Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 1614 แนวคิดแห่งห้วงมิติอันแข็งแกร่ง
ตอนที่ 1614 แนวคิดแห่งห้วงมิติอันแข็งแกร่ง
หลิงจี้คุนมีสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก เขาค่อย ๆ หันมาหาหรงซูและกล่าวขึ้นอย่างเย็นชา “พี่หรงซู ท่านกำลังล้อข้าเล่นรึ? สั่งการให้ผู้อาวุโสออกมาจัดการกับศิษย์ของข้าแบบนี้ หากไม่เรียกว่าผู้ใหญ่รังแกผู้น้อยแล้วจะเรียกมันว่าอะไรอีก?”
จริง ๆ ในใจของหลิงจี้คุนเขารู้ดีว่ามันช่างเป็นคำกล่าวอ้างที่ไร้สาระ
เย่หยวนนั้นอายุน้อยกว่ากู่ฮั่นมากมาย ทำให้คำแย้งนี้ไม่มีอะไรเป็นหลักให้แย้งเลย
หากจะให้บอกเหตุผลจริง ๆ มันก็คงเป็นเพราะว่ากู่ฮั่นไม่มีความสามารถเทียบเท่าเย่หยวนได้
การที่จอมเทพโอสถสามดาวสามารถเก่งกาจได้ขนาดนั้นมันช่างทำให้ผู้คนต้องสิ้นหวังจริง ๆ
ในเวลาหลายปีมานี้หลิงจี้คุนมักรู้สึกภูมิใจเสมอที่ได้กู่ฮั่นมาเป็นศิษย์ และนำพาศิษย์รักของเขาคนนี้ไปไหนมาไหนเพื่อท้าประลองกับคนไปทั่ว
ในเวลาหลายปีที่ผ่านมา กู่ฮั่นแทบจะไม่เคยแพ้ใครเลย
แต่วันนี้เขากลับต้องพ่ายแพ้อย่างราบคาบ
เย่หยวนนั้นอาจจะดูเหมือนแค่เด็กน้อยคนหนึ่ง แต่เด็กน้อยคนนี้กลับกลายเป็นผู้อาวุโสผู้ยิ่งใหญ่!
แต่ฝั่งหรงซูจะยอมง่าย ๆ ได้อย่างไร? ตอนนี้เขาได้แต่หัวเราะออกมา “พี่จี้คุน ผู้อาวุโสเย่นั้นคือผู้อาวุโสของหอโอสถ ชายแก่คนนี้ไม่มีปัญญาไปสั่งเขาหรอกว่าจะให้ไปสั่งสอนศิษย์ของท่าน ที่สำคัญแม้ผู้อาวุโสเย่จะเป็นผู้อาวุโสของหอโอสถ แต่เขาก็มีอายุน้อยกว่ากู่ฮั่นมาก หากให้พูดถึงคนหนุ่มยอดอัจฉริยะของเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์จริง ๆ มันก็ต้องเป็นเขาคนนี้นี่แหละ! ท่านเอาแต่พูดจาอะไรไร้สาระ”
หรงซูนั้นรู้สึกปลอดโปร่งอย่างมากมาย นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เขารู้สึกชอบใจในการกระทำของเย่หยวนขึ้นมา
ในเวลาหนึ่งเดือนมานี้เขาต้องพบเจอกับความอับอายอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
เขาไม่เคยที่จะเชิดหน้าสู้หลิงจี้คุนได้เลย
ตอนนี้ใบหน้าของหลิงจี้คุนนั้นดำสนิทราวกับก้นหม้อ “ไม่ว่าจะใช้เหตุผลใดมากล่าวอ้างยังไงเสียเขาคนนี้ก็เป็นถึงผู้อาวุโส! ให้คนระดับนี้มาประลองกับศิษย์ของชายแก่คนนี้ได้อย่างไรกัน?”
หรงซูหันไปมองอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้ม “ผู้อาวุโสเย่นั้นเกินกว่าที่จะมาพบกับศิษย์ของท่านจริง ๆ นั่นแหละ ท่านไม่รู้หรอกว่าตอนนั้นเขาแค่สอนหนิงซืออวี๋นิด ๆ หน่อย ๆ แค่ไม่กี่วันนางก็สามารถจัดการชนะศิษย์ของข้าได้แล้ว หากให้ข้าเดา วันนี้เขาคงมาเพื่อกู้หน้าให้เด็กน้อยหนิงซืออวี๋นางนั้น”
ใบหน้าของหลิงจี้คุนกระตุกขึ้นมาก่อนจะกล่าวอย่างเยือกเย็น “เฮอะ! แล้วมันยังไง?! ศิษย์ข้านั้นเก่งกาจทั้งด้านวิชายุทธและวิชาโอสถ รอให้ถึงตอนที่เขาจัดการผู้อาวุโสเย่ของท่านลงเถอะ เมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์จะได้เสียชื่ออย่างกู้ไม่กลับ!”
แต่เมื่อหรงซูได้ยินแบบนั้นเขากลับไม่คิดจะตอบอะไรกลับมา
รอยยิ้มแฝงนัยยะของหรงซูนั้นมันทำให้หัวใจของหลิงจี้คุนต้องสั่นระรัว
หรือว่าจริง ๆ แล้วผู้อาวุโสเย่คนนี้จะเก่งกาจในวิชายุทธด้วย?
บ้าน่า!
ผู้อาวุโสเย่คนนี้ยังเด็กมาก แต่กลับมีวิชาโอสถถึงจุดสูงสุดแบบนี้แล้วเขาจะยังมีวิชายุทธที่เหนือล้ำกว่ากู่ฮั่นอีกหรือ?
แต่หากไม่ใช่แบบนั้นแล้วรอยยิ้มของหรงซูมันหมายความว่ายังไง?
…
“ศิษย์พี่ใหญ่ ผู้อาวุโสเย่คนนี้มีความสามารถในด้านโอสถที่น่าเกรงขามมาก! แต่ในวิชายุทธ เขาไม่มีทางรับมือศิษย์น้องเล็กได้แน่ ๆ”
ชายหนุ่มถือดาบจึงพยักหน้ารับ “ศิษย์น้องเล็กนั้นเรียนรู้แนวคิดแห่งลมและแนวคิดแห่งไฟ ที่สำคัญเขายังเข้าใจมันได้อย่างถ่องแท้ด้วย นักยุทธระดับการบ่มเพาะเดียวกับเขาคงไม่มีใครสามารถรับมือเขาได้แน่ ๆ ที่สำคัญผู้อาวุโสเย่มีพลังบ่มเพาะไม่เท่าเขาเสียด้วยซ้ำ”
“ฮึฮึ ผู้อาวุโสเย่คิดว่าตัวเองเป็นยอดอัจฉริยะ เขาจะมั่นใจเกินไปแล้ว! ต่อให้เป็นข้า หากข้ามีพลังบ่มเพาะเท่าศิษย์น้องเล็กข้าเองก็คงสู้เขาไม่ได้เช่นกัน”
ชายหนุ่มถือดาบจึงเสริมขึ้น “เมื่อถืงตอนที่ศิษย์น้องเล็กจัดการผู้อาวุโสเย่คนนี้ลง เมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์คงต้องเสียชื่ออย่างไม่มีทางกู้กลับแน่ ๆ”
กู่ฮั่นมองดูเย่หยวนและกล่าวขึ้นอย่างเหยียดหยาม “ท่านเข้ามา! ข้ามีพลังบ่มเพาะสูงกว่าท่าน ข้าจะต่อให้ท่านก่อนสามกระบวนท่า เดี๋ยวผู้คนจะหาว่าข้ารังแกคนอ่อนแอ!”
เมื่อเขาพูดจบผู้คนที่มุงดูโดยรอบก็เปลี่ยนสีหน้าไป
ผู้อาวุโสเย่นั้นคือผู้ที่เข้าใจแนวคิดแห่งห้วงมิติ แล้วเขาคนนี้กลับกล้าจะตั้งรับก่อนสามกระบวนท่า?
นี่… เจ้าเด็กคนนี้มันจะไม่กลัวตายหน่อยรึ?
และไม่นานก็เป็นเย่หยวนที่ตอบออกมา “ข้านั้นเป็นผู้อาวุโส มีหรือที่จะเอาเปรียบเจ้าก่อนได้? หากพูดถึงการต่อให้ ข้าต่างหากต้องเป็นฝ่ายต่อให้ เอาแบบนี้ไหม? เจ้าโจมตีเข้ามาได้เต็มที่ ข้าจะไม่ตอบโต้ ตราบเท่าที่เจ้าจับชายเสื้อข้าได้ข้าจะยอมรับว่าตัวเองแพ้!”
กู่ฮั่นนั้นรู้สึกเหมือนเพิ่งได้ยินมุกตลกที่สุดในชีวิต เขาได้แต่สงสัยว่าสมองของผู้อาวุโสเย่คนนี้ยังทำงานดีอยู่รึเปล่า?
หรือเย่หยวนนั้นจะไม่รู้ว่าตัวเขาได้กวาดล้างศิษย์ทั้งหลายของหอยุทธจนสิ้น?
หรือว่าเย่หยวนจะไม่รู้ว่าเขาเข้าใจแนวคิดแห่งลมและแนวคิดแห่งไฟ?
อืม เขาต้องไม่รู้อะไรเลยแน่ ๆ
วางท่า?
อยากรักษาหน้าในฐานะผู้อาวุโส?
เจ้ามันแค่ผู้อาวุโสหอโอสถ มิใช่ผู้อาวุโสหอยุทธ์!
เหล่าศิษย์พี่ของกู่ฮั่นต่างนิ่งไปทันทีที่ได้ยินแบบนั้น ก่อนจะหันมายิ้มและมองหน้ากัน
ชายหนุ่มถือดาบพูดขึ้น “ผู้อาวุโสเย่คนนี้ช่างน่าสนใจจริง ๆ”
กู่ฮั่นหัวเราะลั่นและพูดขึ้น “ผู้อาวุโสเย่ นี่เป็นเรื่องที่ท่านกล่าวเองนะ! หากแพ้ขึ้นมาท่านต้องก้มคารวะข้า 6 ครั้ง!”
เย่หยวนตอบกลับไปอย่างไม่คิดมาก “ได้สิ ข้ารักษาคำพูดตัวเองเสมอ”
เมื่อกู่ฮั่นได้ยินแบบนั้นเขาก็ปล่อยพลังอันน่าเกรงขามออกมาในทันที
ในการต่อสู้ที่ผ่าน ๆ มานั้นกู่ฮั่นไม่เคยที่จะใช้พลังเต็มที่เลย
แต่คราวนี้เขาตัดสินใจที่จะลงมืออย่างเต็มแรง
เพราะชายคนตรงหน้านี้มันทำให้เขาเกิดอิจฉาขึ้นมา!
เขาในฐานะยอดอัจฉริยะนั้น นี่เป็นครั้งแรกเลยที่มีใครกล้ามาท้าทายเขามากถึงขนาดนี้!
เขาไม่เคยนึกเคยฝันว่าเด็กหนุ่มที่อ่อนกว่าตัวเองมากคนนี้จะได้กลายเป็นผู้อาวุโสของหอโอสถ
นั่นมันทำให้เขาต้องอับอายและถือเป็นการดูถูกเขาอย่างหนึ่ง
“เพลิงวายุสุริยันลับ!”
สองแนวคิดผสานกันอย่างลงตัว พลังวิญญาณสองขั้วถูกปล่อยออกมาพร้อมด้วยพลังแนวคิดที่แสนปั่นป่วน
เมื่อทุกคนได้เห็นภาพนั้น ดวงตาของพวกเขาก็เปี่ยมไปด้วยความตื่นตะลึง
เพราะพวกเขาทั้งหลายไม่เคยรู้เลยว่ากู่ฮั่นจะเก่งกาจได้ขนาดนี้!
ดูเหมือนว่าช่วงเวลาหนึ่งเดือนที่เขาจัดการกับยอดอัจฉริยะของเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์มานี้ เขาจะไม่เคยเอาจริงเลยสักครั้ง!
ตอนนี้ไฟเคลื่อนไหวไปตามแนวลม และลมเป่าโหมไฟให้รุนแรงขึ้น การโจมตีของไฟและลมอันแสนรุนแรงกำลังพุ่งลงมาหาเย่หยวนอย่างจัง
พลังของมันนั้นทำให้แม้แต่คนที่ยืนดูอยู่ไกล ๆ ยังใจสั่น
แต่ทว่าเย่หยวนกลับยังสงบนิ่ง ไม่มีท่าทีว่าจะเคลื่อนไหวใด ๆ ราวกับว่าเขาไม่คิดที่จะหลบแม้แต่น้อย
ได้เห็นแบบนั้นกู่ฮั่นจึงพูดขึ้นด้วยเสียงหัวเราะลั่น “รนหาที่ตาย!”
เพราะนี่คือการโจมตีที่เขามั่นใจที่สุด แต่เย่หยวนกลับไม่คิดที่จะหลบเลี่ยงมันเสียด้วยซ้ำ หากไม่ใช่การรนหาที่ตายแล้วมันจะเป็นอะไรไปได้อีก?
แต่ในวินาทีต่อมากู่ฮั่นก็ต้องเบิกตาโพลงในทันที
“เป็นไปไม่ได้! ทำไม… ทำไมมันถึงกลายเป็นเช่นนี้?!” กู่ฮั่นพูดออกมาด้วยสีหน้าสุดตื่นตะลึง
เพราะการโจมตีของจู่ฮั่นนั้นจู่ ๆ มันก็หายไปก่อนจะทันได้แตะตัวเย่หยวน
เมื่อมันปรากฏออกมาอีกครั้ง การโจมตีนั้นก็เลยผ่านเย่หยวนไปไกลแล้ว
ตู้ม!
แรงระเบิดทำให้พื้นสั่นไหวอย่างรุนแรง การโจมตีนี้พุ่งเข้าสู่ค่ายกลป้องกันไปเต็ม ๆ
“ศิษย์พี่ใหญ่ เกิดอะไรขึ้นกัน? ผู้อาวุโสเย่ไม่ได้ขยับตัวแม้แต่นิด ทำไมการโจมตีของศิษย์น้องเล็กถึงได้พุ่งผ่านตัวเขาไปเช่นนั้นกัน?”
ชายหนุ่มถือดาบหน้าเปลี่ยนสีไปอย่างมากก่อนจะพูดขึ้น “แนวคิดแห่งห้วงมิติ! นี่ข้าไม่ได้ตาฝาดไปใช่ไหม? มันเป็นไปได้ยังไงกัน?”
และเป็นศิษย์น้องของเขาคนหนึ่งที่พูดขึ้นตาม “แนวคิดแห่งห้วงมิติ? ศิษย์พี่ใหญ่ท่านแน่ใจรึ? อาณาจักรบรรพชนพระเจ้าอย่างเขาจะสามารถใช้แนวคิดแห่งห้วงมิติได้อย่างไรกัน?”
ชายหนุ่มถือดาบยาวยังคงมีสีหน้าตื่นตะลึงไม่เปลี่ยน เขาพูดขึ้น “มันต้องเป็นแนวคิดแห่งห้วงมิติแน่ ๆ ไม่มีทางผิดพลาด! ที่สำคัญความเข้าใจในแนวคิดแห่งห่วงมิติของเขายังสูงส่งมาก ศิษย์… ศิษย์น้องเล็กแพ้แล้ว! เขาไม่มีโอกาสชนะได้เลย! ก็ว่าสิว่าทำไมผู้อาวุโสเย่ถึงกล้าพูดอะไรแบบนั้นออกมา ที่แท้เขาก็สามารถควบคุมแนวคิดแห่งห้วงมิติได้นี่เอง!”
ตอนนี้สีหน้าของกู่ฮั่นนั้นแดงจนแทบดำ เขากัดฟันแน่นก่อนจะตะโกนขึ้น “ข้า… ข้าไม่เชื่อหรอกว่าข้าจะจัดการเจ้าลงไม่ได้!”
พูดจบร่างของกู่ฮั่นก็ขยับทันที เขามุ่งหน้าตรงเข้าหาเย่หยวนราวกับสายฟ้าฟาด