Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 1299
หอมหาสมบัติ
“เลิกหวังกับตระกูลเหลียงได้เลย ท่านอาวุโส พวกเราจะไปซื้อสมุนไพรวิญญาณที่ไหนดี?”
เย่หยวนเอ่ยถาม
หวูเฉินกล่าวตอบ
“ไปที่หอมหาสมบัติ! จากที่เคยได้ยินมา หอมหาสมบัติอยู่ภายใต้การปกครองของจอมเทพมหาสมบัติ สถานที่แห่งนั้นปลอดภัยอย่างมาก ตอนที่จอมเทพนิรันดร์ยังมีชีวิตอยู่ เขาเองก็ชอบไปที่หอมหาสมบัติเพื่อจับจ่ายซื้อของเช่นกัน”
เย่หยวนพยักหน้าตอบ เพราะเป็นสถานที่ที่แม้แต่จอมเทพนิรันดร์ให้ความไว้วางใจ เขาเองก็ไม่มีข้อขัดข้องใดๆ
เมื่อเย่หยวนเตรียมตัวครบครัน เขาออกจากตระกูลเหลียงไปทันที
ทักไถ่สอบถามไปตลอดทาง เย่หยวนเร่งตรงปรี่ไปยังหอมหาสมบัติ ทว่าทันใดนั้นเอง เสียงของหวูเฉินพลันดังขึ้นกลางห้วงความคิดของเย่หยวนทันที
“เจ้าหนู มีคนตามหางเจ้ามาติดๆ นั้นมันจางชุน”
เย่หยวนส่องแววตระหนกอย่างลับๆ แต่สีหน้าการแสดงออกยังคงนิ่งสงบไร้ระลอก เขายังแสร้งทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้นและมุ่งหน้าเดินตรงต่อไป
ลักษณะแวดล้อมบนมหาพิภพถงเทียนแตกต่างจากดินแดนพฤกษานิรันดร์โดยสิ้นเชิง ญาณสัมผัสของเย่หยวนแผดขยายตรวจจับได้แค่หนึ่งร้อยฉื่อเท่านั้น
นอกจากนี้ ระดับพลังของนักสู้โดยเฉลี่ยในมหาพิภพถงเทียนก็สูงมาก พวกเขาล้วนแกร่งกล้าจนสามารถปกปิดร่องรอยได้
ทุกอาณาจักรพลังที่อยู่ต่ำกว่าอาณาจักรราชันย์พระเจ้า จะไม่สามารถเหาะเหินเดินอากาศได้!
หลากหลายเหตุผลผนวกรวมกัน ส่งผลให้ญาณสัมผัสของเย่หยวนค่อนข้างหยาบกร้านกว่าตอนที่อยู่ในดินแดนพฤกษานิรันดร์หลายขุม
โชคยังดีที่ยังมีหวูเฉิน พลังจิตวิญญาณของเขาแกร่งกร้าวยากผู้ใดทัดเทียม เพียงปราดสัมผัสเสี้ยวอึดใจเดียวก็ทราบทันทีถึงการมีอยู่ของจางชุน
จางชุนที่สะกดรอยตามเย่หยวนออกมา นี่หาใช่สัญญาณที่ดีนัก
“ดูท่าเหลียงหมิงอี้กำลังวางแผนชั่ว”
เย่หยวนส่งเสียงผ่านความคิดเอ่ยตอบ
“ความเป็นไปได้ที่มีแนวโน้มที่สุดคือ พวกมันอาจมโนไปว่า เจ้ามีวิชาลับควบคุมอสูรอะไรเทือกนั้น จึงต้องเฝ้าดูทุกการเคลื่อนไหวของเจ้าขนาดนี้”
หวูเฉินเอ่ยถาม
“ข้าไม่สามารถกลับไปยังตระกูลเหลียงได้อีกต่อไปแล้ว เช่นนั้นควรทำอย่างไรดี?”
“อย่าได้กังวลไป เจ้ายังพอมีผลึกปราณเทวะติดตัวอยู่บ้าง เร่งไปที่หอมหาสมบัติและเช่าห้องบ่มเพาะ จากนั้นมุ่งความสนใจทั้งหมดกับเพียงเรื่องศาสตร์แห่งโอสถกับค่ายกลก็พอ จะทำสำเร็จหรือไม่ นี่กลับขึ้นอยู่กับความเข้าใจของเจ้าแล้ว หากยังมิอาจบรรลุก็ไม่สามารถหลอมกลั่นโอสถปราณเทวะได้ ยามที่ผลึกปราณเทวะหมดลง ชีวิตน้อยของเจ้า…ได้ดับสูญจริงๆแน่!”
หวูเฉินกล่าว
หัวคิ้วเย่หยวนแทนขมวดชนกัน แต่เขายังกล่าวให้กำลังใจตนเองว่า
“หึ นี่น่ะรึทางตันของข้า? อย่าจะรู้เสีย ทางตันแค่นี้จะหยุดข้าได้หรือไม่!”
เย่หยวนในตอนนี้เป็นเพียงชายพิการไร้ความสามารถคนหนึ่ง สิ่งเดียวที่สามารถทำให้เหลียงหมิงอี้ตาลุกวาวได้ก็คือ วิชาควบคุมอสูรที่ไม่มีอยู่จริง ข้อสันนิษฐานมิใช่เรื่องยากที่จะคาดเดาเลย
โชคยังดีที่เขาตัดสินใจออกมาทันเวลา หากช้ากว่านี้เพียงก้าวเดียว เขาจะไม่สามารถย่างก้าวออกจากธรณีประตูของตระกูลเหลียงได้อีกต่อไป
เย่หยวนเร่งฝีเท้าตรงถึงหอมหาสมบัติในไม่ช้า
“โอ้ว.. ยิ่งใหญ่สมชื่อหอมหาสมบัติ!”
เบื้องหน้าประจักษ์แก่สายตา เป็นหอคอยมหึมาสุดหรูหราและโอ่อ่าเกินพรรณนา
ราวบันไดทำมาจากหินอ่อนน้ำงาม แกะสลักลวดลายประณีตชดช้อยเป็นทรงสวย บริเวณโถงกว้างถูกสร้างขึ้นจากหยกขจี้เงาขลับ คลอเคลียบรรยากาศหรูหรา ปราศจากเศษดินเศษฝุ่นเปรอะเปื้อนใดๆ
“อืม จอมเทพมหาสมบัติผู้บรรลุเต๋าได้โดยเครื่องรางและขุมสมบัติ และยังได้ชื่อว่าเป็น จักรพรรดิเทพสวรรค์ที่ร่ำรวยที่สุดแห่งมหาพิภพถงเทียน! แม้แต่เมืองกุยฉาง เขตชนบทอันห่างไกลแบบนี้ หอมหาสมบัติก็มิใช่สถานที่ที่ตระกูลเหลียงจะกล้ายั่วยุ ในด้านอิทธิพลอำนาจ ตระเหลียงเทียบไม่ติดฝุ่น”
หวูเฉินกล่าว
เย่หยวนรู้สึกทึ่งตะลึงยิ่งเมื่อได้ฟัง เขาเร่งดึงสติกลับมาโดยเร็วและย่างเท้าก้าวเข้าไปในหอมหาสมบัติทันที
“นายท่าน ทางเรา,หอมหาสมบัติมีสรรพสิ่งใต้สุริยันให้ท่านเลือกสรร ไม่ทราบว่านายท่านสนใจสิ่งใดเป็นพิเศษ?”
พนักงานสาวสวยนางหนึ่งตรงเข้ามาทักทายเย่หยวนทันที
พนักงานสาวสวยนางนี้มีนามว่า หงหยิง นางมีต้อนรับและแนะนำลูกค้าที่เข้ามาในหอมหาสมบัติแห่งนี้
แต่ทันทีที่เย่หยวนเห็นนาง เขาก็อดขยี้ตามิได้ด้วยความตกใจ
พนักงานสาวนางนี้เป็นถึงเซียนอาณาจักรพระเจ้า!
หอมหาสมบัติแห่งนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ!
นอกจากนั้น หงหยิงนางนี้ยังมองผ่านอ่านความคิดของเขาได้ในเสี้ยวพริบตา แม้เบื้องลึกในแววตาของนางจะเจือแววดูถูกอยู่บ้าง แต่นางยังคงปกปิดอาการและสำรวมสุภาพอย่างยิ่ง ไม่ว่าใครมาได้ยิน น้ำเสียงของนางหาได้ทิ้งร่องรอยเหยียดหยามเลยสักนิด
ในความเป็นจริง จำต้องเอ่ยชมที่จอมเทพมหาสมบัติสั่งสอนพนักงานทุกคนมาเป็นอย่างดี!
“ข้าต้องการไหมพิรุณเทวะห้าต้น, หญ้าลมทองอมตะแปดต้น, ผลึกด้ายสวรรค์หกต้น…”
เย่หยวนเอ่ยสั่งสมุนไพรวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ประมาณห้าถึงหกชนิด ซึ่งสมุนไพรวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดนี้ล้วนแล้วเป็นส่วนประกอบของโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับเริ่มต้นทั้งสิ้น
ทีแรก หงหยิงอดตะลึงมิได้เมื่อได้ยินคำสั่งซื้อลากยาวเท่าหางว่าวโดยพลัน แต่เมื่อได้ยินชื่อสมุนไพร ยามนี้ค่อยโล่งอกไปเปาะหนึ่ง
เยาวชนหนุ่มคนนี้ที่อยู่ตรงหน้านาง ไร้ซึ่งร่องรอยพลังปราณเทวะใดๆ พินิจได้ว่าเป็นเพียงชายพิการคนหนึ่ง เขาอาจเป็นคนรับใช้ของจอมเทพโอสถสักคนหนึ่ง คงจะถูกสั่งให้เดินเรื่องจัดหาสมุนไพรให้เจ้านาย
“รับทราบแล้วนายท่าน ข้าจะเร่งรายการจัดซื้อโดยเร็ว มิทราบว่านายท่านยังต้องการอะไรอื่นอีกหรือไม่?”
หงหยิงเอ่ยถามอีกครั้ง
เย่หยวนกล่าวต่อว่า
“ข้าต้องการเช่าห้องบ่มเพาะ”
หงหยิงตัวแข็งทื่อในบัดดล มาจับจ่ายซื้อสมุนไพรเยอะแยะขนาดนี้ แล้วก็ยังต้องการเช่าห้องบ่มเพาะพลังอีก?
หรือเป็นไปได้ไหมว่า ชายรับใช้คนนี้คิดจะแอบอู้เบี้ยวส่งมอบของคืนแก่เจ้านายตน?
ช่างเป็นชายรับใช้ที่ใจกล้าอะไรเพียงนี้?
หรงหยิงยิ้มแย้มแจ่มใสและกล่าวว่า
“ห้องบ่มเพาะของหอมหาสมบัติจะแบ่งออกเป็น สวรรค์, ดิน, ลึกลับและเหลือง ทั้งหมดสี่ระดับให้เลือกสรร ห้องบ่มเพาะระดับสวรรค์จะมีค่าเช่าอยู่ที่หนึ่งพันผลึกปราณเทวะระดับต่ำต่อวัน ระดับดินที่ห้าร้อยผลึกปราณเทวะระดับต่ำต่อวัน ระดับลึกลับที่หนึ่งร้อยผลึกปราณเทวะระดับต่ำต่อวัน และระดับเหลืองที่สิบผลึกปราณเทวะระดับต่ำต่อวัน”
เย่หยวนหน้าเสียเล็กน้อยเมื่อได้ฟัง
ราคาแพงมาก!
เดิมทีเขาวางแผนเช่าห้องบ่มเพาะประมาณสิบวัน น่าจะพอดีกับผลึกปราณเทวะที่เขาได้รับมาพอดี ซึ่งผลึกปราณเทวะที่เขาได้รับมาจากเหลียงหวางหรูมีประมาณหนึ่งร้อยสามสิบห้าก้อน
แต่ด้วยราคาขนาดนี้ แล้วเขาจะเหลือพอสำหรับสมุนไพรวิญญาณที่สั่งซื้อไปได้อย่างไร?
เย่หยวนทราบสถานการณ์ทางการเงินของเขาดี เขาจำต้องใช้จ่ายอย่างจำกัด
แต่ห้องบ่มเพาะในหอมหาสมบัติก็แพงเกินรับไหวเช่นกัน
“เอ่อ…มีห้องบ่มเพาะที่ถูกกว่านี้หรือไม่?”
เย่หยวนพลันลูบไล้ท่อนแขนไปพลางก่อนเอ่ยถามอย่างเขินอาย
ยามนี้เขาได้แต่ยิ้มสู้สุดระทมใจแสนขมขื่น เขาไม่คิดไม่ฝันมาก่อนเลยว่า สักวันจะมีวันที่ตนต้องทุกข์ยากแทบขอคนอื่นอยู่กิน
โชคยังดีที่ก่อนจะมายังมหาพิภพถงเทียน เขาค่อนข้างเตรียมตัวเตรียมใจมาพอแล้ว เขาประเมินทุกสถานการณ์กระทั่งขั้นเลวร้ายสุดก็พร้อมทนบากหน้า เพียงว่าวันนี้มาถึงเร็วกว่าที่คาด ทำได้แต่ถอนหายใจเสียงยาวไม่หยุดหย่อน
หงหยิงรู้สึกดูถูกดูแคลนชายพิการตรงหน้านางยิ่งจากเบื้องลึกของจิตใจ ในเมื่อไม่มีเงินยังจะทำเป็นวางท่าวางทางเพื่ออันใด?
แต่ดูถูกคือดูถูก ห้ามนำอารมณ์ความรู้สึกมาปนกับหน้าที่การงาน ซึ่งหงหยิงนับเป็นพนักงานสาวมืออาชีพอย่างมาก นางยังคงเอ่ยตอบเย่หยวนพร้อมรอยยิ้มว่า
“แน่นอนนายท่าน พวกเรายังมีห้องบ่มเพาะที่มิได้ถูกเสริมพลังเข้าไป ราคาเพียงแค่สี่ผนึกปราณเทวะระดับต่ำต่อวันเท่านั้น แต่เนื่องจากเป็นห้องบ่มเพาะที่มิได้ถูกเสริมพลังเข้าไป ประสิทธิภาพจึงค่อนข้างต่ำกว่าโดยทั่วไปมาก ไม่ทราบว่านายน้อยยังสนใจอยู่หรือไม่?”
คู่ดวงตาพลันส่องประกายขึ้นทันใด เย่หยวนเพียงต้องการสุ่มถามไปเฉยๆ แต่ใครจะไปคิดว่าที่นี่ดันมีห้องราคาถูกอยู่จริงๆ
เขาเพียงต้องการเช่าห้องบ่มเพาะเพราะลี้ภัยจากตระกูลเหลียง และขอยืมสถานที่เพื่อหลอมกลั่นโอสถ ประสิทธิภาพดีหรือแย่กลับหาได้สำคัญไม่
เพราะตอนนี้เขาไม่สามารถบ่มเพาะฝึกฝนพลังใดๆได้เลย
“เอาล่ะ ข้าขอเช่าสิบวัน! หลังจากที่ได้สมุนไพรวิญญาณครบตามรายการสั่งแล้ว ส่งให้คนนำมาในห้องบ่มเพาะได้โดยตรง!”
เย่หยวนกล่าวตอบอย่างตรงไปตรงมา
หงหยิงสะดุ้งเล็กน้อย นางคาดไม่ถึง เย่หยวนกลับเช่ามันจริงๆ
ยิ่งไปกว่านั้น การกระทำสิ่งต่างๆของเย่หยวนก็ทำเอานางมึนงงไม่น้อย หรือเป็นไปได้ไหมที่ ชายพิการผู้ไร้ซึ่งพลังปราณเทวะ จะลงมือหลอมกลั่นโอสถด้วยตัวเอง?
นี่ต้องล้อเล่นเป็นแน่!
แน่นอน หงหยิงผู้นี้มีความเป็นมืออาชีพค่อนข้างสูง นางยิ้มตอบบางๆและกล่าวขึ้นว่า
“รับทราบนายท่าน รายการสมุนไพรวิญญาณทั้งหมดที่สั่งซื้อไป รวมราคาสุทธิหกสิบแปดผลึกปราณเทวะระดับต่ำ รบกวนนายท่านโปรดชำระเงินก่อน”
เย่หยวนรู้สึกปวดจี๊ดถึงทรวงใน เขานำผลึกปราณเทวะจำนวนหกสิบแปดก้อนออกมาโดยตรง และจ่ายค่าสมุนไพรวิญญาณไป
ด้วยเหตุนี้ ภายในแหวนเก็บของจึงเหลือผลึกปราณเทวะอยู่แค่หกสิบเจ็ดก้อนสุดท้ายแล้ว
หากเขายังไม่สามารถหลอมกลั่นโอสถปราณเทวะได้ภายในหกสิบเจ็ดก้อนที่เหลือ ก็เตรียมตัวตายได้เลย!
ณ ปัจจุบันเย่หยวนถอยไม่ได้อีกแล้ว!
“โอ้ใช่แล้ว หากข้าหลอมโอสถปราณเทวะเสร็จสิ้นแล้ว ทางหอมหาสมบัติมีแผนจะรับซื้อหรือไม่?”
เย่หยวนเอ่ยปากถามขึ้นทันที
หงหยิงที่ได้ยินแบบนั้นพลันตะลึงงันเป็นคำรบสอง นี่เป็นครั้งแรกที่นางเคยรับมือกับลูกค่าประเภทนี้!
ซื้อสมุนไพรวิญญาณจากหอมหาสมบัติไปเป็นจำนวนมาก ก็เพื่อขายคืนเป็นโอสถให้แก่หอมหาสมบัติกลับไป!
สิ่งหนึ่งที่นางยืนยันได้เต็มปากคือ ชายพิการคนนี้ต้องการเช่าห้องบ่มเพาะเพื่อหลอมกลั่นโอสถ!
แต่…ชายพิการคนนี้ไร้ซึ่งพลังปราณเทวะในร่างกาย แล้วจะไปหลอมกลั่น… ไม่! เดี๋ยวก่อน! ยังมีวรยุทธค่ายกลเต๋ากลั่นโอสถอยู่อีก!
เสี้ยวอึดใจที่ความเป็นไปได้ข้อนี้โฉบแล่นสู่ห้วงความคิด ร่างอรชรพราวเสน่ห์ของหงหยิงพลันสั่นสะท้านหนัก
แต่นี่…นี่เป็นไปได้อย่างไร?
วรยุทธค่ายกลเต๋ากลั่นโอสถ ภายในเมืองกุยฉางแห่งนี้ มันไม่น่าจะมีใครรู้จักด้วยซ้ำ?