีใครยินดีจะกลับไปยังจุดนั้น
“ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณอาเฮ่อ
“ใช่แล้ว บรรพบุรุษบนสวรรค์ โปรดปกป้องสำนักกระเรียนของข้าตลอดไปเถอะ”
ทุกคนมีอารมณ์ร่วม
ผู้อาวุโสสูงสุดเงียบไปชั่วขณะจากนั้นพูดอย่างจริงจัง “อาเฮ่อยังอายุน้อย แต่กำลังต่อสู้ข้างนอกอย่างไม่มีที่สุด รายได้ของสำนักกระเรียนเรานี้นับเป็นพรของแผ่นดิน เราไม่สามารถจมอยู่กับความสุขในแนวหลังได้ศิษย์สำนักกระเรียนปรารถนาจะได้พลังของนักสู้ระดับทอง จงมุ่งหน้าไปช่วยเพิ่มพลังของกองทัพ และไม่จำเป็นต้องพูดถึงพลังของกองทัพ! อนาคตกลุ่มดาวหมีใหญ่ อนาคตของสำนักกระเรียนต้องให้ศิษย์สำนักกระเรียนรักษาและปกป้องไว้ด้วยกัน!”
“ขอรับ!” ทุกคนคำนับและตอบพร้อมเพรียงกัน
ต่อจากนี้ไป ในกองทัพกลุ่มดาวหมีใหญ่ ได้มีตำนานถือกำเนิดกระบี่ทูตกระเรียน