Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 1650 ตัวตนอันยิ่งใหญ่
ตอนที่ 1650 ตัวตนอันยิ่งใหญ่
ทั้งเมืองนั้นโกลาหลไปหมด!
เพราะในกลุ่มเครือข่ายสวรรค์กลับมีร้านโอสถเล็กๆ ที่ขายแต่โอสถศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะโมฆะมาเปิดขึ้น
เรื่องในครานี้มันเหมือนไฟลามทุ่ม เผาไหม้คนทั้งเมืองหลวงไปอย่างรวดเร็ว
ที่หน้าร้านขายโอสถของเย่หยวนในตอนนี้มีแถวต่อยาวอย่างที่ไม่มีสิ้นสุดอยู่
ในจำนวนคนที่มาต่อนั้น ส่วนมากจะเป็นยอดฝีมืออาณาจักรราชันพระเจ้า
เพราะแม้โอสถนี้มันจะดีแค่ไหน แต่เหล่านักยุทธอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าส่วนใหญ่ก็ไม่มีปัญญาพอจะจ่ายผลึกปราณเทวะออกมาเป็นร้อยล้าน
ต่อให้มันเป็นโอสถที่หาง่ายที่สุด พวกเขาก็ยังไม่มีผลึกปราณเทวะพอจะซื้อมันได้
ที่ปลายแถว มีคนๆ หนึ่งบ่นขึ้น “แถวยาวฉิบ นี่ต้องรอไปอีกนานเท่าไหร่กันเนี่ย?!”
จนอีกคนตอบขึ้น “งั้นเจ้าจะทำยังไง? เถ้าแก่คนนั้นเขาบอกว่าหากใครลัดแถวจะไม่ขายโอสถให้! กลุ่มเครือข่ายสวรรค์นั้นเป็นสถานที่ภายใต้การดูแลของ สามขั้วอำนาจใหญ่ เจ้ากล้าจะก่อเรื่องใดๆ ไหมล่ะ?”
“แต่แถวยาวขนาดนี้ ไม่ว่าเถ้าแก่คนนั้นจะมีโอสถขั้นเทวะโมฆะมากมายเพียงใดมันก็อาจจะขายหมดได้เหมือนกัน!”
“ข้าได้ยินมาว่าหากใครมีศิลาอายุวิญญาณสวรรค์ยืนยาวจะสามารถเข้าไปแลกซื้อโอสถได้ทันที น่าเสียดายที่ข้านั้นไม่มีมันสักชิ้น เฮ้อ!”
…
ตอนนี้ชื่อเสียงของร้านขายโอสถนั้นโด่งดังมากและเย่หยวนก็ได้ประกาศออกมาว่าหากใครมีศิลาอายุวิญญาณสวรรค์ยืนยาวจะสามารถเข้ามาแลกซื้อโอสถศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะโมฆะได้โดยไม่ต้องรอ
ในเวลาแค่ครึ่งวันเย่หยวนได้ศิลาอายุวิญญาณสวรรค์ยืนยาวมาแล้วถึง สามชิ้น
แน่นอนว่าเขาก็ต้องแลกมันกับโอสถราคาแพงออกไปเช่นกัน
ในเวลาครึ่งวันมานี้ เย่หยวนได้ขายโอสถไปแล้วมากกว่า หนึ่งร้อยเม็ด ทำให้กระเป๋าเงินของเขากลับมาตุงอีกครั้ง
เพราะในเวลาแค่ครึ่งวันนี้เขาทำเงินไปได้มากกว่าหมื่นล้านแล้ว
หากหักมันกับค่าต้นทุนในการหลอม เย่หยวนก็ได้กำไรมาแล้วราว เจ็ดพันถึงแปดพันล้าน
ตอนนี้โอสถที่เย่หยวนขายนั้นส่วนมากจะเป็นโอสถระดับต่ำ
เพราะคนที่จะหยิบผลึกปราณเทวะออกมาจ่ายเป็นพันล้านเพื่อแลกกับโอสถระดับความยากสูงๆ นั้นมันมีไม่มาก
“เอาล่ะ วันนี้พอเท่านี้ เก็บร้าน! ใครที่ยังอยากได้โอสถอีกให้มารอวันพรุ่งนี้แต่เช้า”
ตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดลงแล้ว เย่หยวนจึงออกคำสั่งไล่ลูกค้าทันที
เมื่อได้ยินเช่นนี้ทุกคนต่างก็แตกตื่นทันควัน
“ไม่นะ! ข้าอุตส่าห์มาถึงหน้าแถวได้แล้วทั้งที ทำไมเข้าถึงคิดจะเก็บร้านหนีไปดื้อๆ อย่างนี้เล่า?”
“ล้อเล่นใช่ไหมเนี่ย? ใครมันทำการค้าอย่างเจ้ากัน?”
“นี่เด็กน้อย! พ่อเจ้าคนนี้รอในแถวมานับครึ่งวัน แต่ตอนนี้เจ้ากลับบอกว่าจะเก็บร้าน? หากเจ้ากล้าไปก็ลองสิ ข้าจะจัดการเจ้าลงตรงนี้เลย!”
เย่หยวนหันไปมองนักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าหนึ่งดาวคนนั้นและตอบกลับไป “ดีมาก ข้าจำหน้าเจ้าได้แล้ว เจ้าลืมเรื่องที่จะซื้อโอสถจากร้านข้าไปได้เลย ต่อให้เจ้ามีเงินเป็นภูเขาข้าก็ไม่ขายให้!”
นั่นทำให้นักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าหนึ่งดาวคนนั้นตอบกลับมาอย่างโกรธเคือง “ได้สิ หากเจ้ากล้า! ถ้าเจ้ามีปัญญาจะอยู่รอดล่ะก็นะ อย่าได้คิดออกจากกลุ่มเครือข่ายสวรรค์เชียว ไม่เช่นนั้นข้าจะจับเจ้าหักขาทิ้งเสีย!”
และจู่ๆ ก็มีคลื่นพลังอันรุนแรงกระแทกตัวเขาก่อนจะพูดขึ้น “อะไรนะ? เจ้าคิดจะทำร้ายน้องเย่รึ?”
ใบหน้าของนักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าหนึ่งดาวคนนั้นเปลี่ยนทีทันที ตอนนี้เขาหน้าเสียจนกู่ไม่กลับแล้ว
เพราะคลื่นพลังนี้มันถูกปล่อยออกมาจากนักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าสามดาว มันจะเป็นใครไปได้นอกจากหนิงเทียนปิง?
“ข้า… ฮ่าฮ่า ล้อเล่น ข้าจะไปกล้าทำอะไรเถ้าแก่ได้อย่างไร?”
ยอมแพ้ในเสี้ยววินาที!
นักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าหนึ่งดาวคนนั้นคิดว่าเย่หยวนนั้นตัวคนเดียว ใครจะไปรู้ว่าเขามีนักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าสามดาวคอยช่วยเหลือ?
“ดีแล้วที่เจ้าไม่กล้า มิเช่นนั้น… เจ้าคงไม่ได้มีชีวิตไปเห็นตะวันอีก! เฮอะ!” หนิงเทียนปิงหัวเราะเย้ย
คนๆ นั้นเหงื่อไหลท่วมกายก่อนจะบอกว่าเขาไม่คิดทำอะไรจริงๆ ดูท่าแล้วคงกลัวจนขี้หดตดหาย
หนิงเทียนปิงเดินมาหาเย่หยวนและยื่นแหวนให้ “น้องเย่ นี่คือวัตถุดิบสมุนไพรที่ท่านสั่งมา ข้าไปหาซื้อมันมาจนครบแล้ว!”
เย่หยวนนั้นมอบรายชื่อยาวเหยียดให้หนิงเทียนปิง จึงทำให้หนิงเทียนปิงต้องใช้เวลาทั้งวัน พลิกเมืองทั้งเมืองเพื่อหาซื้อยาสมุนไพรเหล่านั้นมาจนครบ
ตอนนั้นเขายังไม่ได้กลับมาดูร้านและได้ยินว่ามีร้านขายโอสถชื่อดังในพริบตาเกิดขึ้นในเมือง ทำให้ผู้คนแตกตื่นไปทั่ว
เมื่อได้กลับมาดูเองมันก็ช่างเป็นภาพที่น่าตื่นตาจริงๆ
เมื่อก่อนนายใหญ่ของเขาไม่เคยต้องสนใจเรื่องเงินทอง แต่คราวนี้เมื่อเขาต้องการมันจริงๆ เขาก็ได้ทำให้เมืองทั้งเมืองต้องสั่นสะเทือน
เย่หยวนนั้นรับยาสมุนไพรมาและพยักหน้ารับ “ขอบคุณมาก ไปหาที่พักกันก่อนเถอะ วันพรุ่งนี้เราต้องกลับมาตั้งร้านใหม่”
เย่หยวนพาหนิงเทียนปิงจากไป ทำให้ทุกคนที่เหลือได้แต่มองหน้ากันไปมา
ไปอย่างนี้เลย?
อะไรวะ?!
สำหรับนักยุทธแล้ว ไม่ต้องพูดถึงเวลาแค่วันสองวัน ต่อให้ไม่นอนพักเป็นปีมันก็ยังไม่ใช่เรื่องใหญ่
เพราะฉะนั้นกลุ่มเครือข่ายสวรรค์นี้จึงเปิดทำการตลอด ยี่สิบสี่ชั่วโมง
แม้ตอนกลางคืนจะมีคนเบาบางตากว่า แต่มันก็ยังมากอยู่ดี
และเมื่อค่าเช่าแผงถูกจ่ายไปแล้ว มีหรือที่พ่อค้าแม่ขายจะยังเสียเวลาไปหาที่พักผ่อนได้?
แบบนั้นมันจะไม่เท่ากับเสียผลึกปราณเทวะไปเปล่าๆ หรือ?
แต่… ค่าเช่าแผงระดับสุดท้ายมันแค่วันละหนึ่งแสนผลึกปราณเทวะ มันไม่พอที่จะเทียบกับโอสถสักเม็ดของเถ้าแก่คนนั้นด้วยซ้ำ
“เออ แยกย้าย! วันพรุ่งนี้ค่อยมาต่อแถวใหม่แต่เช้า!”
“จริงๆ เลย มีเงินแต่ซื้อไม่ได้แบบนี้!”
“เฮอะ เฮอะ เจ้าคิดว่ายังไงเล่า? โอสถศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะโมฆะนั้นมันไม่ใช่ของที่ต้องกังวลว่าจะขายไม่ออก ต่อให้เขาขายมันแค่วันละ สองชั่วโมงเราก็ต้องรออย่างใจเย็นเท่านั้น!”
…
ทุกคนต่างแยกย้ายกันกลับไปทำธุระของตัวเองต่อ หลังจากเย่หยวนจากไปกลุ่มเครือข่ายสวรรค์ก็กลับมาเข้าสู่สภาวะปกติในที่สุด
ระหว่างทางหนิงเทียนปิงถามขึ้น “อ่า… นายใหญ่ วันนี้ขายได้เยอะแค่ไหนกัน?”
เย่หยวนเงียบไปนิดก่อนจะตอบ “จากที่คำนวณดูน่าจะประมาณ หนึ่งหมื่นเจ็ดพันถึงหนึ่งหมื่นแปดพันล้าน”
หนิงเทียนปิงอ้าปากกว้างทันทีที่ได้ยิน “ร-เร็ว! นายใหญ่ท่านช่างยิ่งใหญ่จริงๆ เปิดร้านขายแค่วันเดียวแต่กลับขายได้เกือบเท่าเงินที่ตระกูลหนิงทั้งตระกูลหาได้ในรอบปี!”
แม้ว่าหนิงเทียนปิงจะเตรียมใจมามากแค่ไหน แต่เขาก็ยังทนทานรับไม่ได้อยู่ดีเมื่อต้องมาเจอตัวตนที่ยิ่งใหญ่อย่างเย่หยวน
ตระกูลหนิงนั้นเป็นตระกูลใหญ่ในเมืองจักรพรรดิ แต่รายได้รายปีของพวกเขาเองก็แค่ประมาณ สองหมื่นล้านหน่อยๆ
แต่เย่หยวนเปิดร้านแค่วันเดียวกลับได้เงินมากเกือบเท่ารายได้ทั้งปีของตระกูลหนิง มันบ้าจนเกินรับได้จริงๆ
เขารู้ดีว่าเย่หยวนคิดจะเปิดร้าน สิบวัน หลังจากเวลา สิบวันนั้นมันจะไม่ได้ผลึกปราณเทวะถึงสองแสนล้านเลยหรือ?
สองแสนล้าน…
ช่างเป็นตัวตนที่ยิ่งใหญ่เสียจริงๆ
ยิ่งหนิงเทียนปิงคิด เขาก็ยิ่งตื่นตกใจมากขึ้น เขาไม่เคยรู้เลยว่าการหาเงินมันจะง่ายดายขนาดนี้
นายใหญ่คนนี้ของเขามันเครื่องปั๊มเงินดีๆ นี่เอง!
เย่หยวนเหมือนจะอ่านความคิดของเขาได้เลยพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม “เจ้าคิดอะไรของเจ้าอยู่? โอสถเหล่านี้มันเป็นของที่ข้าใช้เวลาหลายร้อยปีหลอมสะสมมา ข้าแค่นำมันออกมาขายในคราเดียวมันถึงทำแบบนี้ได้ หากให้ข้าค่อยๆ หลอมมันไปต่อให้ทำอย่างต่อเนื่องไม่มีหยุดพัก มันก็ไม่มีทางจะได้เงินมามากมายอย่างรวดเร็วขนาดนี้แน่ๆ”
หนิงเทียนปิงยิ้มแห้งๆ ออกมา “ถึงจะเป็นอย่างนั้นมันก็ยังสุดยอด! นี่เพราะเป็นนายใหญ่ถึงทำอะไรแบบนี้ได้ หากเป็นคนอื่น ภายใต้สถานการณ์นี้พวกเขาคงได้แต่นั่งสิ้นหวัง!”
คนทั้งสองเดินออกมาจากกลุ่มเครือข่ายสวรรค์ได้ไม่กี่ก้าวก็เจอเข้ากับคนสามกลุ่มเดินเข้ามาหาจากสามทิศทาง
หนึ่งในนั้นเป็นยอดฝีมืออาณาจักรราชันพระเจ้าหกดาว!
ไม่ต้องถามเลยว่าพวกเขาเป็นใคร คนเหล่านี้ย่อมถูกส่งมาจาก สามขั้วอำนาจใหญ่เป็นแน่
ยอดฝีมืออาณาจักรราชันพระเจ้าหกดาวที่ด้านขวายกมือขึ้นมาคารวะเย่หยวน “น้องเย่ ผู้นำพันธมิตรเราขอเชิญท่านไปเยี่ยมเยือน!”
ที่ด้านหลังของเขาคนนี้มีเจาเจี้ยนอยู่ แต่ไม่มีร่องรอยของซูถิง ดูท่านางคงเข้าสาการเก็บตัวแล้ว
ยอดฝีมืออาณาจักรราชันพระเจ้าหกดาวคนตรงกลางหันไปมองฝั่งพันธมิตรดาบดวงดาว “ตู้หมิงเหลียง เจ้ากล้าตัดหน้าแย่งคนจากคฤหาสน์จวนเจ้าเมืองของเรา?”
ตอนนี้ยอดฝีมืออาณาจักรราชันพระเจ้าหกดาวทางซ้ายก็เปิดปากขึ้นบ้าง “น้องเย่ คฤหาสน์สายรุ้งโลหิตของเราขอเชิญท่านไปยังพูดคุยกันยังคฤหาสน์ของเรา!”