Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 1651 มองไม่ออก
ตอนที่ 1651 มองไม่ออก
“อย่ามาล้อเล่นน่า! พวกเจ้าคฤหาสน์จวนเจ้าเมืองคิดว่าพวกเราเป็นใคร? พ่อเจ้านี่แหละจะแย่งคนไปจากเจ้า! มูดงเจ้าจะมีปัญญาทำอะไรได้? หลิวฮั่นเจ้าเองก็ไปไกลๆ ข้าเสียไม่เช่นนั้นข้าจะบีบเจ้าให้ตายคามือเสีย!” ตู้หมิงเหลียงหัวเราะลั่น
“ตู้หมิงเหลียง เจ้าจะบังคับขู่เข็ญคนมากเกินไปแล้ว! ไปหรือไม่ก็ไม่ใช่เจ้าเสียหน่อยที่ต้องตัดสิน ใช่ไหม?” หลิวฮั่นตอบ
“พวกเจ้าหลบไปไกลๆ คฤหาสน์จวนเจ้าเมืองเราเป็นผู้ชอบธรรม แน่นอนว่าน้องเย่หยวนผู้นี้ต้องไปที่คฤหาสน์จวนเจ้าเมืองกับข้าก่อน!” มูดงบอก
มูดงนั้นมาจากคฤหาสน์จวนเจ้าเมือง ส่วนหลิวฮั่นนั้นเป็นคนส่งสารจากคฤหาสน์สายรุ้งโลหิต
เมื่อคนทั้งสามมาเจอหน้ากันพวกเขาก็เริ่มทะเลาะกันทันที พร้อมด้วยท่าทางเตรียมปะทะคารมเต็มที่
แม้ว่าทั้งสามอำนาจจะร่วมมือกันในการสร้างกลุ่มเครือข่ายสวรรค์ขึ้น แต่การแย่งชิงอำนาจของทั้งสามมันก็ไม่ได้เบาบางเลย
ในเมืองหลวงเช่นนี้ แม้แต่คฤหาสน์จวนเจ้าเมืองก็ไม่มีปัญญาพอที่จะจัดการสองขั้วอำนาจใหญ่ที่เหลือ ทำให้เกิดการปะทะกันไปทั่วอย่างที่เห็น
อีกสองขั้นอำนาจนั้นไม่ได้มีความเคารพใดๆ ต่อคฤหาสน์จวนเจ้าเมืองแม้แต่น้อย
และด้วยการปรากฏตัวในครั้งนี้ของเย่หยวน ทั้งสามขั้วอำนาจจึงอยากจะสร้างสายสัมพันธ์กับเขาไว้
เพราะเมืองหลวงลาภสายน้ำนั้นเป็นสถานที่ที่อ่อนไหวง่าย มีการต่อสู้ปะทะและมีการผูกมิตรกันอยู่ตลอด
การที่เย่หยวนหลอมโอสถศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะโมฆะได้มากมายขนาดนี้แถมยังมีหนิงเทียนปิงที่เป็นถึงนักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าสามดาวเป็นคนคุ้มกัน มันแน่นอนอยู่แล้วที่พวกเขาทั้งหลายจะเกิดสงสัยในตัวตนของเย่หยวน
ทั้งสามอำนาจจึงมาหาเย่หยวน เพื่อตรวจสอบดูเรื่องราว
เพราะต่อให้หนิงเทียนปิงจะเรียกเย่หยวนว่าน้อง แต่ท่าทางเคารพอย่างสุดตัวนั้นมันก็ไม่สามารถปกปิดไว้ได้เลย ผู้คนที่ตาดีหน่อยย่อมมองออก
ที่สำคัญยอดฝีมืออาณาจักรราชันพระเจ้าอายุน้อยอย่างหนิงเทียนปิง มันคงมีแต่ค่ายสำนักยักษ์ใหญ่เท่านั้นที่จะเลี้ยงดูเขามาได้
นั่นทำให้ตัวตนของเย่หยวนยิ่งดูยิ่งใหญ่กว่าเก่า
นอกจากนั้นมีหรือที่ค่ายสำนักธรรมดาๆ ใดๆ จะเลี้ยงดูยอดฝีมือในด้านโอสถได้แบบนี้?
นั่นทำให้ทั้งสามขั้นอำนาจต่างแสดงออกอย่างสุภาพต่อเย่หยวน
เพราะหากพวกเขาไม่ใส่ใจตัวตนที่แท้จริงของเย่หยวน มีหรือที่ยอดอำนาจทั้งสามจะพูดสุภาพกับเย่หยวนได้ถึงขนาดนี้? พวกเขาคงเลือกที่จะจับๆ ให้มันจบๆ ไปนานแล้ว
ระหว่างที่คนทั้งสามยังเถียงกันไม่หยุด เย่หยวนก็พูดขึ้นแทรก “ข้าบอกตั้งแต่เมื่อไหร่ว่าข้าจะไปด้วย? พวกเจ้ากลับไปเถอะ ข้ายังต้องหลอมโอสถต่อในช่วงกลางคืน ไม่มีเวลาไปเยี่ยมใครทั้งนั้น! หากอยากซื้อโอสถก็มาแต่เช้าพรุ่งนี้ หากไม่ซื้อก็ไปเถอะ เสียเวลาข้าเปล่า!”
พูดจบเย่หยวนก็เดินอ้อมคนทั้งสามไปอย่างไม่คิดจะสนใจใดๆ อีก
คนทั้งสามจึงได้แต่หันไปมองเย่หยวนด้วยดวงตาที่เหม่อลอย แต่ไม่มีใครคิดที่จะหยุดเขาเลย
ยิ่งเย่หยวนทำตัวแบบนี้มากเท่าไหร่มันก็ยิ่งทำให้ผู้คนคาดเดาภูมิหลังของเขาไม่ออกมากเท่านั้น ทำให้คนอื่นๆ คิดว่าตัวตนเบื้องหลังของเขามันยิ่งใหญ่กว่าเก่า
พลังของเขาพร้อมกับท่าทางอวดดีนั้นมันมากพอที่จะทำให้สามขั้วอำนาจไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม
เย่หยวนมาที่เมืองหลวงลาภสายน้ำในครั้งนี้มันเป็นแค่การเดินทางผ่านไม่ได้คิดจะอยู่ให้นาน เขาจึงไม่คิดที่จะไปมีสัมพันธ์ใดๆ กับกองกำลังท้องถิ่น
ที่สำคัญในสถานที่แบบนี้ ทั้งสามขั้นอำนาจเองก็คงเป็นพวกจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ไม่ผิดแน่ ต่อให้เขาเข้าไปหามันก็จะมีแต่เสียกับเสีย
นั่นทำให้เย่หยวนเลือกที่จะไม่สนใจพวกเขาไปเลย!
เหล่ายอดฝีมืออาณาจักรราชันพระเจ้าหกดาวทั้งสามคนไม่มีใครกล้าเข้าไปห้าม ปล่อยให้เย่หยวนเดินหายลับจากไป
เมื่อนักยุทธรอบๆ ได้เห็นภาพนั้น พวกเขาต่างตกตะลึงจนตาแทบถลนออกจากเบ้า
เพราะสามขั้วอำนาจที่ปกครองเมืองหลวงลาภสายน้ำอย่างเด็ดขาดนั้นเป็นตัวตนที่ไม่มีใครกล้าท้าทาย
ว่ากันว่าอำนาจที่อยู่เบื้องหลังทั้งสามฝ่ายนั้นมันยิ่งใหญ่กว่าเสียอีก ไม่ใช่แค่ยอดฝีมืออาณาจักรราชันพระเจ้าเจ็ดดาว
เพราะสุดท้ายเมืองหลวงลาภสายน้ำมันก็เป็นเหมือนขนมชิ้นใหญ่ที่มีคนอยากลิ้นรสไม่น้อย
แต่แม้จะเป็นสามยอดอำนาจนั้น พวกเขากลับไม่กล้าต่อต้านเด็กน้อยอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าคนหนึ่ง!
คนฉลาดๆ จะมองสถานการณ์ออกทันที แต่คนโง่ๆ ก็ได้แต่มองภาพตรงหน้าด้วยดวงตาที่แทบถลน
ผู้นำทั้งสามขั้นอำนาจนั้นได้กำชับพวกเขาไว้อย่างดีก่อนจะมาว่า ห้ามไปทำอะไรเย่หยวน
สุดท้ายเย่หยวนจึงไม่ได้สนใจพวกเขาเลยแม้แต่น้อย
คนทั้งสามหันมามองหน้ากัน และได้รับรู้ว่าการถกเถียงเมื่อครู่มันช่างไร้สาระสุดท้ายจึงแยกย้ายกันไป
…
ตอนนี้ที่พันธมิตรดาบดวงดาว ผู้นำพันธมิตรหลี่ซิงที่ได้ยินคำรายงานของตู้หมิงเหลียงไม่ได้แสดงท่าทีแปลกใจใดๆ ออกมาเลย
“ผู้นำพันธมิตร เด็กคนนี้มันอวดดีเสียจริงๆ หากไม่ใช่เพราะคำสั่งที่ท่านย้ำกำชับไว้ข้าคงได้ถลกหนังของมันออกมาแล้ว!” ตู้หมิงเหลียงกล่าวอย่างขุ่นเคือง
เพราะพลังฝีมือของเขานั้นได้รับการยอมรับว่าเป็นถึงอันดับสองของพันธมิตรดาบดวงดาว ปกติผู้คนต้องก้มหัวเคารพเขา แต่วันนี้เขากลับถูกเด็กอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าคนหนึ่งเมินใส่ มีหรือที่เขาจะยังทนไม่โกรธไปได้?
หลี่ซิงหรี่ตาลง “แหม หมิงเหลียง เจ้าคิดว่าความอวดดีของเด็กคนนั้นมันถูกปลอมแปลงขึ้นมารึ?”
ตู้หมิงเหลียงส่ายหัว “ไม่มีทาง! เกิดมาข้ายังไม่เคยเห็นเด็กอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าคนไหนกล้าทำตัวอวดดีขนาดนั้น มันไม่คิดสนใจพวกเราทั้งสามคนเลยแม้แต่น้อย! ข้า เฒ่าตู้คนนี้ติดตามท่านมานานหลายปี ข้าเองก็พอมีตาอยู่บ้าง ที่สำคัญตอนนั้นหลิวฮั่นและมูดงเองก็อยู่ ต่อให้มันจะตบตาข้าได้ แต่มันคงไม่มีทางตบตาพวกเราได้พร้อมๆ กันสามคนหรอก”
หลี่ซิงพยักหน้ารับ “งั้นก็คงจริงแล้ว! มันมีแต่คนที่อยู่กลางดงยอดฝีมือระดับสูงมาเท่านั้นที่จะกล้าทำตัวแบบนี้ต่อหน้ายอดฝีมืออาณาจักรราชันพระเจ้าหกดาว ภูมิหลังของเด็กคนนี้มันคงไม่ธรรมดาแน่ๆ ช่างเถอะ หากเขาไม่มาก็ไม่ต้องมา แค่ไม่ให้ไปกับอีก สองพวกก็พอแล้ว”
ตู้หมิงเหลียงจึงถาม “งั้น… ก็จบแค่นี้? เขาว่ากันว่าเด็กคนนั้นมันสามารถหลอมโอสถศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะโมฆะความยากระดับ เก้าได้ท่าน หากเราเอามันมาใช้งานได้… เราก็น่าจะจัดการอีกสองพวกได้อย่างไม่ยากเย็นนี่?”
หลี่ซิงได้แต่หัวเราะออกมาเมื่อได้ยิน “จัดการอีกสองพวก? ลืมไปได้เลย! หากมีใครสักคนในพวกเราทั้งสามล้มลง เมืองหลวงลาภสายน้ำคงได้พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือแน่! อีกสองค่ายสำนักเองก็ไม่ได้รอดมาได้จนทุกวันนี้ด้วยโชคเสียหน่อย! ตั้งหลายปีมานี้เฒ่าตู้เจ้ามองมันไม่ออกเลยรึ?”
ตู้หมิงเหลียงนั้นเป็นแค่นักยุทธคนหนึ่ง เขาไม่เข้าใจเรื่องสงครามอำนาจมากมายนัก
เบื้องหลังพันธมิตรดาบดวงดาวนั้นมีอำนาจยิ่งใหญ่แบบไหนหนุนอยู่ มีเพียงแค่หลี่ซิงคนเดียวเท่านั้นที่รู้
เมื่อตู้หมิงเหลียงได้ยินแบบนั้นเขาเองก็รู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมาไม่น้อย
หลี่ซิงยิ้มขึ้น “อย่าได้มองแค่ว่าพวกเราทั้งสามฝ่ายเข่นฆ่าสังหารกันเท่านั้น ในความเป็นจริงพวกเราทั้งสามนั้นค่อยรักษาสมดุลด้วยกันมาตลอด เมื่อใดก็ตามที่สมดุลนี้ถูกทำลายลง เรื่องที่ตามมามันคงยิ่งใหญ่เกินกว่าที่พวกเขาจะคาดการณ์ได้! เพราะฉะนั้นต่อให้เด็กคนนี้จะเป็นสัตว์ประหลาดแค่ไหน เขาก็ไม่ใช่สิ่งที่เราจะเอามาใช้งานได้! ยอดฝีมือด้านโอสถที่เก่งกาจขนาดนี้ย่อมถูกเลี้ยงดูมาโดยยอดขุมกำลัง และคงมีแต่พวกเขาเท่านั้นที่จะได้รับประโยชน์จากความสามารถของเขา”
หยุดไปพักหนึ่งหลี่ซิงก็กล่าวขึ้นต่อ “หากให้ข้าเดา เด็กคนนี้คงเป็นยอดศิษย์อัจฉริยะของเมืองจักรพรรดิสักแห่ง ที่เขาออกมาคราวนี้ก็เพื่อจะฝึกฝนตัว เด็กอาณาจักรราชันพระเจ้าสามดาวคนนั้นเองก็มิใช่สิ่งที่ค่ายสำนักทั่วๆ ไปจะเลี้ยงดูได้! ที่สำคัญนี่มันอาจจะเป็นแค่ฉากหน้าและยอดฝีมือจริงๆ ของพวกเขากำลังหลบซ่อนตัวอยู่ในเมือง! ประตูกดสวรรค์โบราณเองก็กำลังจะเปิดออกแล้วด้วย เราอย่าเพิ่งหาเรื่องใส่ตัวเลยจะดีกว่า!”
ยิ่งตู้หมิงเหลียงฟัง เขาก็ยิ่งตื่นตระหนกขึ้นในใจ เป็นตอนนี้ที่เขาได้รู้ว่าจริงๆ แล้วสถานการณ์ในเมืองมันหนักหนากว่าที่เขาคาดคิดไปมาก
ภาพคล้ายๆ กันนี้เองก็เกิดขึ้นในที่พักของสองขั้นอำนาจที่เหลือเช่นกัน
เรื่องตัวตนของเย่หยวนนั้น พวกเขาต่างได้แต่สงสัยกันอย่างสุดใจ
ส่วนเย่หยวนในตอนนี้ได้หาที่พักและเริ่มเข้าไปทำการหลอมโอสถข้ามคืน
เหล่าโอสถที่มีระดับความยากสูงนั้นย่อมีคนที่มีปัญญาจะซื้อน้อย
การจ่ายผลึกปราณเทวะนับพันล้านออกมา แม้แต่ยอดฝีมืออาณาจักรราชันพระเจ้าก็ไม่สามารถจะจ่ายมันออกมาได้ง่ายๆ
เพราะฉะนั้นสมุนไพรที่เย่หยวนสั่งให้หนิงเทียนปิงซื้อมาส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่เป็นของที่ไว้ใช้หลอมโอสถระดับความยากต่ำๆ
ตอนนี้เหลือเวลาอีก เก้าวัน มันมากพอที่จะให้เขาใช้หาเงินได้